Close this window

“1 บาท” เศษไม้ขอแลกเศษเงิน ช่วยต่อชีวิตยายทอง
โดย: กวางป่า   วันที่: 3 Mar 2007 - 03:47


 ความคิดเห็นที่: 1 / 5 : 253765
โดย: กวางป่า
ขออีกข่าวนึง ที่สะดุดเพราะเป็นชื่อข่าวที่มี กวางป่า เนี่ยแหละ อิอิ
แต่พอเข้าไปอ่านแล้วก็แบบ เฮ่อออ เหนื่อยจัยๆ
ในที่นี้คงจะมีคนรักธรรมชาติ รักสัตว์ อยู่ไม่น้อย
ก็อยากให้ช่วยกระจายข่าวหน่อยอะค่ะ

http://www.matichon.co.th/khaosod/khaosod_detail.php?s_tag=03hap04040350&day=2007/03/04§ionid=0317
วันที่: 04 Mar 07 - 18:05

 ความคิดเห็นที่: 2 / 5 : 253766
โดย: กวางป่า
อันนี้คือเนื้อหาข่าวข้างบนค่ะ

ระยะ 2-3 ปีมานี้มักจะมีข่าวเกี่ยวกับสัตว์ป่าบาดเจ็บอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะช้าง เพราะเป็นสัตว์ใหญ่ คนรู้สึกว่าตัวเองผูกพันกับช้าง และเกรงว่าจะสูญพันธุ์ไปจากป่าเมืองไทย

สาเหตุสำคัญที่ทำให้เจ็บป่วยก็เนื่องมาจากคน เพราะคนที่อยู่ใกล้ป่ากับช้างป่าขัดแย้งกัน โดยช้างป่ามักจะออกจากป่ามากินพืชไร่ที่คนปลูก

เหตุที่ช้างออกจากป่ามากินพืชไร่ของชาวบ้าน เป็นเพราะป่าแถวนั้นเคยเป็นที่อยู่ของช้างมาก่อนที่คนจะถางป่าเอามาเป็นไร่ และการป้องกันการไล่ล่าช้างป่าดีขึ้น ทำให้การล่าช้างเอางาลดลง ช้างป่าก็เลยไม่ค่อยจะกลัวคนอีกต่อไป

แม้จะจุดประทัดไล่ บ้างก็เอาไฟฟ้าแรงต่ำจากแบตเตอรี่มาล้อมเป็นรั้ว ก็แค่ทำให้ช้างสะดุ้งตกใจเท่านั้น แล้วมันก็สรุปได้ว่าไม่ถึงกับตาย ก็พยายามมากินพืชปลูกอีก

ในที่สุดเจ้าของไร่มักจะแก้ปัญหา โดยใช้ปืนผูก หรือจั่นห้าว บ้างก็ใช้แร้วดักช้าง ทำให้บาดเจ็บทุกข์ทรมาน เจ้าหน้าที่ก็จับมือใครดมไม่ได้

แต่ตามความเป็นจริงแล้ว สัตว์ที่ป่วยหรือบาดเจ็บไม่ได้มีแต่ช้างเท่านั้น สัตว์อื่นๆ ก็เจ็บป่วยจากคนเหมือนกัน แต่ไม่ค่อยเป็นเรื่องใหญ่โต นั่นเป็นเพราะสัตว์อื่นนอกจากช้างตัวเล็ก และคนมีความรู้สึกผูกพันน้อยกว่าช้าง

ขณะนี้กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้จ้างนายสัตวแพทย์ประจำกรมขึ้นมาแล้ว คือ น.สพ.ภัทรพล มณีอ่อน หรือ "หมอล็อต" พอได้รับรายงานว่ามีสัตว์บาดเจ็บที่ไหน หมอล็อตก็ตามไปรักษา

วันหนึ่ง หมอล็อตได้รับแจ้งจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ว่ามีกวางบาดเจ็บ ก็รีบบึ่งรถไปเขาใหญ่ทันที ไปถึงเขาใหญ่ก็มีหัวหน้าอุทยานฯ เขาใหญ่ และหัวหน้าฝ่ายวิชาการ คือนายสมบัติ พิมพ์ประสิทธิ์ พร้อมกับคนรักสัตว์ป่าอีกคน คือนายดุลสิทธิ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา

