อยากจะรู้ว่า
ถ้ารถหายขณะจอดรถไว้ที่จอดรถของห้างสรรพสินค้า
ทางห้างจะรับผิดชอบความเสียหายให้เรามั้ยครับ

คือว่ากลัวอ่ะครับ เพราะปกติชอบไปเดินห้างช่วงเสาร์-อาทิตย์
วันละหลายชั่วโมง ต่อให้ใช้ "กันขมาย" ยี่ห้ออะไรก็คงไม่รอดแน่ๆ

กุญแจ อิ-โม-บิ-ลัย-เซอร์ ของ มาท-สะ-ด้า-สาม ที่ว่าแน่ๆ
เขาว่าก็เอาไม่อยู่เหมือนกันครับ

อ้อ อีกอย่างถึงประกันชั้น ๑ ก็กลัวประกันตุกติก อ่ะ...ครับ

โดย: กลัวไปซะหมด   วันที่: 14 Mar 2005 - 17:34

 ความคิดเห็นที่: 1 / 17 : 049187

โดย: Red Metalic

โอ้...ตั้งหัวข้อซะตกใจหมด

ผมว่ารถนี่จอดที่ใหนก็เสี่ยงทั้งนั้นแหละครับ(จอดในบ้านยังหายได้เลย) ก็คงต้องศึกษาประวัติของห้างอ่ะคับ เคยอ่านในรัชดา มีหลายอันที่น่าสนใจ(ถ้าเป็นเรื่องจริงนะ) ส่วนตัวก็เป็นห่วงรถเหมือนกัน
นะครับเวลาเอาไปจอด แต่ไม่กลัวรถหายนะครับ กลัวโดนงัดเอาเครื่องเสียงมากกว่า

เรื่องประกันตุกติกผมว่าไม่เป็นทุกที่หรอกครับ....ประกันที่ทำงานได้ประทับใจก็มี อย่างที่ล่าสุดของผมเป็นต้น....บริการรวดเร็ว และทำตามสัญญาที่ให้กันไว้อย่างดี

 ความคิดเห็นที่: 2 / 17 : 049204

โดย: kou

ไม่มีห้างไหนเขารับผิดชอบให้หรอกครับ ที่จอดรถเขามีให้เพื่อความสะดวกครับ

 ความคิดเห็นที่: 3 / 17 : 049209

โดย: Crazy

ผมได้ยินจากคุณสรยุทธพูดในรายการเรื่องเล่าเช้านี้นะครับว่า เราสามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้ เพราะมันเป็นหนึ่งในบริการของแต่ละห้าง คือมีการแจกใบจอดรถถึงแม้ว่าด้านหลังบัตรจะเขียนว่าจะไม่รับผิดชอบในทุกกรณีก็ตาม แต่ถึอว่าเราได้ฝากรถกลับทางห้างแล้ว เขาต้องรับผิดชอบ แต่เรื่องกฎหมายนั้นส่วนตัวผมไม่รู้ครับ

 ความคิดเห็นที่: 4 / 17 : 049226

โดย: นี่แหละความยุติธรรม

นี่ครับเอาไปเลย
คำพิพากษาฎีกาที่ 4223/2542 การที่พนักงานรักษาความปลอดภัยของจำเลยที่ 1 ไม่ระมัดระวังตรวจบัตรจอดรถโดยเคร่งครัด อันเป็นการงดเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อป้องกันการโจรกรรมรถยนต์ เป็นผลโดยตรงทำให้รถยนต์ของ ส.ถูกลักไป เป็นการประมาทเลินเล่อ จึงเป็นการกระทำละเมิดต่อ ส.ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1ในฐานะนายจ้างต้องร่วมรับผิดกับพนักงานรักษาความปลอดภัยตาม มาตรา 425 ส่วนจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นตัวการมอบหมายให้จำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนดูแลรักษาความเรียบร้อยและความปลอดภัยในบริเวณลานจอดรถของศูนย์การค้าดังกล่าวจึงต้องร่วมรับผิดในผลแห่งละเมิดซึ่งตัวแทนของจำเลยที่ 2 ได้กระทำไปในทางการที่มอบหมายให้ทำแทนนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 427 ประกอบด้วยมาตรา 420 จำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิดต่อโจทก์----- จบแล้วครับ

