อีพ๊อกซี่ โดยทั่วไปจะแยกเป็นสองส่วนคือส่วน A ที่เป็นเนื้ออีพ๊อกซี่ ซึ่งจะทำให้คงทน และส่วน B เป็นส่วนที่ทำให้แข็งแห้งไว ซึ่งเมื่อผสมเข้ากันแล้วจะให้คุณสมบัติของอีพ๊อกซี่ แข็งแรงคงทนทุกสภาวะ เป็นต้นว่า เนื้ออีพ๊อกซี่ที่ใช้อะมีนเป็นตัวทำแข็ง จะไม่ทนความร้อนและด่าง แต่ทนความเย็นถึง ติดลบ 200 องศาเซลเซียส เนื้ออีพ๊อกซี่ที่ผสมกับอะไมด์จะมีคุณสมบัติไม่ทนความเย็นเท่าที่ผสมกับอะมีน แต่ทนความร้อนได้ถึง 70 องศาเซลเซียส เมื่ออีพ๊อกซี่แข็งตัวแล้วจะไม่สามารถทำให้กลับไปสู่สภาพเดิมได้ อีพ๊อกซี่มีคุณสมบัติในการยึดเกาะสูงและทนต่อแรงดึงมาก มีความทนทานต่อการใช้งานมากกว่า อะคิลิก แต่น้อยกว่ายูรีเทน ที่ทนทานต่อการขัดถูมากที่สุด จึงนิยมนำไปเคลือบพื้น แต่อีพ๊อกซี่มีคุณสมบัติพิเศษคือทนทานต่อสารเคมี กรด และด่างมากกว่า ถึงอย่างไรก็ตามในตลาดก็มีผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่าสามารถใช้งานภายนอกนั้นก็เป็นไปได้ เพราะได้มีการผสมสารเสริม (Additive) ที่ทำให้มันทนทานต่อรังสียูวี ไม่แตก หรือเปลี่ยนเป็นสีเหลืองในเวลาอันรวดเร็ว ทางโรงงานได้นำเข้าอีพ็อกซี่มาจากต่างประเทศเยอรมันนี สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ เช่น ทำกาว ทำสีอุดหรือโป๊ว หล่อไฟเบอร์กลาส หล่อชิ้นงานต้นแบบ แม่แบบ เหมาะกับวัสดุ ไม้ โลหะ และปูน อีพ๊อกซี่ที่มีความต้านทานไฟฟ้าสูงและระบายความร้อนได้ดีจะนำไปหล่อทับอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อีพ๊อกซี่แต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติเด่นแตกต่างกันเช่น ทนต่อแรงกดและการขัดถู เป็นตัวต้านทานไฟฟ้าที่ดี ใส ไม่มีสี เป็นมันวาว อ่อนตัวได้ (Flexible) ไม่เป็นพิษ (Non-toxic) ความหนืดต่ำ เวลาทำงานยาว (Pot-Lift) เป็นโดม โค้ง ยืดเกาะดีไม่ไหลย้อย (Non-sag) การทนทานต่อการติดไฟ การทนทานต่อสารเคมี และน้ำ การทนต่อรังสียูวี สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดว่าเราควรที่จะเลือกใช้อีพ๊อกซี่ตัวใดให้เหมาะสมกับงานนั้นๆ

4 pot แท้ๆ ไปเลยดีกว่า อิอิ

คาลิปเปอร์ของเดิมมันอันเล็กนิดเดียวอ่ะ

สิ้นเดือนมาเก็บเงินด้วยนะตาเก่ง

เคยทำแต่แบบนี้
มันก้อโอเคนะ
เอาป้ายพลาสติกMSมาแปะให้นูนุ
ผมว่ามันจะละลายซะก่อน

ใหญ่ขึ้นมาหน่อยนึงแล้วลุงต่อ

4 pot แท้ๆ ไปเลยดีกว่า อิอิ