Close this window

ปัญหารอบเครื่องสวิง 323 sedan ปี97 แก้ได้ไหม
ตอนนี้กำลังดู ตัวนี้อยู่ แต่เท่าที่อ่านๆกระทู้ดู จะมีปัญหาเรื่องเดินเบา ติดไปแดงแล้วดับ พี่ๆท่านที่ประสบปัญหา หรือผู้รู้ ช่วยสรุปให้หน่อยได้ไหมครับว่า ปัญหาที่ว่านี้สามารถแก้ให้หายขาดได้ไหม เป็นทุกคันไหม ราคาซ่อมประมาณเท่าไร จะได้เผื่อราคา ใจชอบมาสด้า แต่ชักกลัวๆแล้ว มีใครช่วยฟันธงให้หน่อยได้ไหมครับว่า เอางัยดี
โดย: มือใหม่มากๆ   วันที่: 14 Feb 2006 - 16:31


 ความคิดเห็นที่: 1 / 13 : 176299
โดย: *~B3S~*
ไม่ได้เป็นทุกคันครับ สบายใจได้ ไม่งั้นคงเรียกคืนกันตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว

และก็ซ่อมแล้วจบครับ ก่อนซื้อไปลองขับดูก่อนก้ได้ ถ้าสบายใจก็ค่อยซื้อ ถ้าเจออย่างว่า ก็ไม่ต้องซื้อครับ
วันที่: 14 Feb 06 - 17:37

 ความคิดเห็นที่: 2 / 13 : 176300
โดย: kou
...เป็นปัญหาเฉพาะตัว เฉพาะคัน เฉพาะบางเวลา แก้ให้หายขาดได้แต่ก็หายขาดเฉพาะคันอืกนั่นแหละ บางคันก็คิดว่าหายขาดแล้วแต่ก็อาจกลับมาเป็นได้อีก เป็นปัญหาที่ไม่ใหญ่โตอะไรเพียงแต่ทำให้รำคาญหงุดหงิดเท่านั้น เข้าอู่มาสด้าปรับโน่นเปลี่ยนนนี่นิดหน่อยก็ทุเลาลงหรือหายขาดได้แต่ก็...(วนต่อบรรทัดแรก)....

ฟันธงไม่ได้ครับ แต่คันที่สนใจจะซื้อถ้ามีอาการสวิงก็อย่าซื้อก็แล้วกันครับ

(ของผมแค่โดนรถชนท้ายเบาๆยังหายสวิงเลยครับ 5555!)
วันที่: 14 Feb 06 - 17:38

 ความคิดเห็นที่: 3 / 13 : 176316
โดย: แกงค์ กุก ๆ จัง
แต่ที่รู้ คันของผมยังไ่หายครับ.......อยากหายมากๆเลย
วันที่: 14 Feb 06 - 20:20

 ความคิดเห็นที่: 4 / 13 : 176329
โดย: The_Poom
ไปลองขับดูสิครับ
ขับให้เครื่องร้อนๆแล้วจอดเฉยๆดูว่าสวิงมั้ย
ต่อไปเปิดไฟหน้า เปิดแอร์ดูอาการ
ลองดูจังหวะหมุนพวงมาลัยเลี้ยวสุดๆด้วยว่ารอบตกฮวบๆมั้ย
การซ่อมก็อยู่ที่ว่าจะคลำถูกจุดรึป่าว
1. ล้างปีกผีเสื้อ ล้างisc หรือเปลี่ยนทั้งยวงถ้ามีงบ
2. ปรับองศาจุดระเบิดให้พอดี ปรับรอบเดินเบาให้พอดี
3. ดูจานจ่ายรวมถึงหัวโรเตอร์ในจานจ่าย หัวเทียน สายหัวเทียน แอร์โฟล์ว ไดชาร์จ คอมแอร์
4. ปัญหาสุดท้ายอยู่ที่ECUซึ่งเสียยากมาก
วันที่: 14 Feb 06 - 21:06

 ความคิดเห็นที่: 5 / 13 : 176340
โดย: jabezz
เคยเป็นครับแต่ตอนนี้หาย แสดงว่าซ่อมตรงจุดแล้วอาการดังกล่าวจะหมดไปครับ
ปล.ซ่อมเองครับไม่ได้ให้ช่างซ่อม
วันที่: 14 Feb 06 - 21:31

 ความคิดเห็นที่: 6 / 13 : 176434
โดย: มือใหม่มากๆ
ขอบคุณทุกๆคำตอบนะครับ จะลองทดสอบอย่างที่คุณ The_Poom ดูนะครับ ชอบมาเลยรุ่นนี้
วันที่: 15 Feb 06 - 08:44

 ความคิดเห็นที่: 7 / 13 : 176565
โดย: แก๊งค์ กุก ๆจัง
คุณ Jabezz ไปทำอะไรมั่งครับ ถึงหายอ๊ะ
วันที่: 15 Feb 06 - 15:30

