Close this window

บทความ : จงกล้าที่จะเสี่ยง
การหัวเราะ คือ การเสี่ยงที่จะถูกมองว่าเป็นคนโง่
To laugh is to risk appearing a fool

การร้องไห้ คือ การเสี่ยงที่จะถูกมองว่าเป็นคนที่อ่อนไหว
To weep is to risk appearing sentimental

การเข้าไปหาผู้อื่น คือ การเสี่ยงที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้อื่น
To reach out for another is to risk involvement

การแสดงความรู้สึกให้ผู้อื่นรับรู้ คือ การเสี่ยงที่จะได้รับคำปฏิเสธ
To expose feeling is to risk rejection

การตั้งเป้าหมายต่อหน้าผู้อื่น คือ การเสี่ยงที่จะถูกหัวเราะเยาะ
To place your dreams before the crowd is to risk ridicule

การรักใครสักคน คือ การเสี่ยงที่จะไม่ได้รับความรักตอบแทน
To love is to risk not being loved in return

การก้าวเดินไปหนทางข้างหน้าที่เต็มไปด้วยสิ่งใหม่ๆ คือ การเสี่ยงที่ต่อความผิดพลาด
To go forward in the face of overwhelming odds is to risk failure


แต่เราก็ควรที่จะเสี่ยงในสิ่งต่างๆเหล่านี้ เนื่องจากว่าอันตรายที่ใหญ่หลวงที่สุดในชีวิตคือการที่ไม่ยอมเสี่ยงสิ่งใดเลย
But risks must be taken, because the greatest hazard in life is to risk nothing

บุคคลที่ไม่เสี่ยงสิ่งใดเลย, จะไม่ได้ทำสิ่งใดเลย, จะไม่มีสิ่งใดเลย และ จะไม่ได้เป็นอะไรเลย
The person who risks nothing does nothing, has nothing, is nothing

เขาอาจจะหลีกหนีจากความทุกข์ยากและความเศร้าโศกได้ หากแต่ว่าเขาจะไม่ได้เรียนรู้, ไม่ได้รู้สึก, ไม่ได้เปลี่ยนแปลง, ไม่ได้เติบโต และไม่ได้รู้จักความรักเลย
He may avoid suffering and sorrow, but he cannot learn, feel, change, grow or love

เขาจะถูกล่ามโซ่ไว้ เขาจะกลายเป็นทาสให้กับสิ่งที่เขากังวลไม่กล้าเสี่ยงนั้น
Chained by his certitudes, he is a slave


จะมีเพียงแต่บุคคลที่กล้าเสี่ยงเท่านั้น ที่จะมีอิสระทำสิ่งต่างๆได้
Only a person who takes risks is free

------------------------------------------------------------------------------------
มานอาวบทความมาลงอีกแว้ววว อิอิ
โดย: อายูมี๊ (กวางป่า)   วันที่: 6 Mar 2005 - 22:36


 ความคิดเห็นที่: 1 / 9 : 044963
โดย: อาซูจิ๊
ยาวจัง
วันที่: 06 Mar 05 - 22:52

 ความคิดเห็นที่: 2 / 9 : 044975
โดย: อายูมี๊ (กวางป่า)
มาอีกหนึ่ง
----------------------------------------------------------------
ถึงคุณทศ…
ขอโทษที่ไม่ได้อ่อนหวานเหมือนผู้หญิงคนอื่น ๆ
ขอโทษที่กระโดกกระเดก
ขอโทษที่ใจร้อนเสมอ และต้องให้ทศคอยเตือนเสมอ
(น่าเบื่อมาก >_< )
ขอโทษที่ชอบร้องไห้เวลาดูหนังด้วยกัน
ขอโทษที่ไม่น่ารักและน่าถนุถนอม
ขอโทษที่ไม่รู้จักโตสักที
ขอโทษขี้ใจน้อย
ขอโทษที่ขี้งอน
ขอโทษที่ชอบพูดตรง
ขอโทษที่เคยทำร้ายจิตใจกัน
ขอโทษที่ชอบจุ้นจ้านเรื่องส่วนตัวของทศ
ขอโทษที่ขี้บ่นเหลือเกิน
ขอโทษที่รักทศซะมากมาย
…ฟองฝ้าย…


