Close this window

อ่านเจอ จริงหรือเปล่า? Dr. Save
โดย: Aneka   วันที่: 25 Mar 2005 - 20:09


 ความคิดเห็นที่: 1 / 5 : 054625
โดย: คุณต่าย
ค้นพบนวตกรรมใหม่ประหยัดน้ำมัน ในช่วงวิกฤติ !

คุณนนทิวา ดาโสภา ผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำกัด
ศูนย์ DOCTCR SAVE ( ออลสตาร์คาร์เซอร์วิส) )
เปิดเผย ถึง การค้นพบอุปกรณ์ช่วยประหยัดน้ำมัน ( DR. SAVE)
ว่า ถือเป็นการค้นคว้าวิจัยโดยทีมงานวิศวกร(ไทย-เยอรมัน)
จากบริษัท DAIMLER CHRYSLER

ซึ่งเป็น ผู้ผลิตรถ MERCEDES-BENZ
ภายใต้การนำของอาจารย์กนกศักดิ์ สุทธิบุตร
อดีตอาจารย์สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
ทำให้ทราบเทคโนโลยีที่ทำให้รถแข่งวิ่งเร็วว่า
เขามีการติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดน้ำมัน
ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการผลิตอุปกรณ์ช่วยประหยัดน้ำมันภายใต้ชื่อ DR.SAVE

คุณนนทิวา กล่าวว่า ด้วยเหตุผลที่ว่าเครื่องยนต์รถไม่ได้ขับเคลื่อนเฉพาะแค่ล้อเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เครื่องยนต์จะต้องรับภาระของอุปกรณ์ต่อพ่วงหลายชนิด
อาทิเช่น ปั๊มน้ำ ไดชาร์จ คอมเฟรสเซอร์แอร์ ปั๊มน้ำมัน เพาเวอร์ ห้องเกียร์ ฯลฯ

สิ่งเหล่านี้จะต้องอาศัยแรงฉุดหมุนจากเครื่องยนต์
ใช้กำลังของเครื่องยนต์เกือบ 30 เปอร์เซ็นตร์ในการที่จะให้อุปกรณ์เหล่านั้นหมุน
กล่าวคือจะมีแรงเสียดสีกันทำให้เกิดประจุไฟฟ้าทำให้เกิดไฟฟ้าสติย์
แรงฉุดของเครื่องยนต์มากขึ้น ถือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ

ตรงนี้เองเลยคิดว่าจะทำอย่างไรให้แรงฉุดดังกล่าวตัดสนามแม่เหล็กออกไป
เพราะสนามแม่เหล็กทำให้เกิดการเหนี่ยวนำ
จึงจำเป็นต้องติดอุปกรณ์เพื่อตัดสนามแม่เหล็กออก
ทำให้แรงฉุดจากเครื่องยนต์น้อยลง อัตราเร่งของเครื่องยนต์ก็จะดีขึ้น

" รัฐบาลมีนโยบายในการประหยัดพลังงานไฟฟ้า พลังงานน้ำมันอยู่แล้ว
ดังจะเห็นได้จากการควบคุมการเปิด ปิดไฟในที่สาธารณะหรือตามอาคารบ้านเรือน
สำนักงานของรัฐและเอกชนรวมไปถึงการปิดปั๊มน้ำมันหลังเที่ยงคืน
ซึ่งถือป็นมาตราการที่ช่วยประหยัดน้ำมันได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น

ดังนั้นจึงเป็นนวตกรรมใหม่ในการผลิตอุปกรณ์ช่วยประหยัดน้ำมันได้ถึง20 เปอร์เซ็นตร์
ทำให้อัตราเร่งดีกว่าเดิม จนสังเกตุเห็นได้ชัด
เครื่องยนต์เดินเรียบและรถวิ่งไหลดีไม่ต้องดัดแปลงเครื่องยนต์ใช้ได้ทั้งรถยนต์เบนซิล-ดีเซล
รวมทั้งยังช่วยให้ระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์อีเล็กทรอนิคส์ของรถยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานยาวนานยึ่งขึ้น