 ความคิดเห็นที่: 8 / 13 : 176576
โดย: พ่อข้าวกล้อง
ของผม ซ่อมแล้วก็หายสนิทเลย แถมขับมัน ประหยัดน้ำมันมากด้วย
วันที่: 15 Feb 06 - 16:08

 ความคิดเห็นที่: 9 / 13 : 176701
โดย: jabezz
ตอบ คุณกุกๆๆจัง ครับ คือโดนชนท้ายแล้วหาย(มั้ง)ครับ อ่ะล้อเล่น
ก่อนอื่นเช็คจานจ่ายครับว่ามีไฟรั่วอะป่าว วิธีง่ายๆครับนี่เลยพอตอนมืดๆหรือหัวค่ำไม่มีแสงไฟท่านก็ไปต๊าด
รถเลยครับแล้วดึงสายหัวเทียนสายใดก็ได้ดึงออกมาขณะที่เครื่องยังติดอยู่แต่ไม่ต้องเอาออกมาเลยเบ้าหัวเทียนนะครับ
ดึงออกมาให้ห่างหัวเทียนประมาณ 1 นี้วเพื่อให้ไฟยังวิ่งจากสายปลายหัวเทียนกระโดดไปยังหัวเทียนได้ถ้าดึง
ห่างมากเครื่องจะดับครับแล้วสังเกตุบริเวณสายหัวเทียนว่ามีไฟสีเขียวๆกระโดดไปยังฝาครอบวาวล์หรือป่าว
เมื่อนำสายหัวเทียนสายที่ถอดออกจากหัวเทียนไปใกล้กับฝาครอบวาวล์ที่เป็นอลูมินั่ม
ถ้ามีไฟกระโดดมมองเห็นชัดเจนแสดงว่าจานจ่ายมีไฟรั่วไหลครับหรือจะมีก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
สาเหตุของการรั่วอาจมาจากคอยเสื่อมหรือฉนวนหมดสภาพหรือเกิดจากความชื้นเช่นมีคราบน้ำมันเกาะที่
จานจ่ายลองเอามือไปลูบใต้จานจ่ายดูว่ามีคราบน้ำมันหรือป่าวถ้ามีแสดงว่า O-Ring ที่คอจานจ่าย
หมดสภาพรีบหามาเปลี่ยนซะ ก่อนถอดจานจ่ายอย่าลืมมาร์คตำแหน่งจานจ่ายด้วยนะครับเวลาใซจะได้
สะดวกและอยู่ในสภาพเดิมก่อนถอด
ส่วนจานจ่ายนี่สามารถถอดออกมาทำความสะอาดไดครับโดยการเปดฝาครอบออกมาขัดหน้าทองขาวที่อยู่
ภายในฝาครอบที่เป็น 4 จุดของแต่ละหัวเทียนรวมถึงขัดหัวโรเตอร์ก็ไอ้ตังที่หมุนตัดผ่านหน้าทองขาวนั่น
แหละครับแล้วประกอบกลับเข้าไปจริงๆแล้วผมถอดมากกว่านั้นอีกประมาณว่าถอดทุกสเตจเลยแต่ไม่แนะนำครับ
ถ้าซิลิโคลนยังแน่นอยู่ถ้าถอดออกทุกสเตจจะต้องเลาะซิลิโคลนเก่าทิ้งแล้วอัดซิลิโคลนใหม่และปล่อยให้แห้ง
ซึ่งยุ่งยาก
เมื่อประกอบจานจ่ายกลับเข่าที่แล้วก็ไปดูที่ปีกผีเสื้อและ isc ถอดออกมาล้างด้วยน้ำมันเบนซิลแต่ถ้าไม่กล้า
ถอดหรือไม่มีเครื่องมือแนะนำให้ช่างล้างให้ครับ
อีกจุดหนึ่งที่สำคัญคือ socket ของสายไฟต่างๆโดยเฉพาะของแอร์โฟถอดออกมาแล้วใช้แปลงสีฟันจุ่ม
แอลกอฮอร์ถูที่ขา socket ของแอร์โฟทั้สองด้าน(ตัวผู้-ตัวเมีย)ปล่อยให้แห้งแล้วเสียบเข้าไปใหม่
เคยเจอมาแล้วแค่ขาแอร์โฟสกปรกทำให้รอบสวิงได้แต่อาจจะไม่เป็นแบบเดียวกันทุกคันนะครับคันอื่นอาจจะเป็นที่จุดอื่น
ขอออกตัวไว้ก่อนส่วนมากจะไปตกอยู่ที่จานจ่ายเสื่อมเนื่องจากเกินสิบปีแล้วแต่บางคันเปลี่ยนจานจ่ายแล้ว
ก็ยังไม่หายก็มีต้องเช็ครายละเอียดอื่นๆดังที่กล่าวมาด้วยครับ ลองไปทำดูนะครับ
วันที่: 16 Feb 06 - 03:46

