หลังจากที่ได้ตกงานอย่างเป็นทางการ ก็วางแผนเที่ยวได้เต็มที่ เริ่มจาก
นครนายก น้ำตกวังตะไคร้ 1 คืน กับ โห้ยยย จำชื่อรีสอร์ทไม่ได้ แก่แว้ววว ราคา 800 บาท บ้านหนึ่งหลัง ได้พาเจ้ามิตซูบิชิ ไททัน 4 ประตู ไม่โฟว์ไป น้ำมันไปกลับ เข็มขยับลงนิดเดียว ยังงงว่าทำไมประหยัดขนาดนี้ ค่าใช้จ่ายทริปนี้ สองวันหนึ่งคืน เป็นเงิน 2 พันก่า ๆ เท่านั้น
เพชรบุรี ชะอำ พักที่บ้าน เนื่องจากกลับไปเยี่ยมพ่อกับแม่ซะหน่อย เลี้ยงฉลองกับการตกงานอยู่ 2 คืน หมดค่าใช้จ่ายไป หมื่นก่า ๆ เท่านั้นเอง เฮ้ออออ
หลังจากอยู่บ้านและเที่ยวหัวหิน ปราณฯ ได้สามวัน สองคืน ก็เริ่มเบื่อ แต่ยังไม่อยากกลับกรุงเทพ เลยหาเรื่องกับเจ้าไททันคันเดิม เหตุผลที่ให้กับพ่อและแม่คือ รถเพิ่งซื้อนะค่ะ ขึ้นไปลองสมรรถนะกันเหอะ และจะไปเรื่องที่ดินด้วย
เลยตัดสินใจขึ้นเหนือในวันนั้นเลย กลับครอบครัวน้องสาว น้องเขยและหลานซน ๆ อีกสองตัว
คืนแรกพักที่ลำปาง (บ้านพ่อ) ที่แม่เมาะเติมน้ำมันเต็มถังจากชะอำ มาเกือบหมดตรงอีก 18 โลถึงตัวเมือง ประหยัดอะไรขนาดนี้
แล้วก็เช้าไปทำธุระที่อำเภอเรื่องที่ดินของที่บ้าน
ต่อจากนั้น ก็ขับไป
เวียงป่าเป้า เชียงราย ถนนคดเคี้ยว ขึ้นเขา ลงเขา ทำทางบางช่วง ถามว่า จะไปทำไมอะเหรอ ก้อเพื่อไปดูบ้าน ซึ่งไม่เคยสนใจได้ไปดู บ้านหลังนี้ได้มาโดยที่ลูกหนี้เอาบ้านและที่ดินมาให้เพราะเขาไม่มีเงินใช้คืนแม่ เซ็งเลย ไกลก็ไกล ไปดูแลปีละครั้งเอง
หลังจากเสร็จธุระเรื่องบ้านเพราะไปติดต่อเรื่องฝากขายนั่นเอง (ปล.ไม่เอาเงินมาคืนแม่ยังแถมต้องมาเดือดร้อนขายบ้านมานนอีก เห้อออ)
ก็โทรหาอาที่เป็นตำรวจ เช็คเรื่องที่พักที่
แม่สาย เชียงราย ก่อนเข้าที่พัก ก็ไปทานหมูกระทะที่แม่สาย ที่นั่น สะอาดดี อร่อยด้วย คนเสริฟก็ขาววว สวยยย สไตล์คนเหนือ หัวละเท่าไหร่จำไม่ได้เพราะอาจ่าย คืนที่สอง สรุปได้ที่ ภูตะวันรีสอร์ท บรรยากาศดี เริ่มเย็น ๆ แล้ว เฮ้อออ เจอความหนาวซะทีนะเรา
ราคา 800 บาทต่อคืน ได้ส่วนลดตำรวจ สภอ.แม่สาย เหลือ 640 บาท คริ คริ
