หลายๆท่านเมื่อมีปืนแล้ว ก็อยากจะนำติดตัวไปด้วยเพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สิน เพราะตามกฏหมาย ใบ ป.4 เพียงแค่อนุญาตให้ท่านมีและใช้ เท่านั้นไม่ให้พกพาไปไหนมาไหน ไอ้ครั้นจะหวังพึ่งตำรวจ ก็พึ่งได้ยากเสียเหลือเกิน ก็ขนาดสถานฑูต ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญ ยังปล่อยให้คนพกทั้งปืนกล ระเบิดมือไปยึดได้ง่ายๆแบบนั้น ก็หมดหวังละครับ

ทีนี้เราจะทำยังไงกันดี ที่จะพกปืนแล้วไม่ผิดกฏหมาย ตรงนี้ กฏหมายท่านให้ช่องไว้ครับ แต่อยากจะบอกว่าช่องนี้มันเล็กเหลือเกิน แถมมันไม่แน่นอนไม่มีกฎตายตัวเสียด้วย คือท่านต้องยื่นเรื่องขอ ใบอนุญาตพกพาครับ (ป.12) ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเท่านั้นที่มีอำนาจออกให้ได้ครับ

เป็นไงครับ ใหญ่โตดีไหม ออกใบพกปืน 1 ใบ ต้องให้รัฐมนตรีออก แถมออกตามดุลยพินิจเสียด้วย ท่านหมั่นไส้ใครไม่ออกให้ ก็ทำอะไรท่านไม่ได้หรอกนะครับ แต่ถ้าท่านคิดว่าท่านเส้นดีๆ ก็ลองทำดูครับเผื่อจะได้มา แต่เมื่อได้มาแล้วลองอ่านๆดูจะได้สาระดังนี้ว่า ท่าน ห้ามพกปืนไปในที่สาธารณะ ที่ที่มีงานนมัสการ งานสมโภส ห้ามพกโดยเปิดเผย กล่าวคือ ใบ ป.12 ให้พกได้ตามป่าเขาครับ แต่ทว่าในหลักความเป็นจริง ตำรวจมักเกรงใจคนมีใบ ป.12 ครับ ด้วยความที่ ขอยาก และรัฐมนตรีเป็นคนเซ็น คนที่มีใบนี้ก็คงไม่ขี้ไก่เสียทีเดียว

มาถึงตอนนี้ หลายๆคนคงเริ่มท้อเสียแล้วว่ามีปืนแล้วพกไม่ได้จะมีทำไม ยังครับ ยังมีวิธีพกอยู่ มีกฏหมายอยู่ข้อหนึ่งบัญญัติไว้ว่า " ห้ามมิให้ผู้ใดพาอาวุธปืนติดตัวไป ในเมือง ในหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว เว้นแต่กรณีที่ต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ "

เว้นแต่กรณีที่ต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ประโยคนี้เองครับเป็นทางออกแก่ผู้ที่สิ้นหวังอย่างเราๆท่านๆ แล้วจะทำอย่างไร หรือรู้ได้อย่างไรครับว่าอันไหนเร่งด่วน ไม่เร่งด่วน จำเป็นหรือไม่จำเป็น และควรหรือไม่ควร อันนี้เป็นเรื่องที่ผมเคยได้ยินและได้อ่านมา ไม่ขอรับรองและให้ยึดเป็นหลัก เพื่อนที่อ่านควรศึกษาเพิ่มเติมด้วยและโปรดใช้ความคิดประกอบในการอ่าน กล่าวคือ เมือจะพก ไปควรพกอย่างปกปิด ถ้าจะให้ดี ต้องทำให้ปืนอยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมยิง หรือยิงยากที่สุดที่จะมากได้ เช่น มีโครงปืนอยู่ลิ้นชักหน้ารถ ลูกอยู่ในกล่องท้ายรถ ลำสไลด์ อยู่กระโปรงท้ายรถ มีล็อกอย่างดี อันนี้ ท่านว่าน่าจะหลุด 98 % คือยิ่งทำให้หยิบมาใช้งานยาก เปอเซ็นการไม่โดนจับก็ มากขึ้นไปด้วย อันต่อไปก็คือ ความจำเป็น อย่างไรจึงเรียกว่าจำเป็น ถ้าท่าน โดนขโมยขโมยรถแล้วหนีไป ต่อหน้าต่อตา ท่านหยิบปืนออกไปตามขโมยอันนี้พอจะถือได้ว่าจำเป็น เพราะท่านมีสิทธิที่จะปกป้องทรัพย์สินของท่าน และท่านไม่รู้ว่า ขโมยดังกล่าวมีอาวุธหรือไม่ แต่หากท่านหยิบไปเพราะท่านโดนขโมยรถ เมื่อ เดือนที่แล้ว อันนี้ความจำเป็นของท่านคงหมดไปแล้ว

