Close this window

ข้อสรุปน้ำมันเกียร์ ควรใข้ DexronII or DexronIII
จากที่ผมลองดูกระทู้เก่า ตั้งกระทู้ที่เวปบอร์ดอื่น และสอบถามทางผจก.0 ก็ไม่ได้คำยืนยันที่แน่นอน ดังนั้นผมจึงสรุปตามความคิดของผมคือ ถ้าต้องการสบายใจและชัวร์ควรเติมตามคู่มือ ไม่รู้ว่าถูกต้องมั้ย
แต่ที่จะถามเพิ่มคือถ้าเติมไม่ตามคู่มือแล้วต้องล้องระบบ หรือแค่ถ่ายของเก่า ก่อนเติมตามคู่มือหรือเปล่าครับ ที่ Pro Servดีมั้ยครับ
โดย: Leo   วันที่: 26 May 2005 - 22:33


 ความคิดเห็นที่: 1 / 12 : 080228
โดย: julchab
คู่มือรถผมยังให้ใช้น้ำมันเครื่องเกรด SG อยู่เลย ตอนนี้มียี่ห้อเดียวที่ทำคือตราช้าง ที่ไว้เติมรถไถคูโบต้า (เรื่องจริง)

แล้วงี้ ผมไม่ต้องไปเติมน้ำมันเครื่องรถไถเหรอครับ เทคโนโลยีผลิตน้ำมันมันก้าวหน้าขึ้น น้ำมันคุณภาพดีขึ้น ก็น่าจะดีกว่าไม่ใช่เหรอ
วันที่: 26 May 05 - 23:18

 ความคิดเห็นที่: 2 / 12 : 080240
โดย: julchab
ขออภัยครับ เดี๋ยวขอเช็คกะผู้ผลิตน้ำมันก่อน
เหตุผลของคุณ B3S ก็มีเหตุผลดี
วันที่: 26 May 05 - 23:30

 ความคิดเห็นที่: 3 / 12 : 080284
โดย: *~B3S~*
ผมมายืนยันนั่งยันเหมือนเดิมครับ

รายละเอียดติดตามในกระทู้เก่า ๆ ใช้ search ดูก็จะพบกระทู้ที่เกี่ยวข้องมากมายครับ

ทั้งหมดนั้นไม่ใช่แค่เพียงข้อมูลที่ได้จากประสบการณ์ตรง และประสบการณ์ทางอ้อม
แต่เป็นข้อมูลทางเทคนิคของตัวน้ำมันเอง บวกกับลักษณะการทำงานของเกียร์ออโต้ครับ
เป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน

ความหนืดที่เพิ่มขึ้นของ III จะทำให้การไหลผ่านรูเล็ก ๆ ของชุดเกียร์ภายในสมองเกียร์นั้น
ทำได้ยากและช้า นึกถึงหลอดดูก็ได้ครับเอามาดูน้ำเปล่า ก็ไหลเร็วไหลดี ถ้าไปดูน้ำหวานข้น ๆ
ก็ต้องออกแรงดูดกันมากหน่อย ถึงจะดูดได้ และถ้าเอาไปดูดนมข้นหวาน ก็แทบจะไม่ขึ้นเลยทีเลย
นี่คือเหตุผลว่า..ทำไมเกียร์ถึงกระตุก (ท่านประธานเอ๋เรียกว่า "ชิบช๊อค")

แล้วของเหลวที่ข้นกว่าย่อมระบายความร้อยได้ไม่ดีเท่าของเหลวที่ข้นน้อยกว่า (ถ้าค่าการนำพาความร้อนเท่ากัน)

ดังนั้นระบบที่ออกแบบสำหรับ DxII จึงไม่เหมาะกับ DxIII ไงครับ และสำหรับมาสด้า
เริ่มใช้ Dx III ใน Protege เป็นต้นไป ก่อนหน้านี้ใช้ DexII เท่านั้นครับ


ของบางอย่างไม่ต้องเชื่อคู่มือตลอดหรอกครับ มันเปลี่ยนแปลงได้ตามยุคสมัยและเทคโนโลยีที่ดีขึ้น อย่างน้ำมันเครื่อง มีดีกว่าออกมาก็เอามาใช้ได้เลย ยิ่งไฮเทคยิ่งดี (ไม่นับว่ามันแพงขึ้นด้วยแล้ว) แต่กับ
บางอย่างก็ไม่อาจจะแทนกันได้ น้ำมันเกียร์ออโต้ก็เช่นกัน อันที่จริงจะบอกว่าให้ดูที่ความหนืดเป็นหลักเหมือนกับน้ำมันเครื่องก็น่าจะได้นะ แต่มันจำอยากและก็คงจะหลากหลาย เลยมีการทำสูตรกลาง ๆ ขึ้นมาก การใช้ความหนืดไม่เหมาะสมก็ย่อมสร้างปัญหาได้เช่นกัน เช่นเดียวกันน้ำมันเครื่องถ้าเครื่องเก่า ๆ ใช้น้ำมันใส ๆ อย่าง 30 ก็คงไม่ดีแน่ และรถใหม่ถ้าไปเดิม 50 ก็คงจะทรมาณเครื่องเช่นกัน
วันที่: 27 May 05 - 01:50

