1.เคยเปลี่ยนที่ศูนย์ทุกหมื่นโลพร้อมไส้กรอง โดยใช้นำมันเครื่องคาลเทกแบบสังเคราะห์ 4 ลิตร1672.90 บาท
2.ถ้าจะเปลี่ยนเป็นถ่ายตามร้านทั่วไปซึ่งเค้าแนะนำว่าเปลี่ยนเป็นน้ำมันเชล เฮลิก พลัส 4 ลิตร 655 บาท
ทุก 5 พันโล จะดีกว่าเพราะไส้กรองน่าจะเปลี่ยน ทุก 5พันโล
ปัญหาคือรถรุ่นนี้เปลี่ยนการถ่ายนำมันเครื่อง จากข้อ1 เป็น 2 เครื่องยนต์จะเป็นอะไรรึปล่าวค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ

โดย: a   วันที่: 16 Mar 2006 - 10:13

 ความคิดเห็นที่: 1 / 15 : 183063

โดย: บาส

ถ้าจะเปลี่ยนจากสังเคราะห์เป็น กึ่งสังเคราะห์
แล้วยิ่งเปลี่ยนจากคาลเท็กซ์ เป็น เชลล์ด้วย
ผมว่าอย่าเปลี่ยนเลยครับ

โดยปกติ ไส้กรอง จะมีอายุการใช้งานประมาณ 10000 โล
นั่นหมายถึง ถ้าเปลี่ยนนนำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์ ทุก 5000 โล
ก็เปลี่ยนไส้กรอง ครั้งเว้นครั้ง ก็ได้

อีกประการคือ น้ำมันสังเคราะห์จะมีคุณสมบัติทางเคมี ที่มีความหลื่อลื่นมากกว่า
ซึ่งจะส่งผลให้เครื่องยนต์สะอาดมากขึ้นครับ

แต่ไม่ว่าจะเปลี่ยนทุก 10000 หรือ 5000 โล
ถ้าเปลี่ยนตรงตามระยะทางที่กำหนด
เครื่องยนต์ก็จะใช้งานได้ปกติครับ

 ความคิดเห็นที่: 2 / 15 : 183071

โดย: a

ขอบคุณค่ะคุณบาส
แล้วไส้กรองนี่มีแบ่งเป็นเกรด การใช้งานรึปล่าวค่ะ

 ความคิดเห็นที่: 3 / 15 : 183113

โดย: oxoxox

เชลล์กึ่งสังเคราะห์ใช้ แล้วเสียงเครืองสูสีกับ isuzu เลย (วาล์วดังสนั่น)

หลีกๆยี่ห้อนี้ใว้เป็นดีคับ

ใส้กรองใช้ของแท้ดีกว่า แพงกว่าของเชลล์ไม่กี่ตัง

 ความคิดเห็นที่: 4 / 15 : 183161

โดย: เจ

ผมเปลี่ยนของเซลล์ประจำ มิน่าวาวล์ดังตลอด

 ความคิดเห็นที่: 5 / 15 : 183163

โดย: a

แล้วท่านอื่น ใช้แบบไหนแล้วดีช่วยแนะนำด้วยค่ะ

 ความคิดเห็นที่: 6 / 15 : 183164

โดย: a

ไมล์เกือบ 2 แสนค่ะ

 ความคิดเห็นที่: 7 / 15 : 183181

โดย: แรงตอนเมา

1.การใช้งานหากเกินระหว่าง 100000-200000 โล ไม่ควรใช้สังเคราะห์ 100 % เนื่องจากเครื่องยนต์มีการสึกหรอพอสมควร ควรเพิ่มความหนีดของน้ำมันเครื่องเพื่อรัษาส่วนที่สึกหรอไม่ให้เพิ่มไปกว่านี้
2.น้ำมันเครื่องควรมีความหนืดพอประมาณ เหมาะสมที่สุด คือ 10W40 กึ่งสังเคราะห์ ถ้าเป้นของ PTT ก็ 380 บาท 4 ลิตร แถมอีก 1 ลิตร
3.ควรเปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่องไปพร้อมกันเลย แม้จะไม่ถึงระยะที่ควรเปลี่ยนก้ตาม ซึ่งราคาไม่ได้สูง
ราคากรองของแท้ 150 บาท ของเทียม 100 บาท แล้วแต่จะเลือกเอาล่ะกัน
4.เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุกครั้ง ควรล้างเครื่องด้วยฟัชชิ่ง ออยล์ ราคาก็ 180 บาท เติมเข้าไปและเดินเครื่องยนต์ทิ้งไว้ 30 นาที โดยไม่ต้องเหยียบคันเร่ง เพื่อล้างคราบต่างๆที่สะสมมานานออก และลดเสียงอาการวาล์วดัง เนื่องจากคราบน้ำมันที่แข้งติด ไฮโดรลิกลิฟเตอร์ ทำให้วาล์วปิดไม่สนิท ดีขึ้นอีกด้วย

