Close this window

ขอสอบถามเรื่องวิ่งทางไกลๆแล้วน้ำมันเครื่องหายหน่อยครับ
คือว่าตอนนี้ใช้ตาตี่ปี 97 ครับ ติดแก๊สหัวฉีด AG ได้สองเดือนแล้วครับแต่รู้สึกว่า...ถ้าวิ่งทางไกลๆน้ำมันเครื่องจะหายทุกทีเลยครับต้องซื้อขวดลิตรเติมทีละขวด บางทีก็สองขวดเลยนะครับ
ตัวซินฝาครอบก็เปลี่ยนแล้วครับตรวจสอบดูก็ไม่ซึมเท่าไหร่.....แต่ถ้าวิ่งทางไกลๆนี่จะหายตลอดเลยอยากจะรู้ว่าต้องทำยังไงครับ....มันต้องเกี่ยวกับการใช้แก๊สใช่รึป่าวครับ...รึว่าเป็นที่ตัวไหน..ช่วยชี้แนะด้วยครับผม
โดย: โหน่ง Astina   วันที่: 9 Dec 2009 - 21:13


 ความคิดเห็นที่: 1 / 13 : 528526
โดย: ตาต้อ
ของผมก้อเป็นเหมือนกันเลยครับ ติดแก๊ส วิ่งไปกลับกรุงเทพ-ยโสธร เติมน้ำมันเครื่องประมาณเกือบๆ 1ลิตร แต่ถ้าวิ่งในกรุงเทพไม่น้ำมันเครื่องไม่ค่อยลดเท่าไหร่ ผมว่าน่าจะมาจากการติดแก๊สด้วยแหละเห็นเค้าว่ากันว่าใช้แก๊สเครื่องมันจะร้อนกว่าใช้น้ำมัน อีกอย่างผมอัดด้วยเหยียบแช่ 130-150 แทบตลอดทาง รถผม ซีดานปี 94 เครื่อง 1600 หัวฉีด
รอผู้รู้มาช่วยตอยอีกทีนะครับ
วันที่: 10 Dec 09 - 07:37

 ความคิดเห็นที่: 2 / 13 : 528536
โดย: พีระพล
ผมว่าแก๊สบางที่ความเร็วสูง ทำให้เครื่องร้อนกว่าปกติมาก น้ำมันเครื่องระเหยไวขึ้น
เคยจูนแก๊สเกือบบาง ประหยัดดีครับ
แต่วิ่งความเร็วกว่าร้อยเมื่อไร น้ำมันเครื่องหายไวทุกที
วันที่: 10 Dec 09 - 08:25

 ความคิดเห็นที่: 3 / 13 : 528547
โดย: จะเด็ด
แก๊สบางที่รอบสูง ระวังเครื่องจะพังไวครับ
เหมือนที่คุณพีระพลบอกไว้

ลองตรวจสอบการจูนสักหน่อยครับ
วันที่: 10 Dec 09 - 09:35

 ความคิดเห็นที่: 4 / 13 : 528560
โดย: PEE2221
เท่าที่ทราบครับ การใช้แก๊ส หรือ LPG นั้น การทำงานของห้องเครื่องจะร้อนเป็น 3 เท่าของการใช้น้ำมัน ต้องตรวจเช็ค ระบบระยายความร้อนต่าง ๆก่อนเดินทางไกลครับ ประมาณครึ่งทางพี่ต้องเช็ค 1 ครั้ง ก็ลองคิดดูง่าย ๆนะครับ ว่าร้อนขนาดไหน ถ้ารถของพี่ ๆ เป็นคาบูตเรเตอร์ ใช้ระบบหัวเทียนก็ถึงกับต้องเป็นหัวเทียนใหม่ ที่ใช้กับแก๊ชเพื่อป้องกันการละลาย รถหลายคันที่พัง ก็เพราะการใช้ LPG นั้นประหยัดแต่ก็มีข้อเสียคือ ความร้อนที่มากกว่าปกติ ทำให้อุปกรณ์ต่างๆร้อนตาม ผลคือ น้ำมันเครื่องระเหยเร็วขี้น หากพี่วิ่งอย่างเดียวไม่เช็คน้ำมันเครื่อง โอกาสเจอเครื่องพัง ก็มีมากขึ้นเพราะน้ำมันแห้ง วิธีแก้ ง่าย ๆครับ เลิกใช้แก๊สแล้วหันไปใช้น้ำมัน แต่ถ้าอยากประหยัด ก็ใช้แก๊สแต่ก็ต้อง แลกเอาครับ เพราะรถที่ใช้แก๊ซ จะสึกหรอกว่า น้ำมัน
ลองทำตามวิธีนี้ดูครับ
1 เปลี่ยนน้ำยาระบายความร้อนใหม่ก่อนออกเดินทางไกล
2. เช็คระบายความร้อนต่าง ๆ ให้ครบ
3. สลับการใช้ความเร็ว ต่ำบ้างสูงบ้างเพื่อให้เครื่องได้พัก และหยุดพักกลางทางบ้างเพื่อพักเครื่อง อย่าวิ่งอย่างเดียวเพื่อให้ถึงจุดหมายเพราะอย่าลืมว่ารถเราเก่าแล้ว ปี97 นะครับ
4 การที่พี่วิ่งใน กทม. ไม่กินนั้นไม่ใช้เรื่องแปลกเครื่องร้อนก็จริงแต่เครื่องยนต์ทำงานไม่เต็มสูบครับ
5.การจูนมีส่วนช่วยครับแต่ไม่ช่วยได้เท่าไหร่ตราบใดที่พี่ยังใช้ความเร็วที่ 130-150
วันที่: 10 Dec 09 - 10:33