เขาตามหากวางบาดเจ็บไม่นานก็เจอใกล้กับที่กางเต็นท์ลำตะคอง มันเดินโขยกเขยก เพราะเจ็บที่ขาหลังข้างซ้าย จะเข้าไปดูใกล้ๆ มันก็หนีห่างออกไป ในที่สุดต้องนั่งบนรถกระบะเฉียดเข้าไปใกล้ จึงรู้สาเหตุการบาดเจ็บ

ที่ต้องนั่งรถเพราะกวางกลัวคนเดินเข้าหามากกว่ากลัวรถยนต์ ทำไมเป็นอย่างนั้นก็น่าคิดอยู่

กีบหลังข้างซ้ายของมันมีกระป๋องสวมอยู่ คงจะเป็นกระป๋องปลาที่คนกินแล้ววางทิ้งเรี่ยราด มันเดินไปสวมเข้าพอดีกับกีบ

หมอล็อตตรวจและวินิจฉัย ตรงที่กีบติดกระป๋องรอยต่อระหว่างหนังกับกีบมีเส้นประสาทอยู่มาก ที่สำคัญเป็นกวางที่อยู่ระหว่างให้นมลูก มีลูกน้อยเดินตามตลอดเวลา และคาดว่าลูกกวางมีอายุไม่เกิน 2 เดือน

หมอล็อตบอกว่า ถ้าแม่กวางป่วยคุณภาพของนมก็จะลดลง หรือถ้าแม่มีเชื้อโรค เชื้อโรคนั้นก็จะถ่ายไปถึงลูกด้วย เรียกว่า เจ็บที่แม่แต่กระเทือนถึงลูก

จากนั้นหมอล็อตจึงตัดสินใจใช้ยาสลบ แต่ปัญหามีว่ายาสลบเหลือเพียงโดสเดียวเท่านั้น เพราะฉะนั้นคนยิงยาสลบต้องแม่น ไม่พลาดเด็ดขาด

รถกระบะเคลื่อนที่เข้าไปใกล้ๆ เจ้าหน้าที่ที่เหลือคอยกันไม่ให้มันหนีเข้าป่า ระยะยิงยังห่างเกินไป แล้วลูกของมันซึ่งคงจะรู้ความเจ็บปวดของแม่ ก็คลอเคลียไม่ห่างเลย บางครั้งมีต้นไม้บัง ต้นไม้กับลูกของมันเป็นอุปสรรคไม่น้อย

ยาสลบนัดแรกโดนที่ท้อง ก่อนเข็มจะร่วงลงดิน ทำให้ยาไม่เดินเข้าสู่ร่างกาย ทั้งที่โดยปกติแล้วระบบกลไกของปืนยิงยาสลบนั้น ยาจะเดินทันทีที่เข็มปักเข้าเป้าหมาย แต่เพราะเข็มเฉียดท้องนิดเดียว กลไกการฉีดยาจึงไม่ทำงาน

เจ้าหน้าที่บรรจุปืนยิงใหม่อีกครั้ง คราวนี้ไม่พลาด เข้าที่สะโพกหลังข้างขวาเต็มๆ มันยืนซึมอยู่ครู่หนึ่ง แล้วค่อยๆ นอนลงและหลับ เจ้าหน้าที่ค่อยๆ ย่องเข้าไปหา ขณะที่ลูกกวางถอยออกไปยืนดูอยู่ห่างๆ

จากนั้นหมอล็อตเข้าไปตรวจและดึงกระป๋องออก พบว่ากระป๋องสวมลึกเข้าไปมากจนสวมกีบกวางมิด หนังถลอกจนเกือบถึงเนื้อ เลือดแห้งเกรอะกรัง เนื้อบวมเป่งและเขียวช้ำ

