Close this window

ผลการทดสอบ 1.6 at s
มาสด้า 3 1.6 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ ตอบสนองการขับขี่ได้หลากหลายสไตล์
เมื่อสองสัปดาห์ก่อนเพิ่งเอาตัว มาสด้า 3 เอส เครื่อง 1.6 ลิตร เกียร์ธรรมดามาลง พร้อมกับคาดการณ์ล่วงหน้าไว้ว่า รุ่นเดียวกันนี้แต่ในเวอร์ชั่นเกียร์อัตโนมัติมันจะต้องอืดสนิทแน่

เพราะเกียร์ธรรมดาตีนต้นของมันยังไม่จัดจ้านสักเท่าไร แต่ผมคิดผิดอย่างแรง มันจะรู้สึกอืดก็ต่อเมื่อคุณเพิ่งลงมาจากเฟอร์รารี แล้วเข้าไปขับ มาสด้า 3 เครื่อง 1.6 ลิตร เกียร์อัตโนมัติคันนี้ แต่ถ้าคุณเพิ่งลงจากรถรุ่นเดียวกันในเกียร์ธรรมดาแล้วมาลุยรุ่นเกียร์อัตโนมัติต่อ มันไม่ได้ทำร้ายความรู้สึกของคุณขนาดนั้น

มาสด้าไม่ได้ผลิตออกมาตอบสนองความมันในการขับขี่เพียงอย่างเดียว ในเวอร์ชั่นเกียร์อัตโนมัติ มาสด้าได้ตอบสนองการขับขี่แบบสบายๆ สำหรับการใช้ในเมืองเอาไว้ด้วย ระบบเกียร์อัตโนมัติพร้อมพ่วงระบบ manual shift ไว้ข้างๆ นั่นคือปล่อยให้คุณใช้งานมันได้ทั้งสองอารมณ์ แต่รับรองว่าไม่ใช่อารมณ์เบื่อกับอารมณ์เสีย เหมือนดูหนังเรื่อง อารมณ์ (เสีย) อาถรรพ์ (ความห่วย) และอาฆาต (คนเอาหนังเรื่องนี้มาขาย) ภาค 2 แน่นอน

ในเกียร์อัตโนมัติของ มาสด้า 3 รุ่น 1.6 ลิตรนี้ ถ้าหากคุณเป็นประเภทมือเบาตีนเบา คุณอาจจะนึกว่ามันเป็นเกียร์ซีวีที ที่นอกจากจะขยับเกียร์แบบนุ่มเรียบไม่มีกระตุกแล้ว จากเกียร์ 1-4 มันมาเร็วมาก การที่คุณค่อยๆ แตะมัน การขยับเกียร์จาก 1 ไป 2 จาก 2-3

และ 3-4 ระบบเกียร์จะตัดรอบทุกๆ 2,000 รอบ/นาที ก็ไม่ต้องแปลกใจหากคุณขับจาก 0-40 ก.ม./ช.ม. นกกระจอกยังไม่ทันกินน้ำ ตำแหน่งเกียร์จะโชว์เลขอยู่ที่เกียร์สูงสุดเสียแล้ว นั่นทำให้การขับขี่ในเมืองของคุณสบายขึ้นและประหยัดน้ำมันมากขึ้น เพราะคุณวิ่งอยู่บนเกียร์สูงสุดที่รอบเครื่องยนต์ต่ำ

ทีนี้หากคุณสงสัยว่า แล้วมันจะสนุกตรงไหนล่ะ ในโหมดเกียร์อัตโนมัติแตะนิดเดียวขึ้นไปถึงเกียร์สูงสุด แล้วมันจะเอาแรงปลายมาจากไหน ระบบเกียร์อัตโนมัติชิ้นนี้มีทางเลือกให้คุณขับสนุกได้ 2 แบบ ในโหมดเกียร์อัตโนมัติหากคุณกระแทกคันเร่งลึกหน่อย การตัดรอบของเครื่องยนต์ก็จะเปลี่ยนตามไปด้วย การเปลี่ยนเกียร์จาก 1-4 จะช้าลง ให้คุณลากรอบเครื่องยนต์ได้ยาวขึ้น

