คัดลอกมาจาก
http://www.thaioctober.com/yabbse/index.php?board=28;action=display;threadid=1416
บนผืนแผ่นดินคุระบุรี ดินแดนที่มากด้วยเกาะงามแห่งจังหวัดพังงา เป้าหมายแห่งการเดินทางสู่อาณาจักรกลางทะเลนาม เกาะพระทอง ครั้งนี้ มิได้เกิดขึ้นจากฤทธิ์เดชของ Unseen Thailand ที่โหมกระพือโดย ททท. ที่พยายามโหมกระพือให้เป็นทุ่งหญ้าซาฟารีกลางท้องทะเลไทยดอกครับ
แต่เป็นเพราะความกังวัลว่า เกาะพระทอง ที่ใสบริสุทธิ์ ทั้งธรรมชาติ และวิถีชีวิตของผู้คน จะเจริญรอยตามแหล่งท่องเที่ยวรุ่นพี่อย่าง เกาะภูเก็ต เกาะสมุย และเกาะช้างที่กำลังไล่หลังเกาะทั้งสองไปติด ๆ นั่นมากกว่าครับ
ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 4 ( หรือ 5 ยังสับสนอยู่ ) ในบรรดาเกาะในน่านน้ำไทย โดยมีลักษณะทางกายภาพแตกต่างไปจากเกาะอื่น ๆ อย่างเด่นชัด พื้นที่เกะเกือบทั้งหมดแบนราบเป็นเนินทราย มีระบบนิเวศน์แบบทุ่งหญ้าสลับป่าเสม็ด ป่าพรุ และป่าชายเลน มีสัตว์ป่าหลายชนิดอาศัยแต่ดั้งเดิม โดยเฉพาะกวางม้าป่า และนกที่ใกล้สูญพันธุ์อย่างนกตะกรุมหัวโกรนอาศัยอยู่จำนวนหนึ่ง ( ยืนยันว่าเห็นกับตา แต่ถายภาพไม่ทันครับ เพราะทีมของผมอยู่บนเรือไม่อาจตั้งกล้องให้นิ่งสนิท และเมื่อค่อย ๆ ขยับเรือเข้าฝั่ง นกตะกรุมสองตัวที่อวดโฉมอยู่ริมฝั่งเลน ก็พากันบินหนีพวกเราไป )
ผู้คนที่ประกอบอาชีพประมงชายฝั่งทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ของประชากร วิถีชีวิตของพวกเขาจึงเรียบง่าย และมีความเกี่ยวดองระหว่างกันฉันท์ญาติพี่น้อง ( แต่งงานไขว้ไปไขว้มา และ ผสมกลมกลืนกันระหว่างชาวจีนไหหลำและชาวมอร์แกน) กับจิตรสำนึกด้านการอนุรักษ์ น่าจะกล่าวได้อย่างเต็มปากว่า คนที่นี่มีจิตรสำนึกไม่แพ้ใคร กลุ่มหรือองค์กรชาวบ้านไปจำเป็นสำหรับคนพระทอง หลายต่อหลายครั้งที่พวกเขาเริ่มต้นการอนุรักษ์กันอย่างพร้อมเพียง กวางป่าจำนวนหลายสิบตัวที่คงจำนวนและเพิ่มขึ้นเป็นเพราะพวกเขารักษาสัจจะ ห้ามกิน ห้ามล่า ( ขนาดแค่หลานกำนัน กินกวางที่หมากัดตาย กำนันยังจับส่งตำรวจด้วยตนเอง แถมยังขอร้องตำรวจไม่ให้ประกันตัว เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง ) อีกทั้งพวกเขายังต่อต้านสัมปะทานเตาถ่าน ที่ตัดไม้โกงกางอย่างไร้การจัดการที่ดี จนต้องเลิกสัมปะทานไปในที่สุด
แต่ความน่าสะพึงกลัวสำหรับชาวบ้านที่นี่ก็ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้น เมื่อการท่องเที่ยวกำลังรุกคืบเข้าสู่อาณาจักรเล็ก ๆ ของพวกเขา .. นายทุนจำนวนหนึ่งกว้านซื้อที่ดิน ( ยุคชาติชายครั้งหนึ่ง และ ล่าสุดหลังจาก ททท. โปรโมทให้เกาะพระทองเป็นหนึ่งใน Unseen in Thailand การซื้อขายที่ดินก็กลับมาบูมอีกครั้งหนึ่ง )
.. ขณะเดียวกัน การประกาศให้กระพระทองเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเลแห่งใหม่ก็กำลังเดินหน้าเต็ม ตัว !!!
เพระเหตุไรชาวบ้านที่นี่จึงกลัวอุทยาน ?
เพระประสบการณ์ที่ผ่านมาซิครับ !!! พวกเขาไม่เคยลืมผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการประกาศให้หมู่เกาะสุรินทร์ที่พวกเขาเคยอาศัยเป็นแห่งหาปลาเลี้ยงชีพกันมาหลายชัวอายุคน เป็นอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
ผืนน้ำที่ถูกประกาศเป็นเขตอุทยานทั้งหมดถูกห้ามมิให้ชาวบ้านเข้าหาปลาและผูกเรือ แม้แต่หลบลมหลบภายุก็ห้ามอย่างเด็ดขาด และเมื่อทางการ ( โดยกรมอุทยานฯ ) กำลังจะรุกคืบเอากับพวกเขา โดยการประกาศเขตอุทยานทับที่อยู่อาศัยและที่ทำมาหากินของพวกเขาอีกครั้ง