คือถ้าเจอรถติดๆเครื่องมันจะดับครับ มันจะสะอึกๆแล้วก็ดับไปเลย พอสตาร์ทใหม่ทันทีไม่ติดนะครับ อาการสตาร์ทเครื่องจะสั่นๆเหมือนทำงานไม่ครบสูบ พอจองสัก 10 นาทีก็สตาร์ทได้ปกติ มันจะเป็นตอนรถติดครับ ถ้าวิ่งตอนรถไม่ติดไม่เคยดับเลยครับ เข็มความร้อนก็ไม่ขึ้น หัวเทียนน้ำมันและวาล์วน้ำเปลี่ยนแล้วแต่ก็ไม่หายครับ ท่านใดรู้ช่วยแนะนำหน่อยครับ ขอบคุณมากๆครับ

โดย: เสก   วันที่: 8 Sep 2008 - 11:56

 ความคิดเห็นที่: 1 / 11 : 384609

โดย: เสก

ลืมบอกไปครับ potoge 1.6 เกียร์ธรรมดาครับ

 ความคิดเห็นที่: 2 / 11 : 384728

โดย: Ded_Man_united

แก๊สหรือน้ำมันครับที่เป็นอาการนี้

 ความคิดเห็นที่: 3 / 11 : 384768

โดย: เสก

แก๊สครับ แต่ดับแล้วสตาร์ทน้ำมันก็ไม่ติดครับ ต้องรอสักประมาณ 5-10 นาที ถึงจะสตาร์ทติดครับ

 ความคิดเห็นที่: 4 / 11 : 384953

โดย: p626

เปนเหมือนกันเลยรถผมโครโนสสี่สูบออโต้(แก็ส) พอรถติดไฟแดงดับเลย กว่าจะสตาร์ทติดประมาณ5-10น.(สตาร์ทน้ำมัน) แต่ตอนนี้ไม่เปนแล้ว ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเปนเพราะอะไร

 ความคิดเห็นที่: 5 / 11 : 385016

โดย: srithanon

อาการที่ว่านี้น่าจะมาจากการที่ปรับแกสไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะรถยนต์ที่ติดระบบฟิ๊กมิ๊กเซอร์ น่าจะมีการปรับจูนแกสที่หนาไป อาการนี้ไม่ต้องสังเกตุอะไรมาก เมื่อใดที่มีการดับเครื่องยนต์แล้ว มีอาการเครื่องยนต์ยังไม่ยอมดับ ยังติดอยู่บ้าง เวลาเรากลับมาสตาร์ทด้วยน้ำมัน มันจะสตาร์ทยาก เพราะว่ามีการปรับแกสในช่วงรอบเดินเบามีแกสหนาไป ทำให้แกสบางส่วนตกค้างอยู่ในท่อไอดี ดังนั้นเวลาที่เราสตาร์ทด้วยน้ำมัน ทำให้อัตราส่วนผสมของอากาศ ที่จะไหลเข้าสู่ห้องสูบ ถูกผสมด้วยไอแกสที่ยังคงเหลือในห้องไอดี ผสมไปกับอากาศ ทำให้ส่วนผสมอากาศกับน้ำมัน ในห้องสูบมีอัตราส่วนผสมผิดและหนาไป สตาร์ทติดยาก ต้องรอสักครู่
การที่รถยนต์ติดแกสระบบมิกเซอร์ ไม่ใช่ว่าจะอยู่ที่การปรับจูนที่หม้อต้มอย่างเดียว ก็หาใช่ไม่ ยังต้องมีองค์ประกอบอื่นๆเข้ามาเกี่ยวข้องอีก เช่นกำลังอัดของเครื่องยนต์ เมื่อรถยนต์มีกำลังอัดที่ดี นั้นหมายความว่า ระบบแว็คคัมของห้องไอดี จะมีเสถียรภาพ ที่ดีด้วย หมายความว่ามีแรงดูดจากห้องสูบที่คงที่
ทำให้การดูดแกสจากเข้าห้องไอดี มีกำลังและคงที่ ในการดูดแกส ทำให้เวลาเราปรับจูนแกสจะทำให้รอบเครื่องยนต์ ไม่แวรี่ ขึ้นๆลงๆ ในรอบเดินเบา ดังนั้นรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานมามากมักจะประสบปัญหานี้กันมาก และแก้ไม่ตก ในเรื่องรอบเดินเบา หากเครื่องยังพอใช้ได้ไม่หลวมมาก ก็ต้องมีการตั้งวาวล์เสียใหม่ เพื่อให้เกิดกำลังที่ดี เครื่องยนต์ที่ใช้มาหลายหมื่นกิโล ควรตั้งวาวล์ใหม่ เพื่อให้การปิดเปิดวาวล์ที่สนิท ก็จะได้เพิ่มกำลังอัดของเครื่องยนต์และแรงดูดให้กับท่อไอดี
รถยนต์ของเพื่อนสมาชิกท่านใดยังมีอาการที่ว่านี้ ลองไปทำการตรวจวัดแรงอัด หรือจะตรวจสอบแรงดูดของห้องไอดี ว่าปกติหรือต่ำไปหรือไม่ ก่อนที่จะทำการติดตั้งแกส และรถยนต์ที่ใช้แกสมาสองสามหมื่นกิโล หากรอบเดินเบาของท่านมีปัญหาไม่นิ่ง ลองไปทำการปรับตั้งวาวล์เสียใหม่ก็คงจะหายจากอาการดังกล่าวครับ เพราะวาวล์ท่านปิดไม่สนิท หรือวาวล์เริ่มยันครับ แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นอย่างที่ผมกล่าวเสมอไป แต่จากที่ผมได้สัมผัสมา ส่วนมากจะเป็นอย่างที่ผมกล่าวมานี้แหละครับ