ตื่นเช้ามา ก็ไป ช้อปที่สุดเขตแดนไทย(แม่สาย) นั่นเอง หลังจากเสกอะไรเข้าท้อง(อาหารเช้า) โดนอาจ่ายอีกต่างหาก คร คริ เรียบร้อยแล้ว ก็ล่ำลาอาเพื่อจะไปตามหาดอยอินทนนท์ต่อ โดยที่อาบอกเส้นทางอย่างดี ไม่ต้องผ่านตัวเมืองเชียงรายนะหลาน แล้วจะถึงเอง
สรุป
คืนที่สาม มาพัก ที่เชียงใหม่ เวียงดอยรีสอร์ท ม้างงหากจำไม่ผิด คงสงสัยว่า ทำไมไม่ขึ้นดอยไปตามหาฝัน สรุปว่า อาบอกทางผิด ไอ้ที่ผ่านเนี่ยไม่ใช่ดอยอินทนนท์ แต่มันเป็นดอยแม่สะลอง แล้วเราก็ดันหยิ่งไม่พักซะนิ เสียดายเจง ๆ
คือว่า เจ้าดอยอินทนนท์เนี่ย มันอยู่ระหว่าง จ.ลำปางกับเชียงใหม่ ไม่ใช่ เชียงรายกะเชียงใหม่เจ้า เซ็งอาเลย
ทางที่ผ่านไปตัวเมืองเชียงใหม่ ขึ้นเขาชันด้วย ถนนก็ไม่ดี โค้งเยอะมากกกกกก แต่ที่เห็นเขาสวยมากกกกก ก็ดอยเชียงดาว สวยเจง ๆ เขาสูงมาก ถามคนแถวนั้นบอกว่า ต้องจอดรถแล้วจะมีคนพาเดินขึ้นไปกางเต้นท์ มาตกลงกันในรถ อย่าไปดีกว่า เพราะเรามีเด็กด้วย เอาไว้คราวหน้าก่อน ติดไว้ก่อนน๊ะ
แล้วเราก็มาพักที่เชียงใหม่แทน เลยต้องเปลี่ยนแผนเล็กน้อย ก็ได้โทรหาเจ้าเปิ้ลพายุถามหารีสอร์ทที่เคยไปพักกับป้าเอื้อยเมื่อสองปีที่แล้ว พอเข้าไปเช็คค่าห้องแพงขึ้น แถมพักได้แค่ 2 คน เลยเปลี่ยนไปพักอีกที่หนึ่งใกล้กันแทน ในราคา 1000 บาท บ้านหนึ่งหลัง เตียง 3 เตียงใหญ่ ๆ คุ้มมาก ตอนกลางคืนก็ไปหาอะไรทานกันที่ ร้านอาหารกาแล หลังมช. บรรยากาศดีมากกกก ขอบอก แต่อาหารก็อร่อยงั้น ๆ แต่อากาศหนาวแว้วววว แล้วก็ไปเดินดูสาว มช.กันต่อ จากนั้นก็กลับไปนอนพัก เพื่อจะเดินทางต่อตอนเช้าไปดูราชพฤกษ์ตามคำเรียกร้องของเด็ก ๆ ตื่นเช้ามา ไปทานโจ๊ะในตลาด เขาว่า ดังมาก แต่ขอบอกว่า ไม่อร่อยเลย เห็นรูปเจ้าของร้านถ่ายกับดาราเพียบ ยังนึกในใจ มาทานกันได้ไง กรุงเทพหร่อยกว่าอีกอ่ะ
แล้วก็ไปดูต้นไม้ โดยน้องสาวกับหลาน ๆ ไป เพราะขี้เกียจเดิน แต่หลังจากนั้น สองชม. ก็โทรมาบอกว่า มารับกลับเหอะ เหนื่อยแล้ว ร้อนด้วย แต่ดอกไม้สวยดี ถ่ายวีดีโอมาเพียบ แล้วก็เดินทางต่อ
คืนที่สี่ ตามใจฝันซะที
