วันนี้ขับรถไปทำบุญ ที่วัดเบญ กับ วัดระฆัง ขากลับวิ่งมาทางพระราม9 ซึ่งเข้ามาทางลงทางดาวน วิ่งใต้สะพาน พอเลยสี่แยก ที่ทางจะบีบ แคบ เพราะทางขวา รถผมอยู่ตรงกลาง และผมต้องเข้าซ้ายเพราะ จะตัดออกไปใต้ทางด่วนรามอินทรา แต่ทางซ้าย เป็นรถหกล้อ และมีรถอยู่ข้างหลังด้วย ทางขวา แจ็ซก็กำลังจะบีบเข้ามาเพราะจะหลบเลนกลับรถ จะชะลอความเร็วลงให้แจ็ซบีบเข้ามา ก็กลัวว่าจะเข้าซ้ายไม่ได้เพราะรถเยอะ ตอนนั้นวิ่งอยู่ประมาณ 60 เลยตัดสินใจ กระทืบคันเร่งหรือภาษาเทคนิคเรียกคิกดาวน์ ผลปรากฎว่า รู้สึกได้เลยว่ารถพุ่งทะยานออกไป หลังถูกดันไปติดเบาะจนรู้สึกได้ แต่เสียดายที่สายตาไม่ได้ มองที่เกจ์ว่าความเร็วขึ้นแค่ไหน เพราะต้องระวังรถแจ็ช จะมาชน แล้วก็แซงหกล้อไปอย่างรวดเร็ว เข้าเลนซ้ายได้

สรุป พิสูจน์แล้วว่า เมื่อรอบของเครื่องขึ้นไปถึงระดับหนึ่ง อัตราการเร่งจะไม่อืด เพียงพอต่อการแซง แน่นอน

โดย: Niceguy_C   วันที่: 12 Apr 2005 - 21:13

 ความคิดเห็นที่: 1 / 15 : 063241

โดย: DOME

ผมก็ว่าไม่ได้อืดขนาดที่หลายๆท่านบอกนะครับ เพียงแต่อาจไม่แรงแบบที่เขาตั้งใจไว้เนื่องจากรูปโฉมมันชวนให้คิดไปแบบนั้น

 ความคิดเห็นที่: 2 / 15 : 063244

โดย: Ticka

1.6 ผมก็ว่าไม่อืดถ้ารู้ระยะรอบที่เหมาะสมมันสามารถมุดๆได้อย่างสบาย เหมือนกับที่คุณ Niceguy_C กล่าวมาเบื้องต้นนั้นแหละครับ

 ความคิดเห็นที่: 3 / 15 : 063286

โดย: O

ผมว่ารถมาสด้าคันเร่งมันจะหนักกว่ารถญี่ปุ่นยี่ห้ออื่นนะครับ ออกตื้อๆ ต้องเหยียบหนักๆ ต้องลองฝึกควบคุมการเหยียบคันเร่งให้เหมาะสมกับรอบเครื่องยนต์ และจังหวะของถนน

 ความคิดเห็นที่: 4 / 15 : 063360

โดย: ไก่โต้งซาดิมส์

นั่นสิครับ
หลังจากผมไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องมา เอาไปเหยียบอย่างพุ่ง
ม่ายเห็นอืดเลย ทางศูนย์บอกว่าเป็นเพราะผมเติมลมยางอ่อนไป
เติมไป 29 ศูนย์บอกว่าต้องเติม 32 ออกต่างจังหวัดต้องเติม 34
แต่พอออกจากศูนย์มาผมไปปล่อยลมยางเหลือ 29 เหมือนเดิมแล้วลองไปเหยียบดู เปลี่ยนน้ำมันเครื่องก็มีผลจริงๆ แหละครับ
(ของผม 5D)

 ความคิดเห็นที่: 5 / 15 : 063402

โดย: rex

เรื่องรถอืดเนี่ย คุยกันได้ไม่จบไม่สินน่ะครับ เพราะไม่รู้ใครพูดว่าอืด แล้วเรารู้จักคนนั้นหรือเปล่า อืดของเค้า ของเราว่าเร็วแล้วหรือเปล่า


รถนี่ต้องลองเองครับ ลองเอง

 ความคิดเห็นที่: 6 / 15 : 063413

โดย: ตาม

ส่วนใหญ่ที่เค้าว่าอืด เค้าหมายถึงอัตราเร่งจากรถหยุดนิ่งน่ะครับ

แต่อัตราเร่งแซงนี่ มาสด้าเด่นอยู่แล้วครับ

 ความคิดเห็นที่: 7 / 15 : 063455

โดย: Nuay@Protege

ศึกษาช่วง power band ของรถให้ดีๆ ครับ ถ้ารู้ช่วงกำลังของรอบเครื่องยนต์ ก็จะทำให้สามารถขับได้สนุกมากขึ้นเยอะ

