Mazda 3 เป็นรถยนต์ ขับเคลื่อนล้อหน้าครับ
ในปัจจุบัน ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้ รถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่ใช้ในเมืองหรือพื้นที่ ที่เจริญแล้ว ( หมายถึง มีถนน เทปูนหรือแอสฟัล ) เป็นรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้าซะกว่า 90 เปอร์เซ็นต์
ตรงนี้เป็นข้อมูลที่เทียบ จาก รถมาตรฐานโรงงานและเป็นรถญี่ปุ่นนะครับ รถแต่งประเภท GYMKHANA ไม่นับนะครับ เพราะหลายๆคัน แต่งเป็นล้านครับ
ในส่วนของข้อดีของรถขับหน้า
1. บังคับควบคุม ได้ง่ายกว่า ( ถ้ากดเข้าโค้ง ไปด้วยความเร็วสูง แล้วจะเกิดอาการแหกโค้ง ก็เพียงแค่ยกคันเร่ง อาการที่เรียกว่า Understeer ก็จะหายไป
2. สามารถออกแบบห้องโดยสาร ให้กว้างขวางขึ้น สะดวกสบายเพิ่มขึ้น สำหรับผู้โดยสาร ยกตัวอย่าง ถ้าคุณ ทันได้นั่งรถเก๋งรุ่นเก่า เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ที่ตำแหน่งเบาะนั่งหลัง ตรงตำแหน่งกลาง คุณจะเจอกับอุโมงเพลากลาง ซึ้งสูงมากๆ ทำให้คนนั้งตำแหน่ง กลางต้องนั้งแหกขาตลอดเวลาหรือไม่ก็ต้องนั่งชันเข่า
3. ชิ้นส่วนประกอบ มีน้อยกว่า รถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลัง โอกาสการเกิดความเสียหาย ก็น้อยลงด้วย
ข้อเสียของรถขับหน้า
1. ความทนทานของชิ้นส่วน เช่น ยางหน้า ลูกหมากชุดช่วงล่างหน้า ชุดหัวเพลาขับ อายุสั้นกว่า ขับหลังครับ คิดง่ายๆ คือ รถขับหลัง ล้อหน้าทำหน้าที่เลี้ยวอย่างเดียว ในขณะที่ล้อหลัง ทำหน้าที่ขับเคลื่อน แต่สำหรับ รถขับหน้า ไม่ว่าจะเลี้ยวหรือขับเคลื่อน อยู่ที่ล้อหน้าหมด ดังนั้นจึงต้องออกแบบให้ชิ้นส่วนมีความทนทานพอสมควร ( ผลที่ตามมา ราคาอะไหล่สูงกว่า )
2. การซ่อมบำรุง หรือแก้ไข ถอดชิ้นส่วน ทำได้ยากกว่า รถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลัง เนื่องจาก เครื่องยนต์ เกียร์+เฟืองท้าย และเพลาขับ ทุกอย่างอยู่หน้ารถหมด บางรุ่น เปิดมา มองหาช่องจะล้วงมือแทบไม่มี นี่หมายถึง ถอดฝาครอบเครื่องที่เป็นพลาสติกแล้วนะครับ
3. ในกรณีใช้ในการแข่งขัน การบังคับควบคุมให้เป็นดังใจ เช่น ต้องการสั่งให้ Oversteer ทำได้ยากกว่า ต้องใช้เบรคมือหรืออุปกรณ์พิเศษช่วย ฉะนั้น ในการแข่ง Down Hill หรือ Drift รถยนต์ขับหลังจะได้เปรียบกว่าครับ
*** ส่วนของรถยนต์ขับหลัง ก็จะตรงข้ามกับด้านบนละครับ ได้อย่างต้องเสียอย่าง
ตอนนี้นึกได้เท่านี้ครับ รอท่านอื่นมาเสริมหรือเพิ่มเติมนะครับ
|