ล้างแอร์ กับเติมน้ำยาแอร์ ราคาเท่าไหร่ ผมยังไม่เคยทำเลย เพราะมันยังเย็น แต่ก็อยากเปลี่ยนบ้างหรือมีวิธีการตรวจสอบอย่างไรว่า เราควรเติมน้ำยาหรือล้างแอร์
ลืมไปรถเป็นรุ่น 323 SEDAN 95

โดย: tun323   วันที่: 24 Nov 2006 - 23:40

 ความคิดเห็นที่: 1 / 7 : 236647

โดย: แขก

ล้างตู้ แว๊ก+เติมน้ำยาประมาณ 1200-1500 แล้วแต่ร้าน แต่ถ้ามันยังเย็นฉ่ำอยู่ก็ไม่ต้องไปทำให้เสียตังค์หรอกครับ ถ้ามีความรู้สึกว่าลมที่ออกมาจากช่องแอร์เบามากเมื่อไหร่ค่อยคิดล้างครับ เพราะตู้แอร์ตันเนื่องจากว่ามีฝุ่นผงไปอุดตันที่ครีบระบายความเย็นของตู้แอร์ ส่วนน้ำยาให้สังเกตุที่กระจกมองน้ำยาที่หัวดรายเออร์ดูว่ามีฟองมากหรือว่ามีฟองน้อย หรือว่าไม่มีฟองเลย (เร่งรอบเครื่องไว้ที่ 1500) ถ้ามีฟองมากแสดงว่าน้ำยาขาด ระบบรั่วต้องทำการแก้ไขรอยที่รั่วให้หาย ถ้าไม่แก้ไขเติมน้ำยาเข้าไปน้ำยาก็รั่วออกมาอีก วิธีเช็ครอยรั่วก็ให้ดูตามท่อทางเดินของน้ำยาแอร์ แผงคอนเดนเซอร์หน้ารถ และตามข้อต่อต่างๆ ว่ามีคราบขี้ฝุ่นเปียก หรือคราบน้ำมันเกาะอยู่หรือเปล่า ถ้ามีก็แสดงว่ารั่วตรงที่เห็น แต่ถ้ามีฟองในปริมาณที่น้อยถือว่าพอรับได้ ให้สังเกตุดูหลายๆครั้ง หลายๆวันว่าปริมาณฟองที่เห็นว่าน้อยนั้น มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นหรือเปล่าถ้าไม่เพิ่มก็แสดงว่าปกติ แต่ถ้ารบบสมบูรณ์ดีจริง เวลาที่ระบบทำงานแล้วตามรอบเครื่องข้างบนที่บอกจะต้องไม่เห็นฟองเลย