ในอีกลักษณะคือ คุณเปลี่ยนดันเกียร์ไปใช้โหมดเกียร์ธรรมดา ก็จะได้อารมณ์การขับขี่ที่เร้าใจมากขึ้น ปล่อยให้คุณลากรอบเครื่องยนต์อย่างสบายใจเฉิบ หากคุณไม่ขยับเพิ่มเกียร์มันก็ปล่อยให้คุณลากจนเครื่องพังตามใจคุณ มันจึงมีประโยชน์อย่างมากยามที่คุณขับออกต่างจังหวัดแล้วต้องการเร่งแซง คุณแค่คลิกเกียร์จาก 4 ลงมา 3 คุณก็ลากรอบแซงได้ทะลุโลก ยกเว้นดันทะลึ่งอยากแซงแรงกว่าแล้วคนขับดันกวนทีนไม่ยอมให้แซงเท่านั้น

ส่วนความเร็วปลายของมาสด้า 3 เครื่อง 1.6 ลิตร เกียร์อัตโนมัติตัวนี้อยู่ที่ประมาณ 180 ก.ม./ช.ม. บวกติ๋มๆ ที่รอบเครื่องยนต์ 5,100 รอบ/นาที ซึ่งมันใช้รอบเครื่องยนต์มากกว่าตัวเกียร์ธรรมดาประมาณ 1,500 รอบ/นาที หากลากยาวๆ ซดน้ำมันกว่าแน่นอน แต่จากการทดลองขับรถรุ่นนี้ วิ่งไป 200 ก.ม. มันใช้น้ำมันไปแค่ครึ่งถัง นับว่ามันค่อนข้างจะสุภาพเรียบร้อยในการรับประทานน้ำมัน ไม่มูมมามอย่างที่คิด

ในส่วนของภายนอก-ภายในของรุ่นนี้เราคงไม่พล่ามกันเยอะ เพราะมันแทบจะเหมือนกันหมดกับรุ่นเกียร์ธรรมดา แต่หลังจากได้นำรุ่นเกียร์อัตโนมัติมาใช้ ก็ทำให้เห็นรายละเอียดของภายในมากขึ้นมาอีกนิด กับช่องเก็บสัมภาระฝั่งคนนั่งด้านหน้าว่าออกแบบมาค่อนข้างลึก ให้มีเนื้อที่มากเป็นพิเศษ ขณะที่กระโปรงท้ายก็ค่อนข้างลึก และเบาะหลังยังสามารถปลดให้ทะลุต่อเชื่อมกับส่วนกระโปรงท้ายได้ด้วย

สำหรับรุ่น S ความจุ 1.6 ลิตร นั้น มี 2 ตัว คือ เกียร์ธรรมดากับเกียร์อัตโนมัติ Activematic มีค่าตัวอยู่ที่ 779,000 บาท ในรุ่นเกียร์ธรรมดา และ 809,000 บาท ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ซึ่งกระเถิบขึ้นไปอีกรุ่นจะเป็นรุ่น V เครื่องยนต์ 1.6L เกียร์อัตโนมัติ Activematic เช่นกัน ราคาจะอยู่ที่ 829,000 บาท ห่างกันเพียง 20,000 บาท

แต่จะมีอุปกรณ์แตกต่างกัน 3 จุด คือ จะมีถุงลมนิรภัยด้านข้าง ดิสก์เบรกหลัง และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ขณะที่รุ่น S เกียร์อัตโนมัตินี้จะมีถุงลมนิรภัยคู่หน้า เบรกหน้าดิสก์ เบรกหลังดรัม และล้อจะเป็นขนาด 15 นิ้ว ล่อใจให้ซื้อรุ่น V กันอย่างเดียว

จากการได้ลองขับรถรุ่นนี้ต้องยอมรับว่ารู้สึกติดใจเลยล่ะครับ และ ณ เวลานี้ Mazda 3 คือ รถที่น่าสนใจมากที่สุดในบรรดารถญี่ปุ่นเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ทั้งออกแบบได้หมดจดสวยเรียบร้อยล้ำหน้าคู่แข่ง ขับสนุก สปอร์ต ช่วงล่างดี ยึดเกาะถนนอย่างปลอดภัย ให้อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายต่างๆ อย่างคุ้มค่าตัว