 ความคิดเห็นที่: 8 / 15 : 063528

โดย: bluedevil

อยากให้คุณณคหที่ 7/7 อธิบายเรื่อง power band หน่อยแบบว่าไม่รู้จริง และต้องการความรู้ด้วยคับ

 ความคิดเห็นที่: 9 / 15 : 063531

โดย: Nuay@Protege

จริงๆ แล้ว ก็คือเราต้องดูกราฟ torque ของเครื่องยนต์น่ะครับ ว่ามีกำลังให้มาที่สุดช่วงรอบเครื่องเท่าไหร่ ถ้าเลยจากตรงนั้นไปแล้วมัน drop ก็ไม่ต้องไปลากให้มันเปลืองและสึกหรอครับ

อย่าง Protege เนี่ย แรงบิดสูงสุดที่ประมาณ 4000 RPM แล้วจะเริ่ม drop ลงช้าๆ รู้สึกว่าถ้าจำไม่ผิดม้าสูงสุดมันอยู่ที่ 5 พันหน่อยๆ มั้ง ทีนี้ถ้าเราจะลากรอบให้ไหลทะลุ 5500 ไปมันก็ไม่มีประโยชน์แล้วครับ เพราะอัตราเร่งมันเฉื่อยชาลงแล้ว สู้เปลี่ยนเกียร์ต่อไปแล้วเร่งเครื่อง ความเร็วจะขึ้นได้เร็วกว่าด้วยซ้ำ

การที่ดูกราฟแรงบิดว่ามีความชันเป็นยังไง สูงสุดนะจุดไหน จะช่วยให้เราคุมและรู้จักรถได้ง่ายขึ้น เพราะเราจะรู้ว่าตอนนี้รถของเราอยู่ในช่วงที่มีกำลังเพียงพอในสถานการณ์ต่างๆ รึเปล่าครับ

 ความคิดเห็นที่: 10 / 15 : 063555

โดย: Book

น้องสาม ไม่เห็นมี graph ให้ดูเลยอะ คุณเนยหามาให้ดูหน่อยดิคับ ขอบคุณมากๆๆ

 ความคิดเห็นที่: 11 / 15 : 063558

โดย: ต้น

1.6

 ความคิดเห็นที่: 12 / 15 : 063559

โดย: ต้น

ไม่ติดเอาใหม่

 ความคิดเห็นที่: 13 / 15 : 063560

โดย: ต้น

อีกที

 ความคิดเห็นที่: 14 / 15 : 063614

โดย: Nuay@Protege

จากกราฟเนี่ย ถ้าเกิน 5000 เริ่มไม่มีผลแล้วครับ แรงม้าก็ค่อนข้างคงที่ แรงบิดตกลงอีก ยกเว้นอยากเห็นเข็มวัดรอบแตะขีดแดง กับเสียงเครื่องแผดสนั่น อันนั้นอีกเรื่องนึง

 ความคิดเห็นที่: 15 / 15 : 063675

โดย: Tong-ha

ยัง ครับ ถ้าจะเปลี่ยนเกียร์ตอนรอบที่มีแรงบิดสูงสุด เท่านั้นยังไม่พอ ครับ
ในแต่ละเกียร์ที่เปลี่ยนขึ้นหรือลงมันจะมี % ที่เพิ่มขึ้นและลดลงของรอบเครื่อง
จากอัตราทดเกียร์ โดยคิดเป็น % ถ้า จะให้เกียร์ต่อไป มีแรงบิดที่ต่อเนื่องต้อง
ยอมลากรอบเกินซะเล็กน้อย เพื่อเกียร์ต่อไปจะได้แรงบิดที่ต่อเนื่อง
เอาง่ายๆแล้วกันครับ Powerband คือ ช่วงระหว่าง แรงบิดสูงสุด กะแรงม้าสูงสุดนั่นเอง
ลองลากเส้นต่อจากจุดสูงสุด ของแต่ละกราฟขนานแกนYสิครับ แล้วส่วนที่อยู่ระหว่างเส้นทั้งสอง นั่นคือ Power Band ครับ ถ้าต้องการอัตาเร่งที่ดี การเปลี่ยนเกียร์แต่ละครั้ง ควรให้รอบเครื่องตกลงบน
ช่วงนี้แหละครับ กรุณา อ่านหาอตราทดมาด้วยครับแล้วลองคำนวณดู ว่า เกียร์ 1 เป็นกี่% ของ2 และ2เป็นกี่ % ของ3 และ 3 เป็นกี่ %ของ4 แล้ว ก็จะรู้ว่าแต่ละเกียร์ ควรเปลี่ยนเกียร์ที่รอบเท่าไหร่ รอบที่ต้องลากในแต่ละเกียร์ไม่เท่ากันก็ได้ครับ นั่นแหละครับความรู้ที่ผมพอจะมีอยู่ หวังว่าคงเนประโยชน์บ้างนะครับ ไม่โกรธ กันนะครับ คุณ เนย ที่มาแย้งแบบนี้