 ความคิดเห็นที่: 6 / 11 : 385048

โดย: S

potoge 1.6 มันเป็นวาล์วอัตโนมัตินะครับ ผมว่าอาการที่ว่าไม่น่าจะเกี่ยวกับระบบแก๊สนะครับ เพราะถ้าเป็นที่ระบบแก๊ส แล้วทำไมสตาร์ทน้ำมันมันไม่ติด ลองไปดูที่ระบบไฟและความร้อนดูนะครับเพราะเห็นว่าจะเป็นเวลารถติดทำในเกิดความร้อน ลองดูครับ

 ความคิดเห็นที่: 7 / 11 : 385358

โดย: พจน์400

วิ่งน้ำมันเป็นหรือเปล่าครับ, ถ้าน้ำมันไม่เป็นก็จูนใหม่ครับ
เข้าใจเช่นเดียวกับคุณ srithanon คือ Start ทันทีไม่ติดเพราะแก๊สค้าง
- รถผมจะรวนตอนวิ่งน้ำมันเป็นระยะทางนานก่อนตัดเป็นแก๊ส, พอตัดเป็นแก๊สละ เหยียบเบรคพี่ท่านจะเร่ง , พอเบาเครื่อง(ไม่เหยียบเบรค)ก็รอบตกดับกลางอากาศ จอดไฟแดงก็ดับ สตาร์ดใหม่ก็ต้องบิด 3 - 4 ครั้ง, อาการจะเป็นอยู่ 2 วัน แล้วก็หาย(บางทีเป่ากรองอากาศทำความสะอาด ยังเป็นเลยครับ)