 ความคิดเห็นที่: 2 / 7 : 236648

โดย: แขก

ตู้แอร์ตันเพราะมีฝุ่นไปอุดที่ครีบระบายความเย็น

 ความคิดเห็นที่: 3 / 7 : 236649

โดย: แขก

แถมอีกรูนึง เป็นตอนที่กำลังล้างตู้อยู่ครับ

 ความคิดเห็นที่: 4 / 7 : 236650

โดย: แขก

รูปไม่ขึ้นน่ะ

 ความคิดเห็นที่: 5 / 7 : 236651

โดย: tun323

ขอบคุณมากครับคุณแขก

 ความคิดเห็นที่: 6 / 7 : 236998

โดย: aui

เล่าให้ฟังนิดนึงครับของผมก็รุ่นเดียวกับคุณ ของผมคอมแอร์ตัดบ่อยมาก แล้วรอบสวิงขึ้นลง แต่แอร์ยังเย็นปกติ มองที่ ไดร์เออร์ ดูเวลาสตาร์ท แล้ว มีฟองน้ำยามาก คิดว่าน้ำยาขาดระบบคงจะรั่ว เลยเอารถไปเติมน้ำยาแอร์ อย่างเดียว เสียไป250 บาท เวลาสตาร์ท มีฟองน้อยมากแทบไม่มีเลย แต่ปรากฏว่าแอร์ไม่เย็นฉ่ำเหมือนแต่ก่อน เย็นแบบแห้งๆ เหมือนจะไม่เย็นด้วยซ้ำทั้งที่น้ำยาก็เติมระบบ เกือบ1 เดือนมาดูที่ ไดร์เออร์น้ำยาก็ไม่ลดเพราะไม่มีฟองมาก แสดงว่าระบบไม่รั่ว แต่คอมแอร์ก็ยังตัดต่อๆรำคาญมาก เลยเอาไปให้ช่างที่เป็นเพื่อน ของเพื่อน เช็คดู เค้าใช้ pressure gate วัดดูปรากฏว่าน้ำยาเกินระบบครับ เอาออกไปพอสมควร ไล่เช็คระบบไฟต่างๆว่าตัวอุปกรณ์ทำงานปกติอยู่หรือเปล่า ก็มาเจอที่เทอร์โมสตัทครับ ปรากฏว่าถอดมาเทอร์โมสตัทมันไหม้ครับ เลยทำให้คอมแอร์ตัดต่อบ่อย ช่างเลยเปลี่ยนให้เสียไปทั้งหมด 500 บาทครับ ตอนนี้ปกติแล้วครับ เย็นฉ่ำ ช่างบอกว่ารุ่นนี้เป็นน้ำยา 134a เวลาสตาร์ทแล้วจะสังเกตุยากครับเพราะมันจะมีฟองวิ่งอยู่เหมือนกันครับ ทั้งที่น้ำยายังเต็มระบบอยู่ ต้องใช้ pressure gate วัดจะแน่นอนที่สุดครับ เลยเล่าๆให้ฟังครับ

 ความคิดเห็นที่: 7 / 7 : 237164

โดย: PP-Mazda

มีเรื่องเล่าให้ฟังนะครับ จากผู้มีประสพการณ์ตู้แอร์รั่วบ่อยมากกกกกกก
ผมใช้ 323 Sedan ปี96 มีปัญหากับเรื่องตู้รั่วบ่อยมาก ประมาณ 3 ปี 1 ตู้ก็ว่าได้
เนื่องจากเป็นคนขี้เกียจล้างตู้ แอร์เย็นก็ไม่เคยทำอะไรเลย จะล้างเฉพาะตอนที่
แอร์เหม็นอับเท่านั้นครับ ประกอบกับรถรุ่นนี้วางตู้มาในลักษณะแนวตั้ง ทำให้มี
น้ำค้างบนตู้ค่อนค้างมาก ทำให้ตู้ผุได้ง่ายครับ ไม่ควรปิดแอร์แล้วดับเครื่องเลย
ต้องปิด AC เปิดแต่พัดลมเป่าให้น้ำที่ค้างตู้หายไป ก่อนดับเครื่อง
หรือปิด AC ก่อนถึงจุดหมายสัก 1 ก.ม. ก็ดีนะครับ จะได้ประหยัดน้ำมันด้วย
ควรล้างตู้แอร์สักปีละครั้งก็ดีนะครับ
ไม่ควรเปิดให้อากาศภายนอกเข้าผ่านระบบแอร์ เพราะมันจะดูด
ฝุ่นและใบไม้เล็กๆเข้ามาในตู้แอร์ (สกปรกมากๆ ลงดูแล้วตอนถอดตู้แอร์)
การเปลี่ยนตู้แต่ละครั้งค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ประมาณ 4พัน กลางๆครับ เจอไป 3 ตู้
เศร้าแบบงงๆเลยครับ ตู้ที่4 เลยไปซื้อตู้มาเปลี่ยนเองครับ แล้วไปให้ร้านแอร์ แวค และ
เติมน้ำยาให้ ค่อยสบายกระเป๋าขึ้นมาหน่อย แล้วทำการเจาะช่อง เซอร์วิส ที่ตู้แอร์สะเลย
ทำให้สามารถล้างตู้แอร์บ่อยได้เท่าที่มีความขยันจะทำ โดยไม่ต้องถอดตู้ ไม่ต้องเลย
ค่าเติมน้ำยาให้ด้วย