 ความคิดเห็นที่: 4 / 12 : 080329
โดย: eakwild
DxII รวมถึงตาตี่97ด้วยหรือเปล่าครับเพราะผมใช้ Dx III อยู่ครับ ถ้าผิดผมจะได้เปลี่ยน
วันที่: 27 May 05 - 09:11

 ความคิดเห็นที่: 5 / 12 : 080389
โดย: mz speed
ฟังหูไว้หู cronos ใช่ DX 2 มา 3 ปีแล้ว ยังปกติดีอยู่
วันที่: 27 May 05 - 10:33

 ความคิดเห็นที่: 6 / 12 : 081055
โดย: ppp
ลอง search เข้าไปอ่านกระทู้ของต่างประเทศ ก็เห็นว่ามีคนถามเกี่ยวกับ dexron III และ dexron II ว่าใช้แทนกันได้หรือไม่......ส่วนใหญ่ ก็จะบอกว่าใช้แทนกันได้นะครับ....

แต่ถ้าไม่สบายใจ หรือ ยังสามารถหา Dexron II ได้สะดวก ก็ใช้ตามคู่มือ ก็ดีครับ

ส่วนอันนี้ ผมเจอคล้าย ๆ กับ MSDS ของ Dexron III ในเวปไซต์ของ shell ครับ

http://www.shell.ca/code/products/commercial/lubricants/tips/tips-header/6-01.pdf

มีข้อความที่เขียนไว้ค่อนข้างชัดเจนครับว่า

Dexron III provides superior wear protection for all passenger cars and light trucks requiring the use of a Type A or Type A Suffix A, Dexron, Dexron II, Dexron IIE, Dexron III or Mercon Automatic Transmission Fluid ---
วันที่: 29 May 05 - 01:56

 ความคิดเห็นที่: 7 / 12 : 081060
โดย: ppp
อืม.....จากเว๊ปไซต์ไม่ว่าจะเป็นของ Chevron - Texaco (Havoline), Mobil, etc. ก็แจ้งไว้เหมือนกันครับสำหรับ สเปกของ Dexron III ที่สามารถใช้แทน (ซึ่งบอกไว้ว่าดีกว่าด้วยซ้ำ) DEXRON II, DEXRON II-E, DEXRON III, and Ford/MERCON fluids
are specified ครับ


ไม่ทราบว่า เพื่อน ๆ คนไหน เคยมีประสบการณ์ เปลี่ยนไปใช้ Dexron III แล้วเกิดปัญหาบ้างครับ...เอาประสบการณ์มาแชร์กันหน่อยครับ
วันที่: 29 May 05 - 02:12

 ความคิดเห็นที่: 8 / 12 : 082043
โดย: CHAIN
ผมใช้ Lantis V6 Auto ขับไปจนเกียร์ไหม้ ไปเปลี่ยนเกียร์ใหม่มือ 2 ที่ อู่ FP เขาใช้ DEX III .ใ้ห้
และรับประกัน 6 เดือน หรือ 10,000 กม.ใช้มา 2 สัปห์ดาแล้ว ยังไม่เป็นไรแต่ก็กลัวๆ อยู่เหมือนกัน
แต่ทางอู่เขารับรอง เห็นที่อู่เขาใช้ CRONOS วางเครื่อง V6 2500 เขาก็ใช้ DEX III ก็ไม่เห็นเป็นอะไร ใครช่วยฟันธงให้ทีว่าต้องใช้อะไรกันแน่ ?
ุ้
วันที่: 31 May 05 - 21:32

 ความคิดเห็นที่: 9 / 12 : 082168
โดย: rex
เข้ามาเพิ่มข้อมูลสนับสนุนคุณ B3S ครับ เพราะสมาชิกใหม่ ๆ ตอนนี้เยอะมากอาจจะยังไม่ทราบ

ไม่ได้บังคับให้ใช้นะครับ เรื่องนี้ถ้า search ดูจะพบว่ามีผู้มีปัญหาจำนวนมากทีเดียว แล้วส่วนใหญ่ในนั้นคือมีประสบการณ์ตรงจากการที่เปลี่ยนไป DexIII แล้วมีปัญหา ช่างศูนย์ฯก็ไม่ได้ทำอะไรกับตัวเกียร์ ไล่ปัญหาไม่เจอ ลองเปลี่ยนกลับไป DexII เอ้า หาย