 ความคิดเห็นที่: 8 / 11 : 385481

โดย: srithanon

ขออนุญาตเพิ่มเติมอีกหน่อย ขอให้คิดว่าเป็นข้อคิดก็แล้วกัน รถยนต์บางรุ่นก็เป็นวาวล์อัตโนมัติ แน่นอนย่อมมีความเสถียรภาพเรื่องของกำลังอัดและแรงดูดให้กับห้องไอดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะแก้ปัญหาในเรื่องรอบเดินเบาได้โดยไม่พึ่งอย่างอื่นครับ บางครั้งก็ต้องมีความเกี่ยวข้องกับส่วนประกอบอื่นๆ ในเรื่องของการปรับจูนและวิธีการที่จะจ่ายแกสเข้าสู่ห้องสูบ เพื่อให้ได้ปริมาณแกสผสมกับอากาศที่ถูกต้อง ทั้งในรอบเดินเบาและรอบสูง แต่องค์ประกอบที่จะจ่ายแกสให้มีแรงดันหรือการจ่ายแกสเข้าห้องสูบที่สม่ำเสมอ ก็ต้องมีวิธีการที่จะนำแกสที่ห้องมิ๊กเซอร์จ่ายให้เพียงพอกับรอบเครื่องยนต์ ผมหมายถึงกรณีรอบเดินเบา(เฉพาะระบบมิ๊กเซอร์)
กรณีที่เครื่องยนต์ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง ในระบบรอบเดินเบาจะไม่มีปัญหา เพราะมีตัวช่วยเรื่องของระบบ ISC ที่ถูกควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เมื่อเซ็นเซอร์ที่อ่านค่าได้จากค่า TPS ที่บอกว่าอยู่ในตำแหน่งรอบเดินเบา ECU ก็จะส่งจ่ายน้ำมันเพิ่มช่วงจังหวะการฉีดเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น เพื่อรัษาเสถียรภาพรอบเครื่องยนต์ให้คงที่ แต่ในระบบแกส ที่เป็นระบบมิ๊กเซอร์ไม่มีตัวช่วย เหมือนกับระบบหัวฉีด ที่สามารถเพิ่มช่วงเวลาการฉีดแกสเพิ่มขึ้น ทำให้รอบเครื่องยนต์ทำงานได้สมบูรณ์คล้ายกับการใช้น้ำมัน และประการสำคัญระบบฟิกมิ๊กเซอร์ เมื่อเครื่องยนต์อยู่ในรอบเดินเบา หรือในจังหวะการถอนคันเร่งของการใช้ความเร็ว จะเห็นว่าปีกผีเสื้อจะปิด ตรงนี้มีความสำคัญอย่างมากเรื่องการจ่ายแกสจากห้องมิกเซอร์เข้าสู่ห้องไอดี อากาศกับแกสถูกบล๊อคเอาไว้ จะมีบางส่วนที่อาศัยช่องพายพาสของห้องเรือนปีกผีเสื้อเช่นตัวปรับสกรูรอบเดินเบาตัวชดเชยของอากาศในระบบน้ำมันและช่องพอร์ทของอากาศที่พายพาสหน้าลิ้นปีกผีเสื้อเข้าสู่ห้องไอดี ที่ถูกติดตั้งไว้และคอนโทรลด้วยระบบเซ็นเซอร์ น้ำหล่อเย็นของเสื้อสูบ ในตอนเช้าๆเวลาเราสตาร์ทเครื่องยนต์เจ้าช่องนี้จะเปิดกว้าง เหมือนดึงโชค ทำให้รอบเครื่องยนต์มีรอบเดินเบาที่รอบสูง ประมาณพันห้าร้อยรอบ และค่อยๆลดลงเมื่อเครื่องยนต์เริ่มร้อน ขออภัยที่กล่าวจุดนี้ แต่ผมกำลังบอกว่าเจ้าช่องที่อากาศไหลผ่านทั้งสองจุดนี้ มันถูกออกแบบมาให้ใช้กับระบบน้ำมัน ที่มีเพียงอากาศที่ไหลผ่านไปยังห้องไอดี ซึ่งมีความสมดูลของอากาศที่ไหลเฉพาะระบบน้ำมัน
แต่ในระบบของการจ่ายแกสในระบบฟิ๊กมิ๊กเซอร์ ความพอดีระหว่างอากาศกับแกส ไหลผ่านที่ช่องนี้ไม่ค่อยจะสมดูลและเพียงพอกับการไหลเข้าห้องไอดี ไปยังห้องสูบ ถึงแม้ว่าเราจะทำการปรับหม้อต้มแกสให้จ่ายแกสได้สมบูรณ์ก็ตาม แต่เมื่อลิ้นปีกผีเสื้อปิดในรอบเดินเบา แกสไม่สามารถจะผ่านเข้าห้องไอดีได้อย่างพอเพียง จึงทำให้ระบบรอบเดินเบามีปัญหา บางท่านอาจจะแย้งว่าเคยปรับจูนแกสได้ถูกต้อง
