ก่อนอื่นออกตัวก่อนนะครับว่า ผมไม่แนะนำให้ใครไปลองเหมือนผม แต่ผมก็ทำไปแล้วน่ะ
คือเมื่อวานอาทิตย์ที่ผ่านมา ผมมีธุระต้องเดินทางจาก พัทยาวิ่งเข้า กทม ตอนเย็น ซึ่งก็พอจะคาดเดาได้ว่ารถที่ร่วมทางผมจะต้องมากมาย ผมเลือกเส้นทาง motorway เข้าพระราม 9
ตั้งแต่ออกมาขับช้ามาก ๆ คือ ประมาณ แค่ 80-120 แค่นั้นเพราะรถมันเยอะ พอจ่ายเงินด่านที่ 2 ก่อนเข้าแยกพระโขนง ก็เริ่มขับเร็วขึ้น...
ขับ ๆ อยู่ ทุกคนก็เริ่มวิ่งเร็วแล้วน่ะครับ ผมก็เลยเปลี่ยนจาก city mode เริ่มใช้ shift ก็วิ่งมันส์ตามปกติของมัน
ซักพัก มี City type-z รุ่นเก่า ๆๆๆๆ
วิ่งผ่านไปอย่างเร็วมาก ๆ คือ +180 แต่ด้วยความที่เข้าช่วง 6 เลนแล้ว ผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่สุดท้ายบังเอิญมีจังหวะต้องวิ่งแซงพี่ท่าน พอดีจังหวะนั้นผมวิ่งมา 160-180 แล้ว พี่ท่านก็ตามก้นมาติด ๆ แบบ ติดมาก ๆ น่ะครับ แล้วผมก็โดนแซงไปในจังหวะนึง เห็นแค่ว่า รถคันนี้ ทำท่อมาแล้วใส่ เบาะคล้าย ๆ กับจะเป็น recaro SR2 หรืออะไรนี่แหละครับ แล้ว he ก็เปิดไฟกระพริบ ( :confused11: มันแปลว่าอะไรน่ะ เปิดไฟกระพริบ ผมไม่เข้าใจ ..) ผมก็เลยตามไป คนขับเป็นเด็กหนุ่ม ๆ แต่ก็มีผู้โดยสาร เป็น ญ มั๊งครับ แต่ด้วยความที่เบาะใหญ่บังหัวน้องเขาหมด เลยมองไม่เห็นว่าหน้าตาเป็นไง ฝ่ายน้องผู้หญิง ก็เปิดกระจกส่องแต่งหน้ามาเพื่อดูรถผม แล้วเหมือนจะออกคำสั่งให้หนุ่มน้อยนี้ RACE !! Go.........go go
หลังจากนั้น ทั้งผมและ city คันนี้ก็เริ่มอัดกันแบบว่า ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยระห่ำเท่านี้มาก่อน คือรถผมตั้ง speed warning ไว้ที่ 180 คือเรียกได้ว่า ตั้งแต่แถวช่วงลาดกระบังมานี่ รถก็เยอะมากอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ขับได้ไง โดยที่ speed warning ไม่หายไปจากจอเลยครับ ไอ้ City คันนี้ ขึ้น 180+ ได้เร็วมาก ๆๆ และคงทำได้กว่า 200 ด้วยเพราะ ผมก็หมดคันเร่งแล้วน่ะครับ ยังกินมันไม่ได้ แล้วพี่แกมุดแบบว่า สุดขีด+ขีดสุด เหมือนในหนัง hollywood ไม่มีผิด ผมเองก็เหมือนจะแค้นนิด ๆ ที่ ไอ้ city นี่มันมาท้า เลยเต็มที่เหมือนกัน
อยากจะบอกว่าที่ขับ ไปนี่ ไม่มีวิ่งตรงเลยนะครับ ผมโยนซ้าย ขวา ๆ ๆ แบบว่า เต็มที่ บางทีต้องแบบว่า จากเลนขวาสุดไปซ้ายสุด แล้วเบรค แล้วมุดต่อ ทั้ง ๆ ที่ยัง +180 อยู่เลย น้อง city นั่นก็เหมือนจะกินผมนิด ๆ มีโอกาสแซงได้จังหวะนึง ไม่นาน พี่แกก็มุดต่ออีก แบบว่า ผมก็ตามแบบไม่จี้ก้นนะครับ พยายามหา lane ที่มันปลอดภัยกว่าเพราะรถมันเยอะมาก ๆ แล้วก็พลาดตรงที่ว่าผมชอบวิ่งขวา ลืมไปว่า ด้านซ้ายมันจะมี lane ว่างสำหรับจอดรถเสียว่างอยู่เรื่อย ๆ แต่ก็ไม่ละความพยายาม อัดวิ่งซ้ายมั่งขวามั่ง
พอดีเพิ่งไปดู mr & mrs. smith มาด้วยน่ะครับ ฉากที่ โจลี่ ขับหนี BMW 3 คันน่ะ ประมาณ feeling เดียวกันเลย แต่รถผมไม่โดนยิง ไม่ชน ไม่วิ่งสวนเลน และไม่มี mrs.smith นั่งด้วยแบบในหนังแค่นั้น...