 ความคิดเห็นที่: 10 / 13 : 176712
โดย: เล็ก กุกๆ .. จัง
แล้วคุณพ่อข้าวกล้องเปลี่ยนอะไรมาบ้างละครับ ..ไม่เห็นบอกกันมั่ง
วันที่: 16 Feb 06 - 08:38

 ความคิดเห็นที่: 11 / 13 : 177878
โดย: เอ
กล่อง ECU เสียยากครับ แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่เสีย เพราะผมโดนมาแล้ว ยังงัยตรวจตามที่คุณ Poom บอกก่อนครับ
วันที่: 21 Feb 06 - 12:40

 ความคิดเห็นที่: 12 / 13 : 178288
โดย: 323 sedan '97
ผมใช้ 323 sedan '97 ใช้มาสักพักก็ออกอาการเลย ศูนย์ใจก็ใจดีพ่วงสาย ground กับ isc ให้เส้นหนึ่ง ฟรีไม่เสียตังค์ เพราะมีเอกสารจากทาง บริษัทกมลฯ ให้ทำในคันที่มีปัญหา แต่ไม่ยักกะเปลี่ยนเสายไฟทั้งชุดให้แฮะ (มารู้ทีหลังว่าแพงมาก ของนอก 16,000 ได้มั้ง ของไทย 1,600) ก็โอแคดีขึ้น แต่ไม่นานก็เป็นอีก เป็นๆหายๆ น่ารำคาญอย่างที่สุด ขนาดช่างยังบอก เป็นบางคัน บางคันแก้ก็หาย แต่บางคันก็ไม่หาย (ทำไมต้องเป็นคันของตูด้วยฟ่ะ) แต่ก็ยังทนใช้เรื่อยมา เพราะไม่มีเงินไปเปลี่ยนรถใหม่ ผ่อนยังไม่หมด สักพักก่อนกมลฯจะเลิกก็มีบริการคล้ายๆกับ call center ก็เลยโทรไป เขาก็ให้เข้าไปรับการแก้ไข ล้างนู้นล้างนี่ให้ ก็รู้สึกดีขึ้น (คน) แต่ไม่ดีขึ้นเลย (รถ) ก็เริ่มหน่ายอีกครั้งหนึ่ง สุดท้ายก็ให้ศูนย์สั่งสายไฟที่คิดว่าเป็นต้นเหตุของปัญหา คือจาก ecu ไป isc เปลี่ยนเสร็จก็รู้ว่าไม่ใช่หวะ ยังเป็นอยู่ เริ่มรู้สึกเซ็ง อย่างแรง ทำไงดีหว่า ก็มั่วๆทำไป พ่วงสาย ground บ้าง ปรับลดองศาจุดระเบิดบ้าง ถอดแบ็ต reset กล่องบ้างหละ ทำสาระพัด ก็ยังไม่หายสนิท เป็นๆหายๆ ถึงช่วงนี้ก็ทำใจละ ใช้ๆไปดับก็ปล่อยคลัชกระตุกติด (แต่ถ้ามันไม่ติดหละก็ เสียวตูดดีฉิบ) และแล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึง เอารถเข้าศูนย์เช็คตามปกติ คิดว่าช่างดันทำท่อ vaccum ตรงหลัง isc หัก ถามราคาดู สองพันกว่า โอเค ต่อเองก็ได้วะ ก่อนรับรถดันไม่เช็ค ซวยไป ก็ถอดออกมาต่อกาว ระหว่างต่อ ตรงก่อน isc มันก็ท่อกลวงๆโบ๋ๆ ก็เลยเอาสายจากกระป๋องดำๆที่ปกติมันต่อกับ vaccum มาต่อ by pass แทน ใช้ไปก่อน แปลกแฮะ อาการดีขึ้นผิดหูผิดตา ไม่เคยดับให้เห็น รอบไม่สวิงเหมือนแต่ก่อน ประหยัดน้ำมันขึ้น จากเดิม 12 km/l เพิ่มเป็น 14 km/l (จะถือว่าเป็นอุปทานก็ได้ แต่ก็ประหยัดอ่ะ) ก็เลยไม่ต่อมันกลับ ทิ้งไว้งั้นแหละ ใช้สบายใจขึ้นเยอะ ใครอยากลองก็แค่ปลดสายสลับกันก็ได้ ไม่ต้องถึงกับถอดออกหรอก ถอดใส่ยากอยู่เหมือนกัน ไม่ดีก็ใส่คืน เผื่อหาย แต่ไม่รับประกันความเสียหายเด้อพี่น้อง อาจจะเป็นเฉพาะคันของผมก็ได้ ไม่ยืนยัง เพราะยังไม่เคยเอาวิธีนี้ไปทำกับคนอื่น ใครลองทำแล้วเป็นไงก็เล่าให้ฟังบ้างเด้อ
วันที่: 22 Feb 06 - 21:55

 ความคิดเห็นที่: 13 / 13 : 178311
โดย: O-Omega
เล่าสนุกดีคับ อิอิ
วันที่: 23 Feb 06 - 00:15