Close this window

อ่านแล้วน่าจะหายสงสัยไป ระดับหนึ่ง(โซฮอล)
แก๊สโซฮอล์ (Gassohol)
น้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้จากการผสมระหว่าง เอทานอล * หรือเอทิลแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 99.5% ผสมกับน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว ในอัตราส่วนเบนซิน 9 ส่วน เอทานอล 1 ส่วน จึงได้มาเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล์ออกเทน 95 ที่มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับน้ำมันเบนซิลพิเศษไร้สารตะกั่ว ออกเทน 95

แก๊สโซฮอล์ เป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากแนวพระราชดำริใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 โดยทรงเล็งเห็นว่าประเทศไทยอาจประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมัน และปัญหาพืชผลทางการเกษตรมีราคาตกต่ำ จึงทรงมีพระราชดำริให้โครงการส่วนประองค์สวนจิตรลดาได้ศึกษากระบวนการผลิตแอลกอฮอล์จากอ้อย และนำแอลกอฮอล์ที่ผลิตได้นี้มาผสมกับน้ำมันเบนซิน ผลิตเป็นน้ำมัน “แก๊สโซฮอล์” เพื่อใช้เป็นพลังงานทดแทน โดยโครงการส่วนพระองค์ได้เริ่มผลผลิตแอลกอฮอล์จากอ้อยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529 และได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้

แก๊สโซฮอล์ กับประโยชน์ที่จะได้รับ
นอกจากราคาแก๊สโซฮอล์จะถูกกว่าน้ำมันเบนซินธรรมดา ซึ่งช่วยประหยัดการใช้น้ำมันและเงินตราต่างประเทศในการซื้อน้ำมันไปได้มากแล้ว แก๊สโซฮอล์ยังช่วยลดปริมาณมลพิษจากท่อไอเสียและมลพิษในอากาศ เพราะสามารถลดปริมาณไฮโดรคาร์บอนมอนนอกไซด์ลงได้ถึง 30% ทำให้การเผาไหม้ของเครื่องยนต์สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
แก๊สโซฮอล์สามารถเติมได้กับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทุกรุ่นตามที่ผู้ผลิตแนะนำโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปรับแต่งเครื่องยนต์ และสามารถเติมผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงที่เหลืออยู่ในถังได้เลยไม่ต้องรอให้น้ำมันหมดถังก่อน และหากไม่มีจุดเติมแก๊สโซฮอล์ก็สามารถเปลี่ยนไปเติมน้ำมันเบนซินทั่วไปได้ทันทีเช่นกัน เพราะแม้ว่าสารเติมแต่งค่าออกเทนที่กำหนดให้มีในการเติมน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว ออกเทน 95 โดยทั่วไปนั้น จะเติม MTBE (Methyl Tertiary Butyl Ether) แต่สำหรับแก๊สโซฮอล์ที่จะใช้ Ethyl Alcohol 99.5% ทดแทนในปริมาณ 10% แต่คุณสมบัติในการใช้งานกับเครื่องยนต์ยังคงเหมือนกันทุกประการ
นอกจากนี้ การผลิตแก๊สโซฮอล์ยังถือเป็นการใช้ประโยชน์จากพืชผลทางการเกษตรในประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะไม่ว่าจะเป็นอ้อย มันสำปะหลัง ข้าว ข้าวโพด สามารถนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตแอลกอฮอล์ได้ทั้งหมด ช่วยลดงบประมาณในการแทรกแซงราคาสินค้าเกษตรลงได้ถึงหนึ่งหมื่นล้านบาท

*** เอทานอล คือ แอลกอฮอล์ที่ได้จากการหมักพืชหรือผลิตผลทางการเกษตร สามารถใชเป็นเชื้อเพลิงโดยตรงเพื่อทดแทนน้ำมันเบนซินหรือน้ำมันดีเซล เมื่อผสมกับน้ำมันเบนซินเป็น “แก๊สโซฮอล์” ผสมน้ำมัน ดีเซลเป็น “ดีโอฮอล์”
ใช้แก๊สโซฮอล์เพื่อชาติ

