Boss 14 / 323F '95

วันนี้ไปคุยกับช่างและซ่อมช่วงล่าง ไม่รู้นึกอะไร คุยกันเรื่อง วาล์วน้ำ / ปั๊มป์น้ำ

ช่างบอกว่ารถที่มีอายุมากมักมีปัญหาเกี่ยวกับความร้อน เนื่องจากว่า อุปกรณ์ตัวนี้เสื่อม ไม่ได้เปลี่ยน+ขาดการดูแล+หม้อน้ำสกปรก

วาล์วน้ำสำหรับประเทศไทยหรือประเทศที่มีอากาศร้อนอยู่แล้น ไม่จำเป็นต้องใส่ให้เปลืองทรัพย์
โดยวาล์วน้ำ มีความจำเป็นต้องมีสำหรับการใช้ยานยต์ในประเทศที่มีอากาศหนาวจัด วาล์วน้ำจะทำหน้าที่รักษาสภาพของน้ำที่ขังอยู่ในระบบหล่อเย็นเครื่องยนต์ไม่ให้เป็นน้ำแข็ง

วาล์วน้ำถ้าตันหรือหมดสภาพ ตัวชุดสปริง+ยาง จะไม่ยุบตัวเมื่อระบบหล่อเย็นทำงานน้ำร้อนจึงขังในทางเดินระบบความร้อนในเครื่องยนต์และไม้ได้ไหลผ่านไปที่หม้อน้ำ จึงทำให้น้ำที่ขังอยู่หายหมด แต่น้ำในระบบ จะยังคงปกตื กล่าวคือ หม้อพัก+แผงระบายความร้อน ยังคงมีน้ำปกติ แต่ไมได้ช่วยอะไร

วันนี้ผมเลยให้ช่างถอดออก ปรากฏว่าเป็นสีสนิมแล้วจริงๆแล้วแต่เดิมก้อไม่มีปัญหาอะไร เข็มจะอยู่ประมาณ เกือบครึ่ง ตอนนี้เข็มอยู่บน ตัว C นิดนึงเวลาขับ และ จะอยู่เกือบครึ่งเหมือนเดิมขณะจอด
คาดว่าลมพัดขณะขับช่วยได้มาก

มีอยู่เคสนึง ช่างบอกว่า มีลูกค้าไม่ยอมเพราะเชื่อว่าเดิมๆ ม่จากโรงงานดีที่สุด ช่างพยายามพูดแต่แกไม่เชื่อ ช่างเลยต้องแอบถอดเมื่อลูกค้าเผลอ ช่างบอกว่า อีสูสู ตัวนั้นใกล้แย่แล้วและหมดทางเยียวยา ต้องใช้วิธีนี้วิธีเดียว ซึ่งจนป่านนี้ผ่านมาหลายปีอาการดังกล่าวก้อหมดแล้ว รอแต่ ระบบจะรั่วเท่านั้น

หรือ

อีกเคสนึง ตาตี่จะไม่ชอบฝน หรือน้ำท่วมเจิงนอง เพราะระบบดักอากาศเข้าหม้อกรองจะอยู่ต่ำ
ช่างสรุปว่า หลายๆครั้งที่ผู้ผลิตไมได้คิดถึงสภาพภูมิประเทศ หรือ ลักษณะการใช้ของประเทศนั้นๆ แต่ผลิตcopy เดียวกัน spec เดียวกัน แล้วส่งขายทั่วโลก เช่นปัจจุบัน

สรุป ใครหมดทางแก้เรื่องความร้อน ลองเข้าศูนย์หรืออู่ที่สนิท แล้วให้เค้าถอด แต่อย่าลืมให้เค้าตัดปะเก็นใหม่พร้อมทำความสะอาดพื้นผิว เพื่อให้มันแนบสนิทแล้วขันให้แน่นเหมือนเดิม

วันนี้กะเป๋าฉีก เพราะผ้าเบกหน้าไป 1800 ค่าแรง 6 ชม. เช้ายันเย็น 500 บาท ดีที่รู้จักกัน

เพื่อนๆ พี่ๆ มีอะไรช่วยเสริมและนำ เชิญครับเผื่อว่าผมฟังช่างอธิบายไม่ถูก

Boss 323F Phang Nga

โดย: Boss14   วันที่: 2 Mar 2007 - 00:11

 ความคิดเห็นที่: 1 / 11 : 253464

โดย: เต่าฟ้า

คิดได้ไงเนี่ย ถอดวาว์ลน้ำทิ้ง รึว่านั่นเป็นทางออกสุดท้ายจริงๆสำหรับรถร้อนๆ

 ความคิดเห็นที่: 2 / 11 : 253478

โดย: x

it's bong deang.