สำหรับเพื่อนๆที่สนใจ เรื่องนี้อยากให้ลองไปหาอ่านเพิ่มเติม ตามหนังสือกฏหมายจะได้ข้อมูลดีขึ้น สำหรับการพกข้อต่อไป ซึ่งหลายๆคนใช้วิธีนี้อยู่คือ พกได้ตราบจนตำรวจ
ไม่พบปืนของท่าน อันนี้ไม่มีใบ ป.12 ก็พกได้นะครับ แต่โดนจับแล้วไม่ค่อยจะคุ้ม ต้องเสียค่าปรับ เผลอๆอาจจะโดนริบปืนได้อีกนะครับ

ส่วนกรณีที่ท่านโดนจับแล้วจะทำยังไง อันนี้มีรุ่นน้องผมโดนนะครับ ก็เล่าให้ฟังเป็นอุธาหรณ์ รุ่นน้องผมต้องขับรถระหว่างกรุงเทพ กาญจนบุรี อยู่บ่อย แกก็พกปืนที่มีใบ ป.4 เรียบร้อย โดยไว้ที่ลิ้นชักหน้ารถ โดยปืนอยู่ในสภาพพร้อมยิง มีกระสุนในรังเพลิงอยู่ 1 นัด พอมาถึงกรุงเทพ แกก็แวะพักทานข้าวที่ ป.กุ้งเผาก่อน แล้วก็เป็นเรื่องครับ ตำรวจขอตรวจค้นก็เจอปืนจนได้ เป็น โค้ลท์ โกลคัพ 11 มม. ก็มีทะเบียนเรียบร้อยแหละครับ แต่ตำรวจท่านก็ไม่สนล่ะครับทำตามหน้าที่ ขนาดรุ่นน้องผมจะให้เงิน ท่านก็ไม่ยอม ก็ขอยกย่องไว้ตรงนี้นะครับ ในที่สุดท่านก็พาไปโรงพัก ร้อยเวรก็ลงบันทึกประจำวัน แล้วก็ยึดปืนไว้ตรวจสอบ ก็รอประมาณเดือนกว่าๆแหละครับ ถ้าปืนไม่มีปัญหา ก็ไปรับปืนคืนแล้วเสียค่าปรับ ยังดีนะครับ ที่เค้าไม่ลงโทษมากกว่านั้น

ยังไงเพื่อนๆก็ลองคิดๆดูแล้วกันครับไม่จำเป็นอย่าพกเลยเสียทั้งเงินทั้งเวลา และที่อยากจะฝากไว้เลยนะครับ กรณีที่ท่านพกปืนอยู่กับตัว แล้วโดนตำรวจตรวจค้น ( คือยังไงเค้าก็เจอปืนท่านแน่ๆ ) ให้รีบบอกตำรวจก่อนครับ ว่าเราพกปืนไว้ อ้อ บอกนะครับ ไม่ใช่ขู่ ส่วนตำรวจจะหยิบปืนขึ้นมาเองก็ไม่เป็นไร หรือว่า ถ้าตำรวจให้เราหยิบปืนออกมา ให้ค่อยๆหยิบนะครับ แล้วนิ้วห้ามเข้าไปอยู่ในโกร่งไกเด็ดขาด แล้วค่อยๆหันด้าน ด้ามปืนส่งไปให้ตำรวจนะครับ อย่าไปชักแบบจะยิงเป็นอันขาด ท่านอาจโดนยิงก่อนได้นะครับ ที่สำคัญถ้าตำรวจเค้าอ้างว่าท่านขัดขืนการจับกุมและพยายามต่อสู้ท่านจะตายฟรีเสียเปล่าๆ