ที่สำคัญอุปกรณ์ดังกล่าวติดตั้งได้
ทั้งรถยุโรปและรถญี่ปุ่นและรถป้ายแดง " คุณนนทิวา กล่าว


คุณนนทิวา กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหารถกินน้ำมันเป็นปัญหาหลักที่สำคัญ
ลูกค้าที่มาใช้บริการของศูนย์ DOCTCR SAVE ( ออลสตาร์)
ส่วนใหญ่จะนำรถเข้ามาตรวจสอบเครื่องยนต์ที่ไม่สมบูรณ์
สาเหตุมาจาก รถที่ใช้งานไปแล้วประมาณ 3-5ปีจะกินน้ำมันมากกว่าปกติ
เฉลี่ยแล้วมีรถเข้าศูนย์บริการเดือนละไม่ต่ำกว่า 200คันเ
ฉลี่ยวันละ 20คัน มีสาเหตุจากอัตราเร่งไม่ออก

จากการทดสอบรถยนต์ LAND-ROVER รุ่น MPT เมื่อไม่นานมานี้เพบว่า
ก่อนที่จะติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดน้ำมันความเร็วเฉลี่ยจะอยู่ที่ 90-120กม./ชม.
อัตราสิ้นเปลืองประมาณ 7 กม./ลิตร
แต่หลังจากติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดน้ำมันไปแล้วจะพบว่า
ความเร็วเฉลี่ย 90-120กม./ชม.
อัตราสิ้นเปลืองประมาณ 9กม./ลิตร
วันที่: 25 Mar 05 - 21:01

 ความคิดเห็นที่: 2 / 5 : 054645
โดย: Niceguy_C
แล้วคนที่มาจาก เดมเลอร์นี่ใครครับ และรถฟอร์มูล่า ปีนึง งบวิจัยมหาศาล เขาจะเอาผลวิจัยออกมาให้คนนอกง่ายๆหรือครับ

และถ้าใช้ได้จริง ทำไมเขาไม่เอาใส่กับเบนช์ล่ะครับ จะเอามาแยกขายทำไม
วันที่: 25 Mar 05 - 22:01

 ความคิดเห็นที่: 3 / 5 : 054657
โดย: mooyong*-*
คุณ Niceguy_C คะ พรุ่งนี้ถ้ามีโอกาสได้เจอ ขอทำความรู้จัก
หน่อยนะคะ ในฐานะที่เคยขอความช่วยเหลือจากคุณ Niceguy_C อะค่ะ
หวังว่า คงไม่รังเกียจนะคะ
วันที่: 25 Mar 05 - 22:15

 ความคิดเห็นที่: 4 / 5 : 054816
โดย: *~B3S~*
ถ้ามันใช่ได้ผลจริง ๆ รัฐบางคงสั่งให้รถป้ายแดงทุกคนติดกันหมดแล้วแหละครับ

ภาวะน้ำมันแพง(โครต ๆ ๆๆๆ) แบบนี้ ถ้าทำได้จริงต้องเอาเข้าไปเป็นวาระแห่งชาติแล้วครับ
วันที่: 26 Mar 05 - 01:11

 ความคิดเห็นที่: 5 / 5 : 054882
โดย: bhp
มาอีแบบเดียวกับ เจ้าตัวที่เอาไปขายที่เมืองทองอีกแล้ว...... นี่แหลน้าาาาอาศัยช่วงวิกฤตน้ำมันแพงเป็นช่องทางทำมาหากิน......
.... ถ้าจะทดสอบให้รู้ผลจริงๆ... ไม่ใช่ทดสอบแค่คันเดียว..และต้องตัดปัจจัยอื่นๆที่มีผลต่อการกินน้ำมันออกให้หมด ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย.... ลำพังเอาผลมาแค่คันเดียวเชื่อถือได้ยาก...... แล้วที่บอกตัดสนามแม่เหล็กออก...แล้วอย่างนี้ไดชาร์จจะผลิตกระแสไฟได้อย่างไร....?
ถ้ามีรายละเอียดมากกว่านี้รบกวนอธิบายให้กระจ่างหน่อยนะครับ
วันที่: 26 Mar 05 - 10:27