นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยคิงส์คอลเลจ เสนอเทคนิคสังเกตความแก่ของตัวเองอย่างง่ายๆ ให้สำรวจตามเนื้อตัวดูว่า มีไฝผุดออกมามากแค่ไหน คนที่มีเม็ดไฝน้อยร่างกายแก่เร็วกว่าคนที่มีไฝโผล่ยุบยั่บ
ทีมวิจัยอังกฤษ นำดีเอ็นเอตัวสำคัญที่เกี่ยวข้องกับวัยชรา มาเปรียบเทียบกับจำนวนเม็ดไฝในกลุ่มฝาแฝดจำนวน 1,800 คู่ พบว่า
คนที่มีไฝมาก ดีเอ็นเอของพวกเขายิ่งมีคุณสมบัติสู้รบปรบมือกับความชราได้ยอดเยี่ยม
ไฝ เป็นแต้มสีที่เกิดขึ้นบนผิวหนัง เด็กที่มีไฝเกิดขึ้นตามตัวมักจะหายไปเมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงวัยกลางคนขึ้นไป
แต่ไฝที่มีขนาดใหญ่ขึ้นอาจเพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งผิวหนังได้ จำนวนไฝและขนาดของมันในแต่ละคนจึงสำคัญมาก
โดยเฉลี่ยแล้วพบว่า แต่ละคนจะมีไฝประมาณ 30 จุด บางคนอาจมีมากถึง 400 จุด แต่ยังไม่เจอสาเหตุที่แท้จริงว่าทำไมแต่ละคนจึงมีจำนวนไฝต่างกัน การศึกษาครั้งนี้มุ่งเปรียบเทียบระหว่างจำนวนไฝและความเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนัง
นักวิจัยได้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนไฝกับความยาว ของส่วนปลายของโครโมโซม ซึ่งใช้เป็นดัชนีวัดระดับความชราในอวัยวะต่างๆ ได้เป็นอย่างดี เช่น หัวใจ กล้ามเนื้อ กระดูก และเส้นเลือดหัวใจ เนื่องจากพออายุมากขึ้นส่วนปลายของโครโมโซมจะหดลง ส่วนปลายนี้อาจเปรียบได้กับปลอกพลาสติกที่ใช้หุ้มเชือกผูกรองเท้า เพราะมันถูกมัดปลายโครโมโซม (เชือกรองเท้า) เข้าไว้ด้วยกันไม่ให้หลุดรุ่ย
นักวิจัยพบว่า คนที่มีไฝมากกว่า 100 จุด มีปลายโครโมโซมยาวกว่าคนที่มีไฝน้อยกว่า 25 จุด จำนวนไฝที่ต่างกันระหว่างคนสองกลุ่มคิดเป็นอายุแล้วถือว่า งกัน 6-7 ปี ผลวิจัยนี้นับเป็นครั้งแรก ที่แสดงให้เห็นว่าคนที่มีความเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนัง กลับได้ประโยชน์ร่างกายแก่ช้าลง โอกาสเป็นโรคหัวใจและกระดูกพรุนน้อยกว่า แต่ต้องศึกษากันเพิ่มเติมอีกเพื่อความชัวร์
ด้านผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์มะเร็ง สหราชอาณาจักรอังกฤษ กล่าวว่า งานวิจัยดังกล่าวควรศึกษาเพิ่มเติม เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่ประชาชนต้องรู้ว่า หากมีไฝจำนวนมากและมีขนาดใหญ่ อาจเสี่ยงเป็นมะเร็งผิวหนังได้ คนที่มีไฝมาก หรือแพ้แดดง่ายควรปกป้องร่างกายให้ปลอดภัย