ถึงคุณฝ้าย…

ขอบคุณครับที่ไม่อ่อนหวาน
ผู้ชายอย่างผมจะได้แอบหวานกับเขาบ้าง
ขอบคุณครับที่กระโดกกระเดก ผมจะได้มองออกว่าคุณเขิน
ขอบคุณครับที่ใจร้อน ผมยินดีที่จะทำให้มันเย็น
(ผมไม่เคยเบื่อเลย… ^_^ )
ขอบคุณครับที่ร้องไห้เวลาดูหนังด้วยกัน
ผมจะได้มีโอกาสเช็ดน้ำตาของคุณบ้าง
ขอบคุณครับที่ไม่น่ารักและน่าถนุถนอม
ขืนน่ารักกว่านี้ผมคงแย่งชิงกะคนอื่นอีกนานโข
ขอบคุณครับที่ขี้น้อยใจ
มันแสดงว่าผมก็มีความสำคัญพอให้ฝ้ายโกรธบ้าง
ขอบคุณครับที่ขี้งอน ผมจะได้ง้อไง
แต่อย่านานนักล่! ะผมทรมานใจนะครับ
ขอบคุณครับที่พูดตรง ( T_T ) ฮื่อ ๆ
ผมรู้แล้วว่าผมทำกับเข้าไม่อร่อย
ขอบคุณครับที่ทำร้ายจิตใจกัน
มันทำให้ผมได้รู้ถึงความเหนียวแน่นของ
ความสัมพันธ์ของเราสองคนมันไม่ขาดกันง่าย ๆ หรอก
(ผมไม่ยอม)
ขอบคุณครับที่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของผม
นั่นแน่…เป็นห่วงผมล่ะสิ
ขอบคุณครับที่…เอ๊ย…ไม่เอาดีกว่าข้อนี้ขี้บ่นไม่ดี ๆ
เหมือนยายแก่
แต่ถ้าจะเป็นจริง ๆ ผมขอเป็นตาแก่นะ…
สุดท้ายขอบคุณที่เข้ามาในชีวิตผม
ขอบคุณครับที่ทำให้ผมรู้ความหมายของคำว่า
you complete me. โดยไม่ต้องเปิด Dictionary
ขอบคุณที่อยู่เพื่อให้ผมรัก
…ทศภาค…
วันที่: 06 Mar 05 - 23:07

 ความคิดเห็นที่: 3 / 9 : 044998
โดย: อายูมี๊ (กวางป่า)
ดีไม่ดี...อยู่ที่ใจเรา
หัวเราะ...เมื่ออยากหัวเราะ
ร้องไห้...เมื่ออยากร้องไห้
และต้องหัวเราะให้ได้หลังร้องไห้ทุกครั้ง!
อย่าทำอะไรที่ไม่อยากทำ...
จงทำอะไรที่ใจอยากทำ...!
ตัวหนังสือ...เขียนผิด...ลบได้
การกระทำ...ทำผิด...เอาอะไรลบ

นึกว่าหมากำลังไล่ฟัดซิ...!
...จะได้รีบวิ่งรี่เข้าเส้นชัย...
...ล้มเมื่อไหร่จะได้รีบลุก...

ทุกย่างก้าว ของ ความฝัน คือ ย่างก้าว ของ
ความเหน็ดเหนื่อย
ทุกย่างก้าว ของ ความเหน็ดเหนื่อย คือ ก้าวย่าง ของ
ความสำเร็จ

ต่อให้ทุกข์ที่สุด....ก็ต้องผ่านพ้นไปจนได้
เมื่อเรานั่งมองอดีต เรายังผ่านทุกข์มาได้ตั้งหลายทุกข์
ก็ในเมื่อ..ชีวิต...มันยังมีชีวิต
ขอแค่อย่าทุกข์ก่อนเจอทุกข์
หลังทุกข์ อย่าทุกข์อีก
ให้ทุกข์ แค่ตอนทุกข์
แล้วทุกข์ที่สุด...ก็จะเป็น ทุกข์ แค่นี้เอง!

