Close this window

จานจ่าย
จานจ่ายของใครที่เสียมีเก็บไว้บ้างครับ ตอนนี้อยากรื้อฟื้นวิชา ไฟฟ้า+ฮิเล็คโทรนิคส์ ที่ล่ำเรียนมา
ถ้าแก้ได้ ก็จะช่วยๆกันไป แต่คงไม่เป็นธุรกิจ เห็นใน Board เสียกันบ่อยเหลือเกิน คงTest ไม่ยาก
มี Signal Generator กับ Motor ช่วยหมุน แล้วใช้ Probe วัดไฟเอาคงได้ ข้างในคงพันขดลวดแบบไฟแรงสูง High Impedance แต่ไม่แน่ใจว่าแม่เหล็กหมุน หรือขดลวดหมุน จะรื้อของตัวเองมันก็ยังไม่เสีย
โดย: Robot   วันที่: 5 Aug 2005 - 00:51


 ความคิดเห็นที่: 1 / 11 : 104489
โดย: taer
เป็นความคิดที่ดีมาก ๆ เลยครับพี่ ผมสนับสนุนด้วยคน..ครับ
วันที่: 05 Aug 05 - 08:20

 ความคิดเห็นที่: 2 / 11 : 104537
โดย: manut
เห็นด้วยครับ..สนับสนุนถ้าเจอของเสียๆจะส่งไปให้ครับ
วันที่: 05 Aug 05 - 10:26

 ความคิดเห็นที่: 3 / 11 : 104545
โดย: JK626
***ความเข้าใจของผม แบบไม่มีพื้นฐานด้านเครื่องยนต์ ยังไงผิดแนะนำด้วยนะครับ***

ถ้าเป็นอย่างนี้จะได้ไหมครับ เคยเห็นชุดแต่ของต่างประเทศคือ แยก coil ไว้ข้างนอก

ที่ผมคิดก็ เริ่มจากหา ฝาครอบตัวนอกมาใหม่เจาะรู้ตรงหัว rotor แล้วไปต่อกับ coil แห้งที่เป็นกระบอกๆ แล้วเอาแค่สัญญาณจาก ตัว ignition module มาขับ coilแห้ง โดยไม่ใช่ coil เดิมในจานจ่ายที่ทั้งร้อนและรั่ว แต่ปัญหาคือ ตัว ignition module จะรับ load ใหม่คือ coilแห้งซึ่งไม่ได้ออกแบบให้ใช้แบบนี้ (อาจต้องหาตัว drive coil ใหม่ HEI )

ถ้าผมเข้าใจถูกนะครับ ในจานจ่ายน่าจะเป็น วงจร สวิทช์ชิ่ง ไปขับ coil เท่านั้นไม่น่าจะมี แม่เหล็ก
แต่แปลกใจที่ทำไม่ต่างประเทศต้องแยกตัว HEI ขับ coil มาตั้งหากหรือของเดิมรับ load ไม่ได้หรือไม่ใช่ สวิทช์ชิ่ง

ขอบคุณครับ
วันที่: 05 Aug 05 - 10:55

 ความคิดเห็นที่: 4 / 11 : 104555
โดย: LYNX
เรียนคุณ JK626
รถสมัยใหม่(รถตลาดครับ)เค้าจะลดจำนวลชิ้นส่วนลงครับ เช่น เมื่อก่อนจะแยกคอยล์ออกจากจานจ่ายเค้าก็เอามันเข้าไปอยู่รวมกันซะเพื่อลดพื้นที่และต้นทุนการผลิตรวมทั้งยังมีผลถึงราคาอะไหล่เพราะจะเป็นอะไหล่เฉพาะ(ของใครของมัน) บริษัทก็ได้ขายอะไหล่ในราคาสูง