เป็นพลังงานทดแทน ผลิตจากพืชเกษตรในประเทศ ใช้แทนสารเพิ่มออกเทนที่นำเข้าจาก

ต่างประเทศ ประหยัดเงินตราต่างประเทศมากกว่า 3,000 ล้านบาท ต่อปี

ประหยัดการใช้น้ำมันที่มีอยู่จำกัด โดยการนำเอทานอลมาผสมกับน้ำมันเบนซิน จะช่วยลดการใช้
น้ำมันของประเทศลงได้ประมาณ 10% หรือเดือนละ 25 ล้านลิตร

เกษตรกรไทยมีรายได้สูงขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากการผลิตเอทานอลที่ได้จากพืชเกษตร

ลดมลพิษทางอากาศ โดยลดไฮโดรคาร์บอน และคาร์บอนมอนนอกไซด์ ลงได้ 20-25 %
ช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นปัจจัยหลัก ที่ก่อให้เกิดสภาวะ เรือนกระจกในชั้นบรรยากาศ (GREEN HOUSE EFFECT) รวมทั้งลดควันดำ ลดสารอะโรเมติกส์ และลดสารเบนซีน

ช่วยกระจายการลงทุน การจ้างงานสู่ชนบท
ใช้แก๊สโซฮอล์เพื่อคุณ

ได้ใช้น้ำมันเบนซินออกเทน 95 ในราคาที่ประหยัดลง 1.50 บาทต่อลิตร

ช่วยให้เครื่องยนต์เผาไหม้สะอาด สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

ได้มีส่วนช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อนร่วมชาติให้ขายผลผลิตได้ในราคาที่สูงขึ้น

ได้ช่วยลดมลพิษทางอากาศ ซึ่งส่งผลถึงชีวิตตนเอง ลูกหลาน และเพื่อนร่วมชาติ

ผลเสียที่อาจเกิดขึ้นจากการเติมแก๊สโซฮอล์ 95
เนื่องจากแก๊สโซฮอล์ 95 เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้จากการผสมระหว่าง เอทานอล หรือ เอทิลแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 99.5% ผสมกับน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว ในอัตราส่วนเบนซิน 9 ส่วน เอทานอล 1 ส่วน
1. คุณสมบัติของแอลกอฮอล์ คือระเหยเร็ว ทำให้เกิดหยดน้ำในถัง อาจทำให้ถังน้ำมันเกิดสนิมและผุเร็วกว่าที่ควรจะเป็น อาจทำให้เกิดการอุดตันในระบบน้ำมันเชื้อเพลิง
2. ควรเติมแก๊สโซฮอล์ 95 สลับกับเบนซิน 95 เนื่องจากในแก๊สโซฮอล์ไม่มีสารหล่อลื่นบ่าวาวล์เหมือนในเบนซิน 95 จึงทำให้เกิดการสึกหรอที่บ่าวาวล์มากขึ้น
3. จากการใช้งานจริงอัตราการเร่งลดลงในช่วง 0 – 100 กม./ชม. ต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเบนซิน 95 จึงเป็นเหตุให้ต้องเหยียบคันเร่งมากขึ้น ทำให้เกิดการสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้น เกิดการสึกหรอเร็วขึ้น
4. การเติมเอทานอล ลงในเบนซิน 95 มีผลต่อคุณสมบัติบางประการของวัสดุประเภทยางที่ใช้เป็นระบบเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์มากกว่า
5. การเติมเอทานอล ลงในเบนซิน 95 มีผลต่อคุณสมบัติบางประการของวัสดุประเภทพลาสติก ที่ใช้เป็นระบบเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์
6. อัตราการกินน้ำมันของรถ เปรียบเทียบระหว่าง แก๊สโซฮอล์ 95 กับ เบ็นซิน 95 จากการใช้จริง
ก่อนหน้านี้ เติมเบ็นซิน 95 จำนวน 40 ลิตร วิ่งได้ระยะทาง = 400 กม.
เบ็นซิน95 จำนวน 40 ลิตร ราคาลิตรละ 23.34 บ. เป็นงิน = 933.60 บาท

ปัจจุบัน เติมแก๊สโซฮอล์95 จำนวน 40 ลิตร วิ่งได้ = 360 กม.
แก๊สโซฮอล์95 จำนวน 40 ลิตร ราคาลิตรละ 21.84 บ. เป็นเงิน = 873.60 บาท

ดังนั้นการเติมแก๊สโซฮอล์95 ประหยัดเงิน (เท่ากับ 933.60 - 873.60) = 60 บาท
แต่... ระยะทางจะหายไป (เท่ากับ 400 – 360) = 40 กม.

