Close this window

ขอปรึกษาเรื่องตาตี่น้ำมันเครื่องหาย เซ็งอารมณ์ครับ
สวัสดีครับ จะขอปรึกษาเพื่อนๆ เรื่องรถหน่อยครับ อยากได้ไอเดียเยอะๆ จากหลายๆ ท่านครับเผื่อ
ว่าจะมีเพื่อนที่เคยเจอปัญหาแบบผมแล้วแก้ไขได้แล้วน่ะ

ผมใช้ Astina ตาตี่ เกียร์ธรรมดา เป็นรถปี 1996 นะครับ ใช้มาตั้งแต่ป้ายแดงเลย มาถึงวันนี้ก็วิ่ง
ไปแล้วเกือบๆ 235,000 กิโลเมตรครับ การดูแลรักษาของผมก็จะเข้าศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
ด้วยน้ำมันเครื่องธรรมดาทุกๆ 5,000 กิโลไม่เคยขาดตกบกพร่อง การใช้งานตั้งแต่ใช้มาก็ขับเร็ว
บ้างครับ 120-140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ถ้าสภาพการจราจรเอื้ออำนวย

ปัญหาของรถตาตี่ผมมันเริ่มเกิดมาได้สักปีกว่าแล้วครับ ราวๆ ที่ระยะทางสองแสนกิโลเมตร ปัญหา
คือน้ำมันเครื่องพร่องครับ ช่วงแรกที่สังเกต (เมื่อประมาณปีที่แล้ว) น้ำมันเครื่องหายเลยปรึกษา
ช่างที่ศูนย์ทั้งที่หัวหมาก ทั้งที่สุขุมวิท 36 ได้ความว่าเครื่องน่าจะเริ่มมีอาการหลวมอันเกิดมาจาก
ที่รอบสูงๆ แหวนลูกสูบไม่สามารถกวาดน้ำมันได้หมด น้ำมันเครื่องเลยหายไป เพราะเท่าที่เช็คแล้ว
ไม่มีร่องรอยการรั่วซึม แต่ให้ผมขับไปก่อนยังไม่ต้องทำอะไรเพราะเป็นแค่อาการเริ่มต้นที่เครื่อง
จะเริ่มหลวม ควันขาวก็ยังไม่มี วัดกำลังอัดก็ไม่ผิดปกติ

หลังจากได้ความเช่นนั้น ตั้งแต่นั้น ผมก็ขับรถด้วยความเร็วต่ำลง พยายามไม่กดคันเร่งให้รอบเกิน
3 พันรอบในทุกๆ เกียร์ ก็ได้ผลครับ น้ำมันเครื่องไม่หาย แสดงว่าน้ำมันเครื่องจะพร่องในรอบสูง
ตามที่ช่างที่ศูนย์บอก

อย่างไรก็ดี ในระยะหลัง กล่าวคือในช่วง 6 เดือนหลังนี้ แม้ผมจะใช้วิธีเดิม คือขับรถที่รอบไม่เกิน
3 พันรอบในทุกๆ เกียร์เหมือนเดิม แต่สังเกตว่าขับๆ ไปยังไม่ถึง 5 พันกิโลเมตร ซึ่งจะเป็นระยะ
ทางที่จะถึงกำหนดถ่ายน้ำมันเครื่องใหม่ น้ำมันเครื่องก็พร่องซะแล้วอ่ะครับ ดูจากก้านวัดน้ำมัน
เครื่องแล้ว จากที่ควรจะอยู่ขึดบนสุด (MAX) กลายเป็นวิ่แค่ราวๆ 2 พันกว่ากิโล น้ำมันอยู่ที่ราวๆ
ครึ่งนึงของสเกลบนก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง (ประมาณเลข 8 ) ซะแล้วสิ แต่ควันก็ยังไม่ขาวอะ
นะครับ แบบนี้แสดงว่าเครื่องผมหลวมมากขึ้นแล้วกระนั้นหรือ

ไม่ทราบว่าเพื่อนๆ ในบอร์ด เคยมีใครที่มีปัญหาเดียวกับผมมั้ยครับ และ แก้ปัญหากันอย่างไรบ้าง
ช่วยแนะนำหน่อยครับ และจากอาการที่ว่านี้ อีกนานมั้ยที่ผมต้อง Overhaul เครื่องครับ บอกตรงๆ
ทุกวันนี้เซ็งครับ กับการที่ต้องขับรถด้วยรอบต่ำๆ ความเร็วประมาณ 90 ก.ม./ช.ม. เนี่ย

ขอบคุณทุกความเห็นครับ
โดย: นพพร   วันที่: 25 Feb 2007 - 23:05


 ความคิดเห็นที่: 1 / 12 : 252548
โดย: *~B3S~*
สรุปได้อย่างนี้ก็คงต้อง Overhal นั้นแหละครับ