โจทก์ คือ เจ้าของรถครับ
จำเลยที่ 1 คือบริษัทรักษาความปลอดภัยที่ ห้างสรรพสินค้าจ้างมาดูแล "ลานจอดรถยนต์" และจำเลยที่ 1 ก็มีพนักงานรักษาความปลอดภัยเป็นลูกจ้างอีกทีหนึ่ง
จำเลยที่ 2 คือ ห้างสรรพสินค้าครับ

สรุปครับ ยังไงห้างสรรพสินค้าก็ต้องรับผิดชอบครับ อันนี้ยืนยันครับ
เพราะ "คำพิพากษาฎีกา" ถือเป็นแนวปฏิบัติเคร่งครัด ที่ศาลชั้นต้นต้องยืดถือครับ หากเกิดเหตุการณ์กรณีเดียวกัน "ศาลสถิตยุติธรรม" ก็จะตัดสินเหมือนกับกรณีนี้นะครับ

แต่มีข้อแนะนำเพิ่มเติมครับ จะต้องเป็นกรณีที่ "บัตรจอดรถเขียนเลขทะเบียนรถของคุณไว้ด้วย"
และคุณจะ "ต้องเก็บบัตรจอดรถไว้กับตัวตลอดเวลา" ถ้าทำหายหรือทิ้งไว้ในรถ คนที่ประมาทอาจเป็นคุณ และไม่สามารถไปเรียกให้ห้างสรรพสินค้ารับผิดได้ ฉะนั้น ห้างใดให้บัตรจอดรถโดยไม่จดเลขทะเบียนรถของคุณไว้ ให้ระวังไว้ ถ้าหายเขาคงไม่รับผิดชอบหรอก

 ความคิดเห็นที่: 5 / 17 : 049229

โดย: นี่แหละความยุติธรรม

หากเราทำประกันชั้น 1 ไว้ เราจะเรียกร้องเอากับใครก่อน
คำตอบคือ
1.เรียกให้ประกันรับผิดชอบครับ เมื่อประกันรับผิดชอบแล้ว ประกันจะไปฟ้องไล่เบี้ยเอากับ ห้างฯ และบริษัทรักษาความปลอดภัยอีกต่อหนึ่ง เห็นมั้ยครับ เมื่อประกันสามารถไปไล่เบี้ยต่อได้ ประกันก็เต็มใจชดใช้สินไหมให้กับเจ้าของรถ อะไรมันก็ง่ายขึ้นน่ะครับ
2.ถ้าประกันบิดพลิ้ว จะทำอย่างไรต่อไป ก็คงต้องฟ้องศาลครับ ในที่นี้จะมีจำเลย 3 คน คือ ห้างฯกับบริษัทรักษาความปลอดภัย ในฐานะเป็นผู้ทำละเมิด ส่วนบริษัทประกันในฐานะเป็นผู้รับประกันครับ
3.แต่อย่านิ่งนอนใจครับคดีละเมิดมีอายุความเพียง 1 ปี เราต้องรีบฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่รถหาย
ส่วนการฟ้องบริษัทประกันนั้นเป็นการฟ้องตามสัญญารับประกันวินาศภัย มีอายุความ 2 ปีครับ
เรียกได้ว่าถ้าฟ้องไม่ทันใน 1 ปี ก็มีเวลาพอจะฟ้องให้บริษัทประกันรับผิดได้อยู่น่ะครับ

 ความคิดเห็นที่: 6 / 17 : 049240

โดย: B

อ่านชื่อหัวข้อกระทู้แล้ว
โตะใจโหมะเลยล่ะ แง๊...