ส่วนวงจรสวิทซ์ชิ่งที่คุณเข้าใจนั้นถูกแล้วครับแต่ทรานซิสเตอร์ควบคุมจังหวะจุดระเบิดมันดันอยู่ในหัวกะลาและถูกควบคุมด้วยวงจรในกล่อง ECU อีกทีด้วยละครับ (เป็นทรานซิสเตอร์แบบดาลิงตั้น ขยายต่อเนื่อง และทนกระแสสูง) รวมทั้งตัวจับสัญญานมุมเพลาข้อเหวี่ยงอีกถ้าจะแปลงก็ปวดหัวตายละครับ

แต่ข้อสังเกตุคือมันไม่เสียง่ายอย่างที่เราคิดนะครับไอ้คอล์ยกับชุดพาวเวอร์ทรานซิสเตอร์เนี่ย ส่วนใหญ่ก็จะแค่ฝาร้าว หัวโรเตอร์รั่ว-แตก
วันที่: 05 Aug 05 - 11:28

 ความคิดเห็นที่: 5 / 11 : 104568
โดย: มิตรป้อมพระจุลฯ
ยืนยันตามความเห็นคุณ LYNK ครับ
วันที่: 05 Aug 05 - 12:36

 ความคิดเห็นที่: 6 / 11 : 104581
โดย: swr
คุยกันด้านวิชาการทั้งนั้น แถมมีความรู้ด้านไฟฟ้า+อิเล็กฯ อีก นึกว่าสมาชิดบอร์ดจะมีความรู้เฉพาะเครื่องยนต์เสียอีก สงสัยจบวิศวะฯ มั้งครับ ยินดีกับสมาชิกบอร์ดที่ได้มีผู้ที่มีความรู้หลายๆ สาขามาแลกเปลี่ยนความรู้กัน
วันที่: 05 Aug 05 - 13:27

 ความคิดเห็นที่: 7 / 11 : 104678
โดย: Jan.Cronos
อย่างที่คุณ LYNK กับคุณมิตรบอกครับ ตัวคอยล์ไม่เสียง่ายๆ ครับ

ที่มักจะเสีย ก็มีอยู่ 3 ตัวการสำคัญครับ
1. ตัวฉนวนหุ้มคอยล์ที่มีลักษณะเป็นพลาสติก
2. ฝาครอบพลาสติกด้านในจานจ่าย อยู่หล้งหัวโรเตอร์
3. ฉนวนพลาสติกของหัวนกกระจอก(หัวโรเตอร์นั่นแหละ)

จานจ่ายที่มีปัญหา เกิดจากส่วนประกอบที่เป็นพลาสติก เมื่อใช้งานไปนานๆ
ผ่านความร้อนมามาก จะแข็งตัวและเปราะ แตกออกเป็นรอยร้าวเล็กๆ
ทำให้กระแสไฟฟ้าแรงสูงรั่ว และวิ่งออกจากฉนวนผ่านรอยร้าวลงกราวด์

กระแสไฟจึงวิ่งไปยังสายหัวเทียนได้ไม่เต็มที่ มีผลทำให้การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ครับ
หากมีการรั่วที่ไม่สม่ำเสมอ จะมีอาการรอบเครื่องสะดุดอย่างเห็นได้ชัด
(ในจุดนี้มักจะเป็นที่หัวโรเตอร์กับฝาครอบบางๆ ด้านใน)

ในบางคันที่มีอาการรั่วอย่างต่อเนื่องในทุกรอบการหมุนของโรเตอร์ อาจจะไม่รู้สึกว่าเครื่องสะดุด
แต่ว่าจะมีอาการรอบเดินเบาต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ถึงแม้จะพยายามจูนที่ ISC รอบก็ไม่ขึ้นตามที่ปรับ
(จุดนี้มักจะเกิดจากรอยรั่วที่ตัวคอยล์)