 ความคิดเห็นที่: 3 / 11 : 253479

โดย: ~Ono

ง่ะ ถ้า เป็น รถกระบะ อ่ะ เค้าจะ เจาะวาวล์ น้ำให้ กว้างขึ้นเพื่อน้ำวิ่งได้ ดี

แต่ สำหรับ เครื่องเบนซิน แล้ว ความร้อนจากการเผาไหม้ มีสูงมาก การที่ไม่มีวาวล์น้ำกั้นทำให้ น้ำที่วิ่งเข้าไปที่ เสื้อเพื่อระบาย ความร้อนนั้น น้ำวิ่งวนเร็วเกินไป น้ำยังรับความร้อนจากเครื่องไม่เต็มที่ ก็ ถูกดัน ออกมาที่ แผงระบายความร้อน -> แผงระบายความร้อนยังระบายความร้อนไม่ทันหมดน้ำถูกปั้มน้ำดันวิ่งเข้าเสื้อไปรับความร้อนอีก น้ำจึงมีความร้อนแฝงอยู่สูงมาก เครื่องยนต์ก็มีความร้อนสะสมที่สูงเหมือนกัน
ที่รอบเครื่อง ต่ำน้ำยังคงหมุนวนช้า เพราะปั้มน้ำหมุนตามการทำงานของรอบเครื่องยนต์
แต่หากที่รอบสูงต่อเนื่อง ปั้มน้ำหมุนไว น้ำที่วนเข้าเครื่องเร็วเกิน ไป อาการความร้อนขึ้นย่อมไม่หายไปแน่นอนครับ


วิศวกรออกแบบรถเขาออกแบบมาดีกับทุกสภาพการใช้งานแล้วครับ อย่าไปเอาออกเลย
คิดง่ายๆครับหากมันไม่จำเป็นต้องใส่จริง ทำไมรถหลายยี่ห้อที่ประกอบในเมืองไทยขายเมืองไทยร้อนๆๆแบบนี้ จึง ไม่ถอดออกเพื่อ ลดต้นทุนหล่ะครับ


กรอง ดักอากาศ ไม่ได้ต่อเป็นลักษณะ ท่อปิดที่จะสามารถดูดน้ำขึ้นมาได้ครับ แล้วระดับกรองอากาศก็อยู่ระดับเหนือล้อ หากน้ำไม่ท่วมมิดล้อ น้ำไม่เข้าเครื่องครับ

รถยี่ห้อไหน ก็ไม่ชอบน้ำท่วมครับ และคงไม่มีใคร เห็นน้ำท่วมแล้วไปขับลุย นอกจาก 4x4 หล่ะครับ

 ความคิดเห็นที่: 4 / 11 : 253487

โดย: tudtu

ฟังเขาเล่าว่านะครับ
อุณหภูมิที่เหมาะสมจะเผาไหม้ ดี ครับ วาว์ลน้ำจะทำให้อุณหภูมิอยู่ที่เหมาะสมแล้วค่อยเปิดวาว์ลเมื่อน้ำเย็นก็ปิด เมื่อน้ำถึงอุณหภูมิที่เหมาะสมก็เปิด
ควรมีไว้ถ้าต้องการการเผาไหม้สมบูรณ์
ผมเพิ่งเปลี่ยนเมื่อ5วันที่ผ่าน มา ซื้อมาแล้วลองทำเอง ง่ายๆครับ
เปลี่ยนเพราะช่างศูนย์บอกว่าพัดลมไม่ยอมตัดหรือกว่าจะตัดจะนานมากขณะไม่เปิดแอร์จอดในศูนย์
ปกติควรหมุนไม่เกินอึดใจก็น่าจะตัด
พอเปลี่ยนเสร็จ สตาร์ทรถไม่เปิดแอร์ 10 นาทีพัดลมยังไม่ทำงาน เลยพอ กลัวน้ำมันแพง
แสดงให้เห็นว่า ของเก่าเราไม่สมบูรณ์จริงๆ
สังเกตุง่ายๆ ถ้าไม่เปิดแอร์แล้วพัดลมไม่ตัดนานๆ ก็ใช่แล้วครับ
ช่างยังบอกว่า จริงๆ ถ้าเช็คไม่เป็น ก็เปลี่ยนพร้อมสายพานราวลิ้นไปเลยปลอดภัยดี
ข้อดีของการเปลี่ยน 1.เครื่องไม่ร้อน 2. ยืดอายุพัดลม 3.ลดการทำงานไดชาร์ท 4.ไม่เปลืองน้ำมันเพราะไม่ต้องชาร์ทไฟ 4.ยืดอายุแบต 5. ยืดอายุไดชาร์ท 6.ยืดอายุอุปกรณ์ทุกอย่างที่จะเสียเพราะร้อนแม้ว่าไม่heat เช่น สายไฟ เซนเซอร์ต่างๆ คอล์ย สายหัวเทียน
รถผม protege 1.6 กับ 121 ครับ เปลี่ยน2คันเลย พัดลมทำงานน้อยลงมากทั้งคู่
คิดถึงเมื่อตอนแสนสอง ที่ sensor camshaft เสีย อาจเพราะส่วนหนึ่งจากวาว์ลน้ำไม่สมบูรณ์ก็เป็นได้ เพราะดูจากปีผลิตแล้ว ของผมจะเป็น lot ที่ไม่มีปัญหาที่ sensorตัวนี้แล้ว แต่ก็กลับเสีย
วาว์ลน้ำเก่าที่ถอดออกมาดูค่อนข้างปกติ ไม่น่าเสีย ถ้ายังไม่ซื้อของมาคงไม่เปลี่ยน
แต่พอเปลี่ยนแล้ว คิดว่าคุ้มครับ จะสื่อว่าถ้าดูไม่เป็น เกินแสนโลก็เปลี่ยนเลย หรือดูจากพัดลมไม่ค่อยตัด

