วันนี้หรือจะเป็นคราวซวยของ แอสติโน่
ปรกติแอสติโนอยู่โคราช แต่ช่วงนี้ติดภารกิจบางอย่างอยู่ที่เชียงใหม่เรื่องการศึกษา
จึงต้องพีกที่เชียงใหม่ 1 เดือนเต็ม แต่ไม่ได้เอาเจ้าแอสติโน่มาด้วย (ฝากพี่ชายเอาใว้ที่โคราช)
ดังนั้นจึงต้อง on walk+ รถแดงแท๊กซี่เชียงใหม่ ในการเดินทางไปไหนมาไหน
วันนี้อารมณืดีหลังเสร็จกิจกรรมประจำวัน โบกรถแดงไปดูของที่ it city กาดสวนแก้ว
ได้ กล้องดิจิตอล+SD แล้วก็จะกลับบ้าน
ขากลับพอลงรถแดงที่ปากซอย (เวลาประมาณ 21:30 น.)
แต่เนื่องจากต้องเดินต่อไปอีกประมาณ 100 m ได้จึงจะถึงที่พัก
ซึ่งก็เดินเข้าออกทั้งกลางวันกลางคืนมาหลายสิบเที่ยวแล้วล่ะ
วันนี้อาจจะดึกที่สุดก็ว่าได้
แต่เนื่องจากช่วงต้นถนนของซอยนี้โดนขนาบข้างด้วยรั้วสูงของโรงเรียนอนุบาลและโรงงานเป็นระยะทางเกือบ 50 m มันมืดไม่มีไฟเลย
พอเดินเข้าไปจากปากซอยประมาณ 20 m เห็นชายสองคนใส่หมวกเก็บวัยประมาณ 30-40 ปีสองคนยืนอยู่ด้านซ้ายของถนน อยู่แล้วมองมาหาเราแบบมีพิรุธ
เริ่มรู้สึกผิดปรกติมากๆ จากนั้นเห็นหนึ่งในสองคนดึงอะไรซักอย่างมาจากกางเกง
มันเหมือนมีด้ามและแท่งยาวๆ เดาว่าถ้าไม่ใช่ มีด ก็ ไขควง อย่างใดอย่างหนึ่ง
เริ่มจะรู้ตัวเองว่าโดนปล้นแหงๆ ตอนนั้นสะพากระเป๋าและถือถุง it city ใส่กล้องพาดบ่าใว้
ใจเริ่มเต้นรัว....พอดีบังเอิญมีรถยนต์และมอไซต์วิ่งผ่านตรงจุดนั้นหลายคันมาก
หนึ่งในนั้นทำทีว่าจะเดินเข้ามาหา
ไอ้เราก็เลยเดินตัดข้ามถนนตัดหน้ารถคันหนึ่งที่ชะลอเพื่อออกจากซอยเพื่อไปอยู่อีกด้านของถนน
โชคดีมีรถวิ่งเข้าออกมากกว่าเดิมอีก เขาเริ่มมองตามเหมือนใจวิ่งข้ามถนนมาชาร์ต
แต่ก็มีรถมาอีก ตอนนี้เราจ้ำอ้าวอย่างรวดเร็ดเพื่อให้หลุดจากที่มืดและกำแพงนั้น
เขามองตามแต่ก็ไม่ได้ตามมาอีก รู้สึกถึงนาทีชีวิตเลย.....โชคดีแท้ๆ
พอเดินมาถึงที่พัก ก็บอก รปภ.ประจำหอ เขาบอกว่าเขาไม่มีหน้าที่เพราะไม่ใช่หน้าที่เขา (คงกลัวอะ)
พอขึ้นมาห้องได้ใจยังสั่นๆ อยู่เลย
จากนั้นเลยโทรแจ้ง 191 ให้มาตรวจสอบ เพราะเกรงว่าจะมีใครซวยกว่าเรา
ตำรวจ 191 ก็ดีรับปากว่าจะมาตรวจสอบให้

คิดไม่ออกว่า หากไม่มีรถวิ่งไปมาเลยเราคงซวย
ไม่โดนแทงตายก็คงโดนกวาดหมดตัว
แถมกล้องซื้อมายังไม่ได้ใช้ซักนิดเลย
แต่เคยคิดเผื่อใว้เหมือนกันในสถานการณ์เช่นนี้ว่าคงให้ทุกอย่างเท่าที่เขาอยากจะได้
เก็บชีวิตอันมีค่าใว้ดีก่า อย่างน้อยถ้าเรารอดไปก็มีโอกาสไปแจ้งตำรวจจับมันได้ด้วยตัวเอง