 ความคิดเห็นที่: 7 / 17 : 049271

โดย: N*Jy

ฎีกานี้คุ้นๆเหมือนเคยเจอตอนเรียนละเมิดเลย

 ความคิดเห็นที่: 8 / 17 : 049272

โดย: pp

ทางห้างจะต้องจ่ายให้แนะนอนครับเแต่อาจไม่เต็มจำนวน เพราะผมมีพี่ที่ทำงานเข้ารถหายที่โลตัสแถวพระราม 3 ทางห้างได้มีการประชุมว่าจะรับผิดชอบนะ

 ความคิดเห็นที่: 9 / 17 : 049381

โดย: house

ได้ความรู้เพิ่มขึ้นแยะเลย
ขอบคุณ คุณ "นี่แหละความยุติธรรม"
มากเลยนะครับ

 ความคิดเห็นที่: 10 / 17 : 049413

โดย: ภากร

ฏีกาที่คุณ คห. 4 นำมาลงนั้นเป็นฏีกาที่ฮิตมากครับ เป็น Talk of the town อยู่ช่วงหนึ่งทีเดียว เจ้าของรถและประกันได้มีเฮกัน เพราะห้างปฏิเสธความรับผิดไม่ได้ ต้องมาช่วยหารด้วย
ถึงระดับฏีกาแล้ว ก็เบ็ดเสร็จสำเร็จรูปครับ ฉีกซองใช้ได้เลย รถใครหาย ก็ยกฏีกานี้มาฉะได้เลย ยกเว้นมีประกัน ประกันจ่ายเราอยู่แล้ว เสร็จแล้วประกันไปไล่เบี้ยเอากับห้างอีกต่อนึง
ถ้ารถไม่มีประกัน เราก็ไปเฉ่งกะห้าง ให้ห้างรับผิด ตามฏีกา
บอกแล้วว่างานนี้มีเฮ

แต่อย่าลืมว่า นิติกรของห้างเองก็ไม่ใช่หมูๆ อยู่ๆจะมาเล่นตีหัวเข้าบ้านกันอย่างนี้ได้ไง มันเลยต้องมีการแก้เกมครับ
ตามฏีกา ระบุว่า จำเลยที่ 1 คือห้าง เป็นนายจ้างของ จำเลยที่ 2 คือ บริษัท รปภ. ซึ่งรับจ้างมารักษาความปลอดภัย ซึ่งรวมถึงการโจรกรรมด้วย ทีนี้ขั้นตอนการจอดรถระบุว่า เมื่อเราผ่านเข้ามา เรารับบัตรจอดรถ จะเขียนเบอร์หรือไม่เขียนก็แล้วแต่ แต่เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่จะเขียน สมมติว่าเขียนก็แล้วกัน
ตอนขาออก ทางจำเลยที่ 2 คือ รปภ. มีหน้าที่ตรวจสอบบัตรจอดรถโดยเคร่งครัด หากรปภ.ตรวจไม่เคร่งครัด (ในทางปฏิบัติมันทำไม่ได้อยู่แล้ว) ทำให้รถหายไป แสดงว่า จำเลยที่ 2 ไม่ระมัดระวังตรวจบัตรจอดรถโดยเคร่งครัด อันเป็นการงดเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อป้องกันการโจรกรรมรถยนต์ เป็นผลโดยตรงทำให้รถยนต์ของโจทย์หาย

ตอนนี้ห้างแก้เกมด้วยการ ยกเลิกรปภ.ในการแจกบัตรจอดรถ และไม่มีการตรวจทั้งเข้าและออก
ใช้กล้องวงจรปิดบันทึกภาพแทน ซึ่งถ้าดูตามเทคนิคแล้ว ห้างรอดตัวไปหนึ่งสเต็ปว่า มิได้ให้รปภ.ตรวจสอบบัตรจอดรถ เรื่องการงดเว้นปฏิบัติหน้าที่ตรวจบัตร เป็นอันตกไป

อย่างไรก็ตาม การแก้เกมของห้างจะได้ผลหรือไม่ ก็ต้องเกิดคดีขึ้นเสียก่อน แล้วไปว่ากันในศาล แต่ในเบื้องต้นห้างหาทางออกจากฏีกาข้างต้นไปได้ เพราะข้อกฏหมายหรือฏีกานั้น นำเอาไปใช้ได้สำเร็จรูปก็จริง แต่รายละเอียดต้องเป็นไปตามฏีกาดังกล่าวทุกประการครับ ไม่งั้นต้องมาตีความกัน ซึ่งสุดท้ายมักจะไปจบกันที่ศาลเหมียนเดิม

 ความคิดเห็นที่: 11 / 17 : 049424

โดย: man

รบกวนถามหน่อยครับ
กรณีที่เราต้องเสียค่าจอดให้กับทาง mansion หรือ apartment ทุกเดือนๆละ 300 บาท อย่างนี้ทาง mansion หรือ apartment จะต้องรับผิดชอบเหมือนกันหรือเปล่าครับ