ดอยอินทนนท์ หนาวสมใจ ได้ที่กางเต้นท์สมใจอีกต่างหาก กับทีมป้า ๆ อีก 9 คน รถสามคัน รู้จักกันที่นั่น มื้อเย็นมื้อนั้น หากไม่ได้น้องนิ้งค์ หลานสาวตัวน้อยเสียงใสไปอ่อยจนป้า ๆ หลงไปตาม ๆ กัน พวกเราคงจะไม่ได้ทานอะไรเพราะหาซื้อไม่ได้เลย (หวังน้ำบ่อหน้าก็เงี้ยหล่ะ ขับอีกนิดน๊า เดี๋ยวข้างหน้าก็มีขาย สรุปไม่มีอ่ะ) เจอแต่ตลาดกะเหลี่ยง ได้ทาน ลาสเบอรรี่ด้วยอ่ะ อร่อยดี ข้าวโพดต้มก็อร่อย ผลไม้ก็อร่อย หลังจากนั้นก็นอน แล้วก็ตื่นตอนตีห้าสิบห้านาที เนื่องจากเจ้าหลานสาวอยากไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกับพวกป้า ๆ ทั้งหลาย เลยต้องแหกขี้ตาตื่นไปด้วย เพราะไม่กล้าฝากหลานไปกับป้า ๆ ณ เมืองชล กลัวขโมยหายไปอ่ะ แต่ขอบอกว่า สวยมากกกกกกก คุ้มค่ากับการตื่นจริง ๆ แต่หนาววววววววววววววววววววมากกกกก
ลงจากรถแล้วต้องวิ่งขึ้นมาเอาผ้านวมผืนโตมาห่ม เพราะหนาวววววมาก ทนไม่ไหว แต่เจ้าเด็ก ๆ นี่ดิ ไม่รู้จักหนาวกันเลย วิ่งเล่นกันอีกต่างหาก เห้อออออ
หลังจากนั้น ก็ถึงคราวต้องเดินทางกลับแล้ว
สรุป ทริปนี้ ใช้ค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 2 หมื่นก่า ๆ รวมค่าน้ำมันแล้ว 5พันกะหนึ่งร้อยก่า ๆ เอง ใช้ความเร็วทางตรง เฉลี่ย 120-140 กม/ชม. ระบบเบรคดี การขับขึ้นเขาเกียร์สามขึ้นได้สบาย รอบจัดเหมือนเจ้าของ
ความหนึบตอนเข้าโค้งดีมาก ...ค่าใช้จ่ายเท่าที่บอกเนื่องจากว่า ช้อปตลอด เจออะไรขายไม่ได้ ต้องช่วยอุดหนุน ร้านเพิงข้างทางเนี่ย แทบทุกจุดที่ผ่านต้องซื้อ น้ำหนักขึ้นหนึ่งกิโล สบายใจไป
ตอนนี้กลับมาสู่กรุงเทพแล้ว ขับโปเต้แทบไม่เป็นเลย เพราะพวงมาลัยรู้สึกหนักกว่าไททันอีกอ่ะ คงต้องเริ่มทำงานแล้ว เวปก็ยังไม่เสร็จ ก๊ากกกก
แล้วเจอกันค่ะเพื่อน ๆ เอาไว้ไปเที่ยวไหน ก็บอกนะค่ะ ตอนนี้มีอยู่ในใจแล้ว คือ กางเต้นท์เขาใหญ่ แต่เศร้าที่ถุงนอนดันหายตอนขับกลับลงมาจากเหนืออ่ะ เสียดายจัง
ส่วนเขาใหญ่ คิดว่า คงไปเร็ว ๆ นี้ หากใครสนใจก็ปายด้วยกันได้นะคร๊า
ด้วยรักและคิดถึง