โดย: น้องชาย   วันที่: 18 Jan 2006 - 16:42

 ความคิดเห็นที่: 1 / 28 : 168433

โดย: เชษฐา ณ KHS

แล้ว ปืนที่ยิงแล้วเกิดหล่ะค๊า

ต้องสำแดงในที่สาธารณะป่าวค๊า

 ความคิดเห็นที่: 2 / 28 : 168438

โดย: น้องชาย

ไม่ต้องสำแดง แต่ พอมัน "สำโด่" มันก็จะสำแดงเองค่า

 ความคิดเห็นที่: 3 / 28 : 168439

โดย: TripleTechnos

ปืนที่ยิงแล้วเกิด

อันนี้ปืนมีปัญหาครับ ต้องส่งหลักฐาน (ไอ้ที่เกิด) ไปเครมกับ บ ที่ทำปลอก (กระสุน) นะครับ

 ความคิดเห็นที่: 4 / 28 : 168440

โดย: Mazdalism

ปืนยิงแล้วเกิดนี่ต้องยิงกันสองต่อสองคับ ต้องหมั่นขึ้นลำบ่อยๆด้วย เดี๋ยวกระสุนด้าน

 ความคิดเห็นที่: 5 / 28 : 168458

โดย: ทวีรัฐ

55 เริ่มจะเบี่ยงประเด็นกันแระ

เอาเป็นว่าเพิ่มเติมนะครับ(เคยโดน)
ที่ตำรวจเขายึดปืนเราไปตรวจสอบเนี่ย(กรณีมี ป.4) เขาจะเอาไปทดสอบยิงด้วยครับ เพื่อหาเกลียวลำกล้องปืนที่ปรากฏ ที่หัวกระสุน แล้วนำไปเปรียบเทียบกับหลักฐานทางคดีต่างๆที่เกิดขึ้น
ถ้าจะอธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้น คือ เหมือนกับรอยนิ้วมือนั่นแหละครับ แต่ละคนไม่เหมือนกัน

รอยเกลียงลำกล้องปืนก็เช่นกัน มันจะปรากฏที่หัวกระสุน ไม่เหมือนกัน ปืน รุ่นเดียวกัน ขนาดเดียวกัน รอยเกลียวลำกล้องก็ไม่เหมือนกันเด๊ะ สักกระบอกหรอก จะต่างกัน พอควร

ลำกล้องเซาะเกลียวไว้เพื่อให้หัวกระสุนมีสปินหมุนรอบตัวเอง เพื่อการทรงตัวให้แม่นยำ ในระยะไกลน่ะ ยกเว้น ลูกซอง ไม่ต้องมีเกลียว เลย ไม่จำเป็น

ทางที่ดี ป้องกัน ไว้ดีกว่าแก้ครับ เราต้องพยายามหลีกเลี่ยง สถานการณ์เสี่ยงต่างๆเอง (เฮ้อ คนไทย) เพราะ ถ้าจะให้โดนน้อยหน่อย ก็ต้องอยู่ในสภาพไม่พร้อมยิงอย่างที่ คุณน้องชายว่า

แต่ถ้าอยู่ในสภาพนั้น ไม่มีจะดีซะกว่า เพราะมีแล้วพอถึง วินาที วิกฤติ จริงๆ ก็ใช้ไม่ได้ เผลอๆหากโดนจี้บังคับ กลับจะกลายเป็น อาวุธให้คนร้ายซะอีก

ส่วนใตรที่ไม่มีใบ ป.4 ก็ไม่จำเป็นต้องแยกส่วนหรอกครับ เพราะอย่างไรก็โดนข้อหาปืนเถื่อนเต็มๆ อยู่แล้ว ข้อหาใบอนุญาติ ต่างๆจะเป็นน้ำจิ้ม

แถมท้าย : สิ่งเทียมอาวุธปืนก็โดนนะคร๊าบบบบบ พวกปืนลมที่ใช้กระสุนพลาสติก ก็มีสิทธิ์โดนนะครับ ถ้ารูปร่างหน้าตาเหมือนปืนจริงมาก (ยกเว้นปืนเด็กเล่นที่เป็นปืน อวกาศ อันนั้นต่อให้ยิงใส่ตำรวจก็ไม่โดนดำเนินคดี ครับ แต่อาจโดนส่ง รพ.บ้าแทน)

ดังนั้น พกได้แต่ปืนที่ยิงแล้วเกิดครับ ไม่ผิดกฏหมาย แต่ถ้าขึ้นลำ ในที่รโหฐาน โดยไม่เก็บไว้ให้มิดชิด อาจเดือดร้อน

ปล.อาวุธปืนไรเฟิ้ลกึ่งอัตโนมัติ และอัตโนมัติ ทุกชนิด ,ปืนพกที่มีขนาดใหญ่กว่า 9 มม ขึ้นไป ในหน่วยเมตริก และ 0.38 นิ้ว ขึ้นไปในหน่วย DIN ท่านสามารถโดนข้อหา อาวุธสงครามได้ทุกเมื่อครับ โทษหนักมากขอบอก...