 ความคิดเห็นที่: 12 / 17 : 049434

โดย: ภากร

case นี้ก็เคยมีเรื่องขึ้นศาลกันมาแล้วครับ
ยิ่งต้องจ่ายเงินนี่ ยิ่งมีหลักฐานชัดครับ เนื่องจากเป็นค่าเช่าที่จอดรถ และมีรปภ.รักษาความปลอดภัย ทางเจ้าของที่จะอ้างว่ามีรปภ.เพื่ออำนวยความสะดวกเพียงเท่านั้นไม่ได้ครับ
กรณีที่คุณ คห 4 comment ไว้ว่า
"แต่มีข้อแนะนำเพิ่มเติมครับ จะต้องเป็นกรณีที่ "บัตรจอดรถเขียนเลขทะเบียนรถของคุณไว้ด้วย"
และคุณจะ "ต้องเก็บบัตรจอดรถไว้กับตัวตลอดเวลา" ถ้าทำหายหรือทิ้งไว้ในรถ คนที่ประมาทอาจเป็นคุณ และไม่สามารถไปเรียกให้ห้างสรรพสินค้ารับผิดได้ ฉะนั้น ห้างใดให้บัตรจอดรถโดยไม่จดเลขทะเบียนรถของคุณไว้ ให้ระวังไว้ ถ้าหายเขาคงไม่รับผิดชอบหรอก"
นั้นถูกต้องที่สุดครับ แต่เราก็ยังมีทางออก ถ้าทางห้างหรือที่รับจอดไม่เขียนเลขทะเบียน หรือ ไม่แจกบัตร ในกรณีอพาร์ทเมนท์
ให้สังเกตดูว่า กรณีอพาร์ทเมนท์นั้น รปภ.จะจดเลขทะเบียนรถที่เข้าออก พร้อมกับเลขห้อง ในทางทฤษฏีแล้ว รปภ.จะต้องตรวจสอบรถเข้าออก เลขห้อง และบุคคลด้วย ถ้ารปภ.ไม่ทำ (ซึ่งก็ไม่ค่อยทำกัน) ก็ถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ก็รับผิดไปด้วย
ในกรณีที่ห้างแจกบัตร แต่ไม่เขียนเลข ถึงแม้ว่าความผิดจะยังไม่ชัด แต่ก็เคยมีคดีความขึ้นศาลกันมาแล้ว สรุปสั้นๆก็แล้วกัน ว่ายังไงห้างก็ต้องมีส่วนรับผิดครับ ถึงแม้จะระบุไว้ในบัตรว่าการให้ที่จอดรถเพื่อการอำนวยความสะดวกเท่านั้น แต่อย่างไรก็มีรปภ.คอยตรวจตราอยู่ดี
สุดท้ายก็มักจะไปจบที่ศาลครับ ห้าง หรือ อพาร์ทเมนท์ก็รับผิดด้วย แต่มากน้อยแล้วแต่สิ่งแวดล้อม ถ้าคุณประมาทด้วย คือไม่เก็บบัตร หรือ ไม่ได้ติดกันขโมยอะไรเลย ทางห้างก็รับน้อยหน่อย หรือไม่ต้องรับเลย
แต่ถ้าติดกันขโมยเพียบ ล็อคคลัช ล็อคเบรค ล็อคพวงมาลัย ล็อคล้อ ถอดฟิวส์ แล้วมันยังเอาไปได้อีก งี้ก็รับเต็มๆแหละครับ

วิธีที่ดีที่สุด คือป้องกันตัวเองก่อนครับ และควรทำประกันไว้เสียด้วย ถ้าหายเราเฉ่งประกันรายเดียว ที่เหลือประกันไปไล่เบี้ยต่อเอาเอง ไม่งั้นเรามานั่งฟ้องเองไม่ไหวหรอกครับ รถก็หาย ปวดหัวแย่

 ความคิดเห็นที่: 13 / 17 : 049475

โดย: รักน้องสาม

ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความรู้ นะครับ...น้องสามผมตอนนี้ยังไม่มีอาไรติดป้องกันตัวนอกจากล็อคพวงมาลัยเท่านั้น....ช่วงนี้เลยไม่ค่อยอยากไปห้างครับ...เป็นโรควิตกจริต กลัวหาย..... (แต่จริงๆแล้วกลัวเสียเงินให้แฟนshopping มากกว่าครับ.....)