 ความคิดเห็นที่: 5 / 13 : 528591
โดย: Devman
ผมใช้ Mobile Super 2000 สำหรับ LPG/NGV วิ่งวันละร้อยโล ไม่ค่อยหายเท่าไหร่นะ ประมาณ พัน- สองพันโล เติมที
วันที่: 10 Dec 09 - 11:54

 ความคิดเห็นที่: 6 / 13 : 528613
โดย: ขาจร
ขอผมเติมเหลือเก็บไว้หลังรถ วันนี้จะเอามาเติม ไม่รู้ไปไหน
ยังหาไม่เจอ ไม่ได้ไปไหนไกลเลยนะ
วันที่: 10 Dec 09 - 13:11

 ความคิดเห็นที่: 7 / 13 : 528614
โดย: นายหนึ่ง
ความเห็นที่ 4 อ่านไม่รู้เรื่องเลยครับ

ใช้แก๊สแล้วร้อนขึ้น คิดเป็น % ก็ไม่กี่ % เท่านั้น ไม่มีนัยยะพอที่จะทำให้ระบบระบายความร้อนมาตรฐานเอาไม่อยู่ครับ

หัวเทียน เคยใช้อะไรก็ใช้ไปแบบนั้น เมื่อถึงเวลาหมดสภาพ ก็เปลี่ยนไปตามปกติอีกเช่นกัน

ทำไมถึงน้ำมันเครื่องหาย?

ประเด็นเรื่องระเหยเพราะร้อน ...น้ำมันเครื่องนะครับไม่ใช่น้ำก๊อก ไม่ระเหยได้ง่ายครับ ต่อให้ร้อนจนทะลุขีดแดง น้ำมันเครื่องก็ไม่ได้ระเหยไปในทันที

ที่หายไปนั้น เพราะการใช้รอบสูงต่อเนื่องกัน ที่รอบสูง แหวนแรงอัดและแหวนกวาดน้ำมัน กวาดน้ำมันลงอ่างได้ไม่หมดจดเท่ากับการเดินเบา หรือใช้รอบต่ำในเมือง นั่นก็เป็นที่มาว่า ขับในเมืองน้ำในไม่ค่อยหายเท่าขับทางไกล

และรถแก๊สที่จูนเน้นประหยัด หลายๆคัน ได้เกิดความเสียหายจาก Lean Burn ทำให้แหวนกวาดน้ำมัน ตีนวาวล์ กระบอกสูบ เกิดความเสียหาย ทำให้น้ำมันเครื่องเล็ดลอดเข้าห้องเผาไหม้ได้มากกว่ารถใช้น้ำมันที่ไม่เคยดัดแปลง

ที่ผมจะบอกคือ รถใช้เบนซิน พอเก่า พอสึกหรอ วิ่งรอบสูงก็ทานน้ำมันเครื่องมากกว่าในเมืองเช่นกัน

เปลี่ยนน้ำยาหม้อน้ำก่อนเดินทางไกล สิ้นเปลืองเกินไปนะครับ เครื่องจะฮีตไม่ฮีต ถ้าระบบเป็นปกติไม่อุดตัน อยู่ที่น้ำแห้ง หรือไม่แห้งเท่านั้น น้ำยาที่ใส่ๆ กัน ทำหน้าที่หลักคือกันระบบกัดกร่อนเท่านั้นเอง

สลับความเร็วต่ำบ้างสูงบ้าง ไม่มีประโยชน์ครับ กลับไปอ่านข้างบนอีกรอบ


ทำความเข้าใจกับคุณสมบัติเชื้อเพลิง และเซตอัพให้เหมาะสมกับรถ

เหยียบไปเถอะครับ ไม่พัง ไม่ต้องวิตกจนเกินเหตุ

140-160 สิวๆ สำหรับแก๊สครับ
วันที่: 10 Dec 09 - 13:12

 ความคิดเห็นที่: 8 / 13 : 528624
โดย: Méchant (charu)
ของผม 120 ไปตัดเป็นน้ำมันแล่ว แก้สคงจ่ายไม่ทัน แบบดูดนะคับ
วันที่: 10 Dec 09 - 13:59