หมอล็อตจึงให้ยาฆ่าเชื้อ วิตามิน ยาฆ่าเห็บหมัด วัคซีนกันบาดทะยัก และยาผงไล่แมลงและป้องกันหนอน แม่กวางสลบไปราวครึ่งชั่วโมงก็ฟื้น ก่อนที่ลูกของมันจะวิ่งตรงรี่เข้ามาหาแม่ และพากันกลับเข้าป่าไป

นั่นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 27 ม.ค. 2550 และจนถึงขณะนี้ทีมงานที่รักษามั่นใจว่า กวางแม่ลูกคู่นี้ปลอดภัย

จากเหตุการณ์ดังกล่าวทางอุทยานฯ ขอร้องให้นักท่องเที่ยวอย่าทิ้งขยะในเขตอุทยานฯ ดังในกรณีแม่กวางป่าติดกระป๋อง หรือแม้แต่ถุงพลาสติกและห่อขนมก็ตาม เพราะหากสัตว์ป่ากินเข้าไปอาจถึงตายได้
วันที่: 04 Mar 07 - 18:06

 ความคิดเห็นที่: 3 / 5 : 305050
โดย: อนาคต_Wildlife Veterinarian(ศึกษานารี)
ล่าสุดพี่หมอล็อตเขาบอกว่า มีลูกช้างตัวหนึ่งงวงขาดแต่ยังไม่หลุดออกจากกัน (ดูจากคลิปวีดีโอแล้วน่าสงสาร) ถ้าปีนี้หาช้างตัวนี้มารักษาไม่ได้ลูกช้างก็ต้องตาย T_T
วันที่: 26 Nov 07 - 21:17

 ความคิดเห็นที่: 4 / 5 : 305144
โดย: กวางป่า
ถึงคุณ อนาคต_Wildlife Veterinarian(ศึกษานารี)

เอ.... อยากเป็นสัตวแพทย์สัตว์ป่าหรอคะ ^^
มาคุยกันมั้ย เพราะกวางเองก็คิดอยากทำงานด้านนี้เหมือนกัน
ตอนนี้กวางก็เรียนอยู่สัตวแพทย์เนี่ยแหละ (แต่เรียนไม่เก่งหรอกนะ - -")

ไม่รุ้ว่าจะเข้ามาบอร์ดนี้อีกมั้ยนะเนี่ย ถ้าเข้ามาก็ทิ้งเมล์ไว้หน่อยนะจ๊ะ
คุยกานๆ ไม่ค่อยเจอคนที่อยากเป็นสัตวแพทย์สัตว์ป่าเท่าไหร่น่ะ ^^
วันที่: 27 Nov 07 - 11:15

 ความคิดเห็นที่: 5 / 5 : 344093
โดย: ไม่ได้รักสัตว์แต่แค่เห็นใจสัตว์ร่วมโลก
เป็นสัตวแพทย์สัตว์ป่านี้ก็ลำบากเหมือนกันน่ะ
แต่ถ้าทำด้วยใจรักแล้วชอบ และก็เห็นใจสัตว์ที่ป่วย
เพราะมันน่าสงสารน่ะเวลามันบาทเจ็บ ถ้าเป็นคนป่วยไข้ยังมีโรงพยาบาบที่จะไป
มีคนพาไปหาหมอ แต่สัตว์ที่อยู่ในป่านี้สิใครจะช่วยชัวิตพวกเขาเวลาเจ็บ หรือป่วย
ถึงมันจะมีญาติ พี่น้อง และลูกเหมือนคนก็เหอะเนอะ
เราคิดว่ามันคงไม่ยากเจ็บ ป่วยเหมือนมนุษย์นี้แหละเนอะ
ใครที่คิดจะเป็นสัตวแพทย์สัตว์ป่า อย่างหมอล็อต
เราเอาใจช่วยน่ะค่ะ ถึงเวลาเรียนคุยเรียนไม่เก่ง
แต่คุณจบออกมาแล้วรักษาเขาได้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วน่ะ
สู้ ๆ เอาใจช่วย และเป็นกำลังใจให้ทุกคนน่ะค่ะ
วันที่: 28 Apr 08 - 19:41