ให้ทำหน้าที่ทุกหน้าที่ด้วยหัวใจ
ให้หัวใจตระหนักในหน้าที่....
แล้วเราจะไม่รู้สึกว่าหน้าที่เป็นหน้าที่
แต่เป็นการกระทำที่เกิดจาก...หัวใจเรียกร้อง...ต่างหาก

ดีไม่ดี...อยู่ที่ใจเรา...
ถ้าใจเรา...คิดดี เราก็จะเจอแต่สิ่งดีๆ
ถ้าเรามองในทางที่ดี...ใจเราก็จะรู้สึกดี
ถ้ากำลังใจดี...สิ่งเลวร้าย...ก็จะคลี่คลายเป็น...ดี!
วันที่: 06 Mar 05 - 23:28

 ความคิดเห็นที่: 4 / 9 : 045000
โดย: อายูมี๊ (กวางป่า)
Good or Bad --- Hard to say : ดีหรือไม่ดี --- ยากที่จะบอก

Once upon a time, there was a king. The king liked one of his followers very much because he was very wise and always gave very useful advice.
Therefore the king took him along wherever he went.

นานมาแล้ว มีพระราชาองค์หนึ่ง พระราชาองค์นี้ มีคนสนิทคนหนึ่งที่พระองค์สนิทมาก และมักจะพาไปไหนมาไหนด้วยเสมอ ในทุกๆที่



One day, the king was bitten by a dog, the finger was injured and the wound was getting worse. He asked the follower if that was a bad sign. The follower

said, 'Good or bad, hard to say'.

แล้ววันหนึ่ง พระราชาก็ถูกหมาตัวหนึ่งกัดนิ้ว แผลฉกรรนมาก
พระราชาจึงถามคนสนิทว่า นี่เป็นรางไม่ดีของพระองค์หรือเปล่า คนสนิทกลับตอบว่า “ ดี หรือไม่ดี ยากที่จะบอก ”



In the end, finger of the king was too bad that had to be cut. The king asked the follower again if that was a bad sign. Again, the follower gave the same answer, 'Good or bad, hard to say'.

และในที่สุด พระราชาก็ถูกตัดนิ้ว และพระราชาก็ถามคนสนิทอีกว่า นี่เป็นรางไม่ดีของพระองค์หรือเปล่า คนสนิทกลับตอบว่า “ ดี หรือไม่ดี ยากที่จะบอก ”

The king became very angry and sent the follower to prison.

พระราชาโกรธมาก เลยจับคนสนิทขังไว้ในคุก



One day, the king went hunting in the jungle. He got excited when he was on the chase of a deer. Deeper and deeper he went inside the jungle.

วันหนึ่ง พระราชาก็ได้เสด็จออกป่าล่าสัตว์ พระองค์ทรงตื่นเต้นมาก แล้วก็มุ่งเข้าไปในป่า ลึกเข้าไปเรื่อยๆ



In the end he found himself lost in the jungle. To make things worse, he got captured by the native people lived inside the jungle.

เมื่อมารู้ตัวอีกทีก็พบว่า พระองค์ได้หลงทางเสียแล้ว
แต่ก่อนที่อะไรจะเลวร้ายไปกว่านั้น
พระองค์ก็ได้พบกับชนเผ่าพื้นเมืองในป่าแห่งนั้น



They wanted to sacrifice him to their god. But when they noticed that the king had one finger short, they released him immediately as he was not a perfect

man anymore and not suitable for sacriface.

คนป่าพวกนั้น ต้องการจับพระราชาไปบูชายัญ แต่พวกเขาก็พบว่า พระราชานิ้วขาด จึงรีบปลดปล่อยพระราชา เพราะเชื่อว่าพระราชาไม่ใช่มนุษย์ที่สมบูรณ์เลย และไม่เหมาะที่จะนำไปบูชายัญ



The king managed to get back to his palace after all.

พระราชาจึงตัดสินใจกลับพระราชวังในที่สุด



And he finally understood the follower's wise quote, 'Good or bad, hard to say'. If he hadn't lost one finger, he could have been killed by the native

people.

และสุดท้าย พระองค์ก็เข้าใจคำพูดของคนสนิทที่บอกว่า “ ดีหรือไม่ดี ยากที่จะบอก ” เพราะถ้าพระองค์มีนิ้วครบสมบูรณ์ พระองค์ต้องถูกฆ่าโดยคนป่าพวกนั้นอย่างแน่นอน



He ordered to release the follower, and apologized to him.