แต่อย่างไรก็ดี ก่อนทำ ลองประเมินค่าใช้จ่าย ๆ ต่าง ๆ ดูให้ละเอียดก่อน ทั้งค่าอะไหล่ ค่าแรง และระยะเวลาที่ใช้

แล้วลองดูอีกตัวเลือกคือ ยกเครื่องใหม่ (จะเครื่องอย่างเดียว หรือเครื่องพร้อมเกียร์ก็แล้วแต่) ลองเปรียบเทียบราคาและเวลาดูครับ วาอย่างไหนประหยัดกว่า
วันที่: 26 Feb 07 - 00:30

 ความคิดเห็นที่: 2 / 12 : 252568
โดย: คนทำงานกะดึก
เหอๆ ใช้มาตั้งแต่ป้ายแดง ถึงจะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องมาตลอด แต่รถก็วิ่งไปถึง 2 แสนกว่าโลนี่ถ้าไม่ให้หลวมเลย ต้องดูว่าช่วงประมาณ 120000-150000 ได้มีการเปลี่ยนพวกปะเก็นต่างๆ ของเครื่องยนต์ และยางตีนวาลว์ บ้างรึเปล่าครับ ถ้าไม่เคยเปลี่ยนเลยก็เป็นไปได้ที่ของพวกนี้มันเสื่อมสภาพหมดแล้วจนน้ำมันเครื่องนั้นสามารถรั่วซึมได้เช่นกัน
วันที่: 26 Feb 07 - 03:56

 ความคิดเห็นที่: 3 / 12 : 252620
โดย: Time will tell
Cronos ก็เป็นอาการเดียวกันเลย วิ่งมา 285,000 แล้ว แต่ก็ยังวิ่งดี๊ดี เหยียบ 140-160 บนถนนวงแหวนทุกเช้า...
กะจะวิ่งให้ถึงระยะเปลี่ยนสายพานไทม์มิ่ง ก็อาจวางเครื่องใหม่เป็น DE ไม่ก็ ZE แบบคุณเนย....
วันที่: 26 Feb 07 - 11:45

 ความคิดเห็นที่: 4 / 12 : 252622
โดย: tudtu
ผมคิดว่าน่าจะมีการรั่วซึมนะ ลองหาดู ใช้งานแค่นี้ เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตลอด ไม่น่าหลวม
รถผม 1300cc เหยียบสุดตลอด เพราะน้ำมันฟรี สี่แสนโล วิ่งทางไกล เฉลี่ยเดือนละ 5000โล
ยังไม่หลวม
ลองใช้น้ำมันเครื่อง ดีเซล ดู มีคนแนะนำ ผมไม่เคยทำ
ลองเติมหัวเชื้อของSTP กระป๋องละประมาณ 100 หรือกว่านิดหน่อย เคยเติม รถมีกำลังขึ้น แต่เคยเติมตอนรถใหม่ รถจะฝืดๆ เลยคิดเอาเองว่าเหมาะกับรถเก่า
ลองใช้น้ำมันเครื่องสำหรับรถเก่าที่วิ่งเกินแสนกิโล เคยเห็นมีขาย อันนี้เคยใช้ รู้สึกว่าดีขึ้นแบบต้องสังเกตุมากๆ
สรุป แนะนำ 2 อันแรก เพราะ ไม่แพง ไม่มีอะไรจะเสีย
วันที่: 26 Feb 07 - 11:51

 ความคิดเห็นที่: 5 / 12 : 252705
โดย: M
ลองตรวจดู ข้างใน ปลายท่อไอเสียดูด้วยครับว่า มีเขม่า ดำปื๊ดปื๋อ รึเปล่า ถ้าดำมาก ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า มีน้ำมันเครื่องถูกเผาออกมาด้วย และมันน่าจะกินเบนซินมากๆขึ้นนะครับถ้าเครื่องหลวม

ของผมถ้าขับเกินหกพันโล น้ำมันเครื่องก็หายเหมือนกัน แต่นิดหน่อยเท่านั้นครับ ปลายท่อไอเสียก็ไม่ดำมาก
ผมใช้ STP เหมือนกัน และใช้น้ำมันเครื่อง 10W-40 ครับ สองแสนแปดหมื่นเจ็ดพันโลแล้ว ก็ยังขับดีมาก อาทิตย์ที่แล้ว ล้างหม้อน้ำแล้วเติม คูลแลนท์ Shell Coolgard ให้เขา ดีมากครับ เหยียบพุ่ง นิ่ง ลื่นดีมากครับ
อ้อ... ผมตรวจระดับน้ำมันเครื่องตอนเช้าก่อนติดเครื่องครับ
วันที่: 26 Feb 07 - 21:11

