Close this window

หมาหน้าบ้าน
นับเป็นวันมงคลยิ่งวันหนึ่งในชีวิต เมื่อได้มีโอกาส “ทำบุญใหญ่” โดยความกรุณาของหลวงพ่อพระอุปัชฌาย์และหลวงตาสมหมาย พระอาจารย์ได้นิมนต์พระเถระ 12 รูป จาก “วัดป่า” ต่างๆ ในจังหวัดอุดรธานีถึง 9 วัดมาทำบุญที่บ้าน



ปกติธรรมดาของการทำบุญต้องมีการเตรียมอาหาร ทั้งเพื่อถวายพระและเลี้ยงญาติพี่น้องที่มาร่วมงานทำบุญ
กับ “พระ” ก็ไม่ใช่เรื่องยากลำบากอะไรนัก เพราะท่าน ฉันรวมภายในบาตร” แต่ที่ตรองเตรียมมากมายเป็นพิเศาก็คืออาหารที่เลี้ยงญาติพี่น้องและเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องมีข้าวปลากอาหารเหลือเมื่อเสร็จงาน
ที่บ้านผมเลี้ยง “หมา” 2 ตัว ชื่อ “น้ำแข็ง” กับ "น้ำหวาน" มีชีวิตความเป็นอยู่ค่อนข้างดี ได้รับความรักความเอาใจใส่จากคนในครอบครัวด้วยดี
ที่หน้าบ้านมีหมาข้างถนนอีก 2 ตัว ผมเรียกมันว่า “อีดำ” กับลูกของมัน ร้อยวันพันปี “ผมไม่เคยสนใจ” ว่ามันจะมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างไร จะกินอะไรอยู่ได้อย่างไร ออกจากบ้านหรือกลับมาบ้านเห็นมันชอบอยู่แถวบริเวณหน้าบ้านเป็นปกติธรรมดา
“อาหารเหลือ” วันนั้นจึงเป็นลาภปากของ “อีดำ” และลูกของมัน ผมเห็น “มันกินอย่างมีความสุข” แววตาบ่งบอกคำขอบคุณและสำนึกบุญคุณ “สาบานได้ผมเห็นและรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ”
บัดนั้นวูบหนึ่งของความคิดพลันอุบัติขึ้น!
ผมหวนคดไปถึงเรื่อง “กัลยาณมิตร” คนหนึ่งเคยพูดบอกกล่าวให้ผมฟังว่าที่ “ทิเบต” จะไม่มีการทำร้ายหมา หรือสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์ต่างๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับ “ชีวิต” อย่างเด็ดขาด เพราะเชื่อกันว่านั่นต้องเป็น “ญาติพี่น้อง” หรือ “บุคคลที่เคยเกี่ยวข้องกันมา” แต่อดีตชาติ
ด้วย “ระบบแห่งกรรม” เมื่อตายไปแม้ต้องไปชดใช้กรรมใน “ภูมิเดรัจฉาน” แล้วก็ตาม ยังจะต้องกลับมาวนเวียนใช้กรรมอื่นๆ ที่เคยเกี่ยวข้องกัน
พลันความคิดต่อเนื่องก็รำลึกถึงคำสั่งสอนของครูบาอาจารย์ที่ว่า “ระบบของกรรม” นั้นจะถูกจัดสรรอย่างดีเยี่ยมและมหัศจรรย์ยิ่งกว่าการจัดสรรของคอมพิวเตอร์โปรแกรมใดๆ และเมื่อมาทบทวนคำสอนดังกล่าวในพระไตรปิฎกก็ทำให้เกิดข้อสรุปโดยไม่ “เคลือบแคลง” ใดๆ ว่า “ระบบของกรรม” เป็นของจริง
ดังนั้น “ผมจึงเชื่อ” โดยทันทีว่า “อีดำและลูกของมัน” ต้องเกี่ยวพันกับผมและครอบครัวมาแต่ไหนแต่ไรแน่นอน ด้วย “ความเชื่อนี้” หลังการทำบุญ ผมและคนในครอบครัวได้ข้อสรุปร่วมกันว่า “ไม่ว่าหมาในบ้านหรือหมาหน้าบ้าน หรือหมาที่ไหนๆ หรือสัตว์ใดๆ” ก็น่าจะได้รับความ “เมตตา” เสมอเหมือนกัน
สรรพสัตว์ทั้งหลายต่างเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ในชาติ ชรา มรณะ แม้เฝ้าสำรวจความคิดทบทวนอยู่เป็นประจำสม่ำเสมอ ก็ยังเมินต่อ “หมาหน้าบ้าน” แค่ “หลังการทำบุญ” ข้อสรุปนี้ “กลับแล่นเข้าสู่หัวใจ” ให้ส่งผลในทางปฏิบัติทันที ที่ต้องมี “เมตตา” อย่างเข้าใจธรรม
โดย: 22   วันที่: 19 Feb 2007 - 09:04


 ความคิดเห็นที่: 1 / 1 : 251510
โดย: rex
เอ้อ ดีครับครับดี

สาธุด้วย
วันที่: 19 Feb 07 - 14:37