พระราชาจึงสั่งปล่อยตัวคนสนิท และขอโทษเขา



But to the king's amaze, the follower was not mad at him at all. Instead ,the follower said,

แต่พระราชากลับประหลาดใจ เมื่อคนสนิทกลับไม่โกรธพระองค์เลย
ในทางตรงข้ามเขากลับบอกว่า



'It wasn't a bad thing that you locked me up.' Why? Because if the king hadn't locked the follower up, he would have

brought the follower along to the jungle. If the native found that the king was not suitable, they would have used the follower.

มันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรเลยที่ท่านขังข้าไว้ ทำไมงั้นหรือ เพราะว่าถ้าพระองค์ไม่ขังข้าไว้ ข้าก็จะต้องตามท่านไปในป่า และในเมื่อท่านไม่เหมาะจะถูกบูชายัญ

ข้าคงจะถูกนำไปบูชายัญแทนเป็นแน่



Again, the quote 'Good or bad, hard to say' stands.

อีกครั้งกับคำที่ว่า ดี หรือไม่ดี ยากที่จะบอก



The moral of the story is that everything that happens in this world, there is no absolute good or bad.

เรื่องนี้อาจกล่าวได้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในโลกนี้
ไม่มีการสรุปได้อย่างแน่นอนว่า ดี หรือ ไม่ดี

Sometimes good things turned out to be bad things eventually, while bad things become a gain.

บางครั้งสิ่งที่ดี อาจจะกลายเป็นสิ่งที่เลวร้าย ในขณะที่สิ่งที่เลวร้ายอาจกลายเป็นดีได้



Whatever good things that happen to you, enjoy it, but don't have to hold too tight to it, treat it as a surprise in your life.

สิ่งดีๆอะไรก็ตาม ที่เกิดขึ้นกับเรา จงสนุกสนานกับมัน แต่อย่าไปยึดติดกับมัน จงคิดเสียว่ามันเป็นสิ่งที่มาสร้างความประหลาดใจให้กับชีวิตของคุณ



Whatever bad things that happen to you, don't have to feel too sad or despair , in the end, it might not be a total bad thing after all.

อะไรต่างๆ ที่มันเลวร้าย ซึ่งเกิดขึ้นกับคุณ ไม่จำเป็นต้องไปเศร้าเสียใจ ในตอนท้าย มันอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย



If one can understand this, he or she will find life much easier

ถ้าพวกเราเข้าใจได้อย่างนี้ พวกเราจะพบว่า การใช้ชีวิตนั้น ไม่ใช่เรื่องยากเลย
วันที่: 06 Mar 05 - 23:29

 ความคิดเห็นที่: 5 / 9 : 045002
โดย: อายูมี๊ (กวางป่า)
ยุงหิวโหย..อาหาร จึงออกหาเลือดอุ่น ๆ รองท้อง
คนหิวโหย..ความรัก จึงออกตามหารักอุ่น ๆ รองใจ
ศิลปะการดื่มเลือดของยุง คือ ค่อย ๆ ย่อง อุ๊ย !! บินซิเนอะ
บินเข้าไปในมุมมืด บรรจงแทงปากทะลุทลวงผ่านผิว
เข้าไปดูดเลือดอุ่น ๆ ของคุณ โดยคุณไม่รู้ตัว
ศิลปะความรัก คือบรรจงแทรกแซง ชอนไช
ทะลุทลวงความรู้สึก เข้าไปฝังลึกอยู่ในหัวใจ
ของคุณอย่างช้า ๆ อบอุ่นในหัวใจ โดยคุณไม่รู้ตัว
กว่าคุณจะรู้ตัว ยุงก็อิ่มแปร้ บินกลับบ้าน
กว่าคุณจะรู้ตัว รักก็มากมายเกินห้ามใจ
ยุงตัวไหน ปากหนัก กัดเจ็บ บินไม่เร็วพอ
บินไม่รู้จังหวะ บินผิดมุมให้คนเห็นหรือรู้ตัวก่อน ถึงฆาตมาแล้ว กว่า 90 %
น้อยนักที่จะรอดฟันฝ่ามือพิฆาตและไบกอนเขียวไปได้
คนคนไหน ไม่เคยรัก ไม่รู้จักรัก
จีบไม่เป็น ไม่มีโอกาส ไม่รู้กาละเทศะ
และเหตุผลอีกมากมาย นานับประการที่จะหยิบมาเอ่ยอ้างถึง