ขอฝากให้เพื่อนๆ ไม่ว่าชายหรือหญิงด้วยนะครับ
เลี่ยงเดินในที่เปลี่ยวๆ มืดๆ ได้โปรดเลี่ยง โดยเฉพาะตรอกซอกซอย หรือ ที่จอดรถในมุมอับ
ถ้าเดินเข้าซอย ลองมองดูก่อนมีอะไรผิดสังเกตไหม
เพราะช่วงนี้ประเทศเรามีแต่คนเดือดร้อนในเรื่องเศรษฐกิจ
บางคนตกงาน บางคนโดนให้ออกจากงาน เงินไม่คล่อง
อาชญากรเลยเพิ่มขึ้นทุกที ความปลอดภัยในชีวิตน้อยลง
มันช่างสวนกระแสคำโฆษณาของรัฐบาลนายกทักษิณโดยแท้

โดย: แอสติโน่   วันที่: 7 May 2005 - 01:57

 ความคิดเห็นที่: 1 / 6 : 071914

โดย: ตูเองแหละ...อิอิ

ดีใจด้วยครับที่ไม่ตกเป็นเหยื่อมัน...ไอ้พวกกากเดนสังคม

ขอชมเชยคุงแอสติโน่ครับ...ที่ใช้ใหวพริบ...หัดเป็นคนช่างสังเกตุ

เป็งผมเวลาไปใหนเปลี่ยวๆจะพก "ดุ้น"ไปด้วยละครับ

งัยก็ค่อยปายคุยกันบนศาล...ดีก่านอนเอาดินกลบหน้า

หรือให้ใครมาเอาเหรียญยัดปาก...ก่องวัยอันควร...หุหุ

 ความคิดเห็นที่: 2 / 6 : 071919

โดย: J!MMY

เยี่ยมครับที่ใช้สติเอาตัวรอดได้ดีทีเดียว

ขนาดผู้ชาย ยังจะโดน นับประสาอะไรกับสุภาพสตรี?

 ความคิดเห็นที่: 3 / 6 : 071936

โดย: Red Metalic

ยังกะในหนังเลยครับ....สติดีจริงๆ.....

 ความคิดเห็นที่: 4 / 6 : 072009

โดย: เต่าฟ้า

ไอ้ "ดุ้น" ของน้าตูหมายถึงดุ้นไหนอ่ะถ้าเป็นดุ้นนั้นผมมีติดตัวตลอด ถ้าไม่มีขึ้นมาเมื่อไหร่ โอ้วๆๆๆๆเข้าแก๊งค์KHSแหงๆ

 ความคิดเห็นที่: 5 / 6 : 072045

โดย: julchab

ถ้าเดินในที่เปลี่ยวบ่อยๆ หาพวงกุญแจปี๊ปๆๆๆ กะสเปรย์พริกไทยมาใช้สิครับ

พวกกุญแจฉุกเฉินนี่ พอดึงสายแล้วมันจะร้องดังลั่นไม่หยุดเลย ใส่ไว้ในกระเป๋า แล้วคล้องเชือกไว้กะข้อมือ พอถูกกระชากกระเป๋า มันก็จะร้องไม่หยุดจนคนร้ายต้องโยนกระเป๋าทิ้ง (หวังว่ามันคงไม่วิ่งกลับมาทำร้าย)

กะสเปรย์พริกไทย ฉีดปู้ด ก็ปวดแสบปวดร้อนไปพักใหญ่ (แต่ต้องใจเด็ดหน่อย อย่าชักขู่ เพราะถ้าถูกคนร้ายแย่งไป มีแต่ซวย กะซวย)
เห็นมีขายที่โตคิว มาบุญครอง เกือบห้าร้อยบาทคับ

 ความคิดเห็นที่: 6 / 6 : 072246

โดย: ตูเองแหละ...อิอิ

ดุ้นสากกะเบืออ่ะ...เอาไว้ทุบกระดองเต่า...หุหุ

(เด๋วก็ลาบซะหร๊อก)