 ความคิดเห็นที่: 8 / 15 : 183182

โดย: แรงตอนเมา

ลืมบอกไป...หากเปลี่ยนมาใช้กึ่งสังเคราะห์...ควรสตาร์ทไว้ซัก 3-5 นาที ก่อนการออกรถทุกครั้ง เพื่อให้น้ำมันเครื่องไปไหลเวียนในส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ก่อนทุกครั้ง

 ความคิดเห็นที่: 9 / 15 : 183217

โดย: อธิบดี

งงครับ ทำไมห้ามใช้สังเคราะห์หลังแสนโล
ไม่เคยได้ยินตำราไหนบอก
เคยแต่ได้ยินว่าถ้าเครื่องหลวมนิด ๆ
ให้ใช้น้ำมันเครื่องที่มี "ความหนืด" สูงหน่อย
ความหนืดเท่ากัน จะเป็นสังเคราะห์หรือธรรมดาหรือกึ่งสังเคราะห์ก็จะต้องหนืดเท่ากันครับ

ไม่ว่าจะใช้น้ำมันเครื่องตัวไหน ถ้ารอให้น้ำมันเครื่องยนไปเลี้ยงก่อนได้ เป็นดีหมดครับ
แต่ไม่ใช่แบ่ง "สังเคราะห์" กับ "กึ่งสังเคราะห์" ....
เพราะถ้ามันหนืดเท่ากัน มันก็ลื่นเท่ากัน
สังเคราะห์จะดีกว่าในแง่ของการรักษาคุณสมบัติในการใช้งานแบบโหดสุด ๆ
ซึ่งรถบ้านธรรมดา ๆ แบบโครโนสนั้น แทบจะไม่มีความจำเป็นเลย

คู่มือรถคือหนังสือที่เชื่อถือได้ที่สุด ก็ยังไม่มีบอกข้อนี้เลย
ถ้ารถคันไหนจำเป็นต้องใช้น้ำมันเครื่องแปลกประหลาด
คู่มือจะบอกไว้เสมอครับ

เราเติมน้ำมันที่มีความหนืดที่เหมาะสม จะสังเคราะห์หรือไม่นั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ครับ
เพราะคู่มือไม่เคยระบุว่าต้องใช้สังเคราะห์ API เองก็ไม่เคยให้ตราคุณภาพจากการพิจารณา
ว่ามันเป็นสังเคราะห์หรือไม่สังเคราะห์

ถ้าเป็นสังเคราะห์ก็ใช้ได้นานหน่อยแค่นั้นเอง ที่เราว่าถ่ายสังเคราะห์มาแล้วลื่น ๆ กันน่ะ
ต้องตัด "ความใหม่" ของมันออกไปจากการพิจารณาด้วยนะครับ เพราะคนที่เปลี่ยน "กึ่งสังเคราะห์"
ใหม่ที่ความหนืดเท่ากัน เค้าก็คงรู้สึกแบบเดียวกันเช่นกัน

ตอนผมอยู่เมืองนอกเนี่ย น้อยคนมากที่จะใส่สังเคราะห์กับรถบ้าน
แต่เมืองไทยนี่ คนละเรื่องครับ
การตลาดของ บ. น้ำมันเครื่องตั้งใจวางสังเคราะห์ให้มันดีกว่าธรรมดา และใช้ได้กับรถทุกคัน
กลายเป็นว่า ถ้าใช้น้ำมันเครื่องธรรมดา เครื่องจะสึกหรอสูงกว่า
แต่ในความเป็นจริง "ข้อดี" ของน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ นั้น ไม่ได้จำเป็นสำหรับรถทุกคันหรอกครับ