คนที่ไม่หายก็มีครับแต่น้อยกว่า คนที่ไม่แน่ใจว่าเป็นเพระอะไร เพราะแก้พร้อมกันหลายจุดก็มี

แม้กระทั่งคนที่เปลี่ยนไป DexIII แล้วไม่มีปัญหา ก็มี อย่างที่ข้างบนบอก

ฉะนั้น หากคุณเปลี่ยนไป DexIII แล้วไม่เป็นไร วิ่งได้วิ่งดี ผมคิดว่า ก็ไม่จำเป็นต้องไปเสียเงินเปลี่ยนเป็น II เอ้าไว้มีปัญหาค่อยลองกันใหม่ครับ ส่วนท่านที่มีเงินจะลองเปลี่ยนไปมาก็ตามสบาย เงินท่านนี่ครับ
วันที่: 01 Jun 05 - 07:34

 ความคิดเห็นที่: 10 / 12 : 082202
โดย: Mazdalism
เสาร์นี้จะเอา ตาตี่ 96 A/T ไปเปลี่ยนเป็น Dex II ดูครับ เพราะหลังสุดเอาไปเปลี่ยนที่ปั๊ม Esso แล้วก็ไม่ได้ดูว่าเป็นเกรดไหน หลังจากนั้นก็รู้สึกว่ามันจะกระตุก แรงกว่าเดิม ถ้าเปลี่ยนแล้วเป็นไงจะเอามาแชร์ครับ ถ้าไม่หาย ก็คงจะเป็นที่คลัทช์ครับ
วันที่: 01 Jun 05 - 09:21