ความไม่สันทัดจัดเจนเรื่องรัก ก็น้อยนักที่จะรอดพ้น
อาการแห้วไปได้
พอยุงกินอิ่มหนำก็บินจากไป
และพร้อมจะกลับมาใหม่เมื่อโหยหิว
ก็เหมือนรักของคนเจ้าชู้อิ่มหนำแล้วก็ผ่านไป
แต่จะกลับมาใหม่เมื่อโหยหา
ถึงจะถูกตบ ถูกฉีดยา ถ้าไม่ตายเสียก่อน
พร้อมจะกลับมาใหม่เมื่อหิวอีกครา
ไม่เข็ดแฮะ ก็เหมือนคน เจ็บช้ำสักเท่าไหร่
ถ้าไม่ถึงตาย หัวใจก็ยังโหยหารัก อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
...
..ถึงจะกางมุ้ง จุดยากันยุง หรือติดมุ้งลวด
ยุงก็ยังคงเข้ามาได้อยู่ดีแหละ
ความรักก็เหมือนกัน ห้ามใจเท่าไหร่ หลีกหนียังไง
รักก็ยังเล็ดลอดเข้ามาได้อยู่ดี
เจ็บใจจริง ๆ ตีมันไม่ทัน มันบินหนีปายโน่นแล้ว
ท้องเป่งเชียว กินเลือดย้อมอิ่มสิท่า
คราวหน้านะอย่าให้เจอละกัน...แม่..จะตบให้แบนเลย
ฮึเจ้าชู้ดีนัก...เอ้ย !
...กัดเจ็บดีนัก...........อิอิอิ
วันที่: 06 Mar 05 - 23:31

 ความคิดเห็นที่: 6 / 9 : 045009
โดย: อายูมี๊ (กวางป่า)
วันหนึ่งเมื่อยังเด็ก
แอนดี้น้องชายของฉันนั่งอยู่ที่มุมห้องนั่งเล่น ....
ในมือข้างหนึ่งมีปากกาหนึ่งด้าม
ขณะที่ในมืออีกข้างหนึ่งก็ถือหนังสือสะสมราคาแพงของพ่อ
แอนดี้คงจะปีนขึ้นไปหยิบจากบนชั้นหนังสือ .....
เมื่อพ่อเดินเข้ามาในห้อง
แอนดี้ก็ก้มหน้างุดและทำท่ากระสับกระส่าย
เขารู้ตัวดีเชียวละว่ากำลังทำผิดแม้จากระยะไกล
ฉันก็เห็นรอยขีดเขียนเปรอะไปทั่วบนหน้าหนังสือของพ่อ
และตอนนี้แอนดี้ก็กำลังจ้องมองพ่อตาโตด้วยความหวาดหวั่น
รอคอยที่จะถูกทำโทษ
พ่อหยิบหนังสือขึ้นมามอง
แล้วก็ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้โดยไม่พูดอะไรสักคำ .....
หนังสือทุกเล่มมีความหมายต่อพ่อมาก... หนังสือคือความรู้
และหนังสือเล่มนี้ก็เป็นหนังสือสะสมราคาแพง
แต่ในขณะเดียวกันท่านก็เป็นพ่อที่รักลูกมาก.....
สิ่งที่พ่อทำในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านั้นยอดเยี่ยมมาก
แทนที่ท่านจะลงโทษหรือดุแอนดี้
หรือแม้แต่ตำหนิความซุกซน !! พ่อกลับนั่งลง ...
หยิบปากกาในมือแอนดี้ขึ้นมาถือไว้
แล้วก็เขียนอะไรบางอย่างลงในหน้าหนังสือสือสะสมราคาแพงนั่นเสียเอง
พ่อเขียนที่ข้างๆ ลายเส้นที่แอนดี้ขีดว่า"ภาษาของแอนดี้
เมื่ออายุสองขวบ.....
ต่อไปไม่ว่าครั้งไหนที่พ่อหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาเปิด
พ่อก็จะเห็นใบหน้าน้อยๆ ที่น่ารักและดวงตาที่สดใสของลูก
่และจะขอบคุณพระเจ้าที่ประทานเด็กน้อยคนนี้มาให้ขีดเขียนบนหนังสือแสนหวงของพ่อ