 ความคิดเห็นที่: 5 / 11 : 253490

โดย: ~Ono

^
^
^
^ ถูกต้องนะครับ การถอดออก ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ถูกอย่างที่ช่างคุณ จขกทบอกครับ

หากวาวล์น้ำ เปิด ช้าถอดออกมาเช็ค ได้ง่าย ใส่ กะละมัง ต้มน้ำดู การยืดตัวของสปริงครับ

สีสนิม ที่วาวล์น้ำมันเกิดขึ้นได้ครับ วาวล์น้ำอาจไม่เสีย แต่ ถอดออกมา เปลี่ยนเถอะครับ เพราะตัว ไม่กี่บาท เองครับ

ปล. ช่างที่ แนะนำ จขกท ช่างที่ไหนครับ ผมอยากรุ้จัง

 ความคิดเห็นที่: 6 / 11 : 253493

โดย: tudtu

เพิ่งรู้ว่า เช็คว่าวาว์ลยัง OKหรือไม่ด้วยการต้มน้ำดูสปริง ง่ายดีจัง
เสียดายของprotege ยังดูดีอยู่เลย แต่ของ 121 ไม่เสียดายเพราะดูแล้วหมดสภาพ

ดีครับ ได้ความรู้เพิ่มเติม เวบนี้ดีจริงๆ

อ่านเวบนี้แล้วอยากซื้อmazdaมือสอง เพราะคิดว่าเอาอยู่ ราคาแสนถูก
ที่ รพ.ศิริราช มีขาย new sedan ปี96 อยู่หนึ่งคันของหมอติดป้ายขาย แสนห้าต่อได้ ผมลองให้
สตาร์ทรถกะแล้วว่าต้องรอบไม่นิ่ง ซ่อมจนเซ็งแก้ไม่ตก เลยขาย เป็นตามนั้นจริงๆ แต่ยังไม่ต่อ เพราะยังไม่พร้อมซื้อ นี่ถ้าเข้าเวบนี้คงแก้ได้หายขาด

 ความคิดเห็นที่: 7 / 11 : 253535

โดย: M

เคยถอดวาล์วน้ำของนิวฯ ออกมาตรวจและต้มน้ำดูเหมือนกัน นานแระ จำได้ไม่ชัดเจนเท่าไร แต่พอจำหลักการทำงานได้ครับท่าน
ว่า... พอติดเครื่องยนต์ ปั้มน้ำหมุนเลย ทำงานเลย วาล์วน้ำยังปิดอยู่เพราะน้ำยังเย็นอยู่ น้ำจะไหลวนในเครื่องยนต์ ไม่ออกมาที่หม้อน้ำ ก็เพื่อวอร์มอัพเครื่องยนต์ครับ
พอเครื่องยนต์ร้อนขึ้น น้ำร้อนขึ้น วาล์วน้ำก็จะค่อยๆเปิด ให้น้ำไหลออกมาที่หม้อน้ำเพื่อระบายความร้อนออกไป และปลายอีกด้านหนึ่งของวาล์วน้ำก็จะค่อยๆปิดช่องน้ำไหลวนในเครื่องยนต์ เพื่อให้น้ำไหลออกมาที่หม้อน้ำทางเดียวครับ
คือ... เมื่อมันเปิดให้น้ำไหลออกมาที่หม้อน้ำ มันก็จะปิด ไม่ให้น้ำไหลวนในเครื่องยนต์นั่นเอง แต่มันจะค่อยๆเปิด ค่อยๆปิด หรี่ๆ ตามอุณหภูมิน้ำครับ ทั้งนี้ก็เพื่อรักษา Operating temp.ของเครื่องยนต์ไว้ให้นิ่งๆ เพื่อให้การเผาไหม้สมบูรณ์ ตลอดการขับใช้งานครับ
ถอดวาล์วน้ำออก ....ไม่เอาด้วยหรอกครับ เพราะจะทำให้การไหลของน้ำ แบ่งๆกันไป ระหว่าง ไหลออกมาที่หม้อน้ำเพื่อระบายความร้อนออกไป กับ ไหลวนอยู่แต่ในเครื่องยนต์ ไม่ได้ระบายความร้อนออกเลย
ผมคิดไม่ออกครับ ว่า แล้วมันจะรักษา Operating temp. ของเครื่องยนต์ไว้ได้อย่างไร
อาจจะงงๆหน่อยนะครับ แต่ก็ว่าตามหลักการที่เคยอ่านมา และตามที่ได้ลองทำดูครับ

