|
ศึกลูกหนังแชมเปียนส์ลีก 2006/07 คืนวันที่ 3 เม.ย. เป็นเกมดวลแข้งรอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล อดีตแชมป์ยุโรป 5 สมัย ยกพลบุกไปเยือนพีเอสวี ไอนด์โอเฟน ทีมแกร่งของแดนกังหันลม ฮอลแลนด์ ที่ ฟิลิปส์ สเตเดียม
โดยทีมเยือนลิเวอร์พูล กำลังอยู่ในช่วงมั่นใจสุดขีด หลังจากโชว์ฟอร์มดุดันไล่ถล่ม "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ไป 4-1 เกมนี้หวังชัยชนะตุนไว้ก่อน ส่งนักเตะชุดใหญ่ลงสนามครบครัน คู่หัวหอกเป็น ปีเตอร์ เคราซ์ กับ เดิร์ก เคาท์ ขณะที่ เจ้าบ้านต้องประสบปัญหาขาด อเล็กซ์ กองหลังคนสำคัญ รวมถึง โคเน่ ศูนย์หน้าตัวเก่ง ทำให้ต้องปรับทัพวุ่นวาย
เกมในช่วง 20 นาทีแรก ทั้ง 2 ทีมเดินเกมด้วยความรัดกุม มีโอกาสลุ้นประตูจะแจ้งกันคนละครั้ง เริ่มจากลิเวอร์พูลได้ลูกเตะมุม เจมี คาร์ราเกอร์ ได้ขึ้นโหม่งเต็มๆ บอลกำลังจะพุ่งเสียบตาข่าย แต่ผู้รักษาประตูไอนด์โอเฟน พุ่งปัดไว้ได้ ส่วนเจ้าบ้านได้ตั้งป้อมวอลเลย์หน้าปากประตูลิเวอร์พูล แต่ลูกไปแฉลบ คาร์ราเกอร์ ข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
จนกระทั่งนาทีที่ 27 สตีฟ ฟินแนน ทำชิ่งกับ ฮาเวียร์ มาสเคราโน ก่อนจะหลุดไปเปิดเข้ามากลางประตู สตีเวน เจอร์ราร์ด พุ่งเข้ามาโหม่งเต็มๆ บอลพุ่งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ช่วยให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 1-0 จากนั้น เกมตกเป็นของลิเวอร์พูลสิ้นเชิง เจ้าบ้านแทบไม่มีโอกาสพาบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษลิเวอร์พูลเลย แต่ทว่ายังไม่มีประตูที่ 2 เกิดขึ้น หมดครึ่งแรก ลิเวอร์พูล นำ พีเอสวี 1-0
เริ่มต้นครึ่งหลังมาได้เพียง 4 นาที หงส์แดงก็มาได้ประตูที่ 2 จากจังหวะที่กองหลังพีเอสวีเตะสกัดไม่ดี ลูกมาเข้าทาง ยอห์น อาร์เน รีเซ่ ใช้อกแตะบอลหนึ่งจังหวะ ก่อนซัดด้วยซ้ายข้างถนัดระยะประมาณ 25 หลา บอลพุ่งไซด์เสียบตาข่าย สุดปัญญาที่ผู้รักษาประตูพีเอสวีจะป้องกันไว้ได้
รูปเกมของเจ้าบ้านออกแนวสะเปะสะปะ ต่อเกมกันไม่ติด ขณะที่นักเตะหลายคนดูจะสูญเสียความมั่นใจ โดยเฉพาะ ดา คอสตา ที่มายืนเป็นปราการหลังตัวกลางแทน อเล็กซ์ ขณะที่ ลิเวอร์พูล ยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ ก่อนจะมาได้ประตูที่ 3 สตีฟ ฟินแนน เปิดบอลไปหน้าปากประตู ปีเตอร์ เคราซ์ ขึ้นโหม่งตุงตาข่าย ในนาทีที่ 63
พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน แทบจะเรียกได้ว่าหมดสภาพ เพราะหลังจากเสียประตูที่ 3 รูปเกมไม่ได้ดีขึ้น ไม่มีโอกาสส่องประตูแม้แต่น้อย ขณะที่ ลิเวอร์พูล เล่นแบบถนอมตัว แต่ก็ยังมีโอกาสพาบอลไปป้วนเปี้ยนหน้าปากประตูพีเอสวีอีกหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีประตูเกิดขึ้น ครบ 90 นาที ลิเวอร์พูล เอาชนะ พีเอสวี 3-0 โอกาสผ่านเข้ารอบต่อไปสดใส โดยจะกลับไปเล่นนัดที่สองที่บ้านของลิเวอร์พูลในอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้า
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่ "ปีศาจแดงดำ" เอซี มิลาน เปิดรังซานซิโร่ รับการมาเยือนของ "เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิก โดยเกมในครึ่งแรก เรียกได้ว่า เจ้าบ้านพับสนามบุกแหลก แต่กว่าจะได้ประตูนำ 1-0 ต้องรอจนถึงท้ายครึ่งแรก จากลูกโหม่งของ อันเดรีย ปิร์โล นาทีที่ 41
ครึ่งหลัง บาเยิร์น มาตีเสมอได้จาก ดาเนียล ฟาน บุยเต็น นาทีที่ 78 แต่ มิลาน ก็มาได้ลูกโทษที่จุดโทษนาทีที่ 84 ริคาร์โด กาก้า สังหารไม่พลาด ช่วยให้มิลานออกนำ 2-1 แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ฟาน บุยเต็น คนเดิม ก็มายิงตีเสมอให้ บาเยิร์น เป็น 2-2 ต้องไปลุ้นอีกครั้งในนัดที่สอง
|
ศึกลูกหนังแชมเปียนส์ลีก 2006/07