 ความคิดเห็นที่: 6 / 28 : 168548

โดย: Mazdalism

ขอบคุณครับป๋าสำหรับข้อมูลเพิ่มเติม
แล้วปกติ ปืนป๋า ได้ยิงบ่อยหรือเปล่าครับ ไม่ได้ใช้นานๆ มันจะเป็นสนิม แล้วถ้าเกิดมีความจำเป็นต้องใช้ เช่นไปเที่ยวทะเลแล้วโดนปล้น(หัวใจ) มันจะขึ้นลำไม่ได้ หรือถ้าได้ก็จะติดๆ ขัดๆ น๊ะครับ ยังไงก็หมั่นยิงบ่อยๆ น๊ะครับ ผมเป็นห่วงอ่ะครับ

 ความคิดเห็นที่: 7 / 28 : 168560

โดย: buggi

อ่าว .38 เป็นอาวุธสงครามเลยเหรอเนี้ย แบบนี้จะซื้อดีเปล่าหว่า

เฮ้อออ เสียตังค์แล้วยังเสี่ยงต้องไปนอนห้องกงอีก อิอิ

 ความคิดเห็นที่: 8 / 28 : 168604

โดย: ตูเองแหละ....อิอิ

ทวีฯ.....วรรคสุดท้าย

ปืนพกที่มีขนาดใหญ่กว่า 9 มม ขึ้นไป ในหน่วยเมตริก และ 0.38 นิ้ว ขึ้นไปในหน่วย DIN ท่านสามารถโดนข้อหา อาวุธสงครามได้ทุกเมื่อครับ โทษหนักมากขอบอก...

มั่วมั่กๆ

 ความคิดเห็นที่: 9 / 28 : 168607

โดย: ตูเองแหละ....อิอิ

ที่ถูกต้องสำหรับปืนพกสั้นกึ่งออโตเมติคคือหน้าตัดไม่เกิน .45 นิ้ว

ซึ่งเท่าที่ยังเห็น...สามารถออกใบอนุญาติได้ เช่น .454 แคซูล(ครายเป็นแฟนรูเกอร์คงรู้จักดี)

ส่วนพวก .50 AE นี่หมดสิทธิ์....

เข้าใจเสียใหม่ว่า....หน้าตัดขนาดเกิน .38 นิ้ว หรือ 9 มม.นี่ไม่ได้ห้าม

และไม่ได้มีกฎหมายฉบับใดออกมาระบุเป็นอาวุธสงครามทั้งสิ้น

แต่ในยุคสมัยหนึ่ง...รมต.มหาดไทยท่านนึง(ไม่ขอระบุชื่อ)

ออกหนังสือถึงนายทะเบียนอำเภอทั่วประเทศ..และกองทะเบียนกรมตำรวจ

ให้พิจารณาหรือระงับการออกใบอนุญาติในขนาดหน้าตัดสูงๆแก่ผู้ขอตามเห็นสมควร

เท่านั้น....ปัจจุบันไม่ได้ห้ามครับ....(แค่อาจจะขอยากซักหน่อย)

 ความคิดเห็นที่: 10 / 28 : 168627

โดย: Mazdalism

น้าตู 11 มม นี่ก็ถือว่าเป็นอาวุธสงครามด้วยใช่ป่าวครับ ป 4 ของ 11 ออกให้เฉพาะข้าราชการทหารและตำรวจ ประชาชนทั่วไปไม่อนุญาติ??

 ความคิดเห็นที่: 11 / 28 : 168645

โดย: ตูเองแหละ....อิอิ

ไม่ใช่ครับคุณเล็ก...11 มม. หรือ .45 นิ้ว

ประชาชน"ทุกคน"สามารถขอได้ครับ...ถ้าคุณสมบัติเข้าหลักเกณฑ์

แต่ว่าแหละนะ...กับคำว่า "ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของนายทะเบียน"

คือกฎนี้มันเก่า...และเปิดกว้างไว้มาก...อันนำมาซึ่งช่องทาง...........(เติมเอาเอง)