 ความคิดเห็นที่: 8 / 11 : 253552

โดย: B3s

ที่ว่ามาคงกระจ่างแล้วครับ


มาบอกอีกนิดว่า...ถ้าในกรณีจำเป็นเช่นไป ตจว. แล้วรถความร้อนขึ้น อันเนื่องมาจาก วาล์วไม่เปิด หรือ ปัีมน้ำไม่ทำงานก็แล้วแต่ กรณีอย่างเนีย คุณสามารถถอดวาล์วน้ำออกชั่วคราว เพื่อให้ระบบระบายความร้อนมันโฟว์ได้เต็มที่ พอจะพาคุณกลับบ้าน หรือวิ่งไปซ่อมได้ครับ

 ความคิดเห็นที่: 9 / 11 : 253594

โดย: .

เดาส่วนตัวนะคับ ผมคิดว่ามี thermostat เพื่อ
- คุมอุณหภูมิเครื่องไม่ให้ขึ้นๆลงๆ ป้องกันวัสดุอัลลอย ขยายๆหดๆจนผิดรูป
- อุ่นเครื่องในเมืองหนาวไม่ให้เย็นเกินไปเวลาใช้งาน
- Heater ทำงานได้ร้อนๆซะใจ สำหรับเมืองหนาว
(ไม่น่าเกี่ยวกับประสิทธิภาพการเผาไหม้)

ถ้าดูสเปค thermostat พวกเครื่องมาสด้า เช่น เครื่อง FS พี่ท่านเริ่มเปิดนิดๆที่ 80 c. กว่าจะเปิดสุดก็ต้อง 95 c. ซึ่ง 95 c. นี่มันเกือบจุดเดือนน้ำเลยนะครับ

ผมเห็นด้วยกับ จขกท ตรงที่อาจเป็นเพราะโรงงานออกแบบเพื่อต้องการให้ใช้งานในเมืองหนาวได้ดีมากกว่าเมืองร้อนอ่ะครับ แต่ยังไงก็ต้องยอมใช้มัน ไม่งั้นอุณหภูมิเครื่องจะขึ้นๆลงๆ ไม่น่าจะดีต่อวัสดุอัลลอย

ถ้าลองหาๆดู เปรียบเทียบ Thermostat รุ่นอื่นๆ มันเปิดที่อุณหภูมิ
NISMO Thermostat - 62 degrees C - 1984 to 1996 300ZX
Mitsubishi 3000GT Thermostat, 3.0L DOHC Engine, 76.5 Degrees Celsius
Lexus LX470 Thermostat, 82 Degrees Celsius

 ความคิดเห็นที่: 10 / 11 : 253638

โดย: Boss14

Boss14 / 323F

ขอขอบคุณพี่น้อง ที่ช่วยกันวิจารณ์และแสดงความคิดเห็น มีประโยชน์จริง เปิดกระทู้ล่อเป้าแบบนี้

ว่าแต่สภาพเครื่องยนต์ทำงานดีที่ เย็นหรือร้อน ช่วยต่อที่

 ความคิดเห็นที่: 11 / 11 : 253796

โดย: ผมก็ชอบรถ

รถยนต์ร้อนมากๆ ลองหาสารเคลือบเครื่องยนต์ที่คุณภาพดีๆใช้บ้างซิ ไม่ได้หมายถึงแพงแต่ไม่ได้เรื่องนะ ผมว่าสารตัวนี้ ช่วยได้มากนะ