 ความคิดเห็นที่: 6 / 12 : 252759
โดย: Time will tell
คุณ M ถ้าเช็คก่อนติดเครื่องมันก็เต็มๆก้านอย่างนั้นล่ะครับ เพราะมันลงมากองกันอยู่ที่อ่างน้ำมันเครื่อง

จริงๆที่ถูกต้องคือ เช็คหลังจากพัดลมหม้อน้ำทำงานจนตัดการทำงาน(อุณหภูมิทำงานปกติของเครื่องยนต์)==> ดับเครื่อง==> ค่อยดึงก้านวัดออกมาเช็ดและเช็คครับ

แต่ผมจะไปลองน้ำมันเครื่องเกรดเหนียวๆ หนืดดูบ้าง เผื่อจะช่วยได้
วันที่: 27 Feb 07 - 07:24

 ความคิดเห็นที่: 7 / 12 : 252808
โดย: นพพร
คุณ Time will tell เรื่องการเช็คน้ำมันเครื่อง ถ้าจำไม่ผิดสมัยซื้อตาตี่มาใหม่ๆ เห็นในคู่มือ
แนะว่าก่อนเช็คให้ติดเครื่องไว้สัก 5 นาทีแล้วดับเครื่อง จากนั้นจึงค่อยดึงก้านมาวัดระดับน้ำมัน
เครื่องครับ แต่เห็นช่างทุกคนวัดตอนก่อนติดเครื่องเหมือนกันครับ เลยงงๆ เหมือนกันครับ

ตัวผมเองวัดก่อนติดเครื่องเช่นกัน
วันที่: 27 Feb 07 - 10:28

 ความคิดเห็นที่: 8 / 12 : 252868
โดย: Time will tell
ก็ถ้าดูตอนก่อนติดเครื่องแต่เครื่องอุ่นๆอยู่ ก็คงพอได้นะครับ ถ้ามันเต็มก้านก็น่าจะโอเค
แต่ถ้าเครื่องมันเย็นแถมยังไม่เต็มก้านก็ไม่ค่อยดีแน่ครับ เพราะคิดดูว่าถ้าวิ่งจริงๆ ปั๊มน้ำมันเครื่องมันปั๊มขึ้นไปหล่อลื่นเครื่องแล้วจะเหลือสักเท่าไหร่....

ชัวร์สุด สตาร์ทไว้สัก 5 นาทีแหละครับ
วันที่: 27 Feb 07 - 14:50

 ความคิดเห็นที่: 9 / 12 : 252895
โดย: pop323
พึ่งไปถามๆรถคนในที่ทำงานมา มีคนเคยเป็นแบบคุณ แต่เป็น Civic วิ่งมาเกือบ 3 แสนอาการแบบเดียวกันเลย ตอนนี้แก้ได้แล้วไม่ต้องวางเครื่องใหม่ด้วย

คุณเอารถไปให้ช่างดูเรื่องปะเก็นต่างๆ ในห้องเครื่อง แล้วก็เปลี่ยนซีนตีนวาลว์ เปิดเครื่องเจียรฝาวาลว์ใหม่ ที่มันเป็นแบบนี้เพราะกำลังอัดรถมันหายไปเนื่องจากซีนวาลว์ และฝาวาลว์มันปิดไม่สนิทเวลาวิ่ง น้ำมันเครื่องเลยไหลเข้าไปผสมกับเผาไหม้ไปหมด นอกจากจะทำให้รถกินน้ำมันเครื่องแล้วกำลังอัดก็หายไปด้วย งานนี้อาจไม่ต้องถึง Overhual ครับแต่ต้องปรับพวกวาลว์ใหม่หมดเลย
วันที่: 27 Feb 07 - 17:50

 ความคิดเห็นที่: 10 / 12 : 253012
โดย: นพพร
คุณ Time Will Tell

1. ขอบคุณสำหรับความเห็นเพิ่มเติมครับ
2. หมายความว่ายิ่งผมเช็ควัดระดับน้ำมันเครื่องในขณะที่เครื่องเย็นๆ แล้วไม่เต็มก้าน ยิ่งแย่กว่าวัดตอนเครื่องอุ่นๆ อีกเหรอครับ


คุณ pop323 ครับ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ ผมจะลองนำไอเดียนี้ไปคุยกับช่างดูครับ

ไม่ทราบว่า
วันที่: 28 Feb 07 - 08:40

 ความคิดเห็นที่: 11 / 12 : 253016
โดย: นพพร
เดี๋ยวผมขออนุญาตโพสท์กระทู้นี้ใน pantip หน่อยจะเป็นไรป่าวครับ อยากลองหาไอเดีย
นอกมาสด้าคลับด้วยครับ
วันที่: 28 Feb 07 - 08:52

 ความคิดเห็นที่: 12 / 12 : 253076
โดย: Time will tell
ช่ายแล้วครับ K.นพพร
วันที่: 28 Feb 07 - 13:06