ลูกทำให้หนังสือเล่มนี้ของพ่อมีความหมาย....
เหมือนกับที่พี่ๆ
ของลูกนำความหมายมาสู่ชีวิตของพ่อเหมือนกัน"
"ว้าว..." ฉันคิด นี่หรือคือการลงโทษของพ่อ?
นานๆครั้งฉันก็จะหยิบหนังสือที่สะสมไว้มาให้ลูกหลานของฉันขีดเขียนเล่น

ทุกครั้งที่มองดูลายมือหยุกหยิกเหล่านั้น
ฉันก็จะนึกถึงสิ่งที่พ่อทำในวันนั้น
พ่อได้สอนให้ฉันรู้ว่า...'อะไรกันแน่ที่มีค่าต่อชีวิตของเราอย่างแท้จริง'
......
ซึ่งนั่นก็คือ 'คนที่เรารัก ไม่ใช่วัตถุสิ่งของ'
ลองมองย้อนดูตัวคุณเองในแต่ละวัน
เหตุการณ์แบบนี้ เกิดขึ้นได้อยู่เสมอ
เช่นคุณนั่งกินข้าวกับภรรยาอยู่ที่ร้านอาหาร
เธอหวังดีอยากจะเทซอสให้คุณ
แต่มันกลับหกไปเลอะเสื้อตัวเก่งของคุณ
และคุณก็ทำสีหน้าที่ตำหนิเธอและคำพูดที่บอกว่า....
"เดี๋ยวผมเทเองก็ได้"
นอกจากคำขอโทษที่เธอพร่ำบอก
น้ำตาใสๆก็เริ่มเอ่อขึ้นในใจเช่นเดียวกัน .....
เพราะอาหารมื้อนั้น ไม่มีรสชาติสำหรับเธอเสียแล้ว...
แต่ถ้าคุณบอกกับเธอว่า
ถ้าซักไม่ออกก็ไม่เป็นไรหรอก
เมื่อผมหยิบเสื้อขึ้นมาใช้ครั้งใด
ผมจะหวนนึกถึงร้านอาหารนี้ทุกครั้งไป...
ที่ได้มีโอกาสมาทานข้าวกับคุณ
และได้คิดถึงทุกครั้งว่าภรรยารัก
และเอาใจใส่ผมมากเท่าใด....
อยากปรนนิบัติเอาใจ (จนเทซอสหกใส่ผม)
แต่ว่าคราวหน้าออกมาทานข้าว
ผมจะเป็นคนเทซอสให้คุณมั้งล่ะ (ทีนี้ตาผมมั่ง)
รอยยิ้มจากหัวใจของเธอได้เริ่มโบยบินแล้ว .....
แค่นี้คุณก็ลงโทษเธอให้ระวังมากขึ้นแล้วล่ะค่ะ
สิ่งที่มีค่าต่อชีวิตคนเรานั้นไม่ใช่ นาฬิกาเรือนละแสน
หรือเนคไทเส้นละหลายๆพัน
แต่เป็นความอบอุ่นในหัวใจ ที่คุณรู้ว่ามีใครคนหนึ่ง เฝ้ารัก เฝ้าถนอมความรู้สึกคุณอยู่ตลอดเวลาต่างหาก...
แล้วคุณละคะ เคยลงโทษใครด้วยความรักหรือยัง?
วันที่: 06 Mar 05 - 23:37

 ความคิดเห็นที่: 7 / 9 : 045098
โดย: Jack The Artism
My Goddess!!!

ยาว Shit หายเลย
วันที่: 07 Mar 05 - 08:09

 ความคิดเห็นที่: 8 / 9 : 045125
โดย: ทวีรัฐ
อ๋อย....ช่วยด้วยครับ

คุณกวาง ทำผมตาแฉะแต่เช้าเลยอ่ะครับ
วันที่: 07 Mar 05 - 09:42

 ความคิดเห็นที่: 9 / 9 : 045235
โดย: Jan-Cronos
หลังจากที่ไม่ได้ใช้แว่นตากับคอมพิวเตอร์มานาน
ต้องวิ่งลงไปที่รถ แล้วไปหยิบแว่นมาอ่านเนี่ย

ปล. อ่านจบแล้วง่วงเลยอ่ะ พึ่งอิ่มท้องมาไม่นานด้วย
วันที่: 07 Mar 05 - 13:11