ไม่เห็นมีปัญหาอะไร รอบเดินเบาก็ปกติ ใช้งานได้ดี ก็ไม่ขอแย้งครับเพราะก็ใช้ได้ แต่มันไม่ค่อยเสถียรภาพ คงที่ บางครั้งบางคราวจะเห็นว่ารอบเครื่องยนต์ตกวู๊ปเครื่องยนต์เกือบดับ หรือดับกลางอากาศ เมื่อยามถอนคันเร่ง หรือเวลาใช้รถที่มีการจราจรติดขัด มากๆ เครื่องยนต์มีความร้อนเพิ่มขึ้น รอบเครื่องยนต์เริ่มเบาและดับไปในที่สุด ในกรณีใช้แกสระบบฟิกมิ๊กเซอร์ ขอกล่าวถึงวิธีแก้ไขเรื่องนี้ก่อน (ส่วนที่ว่าทำไมเวลารถติดนานๆแล้วมีปัญหาอันเนื่องมาจากความร้อนแล้วทำให้รอบเครื่องยนต์ตกลง จะกล่าวในช่วงต่อไป)
เมื่อเราทราบสาเหตุว่าเราไม่สามารถที่จะจ่ายแกสจากห้องมิ๊กเซอรืไปยังห้องไอดีที่พอเหมาะ ในช่วงรอบเดินเบา ก็คือการทำพายพาสให้อากาศกับแกสไหลไปยังห้องไอดีเพิ่มขึ้น โดยอาศัยการคอนโทรลนควบคุมการจ่ายแกสจาก เจ้าตัวแม็คเนติควาวล์ ที่มีสกรูปรับการจ่ายแกส ตามที่ต้องการอยู่ในตัว และอาศัยไฟบวก จากเจ้าตัวติ๊กแกส ทั้งนี้เพราะเวลาใช้แกสโซลินอยวาวล์ หรือแม็คเนติควาวล์ ถึงจะเปิดให้อากาศกับแกสที่ห้องมิ๊กไหลผ่าน หากกลับมาใช้ระบบน้ำมัน มันก็จะปิด อยูในสภาพปกติของการใช้น้ำมัน ต้องเข้าใจว่าการติดตั้งแกสและน้ำมันควบคู่กันไป เมื่อมีการกลับมาใช้น้ำมันจะต้องอยู่ในสถาพเดิม หมายถึง การปรับตัวช่วยสกรู ISC ยังอยู่ตำแหน่งเดิม ของการใช้ระบบน้ำมัน แม้กระทั้งปีกผีเสื้อก็ต้องอยู่ในสภาพเดิม บางอู่ช่างทำการขันสกรูเพื่อให้ปีกผีเสื้อเปิดเผยอขึ้นมา เพื่อให้อากาศกับแกสที่ห้องมิ๊กเซอร์ ผ่านไปยังห้องไอดี แต่ผลที่ตามมาทำให้ระบบการคอนโทรลต่างๆของรอบเครื่องยนต์เปลี่ยนไป ในจังหวะรอบเดินเบา เพราะว่าเจ้าตัว TPS ถูกหมุนให้ไปอยู่ในรอบเครื่องยนต์ ในตำแหน่งเร่ง แทนที่จะมาอยู่ในรอบเดินเบาตามปกติ จึงทำให้เครื่องยนต์ บางครั้งสวิงขึ้นไปเกือบพันห้าร้อยรอบหรือมากกว่านั้น ทั้งนี้เพราะว่า ECU ที่คอนโทรลรอบเดินเบา มันเข้าใจว่าอยู่ในตำแหน่งเร่ง ก็เลยทำให้รอบเครื่องยนต์สูง ขึ้นๆลงๆ คิดว่ามันไม่ถูกต้องครับ
สำหรับเรื่องของรถยนต์ที่ติดอยู่กับที่จากจรจรติดขัดนานๆ จนความร้อนขึ้นมามากขจากเดิม แล้วทำให้รอบเครื่องยนต์ ในรอบเดินเบาต่ำลงและดับไปในที่สุด ทั้งนี้เพราะว่าเมื่อความร้อนที่เครื่องยนต์เพิ่มขึ้น
อากาศที่อ๊อกซิเจนถูกดูดอยู่ในห้องสูปเกิดการขยายตัวมากกว่าปกติของการสันดาป ทำให้ทำให้ส่วนผสมระหว่างอากาศกับน้ำมันเปลี่ยนไป ยิ่งการใช้แกสจะเห็นได้ชัดเจน ทำให้กำลังของเครื่องยนต์ตกลง และบางครั้งอาจจะสดุดและดับไปในที่สุด แต่ข้อนี้ยังมีส่วนประกอบของความสมบูรณ์ของเครื่องยนต์เป็นตัวแปรด้วยเหมือนกัน ก็มาเล่าสู่กันฟังนะครับ หากมีข้อความเห็นใดๆผิดพลาดไปบ้างก็ขออภัย เพราะผมได้มาจากประสบการณ์ของตัวเองครับ อาจผิดพลาดได้ สวัสดีครับ