(ต้องเติม แก๊สโซฮอล์95 เพิ่มอีก 4.44 ลิตร จึงจะวิ่งได้ 400 กม. = เติมเบ็นซิน95 จำนวน 40 ลิตร)

สรุป ต้องเติมแก๊สโซฮอล์95 จำนวน 44.44 ลิตร เป็นเงิน = 44.44x21.84 = 970.57 บาท

ผลต่างคือ : ระยะทาง 400 กม. เติมแก๊สโซฮอล์95 = 970.57 บาท
ระยะทาง 400 กม. เติมเบ็นซิน95 = 933.60 บาท

กลายเป็นว่าต้องเสียเงินเพิ่ม 36.97 บาท จากการเติมแก๊สโซฮอล์95 เพื่อที่จะให้วิ่งได้ 400 กม. (เท่ากับเติมเบ็นซิน 95)

บทสรุป

" ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเราว่าจะเลือกใช้อย่างไหน แต่ทั้งสองอย่างก็มี ข้อด้อย ข้อดี
แตกต่างกันไป " หากมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ

สำนักงานคณะกรรมการเอทานอลแห่งชาติ โทร. 0 2354 1648-51 โทรสาร 0 2354 1647 หรือ

บริษัท เชลล์ (ประเทศไทย) จำกัด
ศูนย์บริการลูกค้าบริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด โทร. 0-2262-7700 กด 2

การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย
http://www.pttplc.com/th

บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน)
210 สุขุมวิท 64 บางจาก พระโขนง กรุงเทพฯ 10260 โทรศัพท์ 0-2335-4999 โทรสาร 0-2335-4009
ศูนย์บริการลูกค้าบางจาก โทรศัพท์ 0-2745-2440-4

ผมก้อปเค้ามาครับ ตัวเองก้องงงงอยู่ แต่เกือบหายและ
เผื่อใครอ่านจะหายบ้าง
โดย: กุ้ง01   วันที่: 29 Aug 2005 - 11:27


 ความคิดเห็นที่: 1 / 8 : 114608
โดย: เขาวานให้นู๋เป็นไข่เจียว
ขอบคุงมากค่า^^ กำลังหาวิธีคิดอยู่พอดี - - เพราะทุกวันนนี้เติม 95 สลับกับ gaso 95

ระยะทางหายไป 20-40 ก.ม. งับ แต่ตอนนนี้ก้อใช้ gaso 95 อยู่ ลองดูอีกถังขับแบบประหยัดๆดู

ว่าจะวิ่งได้ระยะทางเท่าไหร่
วันที่: 29 Aug 05 - 12:24

 ความคิดเห็นที่: 2 / 8 : 114616
โดย: พ่อลูกหมู
ขอบคุณมากครับ กระจ่างขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง
วันที่: 29 Aug 05 - 12:46

 ความคิดเห็นที่: 3 / 8 : 114651
โดย: H@NK
นานๆ มาที ก็มีสาระมาเลยนะ นายกุ้ง


ปล. จะเติม 95 จนกว่าจะไม่มีให้เติมน่ะแหละ
ยกเลิก 95 เมื่อไร หาเรื่องเปลี่ยนเครื่องมันซะเลย อิอิ
วันที่: 29 Aug 05 - 13:36

 ความคิดเห็นที่: 4 / 8 : 114665
โดย: rex
วิธิคำนวนนั่นใช้ได้ครับ แต่แนะนำให้ไปคำนวนกับตัวเลขที่ตัวเองขับด้วยนะ บางคนก็ออกมาไม่เหมือนด้านบนนะครับ เพราะเท้าเรา นิสัยเรา ไม่เหมือนใครครับ
วันที่: 29 Aug 05 - 14:03

 ความคิดเห็นที่: 5 / 8 : 114667
โดย: A-MT
ผมด้วย จะเติม 95 จนกว่าเค้าจะไม่ขายแล้ว (Mazda 3 sport S/R)
วันที่: 29 Aug 05 - 14:07

 ความคิดเห็นที่: 6 / 8 : 114694
โดย: เด็กบ้าน...ค่ะ
อ่านแล้วคิดเหมือน คห.3 กับ 5 เลยค่ะ วิธีช่วยชาติมีตั้งเยอะ ไม่อยากเอารถไปเสี่ยงค่ะ...