อาการจากประสบการณ์ตรง คือ คอยล์รั่ว
อาการเริ่มแรก: รอบตก ปรับจูนสกรูแถวๆ ISC (ตั้งรอบเครื่อง) แล้วรอบไม่ขึ้นตามที่เราปรับ
อาจจะขึ้นนิดหน่อย แต่พอใช้งานไปสักพักก็จะตกเหมือนเดิม
ทดสอบโดยลองเร่งค้างไว้ที่ต่ำกว่า 1200 รอบ จะรู้สึกว่ามีอาการสะดุด
แต่ถ้าเร่งมากกว่า 1200 รอบ ไม่มีอาการสะดุดให้เห็นชัด
อาการต่อมา: ในรอบเดินเบา เวลาใช้อุปกรณ์ที่ดึงไฟฟ้า รอบจะวูบอย่างรุนแรง เช่นเวลาปิดกระจกไฟฟ้าจนสุด หรือเวลาเปิด-ปิดกระจกไฟฟ้าหลายบานพร้อมกัน
สุดท้าย: ขับๆ อยู่ ดับกลางอากาศ สตาร์ทติดได้ วิ่งไปสักพักก็ดับอีก
จนสุดท้ายสตาร์ทไม่ติดอีกเลย ก็เลยลองเช็คไฟจากสายหัวเทียนเวลาบิดกุญแจสตาร์ท
ปรากฎว่าไม่มีไฟออกมาจากสายหัวเทียนเลยซักหัว สรุปว่าคอยล์รั่วครับ
แกะเอาไปเช็คที่ร้านขายอะไหล่สไตล์เดียวกับเชียงกง
ก็พบว่าไฟมันวิ่งออกจากกลางตัวคอยล์ส่วนที่เป็นพลาสติกอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ
วันที่: 05 Aug 05 - 18:28

 ความคิดเห็นที่: 8 / 11 : 104788
โดย: LYNX
ขอแก้นิดครับ LYNX ครับแปลตามพจนานุกรมก็คือ **แมวป่า**
วันที่: 05 Aug 05 - 23:19

 ความคิดเห็นที่: 9 / 11 : 104817
โดย: Robot
ถ้าเป็นอย่างสมาชิกว่า คือรั่วจากฉนวน มันมีน้ำยาเคลือบครับ ตามที่ทำงานใช้เคลือบลูกถ้วยไฟฟ้าแรงสูง เขาเรียกกันที่ได้ยินว่า พอสสะเลน แต่ทนแรงดันได้ประมาณ 500kV. คือ ห้าแสน Volt เพื่อกัน
Flash Over ของลูกถ้วยไฟฟ้าที่จ่ายตามสถานีไฟฟ้าแรงสูงทั่วๆไป จะถามเพื่อนที่ทำงานดู และอีกอย่างหนึ่งมันมีเทปพันสายไฟแรงสูง ที่มีคุณสมบัติเป็นฉนวนทนแรงดันได้ประมาณ ห้าหมื่นVolt น่าจะใช้พันสายหัวเทียนได้ ถ้าเป็นอย่างที่ท่านสมาชิกข้างบนบอก จานจ่ายน่าจะมีลักษณะการทำงานเหมือนภาค HoriZontal Out Put ของทีวี ที่ผลิตไฟแรงสูงเลี้ยงหลอดภาพที่ใช้ Transistor Power เป็นตัว Drive ให้ Coil ต่างกันที่จานจ่ายใช้ Rotor On/Off ต่อเนื่องเป็นแบบ Oscillator ส่วนในทีวีใช้วงจรOscillator ผลิต รูปคลื่นออกมา
วันที่: 06 Aug 05 - 00:07

 ความคิดเห็นที่: 10 / 11 : 104844
โดย: ปิง
ยินดีที่ได้รูจักสมาชิกในบอร์ดทุกท่านครับ รู้สึกอบอุ่นจังที่ท่านทั้งหลายช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
วันที่: 06 Aug 05 - 00:43

 ความคิดเห็นที่: 11 / 11 : 104929
โดย: Aneka
ผมเคยใช้ silicon ดำที่ใช้กับไฟสูง มาทาตามรอยแตกของฝาครอบจานจ่ายอันใน ก็พอช่วยได้ หนักเป็นเบา แต่นานไปจะเอาไม่อยู่
วันที่: 06 Aug 05 - 13:03