Close this window

ขอวิธีหาค่าความหนืดน้ำมันเครื่อง
ใครมีวิธีหรือสูตรคำนวณหาค่าความหนืดที่เหมาะสมกับรถแต่ละคันบ้างครับ?
เท่าที่ดูจากคู่มือไม่ค่อยเข้าใจเพราะให้เทียบกับอุณหภูมิที่ใช้งานก่อนการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องครั้งต่อไป
แล้วเราจะรู้ได้ไงว่าอุณหภูมิที่แน่นอนเป็นเท่าไร? แล้วรถที่ติด Cat. จะเป็นตัวแปรด้วยมั้ย?
เคยลองใช้มาหลายเกรด หลายยี่ห้อ หลายค่าความหนืด แต่ก็สรุปไม่ได้....
โดย: RedZilL@   วันที่: 2 Feb 2006 - 17:22


 ความคิดเห็นที่: 1 / 3 : 172860
โดย: *~B3S~*
ไม่ต้องซีเรียดถึงขนาดนั้นครับ บ้านเราไม่เมืองร้อน ไม่น่ากลัวเหมือน ทางยุโรป ที่ช่วงหน้าร้อน กับหน้าหนาวเค้า อุณหภูมิ ต่างกันมาก ๆ

ดังนั้น ช่วงร้อนจึงต้องใช้แบบหนืดหน่อย แต่พอช่วงหนาว ๆ ก็ต้องใช้แบบใส เพื่อที่อุณหภูมิต่ำ ๆ น้ำมันจะหนืดกว่าปกติ ครับเลยต้องมีตัวแปรเรื่องอากาศเข้ามาเกี่ยวข้างด้วย ลองนึกถึง น้ำมันพืชหรือน้ำมันหมูก็ได้ครับ อยู่ในขวด เวลาเทออกมาก มันจะหนืด ๆ แต่พอลงกระทะร้อย ๆ แล้วก็จะใส่เป็นน้ำเลย ยิ่งถ้าเอาน้ำมันหมูเข้าตู้เย็นด้วยแล้ว จะยี่งข้นขึ้น ถึงขนาดเป็นแข็งหรือเป็นไขได้ (แต่น้ำมันพืชยุคใหม่ ๆ จะไม่เป็นแล้ว แต่ก็จะหนืดจะข้นขึ้นเช่นกัน) น้ำมันเครื่องก็เหมือนกันแหละครับ

ดังนั้นมาตราฐานที่ นิยมใช้งานบ้านเราก็จะดูแค่ อายุเครื่องเป็นหลัก เท่านั้นครับ
รถใหม่ 0-3 ปี ใช้ API 30 ก็พอครับ (ถ้าใช้ 40 ก็ได้ครับ แต่ไม่ควรใช้ 50 หนืดเกินไปเครื่องอืด)
4-8 ปี ควรใช้ API 40 ครับ (อายุราว ๆ นี้ใช่ 30 ไม่เหมาะแล้ว)
7-10+ ควรใช้ API 50 ครับ แต่บางท่านถ้าเครื่องดี ๆ ไม่มีหลวม ก็ใช้ 40 เหมือนเดิมก็ได้

*** เกล็ดเล็ก ๆ ครับ
น้ำมันเครื่องใช้ค่า API ประมาณ 30-50
น้ำมันเกียร์ธรรมดา API ประมาณ 90
น้ำมันเกียร์ Dexron II API ประมาณ 160
น้ำมันเกียร์ Dexron III API ประมาณ 210

สำหรับตัวหน้า w เช่น 0w 5w 10w 15w 20w นั้นให้ดูประกอบเป็นตัวสุดท้ายครับ ถ้า w มีค่าน้อย ๆ ที่อุณหภูมิต่ำ ๆ น้ำมันจะหล่อลื่นได้เร็วว่า w ที่มีค่าสูงกว่า หมายความว่าย่อมทำงานได้ดีกว่าในตอนติดเครื่องใหม่ ๆ ครับ (แบบอีกได้ว่าที่อุณหภูมิต่ำ หรืออากาศเย็นแล้ว มันมันที่มีค่า w ต่ำกว่า จะใสกว่า (หนืดน้อยกว่า) น้ำมันที่มีค่า w สูงกว่านั้นเองครับ

แต่ไอ้ตัวแปรเรื่องค่า w นี่แหละ ที่ทำให้ราคามันต่างกันครับ โดยทั่ว ๆ ไปแล้ว w ยิ่งต่ำ อย่าง 0w นี่ราคาจะสูงกว่าพอสมควร และมักเจอในนั้นมัน สังเคราะห์ 100% เท่านั้น ไม่เจอใน semi ครับ

ถ้าไม่ติดเรื่องงบประมาณ ก็หาซื้อที่ดีที่สุด (เทียบตัวหลังก่อนนะครับ) แล้วค่อยหาค่า w ต่ำที่สุด ที่คุณพอจะซื้อได้ครับ น้ำมันทั่วไปจะมีค่า w ราว ๆ 5w-15w

ถ้าไม่คิดอะไรมากมาตราฐานพอดี ๆ ราคากลาง ๆ ก็มักจะเป็น 10w-40 ครับ
วันที่: 03 Feb 06 - 11:50

 ความคิดเห็นที่: 2 / 3 : 172930
โดย: พ่อข้าวกล้อง
นิวซีดาน สองแสนสี่หมื่นโลแล้วเนี่ยะ ผมใช้ หอย 15W-50 นี่ดีเป่าคับ คุณภู
ผมคงได้เจอคุณภู วันที่ 5 นะครับ
วันที่: 03 Feb 06 - 16:00

 ความคิดเห็นที่: 3 / 3 : 172932
โดย: นายวิศว
ในบางครั้งไม่ควรนำอายุรถมาเป็นตัวแปรนะ มันอยู่ที่ปัจจุบันเราใช้อะไรอยู่ เช่นใช้ API 30 ก็ใช้ไปเรื่อยๆ กี่ปีก็ช่างจนกว่าน้ำมันเครื่องจะหายจากระบบ ซึ่งนั่นหมายความว่าเครื่องหลวมแล้ว ไม่ใช่พอเลย 3 ปี เปลี่ยนจาก 30 เป็น 40 ไม่ถูกต้องเท่าไร แต่ถ้าปัจจุบันอายุรถเกิน 3 ปี น้ำมันใช้เบอร์ 40 อยู่ก็ใช้ต่อไป ความหนืดน้ำมันเครื่องไม่สามารถทดแทนช่องว่างระหว่างแหวนกับกระบอกสูบที่หลวมได้ ยกเครื่องเท่านั้น การสึกหรอที่เราเข้าใจว่าเมื่อใช้น้ำมันเบอร์ 30 จะสึกหรอเร็วกว่า 40 นั้นไม่ใช่ และในทางกลับกันถ้ารถมีการออกแบบให้ฟิตมากๆ เพื่อประสิทธิภาพที่สูงแต่กลับไปใช้น้ำมันเครื่องที่หนืดเกินไป อันนี้แหละครับอันตรายกว่าครับ น้ำมันมาตรฐานปัจจุบัน SJ,SL,SM ฟิล์มบางๆ ของน้ำมัน แข็งมากๆ ครับ ไม่ต้องกลัว, ปัจจุบันผมใช้ 5W30 SJ ของ valvoline มา 5 ปีแล้วครับ ไม่มีปัญหา Protege 1.8 GT (ประกอบไทย)
วันที่: 03 Feb 06 - 16:02