อย่างที่รู้ๆกันน่ะครับ...ของผมขอใบอณุญาติ 3 กระบอก...เล่นเอาเหนื่อย

 ความคิดเห็นที่: 12 / 28 : 168648

โดย: PapaRo@chมั่วไปวันๆ~*

ถามมั่ง
แล้วถ้าพกมีดในรถล่ะ ผิดกม.ป่าว
พอดีไปเนปาล ซื้อมีดคิคุลีกับทิเบเตียนมา2เล่ม ไม่รู้จะเก็บไว้ไหนในบ้าน
จะเอาไปให้แม่หั่นหมูก้อกระไรอยู่
ตอบมาซะดีๆ

 ความคิดเห็นที่: 13 / 28 : 168655

โดย: อิอิ

สำหรับปืนที่ยิงแล้วเกิดนั้นขอแนะนำว่าถ้าจะหมั่นขึ้นลำบ่อยๆเพราะกลัวกระสุนด้าน ขอให้ทำอย่างถูกวิธี มิฉะนั้นจะเกิดอาการ "กระสุนลั่น" ซึ่งน่าอับอายยิ่งกว่ากระสุนด้านเป็นไหนๆ

 ความคิดเห็นที่: 14 / 28 : 168656

โดย: nawatkong

มีดก็ผิดนะครับ มีอย่างน้อย 1 ใบแดง

ประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 371 "ผู้ใดพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณโดย เปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควร หรือพาไปในชุมนุมชนที่ได้จัดให้มี ขึ้นเพื่อนมัสการ การรื่นเริงหรือการอื่นใด ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน หนึ่งร้อยบาท และให้ศาลมีอำนาจสั่งให้ริบอาวุธนั้น "

ถ้าตำรวจตั้งด่านแล้วค้นเจอ ยังไงตรงนั้นก็เป็นที่สาธารณะ ถึงจะเก็บใส่ปลอกไว้ แต่มันก็ไม่มีเหตุอันควรเก็บไว้ในรถอยู่ดีแหละครับ มีดใช้ง่ายกว่าปืน ถ้าจะเก็บในรถ คงต้องใส่ปลอกยัดไว้ในกล่องมีกุญแจล็อค เก็บไว้ใต้ยางอะไหล่ ให้หยิบได้ยากๆ นั่นแหละครับ ถึงจะพอหลุดได้ เก็บมีดไว้ในบ้านชัวร์กว่าครับ เผื่อคุณแม่อยากได้อารมณ์หั่นเนื้อแบบทหารกูรข่า จะได้เอามาลอง เหอๆๆ

 ความคิดเห็นที่: 15 / 28 : 168676

โดย: rex

ซวยแล้วเรา พกไม่ได้เหรอเนี่ย

 ความคิดเห็นที่: 16 / 28 : 168677

โดย: จรเข้น้อย

ขอบคุณคุณน้องชาย ป๋า และพี่ตูฯ มาก ๆ ครับ

ผมเองชอบปืนมาก ๆ แต่หลังจากไปลองฝึกยิงดู ตัดสินใจไม่ซื้อครับ










กระสุนมันแพงครับ

ตอนหลังมาสนใจพวก projectile มากกว่าครับ ไม่ว่าจะเป็นธนู หน้าไม้ (เพราะเงียบและเจ็บปวดกว่า) หรืออาวุธประชิดที่เชื่อได้เสมอ มีด ครับ

 ความคิดเห็นที่: 17 / 28 : 168687

โดย: อ๋อง

เคยเจอตำรวจค้นรถพี่ชาย
เจอมีดพร้าให้คนงานยืมไปดายหญ้าหน้าไซส์งาน

คุยตั้งนานกว่าจะเชื่อ

 ความคิดเห็นที่: 18 / 28 : 168712

โดย: RedZilL@

คห.ที่13ครับ
เห็นด้วยอย่างยิ่ง เห็นด้วยสุดสุด เห็นด้วยครับพ้ม!!!!!!

 ความคิดเห็นที่: 19 / 28 : 168760

โดย: Earth

บราวนิ่ง hi power practical 9 mm เนี่ย มันแพงป่าวครับ ของท่านพ่อให้มา ลูกซ้อมเล่นลูกละ 10 ลูกจริง 20 ก่า ๆ มั้ง หันไปเล่นธนูดีกว่า

 ความคิดเห็นที่: 20 / 28 : 168768

โดย: AL

ไม่ต้องพกอะไร

มีหน้าตาเป็นอาวุธ (หนัก)