 ความคิดเห็นที่: 9 / 11 : 386027

โดย: เสก

ขอบคุณมากครับพี่ๆที่ช่วยแนะนำ
แต่วิ่งน้ำมันมันก็ดับอ่ะครับ สงสัยต้องเขาศูนย์แล้วครับ ไม่รู้ศูนย์จะการจุดเจอหรือเปล่า เคยเจอศูนย์ BMW มาแล้วครับ รถผมมีอากาศเสียงสั่นรอบไม่นิ่งช่างก็เอาเครื่องโมดิกมาจับก็หาไม่เจอแก้ไขให้ก็ไม่ได้ โมดิกจับไม่ถึง 10 นาที โดยไป 967 บาท แพงแล้วก็หาจุดไม่เจอหมดคำพูดเลยครับ

 ความคิดเห็นที่: 10 / 11 : 386207

โดย: srithanon

อาการที่คุณเสกบอกมา เคยเจอเหมือนกัน เคยซ่อมให้น้องคนหนึ่งเป็นรถโตโยต้า 4A-FE ของน้องคนนั้น มีการใกล้เคียงกับของคุณ วิ่งๆไปบางครั้งก็ดับเฉยเลย หรือขณะที่จราจรติดขัด เข้าเกียร์ว่าง สักพักใหญ่ๆ เครื่องก็ดับเลย ไม่ทราบสาเหตุ แถมเวลาดับแล้วสตาร์ทไม่ติด เป็นนานสองนาน ใช้น้ำมันครับ ไม่ได้ใช้แกส จนกระทั้ง รถมาเครื่องดับขณะจอด พักเติมน้ำมัน สตาร์ทไม่ติด เขาหาอู่ซ่อมแถวนั้น บังเอิญเพื่อนที่ไปกับเขาอยู่ในซอยแถวบ้านผม ก็แนะนำมา เขาบอกว่าอาการที่ว่านี้ ซ่อมมาหลายที่แล้ว หมดเงินไปหลายพันบาท ช่างเปลี่ยนโน้นเปลี่ยนนี้ ทั้งตัวเรือนจานจ่ายและอื่นๆ โดยช่างจะวิเคราะว่าจานจ่ายเสีย ไฟสูงไม่มี อู่แรกก็เปลี่ยนมา อู่ที่สองก็จะเปลี่ยนอีก บอกว่าไฟสูงที่จ่ายให้กับหัวเทียนไม่มี ก็เหมาไปที่จานจ่าย ว่าเกิดการชอร์ทลีก ชุดทำไฟสูงเสียบ้างล่ะ อู่ที่สุดท้ายพยายามแก้เปลี่ยนอย่างอื่นอีก ก็สตาร์ทติด แต่พอขับออกมาไม่นานมาแวะเติมน้ำมัน มันก็เป็นอีก
เอาผลสรุปก็แล้วกัน ผมต้องถอดกล่อง ECU ออกมาซ่อมให้ ก็โอเคครับ ใช้ได้ปกติ นานเกือบปีแล้ว ยังไม่เห็นกลับมาที่ผมอีก อาการของรถคุณเสก บางครั้งถึงคุณจะนำไปตรวจเช็คที่ศุนย์ ผมว่าอาจจะไม่พบอาการ ต้องตรวจเรื่องการทำงานของกล่อง ECU ว่ามีปัญหาหรือเปล่าก่อนครับ ก่อนที่จะหาข้อมูลในภาคอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ช่างที่ทำการตรวจเช็คเรื่องนี้ ต้องเป็นช่างอีเลคโทรนิคส์ด้วย เพราะจะได้ทำการตรวจเช็ควงจรระบบเซ็นเซอร์ต่างๆ ว่ามันทำงานปกติหรือไม่ ต้องเข้าใจและหาอุปกรณ์ ที่จะมาวิเคราะห์ปัญหาแต่ละจุดได้ ต้องเข้าใจการทำงานของวงจรเซ็นเซอร์ต่างๆของระบบเครื่องยนต์ได้ดี และสามารถที่จะอุปกรณ์มาหรอกวงจรให้ทำงานแทนเซ็นเซอร์เหล่านั้นได้ เพื่อวิดคราะห์ว่ามันทำงานได้ถูกต้องหรือเปล่า ถึงจะสามารถที่แก้ปัญหารถ ที่ถูกควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ได้ครับ

 ความคิดเห็นที่: 11 / 11 : 390491

โดย: เสก

ในที่สุดก็เจอเจ้าตัวปัญหาแล้วครับ เซนเซอร์เพลาลูกเบี้ยวครับ ไปซื้อมาเปลี่ยนเองจากศูนย์ครับ ราคา 1750 บาท บอกว่าเป็นช่างลดอีก 10% แต่สุดท้ายก็มาบวกภาษีอีก 7% เท่ากับลดไปแค่ 3% เหลือ 1685 บาท หายแล้วครับ