ปกติเวลาต้องการจากเรียกรอบและแรงบิดสำหรับแซง ระบบ AT นั้นจะมีระบบ kick down ครับคือกดคันเร่งลงไปแบบฉับพลัน (บางยี่ห้อก็ไม่ต้องกดให้มิดก็ได้ ) ระบบสมองกลของเกียร์ก็จะทำการเปลี่ยนเกียรลงมา 1 step เช่นวิ่งอยู่ที่เกียร์ 4 ก็จะเปลี่ยนลงมาเกียร์ 3 เพื่อให้ได้แรงบิดสูงขึ้น (ปรับอัตราทดของเกียร์ให้เหมาะสมนั้นเอง) เท่านั้น เราก็จะได้แรงม้ากับแรงบิดเพิ่มขึ้นในฉับพลัน จะเหมือนๆกับเกียร์ MT นั้นแหละครับ แต่การ kick down จะมีประโยชน์ดีกว่าโดยไม่ต้องใช้มือไปเปลี่ยนเกียร์ทำให้เราสามารถใช้ 2 มือควบคุมพวงมาลัยได้ดีและสมาธิอยู่ที่รถคันหน้าที่พุ่งมาหาเรา
ผมเองเคยใช้แบบ MT มาก่อน พอมาใช้ AT รู้สึกชอบเลยครับเพราะเกียรแบบ AT สมัยนี้ดีกว่าแต่ก่อนมาก ตอบสนองไวกว่าเดิมครับ โดยรวมๆแล้วผมคิดว่าถ้าเทียบจริงๆการ kick down กับการใช้เกียร MT แล้วเชนด้วยมือนั้น การ kick down ใช้เวลาน้อยกว่าครับแม้บางคันจะมีอาการรอแปบนึงกว่าที่เกียรจะเชนลง แต่เราสามารถ kick down ก่อนที่จะเริ่มแซงได้ครับ เวลาอาจต่างกันไม่ถึง 1 วินาทีด้วยซ้ำ
โดยรวมขับแบบ AT สบายกว่าครับทั้งในเมืองและนอกเมือง เกียร MT ถ้าในเมืองเจอรถติดหนักๆ หรือเวลากลับบ้านช่วงสงการนต์ท่านจะรู้สึกเบื่อเลยครับ เมื่อยขาอีกต่างหาก อย่างช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาผมขับกลับจาก นครสวรรค์ถึง กทม. ใช้เวลาเกือบ 5 ชั่วโมง ลองคิดดูแล้วกันว่าจะเป็นอย่างไร วิ่งๆแล้วจอด
ส่วนระบบ active matic นั้นมีไว้ก็เพื่อลดช่องว่างระหว่างระบบเกียรแบบ AT กับ MT ครับ มีไว้สำหรับท่านที่ต้องการลากรอบ หรือต้องการการขับแบบ MT โดยใช้เกียร AT ความสนุกจะอยู่ตรงนี้ละครับ
ข้อดีของ active matic อีกอย่างก็คือเวลาท่านต้องไป ตจว. ขึ้นเขา ลงเขา เจ้าสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างมาก ทำให้ผู้ขับมีความมั่นใจในการขับขี่มาก สามารถใช้ engin break ได้โดยไม่ต้องเหยียบเบรค เนื่องจากบางครั้งถ้ารถวิ่งมาด้วยความเร็ว การเข้าโค้งด้วย engin break จะให้เสถียรภาพในการขับขี่ดีกว่าเหยียบเบรคแล้วเข้าโค้ง เพราะถ้าเราเหยียบเบรกเวลาเข้าโค้งรถจะวิ่งด้วยแรงเฉื่อยครับ
อย่างไรแล้วทุกครั้งที่ท่านขับขี่ ก็ควรตั้งอยู่ในความไม่ประมาทครับ ขับรถเร็วเกินไปก็ไม่ดีครับ เห็นใจเพื่อนร่วมทางด้วย เพราะอุบัติเหตุที่เกิดกับท่านอาจไม่สงผลกับท่านเพียงท่านเดียวครับ ยังมีอีกหลายๆท่านที่ใช้ทางร่วมกับท่านอยู่ครับ
|