 ความคิดเห็นที่: 9 / 13 : 528630
โดย: จะเด็ด
หึ หึ... คุณหนึ่งครับ เดี๋ยวถ้าผมพอมีวาสนา
จะไปหา OBD II to USB Datalink มาใช้สักหน่อย
(เท่าที่ผมรู้มันมีแบบราคาเบาๆ อยู่บ้าง
จับคู่กับซอฟต์แวร์ดีๆ บนโน้ตบุ๊ก เท่านี้ก็ทำอะไรได้อีกตั้งหลายอย่างแน่ะ)

จะเอามาจับที่พอร์ต OBD II ของรถผมซะ
แล้วเก็บ Data Log จากกล่องน้ำมันมาโชว์ซะให้หายสงสัยเลย
ว่ามันมีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง ระหว่างวิ่ง LPG เทียบกับเบนซิน
ฮ่า ฮ่า...
วันที่: 10 Dec 09 - 14:48

 ความคิดเห็นที่: 10 / 13 : 528639
โดย: Pot 5d V6
เอ..ผมว่ามันไม่น่าเกี่ยวกับแก็สครับน่าจะป็นที่เครื่องมากกว่า
อาจจะมีรั่วตามประเก็นบ้าง เครื่องยนต์เริ่มหลวม
เท่าที่ผมใช้แก็สมาเป็นปีเหยียบก็น่าดูครับ 120-150 เป็นหลักออกต่างจังหวัดบ่อยมาก
น้ำมันเครื่องก็ไม่ยุบนะครับ มีแต่ดำ ผมว่าควรตรวจเช็คเครื่องก่อนดีกว่า
เพราะเครื่องยนต์ถ้าเก่าแล้วใช้เบนซินธรรมดายังมีรั่วมากกว่าแก็สเลยครับ
วันที่: 10 Dec 09 - 15:49

 ความคิดเห็นที่: 11 / 13 : 528640
โดย: นายหนึ่ง
เสียดาย FS ของผม มันเป็น OBD-1
วันที่: 10 Dec 09 - 15:59

 ความคิดเห็นที่: 12 / 13 : 528696
โดย: vetis
แร๊งงงง
วันที่: 10 Dec 09 - 20:26

 ความคิดเห็นที่: 13 / 13 : 529565
โดย: -เอส-
ติด AG ที่ไหนครับผม ผมก็ติด AG นำมันหายเหมือนกันครับแต่...
หายเพราะแหวนรองตรงฝาน้ำมันเครื่องมันรั่วครับ (สังเกตุดูตรงบริเวณฝามันจะมีรอยคราบอยู่๗
ตอนแรกนึกว่าเป็นคราบที่หกตอนเติม พอหลังๆลองเช็ดแล้วใช้ไปซักพักก็เจอคราบอีก เลยลองถอดฝาดู
ปากอบว่า O-Ring มานขาดหายไปเกือบหมดแว้ว พอเปลี่ยนแล้วน้ำมันเครื่องก็แทบไม่ขาด หุหุไม่ใช่ว่าจะหาย แต่มานมีรั่วที่ จานจ่ายอีก >< พอเปลี่ยนที่จานจ่ายก็....ยังไม่รู้เพราะรอดูอาการอยู่ครับ)

แง้ววว

PS.แต่ดีกว่าเดิมขึ้นเยอะมากจากปกติ3เดือนเติม1ขวดเปลี่ยนเป็นเกือบครึ่งปีเติม1ขวด
(รถวิ่งวันละประมาณ 90โล/วัน ออกต่าง จว.เดือนละครั้ง 500โล/ครั้ง LANTIS 1.8 AT)
สรุปลองหาจุดรั่วก่อนครับถ้าไม่เจอก็งานอาจเข้า เพราะผู้รู้แจ้งมาว่าอาจเป็นที่เครื่อง(บ่าวาวว์ ห่าง)ต้องรื้อมาเซ็ตใหม่ ไม่ก็ OVER HALL ซึ่งไม่ชัวว์ว่าจะหายไหม ราคาทำก็เกือบ 10,000 แนะนำว่า
เก็บตังเปลี่ยนเครื่องใหม่ดีกว่าครับผมถ้าเครื่องเก่ามากแล้ว ส่วนของผมปี95 ครับวิ่งมา 213,xxx โลแว้ว ยังพอไหวครับ
สุดท้ายขอให้เสียตังแค่ 150-500 นะครับ (ค่า O-Ring) งุงิ
วันที่: 14 Dec 09 - 14:18