อันนี้ก็อีกอันสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายแต่กลัวอืด อ่านแล้วคงลืมความอืดกลายเป็นความอยากแน่ ๆ
โดย: เจ้าสัว   วันที่: 7 Jan 2005 - 01:10


 ความคิดเห็นที่: 1 / 7 : 027503
โดย: julchab
ฟันธงเช่นกันว่าคุ้มค่าสุด ปลอดภัยสุด และหนึบสุดยามนี้กับรถญี่ปุ่นขนาดกลางครับ
ผมชอบสุดๆตรงการออกแบบการรับแรงปะทะด้านหน้า/หลังของตัวถัง ของยี่ห้ออื่น แชสซีจะยาวไปถึงกันชน ถ้าชนมีดุ้งทั้งคันแน่ๆ แต่ M3 นี่มีสองชั้น อันแรกเป็นคานขวาง อันสองเป็นกล่องยุบตัวได้ ก่อนถึงแชสซี (ใช้ไขน็อตยึดเอา เปลี่ยนได้) ทำให้สามารถจำกัดความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถได้ดี ชนเบาไม่ต้องเอาไปขึ้นแท่นดึง รถไม่ช้ำครับ

กว่าจะได้รถรอพฤษภานู่นแน่ะ T.T
วันที่: 07 Jan 05 - 09:42

 ความคิดเห็นที่: 2 / 7 : 027710
โดย: งง
ขอโทษครับ รุ่น 1.6 V มี ถุงลมนิรภัยด้านข้างด้วยเหรอครับ งง เห็นพิมพ์ไว้น่ะครับ สรุป ยังไงครับ ."แต่จะมีอุปกรณ์แตกต่างกัน 3 จุด คือ จะมีถุงลมนิรภัยด้านข้าง ดิสก์เบรกหลัง และล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว ขณะที่รุ่น S เกียร์อัตโนมัตินี้จะมีถุงลมนิรภัยคู่หน้า เบรกหน้าดิสก์ เบรกหลังดรัม และล้อจะเป็นขนาด 15 นิ้ว ล่อใจให้ซื้อรุ่น V กันอย่างเดียว"
วันที่: 08 Jan 05 - 00:40

 ความคิดเห็นที่: 3 / 7 : 027725
โดย: ....
คงมั่วอะครับผมว่าไม่มีนะถุงด้านข้างมีรุ่น2.0เท่านั้นไม่ใช่หรอ
วันที่: 08 Jan 05 - 03:10

 ความคิดเห็นที่: 4 / 7 : 027758
โดย: J!MMY
ใครเขียนอ่ะ?

แอร์แบ็กข้างมันมีเฉพาะ 2.0 เน้อ
วันที่: 08 Jan 05 - 11:13

 ความคิดเห็นที่: 5 / 7 : 027775
โดย: โดม
นั้นสิครับ ผมว่ารุ่น S MT ไม่น่าจะใช่ "ความเร็วปลายของตัวนี้อยู่ที่ 180 บวกๆ รอบเครื่องยนต์บนความเร็วสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 3,600 รอบ " ผมว่ารอบมันน้อยยังไงไม่รู้ ไม่น่าจะเป็นไปได้
วันที่: 08 Jan 05 - 14:10

 ความคิดเห็นที่: 6 / 7 : 029089
โดย: Test drive
1.6 ไม่มี side airbag มีแต่ รุ่น 2.0 ครับ
วันที่: 13 Jan 05 - 12:59

 ความคิดเห็นที่: 7 / 7 : 030571
โดย: เด็กดอยคอยน้องสาม
ความแตกต่างอีกอย่าง2อย่างครับ 1.รุ่น S มี 4 ลำโพง แต่ V มี 6 ....ที่เพิ่มมาอีกสองนั่นคือ ทวิทเตอร์ที่บริเวณกรอบประตูหน้าใกล้กระจกมองข้างนั่นเอง
2. รุ่น S ไม่มีปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย แต่ รุ่น V มี
สรุป ทั้งสองรุ่น จามีส่วนที่แตกต่างกัน 5 จุดคือ ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงที่พวงมาลัย ,ลำโพง,ขนาดล้อ,เบรคหลังและสุดท้าย คือ....ราคา.....
วันที่: 19 Jan 05 - 14:58