 ความคิดเห็นที่: 11 / 12 : 087957
โดย: โจ นาวิน
มาสนับสนุนคุณ B3S อีกคนครับ ผมใช้ lantis1.8ปี99 คิดดูครับปีใหม่ขนาดนี้ยังเกิดอาการเกียร์กระตุกเลยครับ ตอนซื้อมือสองมาแรกๆยังไม่เป็นครับแต่ด้วยความรักรถไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ครั้งแรกใช้dexron3เริ่มเกิดอาการเกียร์กระตุกจากช่วงเปลี่ยนเกียร์1ไป2มากครับแต่ใครจะไปคิดว่าเพราะเปลี่ยนน้ำมันเกียร์มาใหม่ซึ่งมันต้องสะอาดกว่าเก่าเลยไปเข้าศูนย์mazdaช่างบอกว่าไม่เกี่ยวกับน้ำมันเกียร์ครับต้องเปลี่ยนเกียร์อย่างเดียวจึงจะหาย ดูสิแม้แต่ช่างยังสันนิษฐานอย่างนี้ใครๆก็คิดได้ครับ ผมจึงจนใจคิดว่าเกียร์ไปแล้วจริงๆแต่ก็ทนใช้เพราะไม่มีตังเปลี่ยนเกียร์ จนวันนึงได้มาเป็นสมาชิกที่เว็บนี้และได้อ่านกระทู้ที่ถกกันเรื่องน้ำมันเกียร์dexron2/dexron3 และได้อ่านจนพบความรู้ที่แท้จริงของคุณB3Sเนี่ยแหละครับ จึงปรึกษากับเพื่อนที่เป็นช่าง(เพื่อนคนนี้เก่งมากครับมีฝีมือแต่ไม่มีทุนเปิดอู่แตก็มีอุปกรณ์มากพอเปลี่ยนสายพานราวลิ้นกับล้างเกียร์ให้ผมได้ ขนาดเสี่ยเจ้าของอู่ทำสีแถวซอยมัยลาภยกที่แถวนั้นให้มันเปิดอู่มันยังไม่มีทุนเลยไม่มีลูกมือด้วย เลยต้องรับซ่อมกับคนที่รู้ไปเรื่อยๆ)เพื่อนยังพูดเหมือนคุณB3Sเปี๊ยบเลยคือบอกว่าภายในสมองกลของเกียร์ออโต้แลนติสจะมีรูเล็กๆให้น้ำมันเกียร์ไหลผ่านมากมายนึกภาพสมองคนน่ะครับยึกยือน่าเกลียด อาจจะมีเป็นร้อยรูซึ่งถ้าใช้dexron3ซึ่งเวลาอุณหภูมิสูงๆจะเกิดตวามหนืดมหาศาลทำให้ไหลผ่านได้ยากจึงเกิดอาการกระตุกของเกียร์( ลองสังเกตเวลาขับรถเช้าๆเครื่องยังเย็นอยู่ต่อให้ใช้dexron3ก็ไม่เป็นไรเพราะdexron3จะเกิดความหนืดมากเมื่อรถวิ่งร้อนได้ที่)เพราะเวลาน้ำมันเกียร์ไหลผ่านจะทำให้เกิดแรงดันไม่เชื่อลองถ่ายน้ำมันเกียร์ออกให้หมดเกลี้ยงสิเข้าเกียร์อะไรรถก็ไม่วิ่งครับ ผมจึงตัดสินใจให้เพื่อนเปลี่ยนให้โดยถอดสมองกลมาล้างให้สะอาดเชือไหมว่าแค่ถอดฝาแคร้งแรกออกมา(ผมก็ไม่รู้เรียกอะไร)จะมีแม่เหล็กไว้ดูดเศษผงที่เป็นเหล็กไว้เพื่อไม่ให้เข้าไปอุดตันตามรูต่างๆในสมองกล2ตัว แต่ละตัวดูดเศษผงเหล็กไว้จนไม่เหลือที่ให้ดูดเพิ่มได้อีกแล้ว ทำให้มีเศษผงเหล็กหลุดเข้าไปในสมองกล ยิ่งอุดตันเข้าไปใหญ่เลยผมเห็นแล้วแทบช็อคเลย มิน่าถึงได้กระตุกนัก แล้วเศษผงเหล็กนี้ส่วนหนึ่งก็คือเศษผ้าครัชครับ เจ้าdexron3นอกจากจะมีความหนืดสูงแล้วยังร้อนสูงจนทำลายผ้าครัชด้วยครับ ยังดีที่ยังใช้งานได้ ผ้าครัชแลนติสแพงมากนะครับลองถามดูได้เชื่อไหมผมไปซื้อน้ำมันเกียร์dexron2ของปั้มessoน้ำมันเกียร์dexron2เองก็หายากเหมือนกันครับ ซื้อมา5ลิตรเป็นเงิน575บาท ลิตรละ115บาท โอ้โหอาการที่ผมเซ็งมาเป็นปีและคิดว่าต้องเปลี่ยนเกียร์เป็นหมื่นหายเป็นปลิดทิ้งเลยครับขนาดเคยflush and fillหมดไป2000แต่ใช้dexron3อีกเหมือนกันยังไม่หายเลย ตอนนี้แฮปปี้สุด เพราะเกียร์นุ่มมากไม่มีอาการกระตุกเลยแถมเพื่อนจูนอัพให้อีกเนียนเลย ชอบรถรุ่นนี้มากครับจึงอยากให้เพื่อนๆที่ใช้แลนติสแล้วเกิดปัญหาเรื่องเกียร์เหมือนกันทำวิธีนี้ก่อน มันไม่ได้สิ้นเปลืองเลยครับ จะได้ไม่ถูกหลอกให้ยกเกียร์ ถามว่าทำไมแลนติสบางคันใช้dexron3แล้วไม่เห็นเป็นไร ส่วนใหญ่ปี96ลงมาจะไม่เป็นครับ(96 95 94 93)แต่97 98 99ซึ่งสามปีหลังจะมีแต่รุ่น1.8เท่านั้นไม่มี2.0แล้ว รุ่นเก่า(93 94 95 96)จะใช้สายเกียร์คู่ช่วยกันทำให้เกียร์ทำงานดีกว่ารุ่นใหม่(97 98 99)ซึ่งใช้สายเดี่ยว ไม่เข้าใจเหมือนกันใหม่กว่าแท้ๆ ยังไงก็ตามถ้ามีโอกาสรีบเปลี่ยนเป็นdexron2ดีกว่าครับไม่กี่ตังดีกว่าคิดว่าไม่เป็นอะไรแล้วรอให้ครัชหมดได้ยกเกียร์แน่ครับ ขอบคุณ คุณB3S และเพื่อนๆที่นี่ทุกคนที่ให้ความรู้ครับ มีอะไรให้แนะนำโทรคุยกับผมได้ครับ01-9302041โจครับ(ขอเป็นตอนเย็นๆนะครับ)
วันที่: 20 Jun 05 - 11:40

 ความคิดเห็นที่: 12 / 12 : 089828
โดย: *~B3S~*
จากประสบการณ์อีกนั้นแหละครับ

ถ้ารอจนเห็นอาการแล้วจะสายเกินไปครับ ถ้าวันนี้ไม่ออกอาการก็ถือว่าดีไป
ถ้าเป็นขึ้นมาแล้ว แม้เปลี่ยนน้ำมันก็ไม่ช่วยให้ดีขึ้นได้ครับ (แต่ไม่แย่ไปกว่านั้น)

อย่างที่คุณโจ นาวิน บอกนั้นแหละ ผ้าคลัชไปแล้วก็ไม่กลับมา เว้นแต่จะเปลี่ยนผ้าคลัชใคร
ซึ่งคงไม่ถูกอย่างน้ำมันแน่ ๆ
วันที่: 24 Jun 05 - 19:56