อย่างผมใช้สังเคราะห์ เพราะ Driving Condition ของผมมันโหดกว่าเครื่องธรรมดา ๆ ทั่ว ๆ ไปแต่ถ้าโครโนสธรรมดา ๆ เนี่ย ใช้น้ำมันเครื่องธรรมดาแล้วถ่ายที่ห้าพันได้น่าจะดีกว่าด้วยซ้ำ

น้ำมันเครื่องใหม่ ๆ ถ่ายบ่อย ๆ เนี่ยดีนะครับ

 ความคิดเห็นที่: 10 / 15 : 183223

โดย: sixer

งงกับคห.7-8 ด้วยคน

เห็นด้วยกับทั่นอธิบดีฯ

แค่แบบธรรมดา เกรด API เป็น SL หรือ SM
ก็เหลือเพือเรื่องการปกป้องแล้วครับ สำหรับเครื่องรถบ้านไม่ได้โมฯเพิ่ม

จะใช้สังเคราะห์หรือกึ่งสังเคราะห์ก็ดีครับ ถ้ามีกำลังทรัพย์
เพียงแต่ทั่นอาจจะไม่ได้ใช้ข้อดีของมันเต็มที่เท่านั้นเอง
โดยเฉพาะคนส่วนใหญ่ (คนแถวนี้หลายคนไม่ใช่) ที่นานๆทีถึงจะเคยลากรอบไปเรดไลน์สักครั้ง

 ความคิดเห็นที่: 11 / 15 : 183254

โดย: ran

แนะนำครับ ผมใช้cornos 5d 200000km ออกรถป้ายแดง ใช้mobil1สังเคราะห์ ถ่ายทุก10000kmพร้อมเปลี่ยนกรองเครื่อง กรองอากศ น้ำมันเกียร์caltex dextonlll ถ่ายทุก20000 km น้ำมัน95 หัวเทียน 30000 km ถ่ายน้ำหม้อน้ำ30000 km ง่ายๆแค่นี้ล่ะตรับ วาวล์ไม่ดังเครื่องเหงียบ เกียร์ไม่กระตุก [dextonlllนะ] อย่าไปคิดอะไรให้ยาก ยินดีแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

 ความคิดเห็นที่: 12 / 15 : 183265

โดย: ป้อง

ผมใช้ cornos 5d 200000km เหมือนกันครับ
แต่ใช้น้ำมันเกียร์ออโต้ DextronII

ตอนนี้เกียร์ผมมันมีปัญหาชอบมีอาการเหมือนเลี้ยงครับ ถ้าเติม DextronIII เกียร์มันมีอาการเหมือนเลี้ยงครัชช่วงเปลี่ยนเกียร์ 2 - 3 มากๆครับ พอเติม DextronII แล้วอาการเลี้ยงครัชน้อยลงครับ

 ความคิดเห็นที่: 13 / 15 : 183267

โดย: แรงตอนเมา

ตอบ ค. ห. 11 รถโครโนส สำหรับเกียร์ออโต้ คลัชจะบางมาก เมื่อท่านใช้น้ำมันเกียร์ Dexron III จะทำให้คลัชลื่นและทำให้อายุการใช้งานสั้นลงและบางครั้งอาจเกิดอาการกระตุก...เป้นช่วงๆ น้ำมันเกียร์ที่เหมาะสมกับระบบเกียร์ออโต้ของโครโนส คือ Dexron II หรือ Dexron II D

 ความคิดเห็นที่: 14 / 15 : 183293

โดย: a

แล้วที่ว่าจะเปลี่ยนมาใช้ เชลล์กึ่งสังเคราะห์ แล้ววาวล์ ดัง ท่านอื่นใครเคยใช้ของเชลบ้างค่ะ
แล้ววาวล์ดังไหมค่ะ (วาวล์ดังเพราะน้ำมันเครื่องเป็นจริงรึค่ะ)

 ความคิดเห็นที่: 15 / 15 : 183345

โดย: อธิบดี

วาล์วไม่ได้ดังเพราะน้ำมันเครื่อง
แต่ถ้าดังแล้ว
การเลือกน้ำมันเครื่องที่มีความหนืดที่เหมาะสม
จะทำให้เสียงเบาลงไปได้บ้าง