แต่...อ่านแล้วก็ยังงงว่ามันจะประหยัดตรงไหนก็ในเมื่อ ระยะทางที่เท่ากัน ใช้ 95 ปริมาณน้อยกว่าโซฮอล
วันที่: 29 Aug 05 - 14:32

 ความคิดเห็นที่: 7 / 8 : 114798
โดย: กุ้ง01
ฝูงมาสด้าจะหน้าเ *_* ่ยวหลังปีห้าศูนย์ ไม่มีเก้าห้าซดกันละทีนี้
วันที่: 29 Aug 05 - 20:08

 ความคิดเห็นที่: 8 / 8 : 115093
โดย: หนูห้องแล็ป
สุดท้าย ก็ให้รอดูกันไปว่านะครับว่าเครื่องยนต์ของใครจะมีปัญหาก่อนกัน กับคำเตือนที่ไม่ถูกใจผู้ใช้รถ.

คนส่วนใหญ่จะหลงเชื่อคนง่าย เพราะชอบฟังคำคนที่พูดหวานไพเราะและถูกใจ เหมือนปลอบใจตัวเอง ว่าดีกว่าและใช่

แต่บ้างครั้งการพูดตรง เกินไปก็จะทำให้หลายคนไม่ชอบ และมีการเปรียบเทียบกันขึ้น ซึ่งอย่างไรแล้วแต่ขึ้นอยู่กับมุมมองการคิดและแต่และบุคคล ที่เราจะใช้วิจารณญาณว่าจะเชื่อใคร ระหว่างคนที่เขาพูดแล้วเราถูกใจ แต่ไม่จริงใจ กับอีกคนที่เขาพูดความจริงที่ไม่ตรงใจของเรา แต่จริงใจ

เพราะสุดท้าย ในระยะยาวต่อไปข้างหน้า รถที่ผลิตออกมาก่อนปี 2005 ทุกยี่ห้อจะเกิดปัญหาโดยถ้วยหน้าแน่นอน ซึ่งทุกวันนี้ มันเป็นเป็นเรื่องการตลาดล้วนๆ ที่คำพูดว่า "รถของคุณใช้น้ำมันชนิดนี้ได้จริง โดยไม่มีผลใดๆกับเครื่องยนต์" คำตอบถูกครึ่งหนึ่ง แต่อีกครึ่งกำลังเสี่ยงรอการพิสูตรโดยลูกค้าทั้งหลาย

แล้วอย่าลืมกลับไปดูท่อยางต่างๆของรถคุณที่ใช้แก๊สโซฮอล์95 ด้วยน่ะครับ ว่าท่อยางต่างๆของวันนี้กับหนึ่งปีข้างหน้ามันเปลี่ยนไปขนาดไหน บริษัทรถยี่ห้อที่พูดวันนี้ว่า "รถของคุณใช้น้ำมันชนิดนี้ได้จริง โดยไม่มีผลใดๆกับเครื่องยนต์" เขาอาจจะไม่รับเคลมก็ได้น่ะครับ เพราะเขาอาจจะ ตอบคุณง่ายๆว่า "อ้อ...ท่อยางเหล่านั้นหรือครับ ของมันมีอายุการใช้งานอยู่น่ะครับ คือ อย่างไรแล้วผู้ใช้รถก็ต้องเสียตังค์เปลี่ยนเองอยู่ดี"

ก็คิดว่าอย่างไรแล้ว ก็ของเป็นคนสุดท้าย ที่ใช้น้ำมันราคาเหมือนจะถูก (แต่แพง) แล้วกันน่ะครับ...ชาวมาสด้า
วันที่: 30 Aug 05 - 15:23