ผมไม่มีโอกาสแม้แต่จะมอง เรือนไมล์ว่าเร็วเท่าไหร่จริง ๆ แค่เหลือบมอง speed warning มันคาอยู่แบบนั้นก็รู้แล้วว่ามันเร็วมาก ๆ ในสถานการณ์แบบนั้น ที่รถเต็มถนน 6 lane ส่วน เกียร์ คือผมไม่ต้อง shift up เลย เพราะมัน shift ขึ้นด้วยว่ารอบมันเกินตลอด ผมได้แต่ shift down ได้แค่เกียร์เดียว จาก 5 เป็น 4 เพราะ ถ้า ลง 3 มันก็จะดีด ขึ้น 4 ตลอด
และผลจากการ race ขนาดนี้ ผมกลับรู้สึกประหลาดใจอยู่ หลายอย่าง
- city คันนี้ มันแต่งอะไรมาถึงได้ทั้ง ไต่ความเร็วขึ้น+ 180 up และ brake และโยกได้รุนแรงขนาด นั้น ?? หรือว่า city type Z เดิม ๆ ก็ทำได้แล้ว
- ส่วนรถผม ผมประหลาดใจใน performance ช่วงล่างและยางมากครับ รวมทั้งเบรคด้วย เพราะ config คือ sachs / eagle F1 ตัวใหม่ 225-45 / brambo 4 pots (อย่าหาว่าผมชมรถตัวเองเกินเลยนะครับ เพราะตอนที่ยัง oem มันไม่เหมือนแบบนี้เลยน่ะ) เรียกได้ว่า ไม่ลองไม่รู้หรอกครับว่า มันต่างจาก oem มาก ๆ คือ ไม่ว่าจะโยกรุนแรงแค่ไหน หรือ brake กระทืบแรงแค่ไหนมันก็เหมือนสั่งได้ดั่งใจจริง ๆ ระยะเบรคสั้นมาก ๆ แบบว่าถ้าคุณยังใช้ oem ยิ่งเป็นรุ่นผ้าเบรคห่วย คุณต้อง miss แน่นอน คือที่ประหลาดใจคือมันไม่เครียดเลยในการที่คุณจะอัดมาเต็มที่แล้ว หักซ้ายสุด.. ขวาสุด.. แซงแบบ สลาลอม.. แล้วเบรคทันที แบบเสียงยางสนั่นถนนตลอดเลยน่ะครับ
ผมอัดกันมาตั้งแต่ลาดกระบังจนถึงถนนพระราม 9 ชาวบ้านคงด่ากันเป็นร้อย ๆ คัน :rant: จากนั้นก็แยกกันไปคนละทางเพราะ city ขึ้นทางด่วนแต่ผมลง ศรีนครินทร์ ... โดยที่ ผม ตามน้องแกอยู่ ประมาณ 50 เมตร
เรียกได้ว่า ผมมุดสู้น้องแกไม่ได้จริง ๆ ครับ น้องแกไม่กลัวเอาซะเลย ผมขับคนเดียว แบบว่าถ้าตายก็ตายคนเดียววะ แต่ไอ้ city นี่ แบบว่า แฟนมันไม่รู้ทนได้ไง ขนาดรถผมข้าวของในรถผมกระจายเต็มไปหมด แต่ยอมรับเลยครับว่า รถน้องแกแรงดีจริง ๆ :thumbsup:
แต่ลึก ๆ นะ... ความรู้สึกที่ได้กลับมานี่ ถ้าผมบอกว่ารู้สึกดีนี่ คงจะมีคนแอบด่าผมยับ เพราะไป race ให้ชาวบ้านเขาเดือดร้อน จริงๆ ที่จะบอกคือว่า ผมรู้สึกดีกับรถคันนี้มาก ๆ เพราะด้วย กำลังสูงสุดที่มันให้มา ok มันอาจจะไม่พอที่จะไปแข่งกับใครจนฉีกเขาได้เหมือนกระดาษ แต่ความมั่นใจใน config ที่ได้ลงทุนไป นี่ เรียกว่าโอกาสที่คุณจะพลาดง่าย ๆ น้อยลงไปอย่างมาก แถมยังรู้สึกว่าก็ไม่เครียดเท่าไหร่ด้วยนะครับ ถ้าต่อไปผมได้มีโอกาสเปลี่ยนเป็นล้อเบา ๆ ซักชุด ผลคงออกมาดีกว่านี้หน่อยนึง
เล่าสู่กันฟังน่ะครับ ขอบคุณที่พยายามอ่านจนจบ :bow: จริง ๆ กะว่าจะไป post ที่หน้า off topic แต่ เดี๋ยวให้ท่าน admin พิจารณาดีกว่า
คำเตือน : ถ้าคุณไปเจอไอ้ city คันนี้ แล้วไม่ได้ปรับปรุงช่วงล่างและ brake มา ก็แนะนำว่ามันจะอันตรายมากครับ มันกินผมลงแบบหืดขึ้นคอ
ผม copy มา
มันไม่ใช้ผมนะ ( p_h_a_t )