 ความคิดเห็นที่: 14 / 17 : 049645

โดย: vr_150

เพื่อนคุณเอารถมาฝากไว้ที่บ้านคุณ แล้วปรากฎว่ารถหาย คุณก็ต้องรับผิดชอบ ครับ

ถ้าเป็นห้าง ก็เต็้มๆเลยครับ ไม่ว่าจะมีบัตรหรือไม่มีบัตรก็ตาม

อ. ประมาณ แกบอกไว้ครับ

 ความคิดเห็นที่: 15 / 17 : 049691

โดย: ....

ไม่จริงครับ นั่นเป็นเพียงความคิดของทนายความ
คนที่มีอาชีพรับฝากรถ กับ คนที่ไม่ได้มีอาชีพโดยตรงแต่เพื่อนเอามาฝากไว้ ความระมัดระวังในทรัพย์สินและความรับผิดชอบย่อมต่างกันครับ

ที่สำคัญไม่มีคำพิพากษาฎีกามารองรับ ไม่ชัวร์ครับ

 ความคิดเห็นที่: 16 / 17 : 049993

โดย: ภากร

ศาลจะพิจารณาที่รูปคดี ข้อเท็จจริง และเจตนาครับ
กรณีฝากรถไว้บ้านเพื่อนแล้วหาย ถือว่าละเมิดไหม อันนี้ถ้าถามแค่นี้ตอบไม่ได้ครับ โจทย์สั้นไป
ต้องมีรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น สมมติว่าผมเอารถไปฝากบ้านเพื่อน แล้วเพื่อนเอาไปขับใช้งานด้วย เอาไปเที่ยวด้วย ถ้าสมมติว่าเอาไปชน งี้เพื่อนผมรับเต็มๆ อันนี้คงไม่ต้องอธิบาย เอ็งทำของข้าพัง เอ็งก็ต้องใช้
ถ้าขับไปห้างจอดไว้ แล้วหาย อันนี้เพื่อนเราก็รับเต็มๆไปก่อน เพราะถือว่าเขาครอบครองอยู่ แล้วยังใช้ประโยชน์ในทรัพย์ที่ฝากด้วย ถือว่าได้รับประโยชน์จากทรัพย์ ก็เป็นกรณีเดียวกับรับฝากรถครับ
ส่วนห้างจะเป็นตัวหารด้วยหรือเปล่าอีกประเด็นหนึ่ง
ทีนี้สมมติว่าเพื่อนใช้รถเราจนเปรมแล้ว เอากลับมาจอดไว้บ้าน เสร็จแล้วรถหาย ถ้าจะทะเลาะกันถึงที่สุดแล้ว ก็ต้องอ้างว่าเพื่อนคุณใช้ประโยชน์จากทรัพย์ที่ฝากไว้ ซึ่งก็ต้องให้ความระมัดระวังในการรับฝากทรัพย์ด้วย ถ้าจะฟ้องร้องกัน ก็ต้องดูรายละเอียดแล้วละครับ ว่าจอดนอกบ้าน ในบ้าน เขาได้ระวังให้คุณอย่างเหมาะสมหรือยัง

แต่ที่เป็นปัญหาแรกก็คือ ถ้าเพื่อนคุณก็ไม่ได้เอารถคุณไปใช้ เขาอุตส่าห์เป็นภาระรับฝาก (ให้ที่จอด) คุณจะฟ้องเพื่อนคุณหรือครับ ในเมื่อคุณไว้ใจไปฝากรถไว้กับเขา แสดงว่าเขาก็ต้องเป็นคนดี คุณถึงไว้ใจไปฝากรถไว้กับเขาให้เขาดูแลแทน ถ้าเกิดรถหายขึ้นจริงๆ ก็คงถือว่าเป็นเวรกรรมล่ะครับ

 ความคิดเห็นที่: 17 / 17 : 050328

โดย: ผักบุ้ง

เว็ปนี้มีคนทำงานหลากหลายนิค่ะ
ได้ความรู้ดี ขอบคุณจัง