Close this window

แนะนำร้านล้างแอร์รถยนต์ไม่ถอดคอนโซล เพียง800บาท
โปรโมชั่นพิเศษสุด สำหรับแอร์รถยนต์ เพียง 800 บาท
ล้างแอร์ไม่ถอดตู้ และคอนโซล สะอาด สะดวก รวดเร็ว ด้วยเครื่องล้างแอร์อัตโนมัติ
เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดในการบำรุงรักษาแอร์รถยนต์ โดยใช้เวลาเพียง 1 ชม. ไม่ต้องรื้อคอนโซล ไม่ต้องถอดตู้แอร์ ไม่ต้องเปลี่ยนวาวล์ ไดเออร์ และไม่ต้องแว็คคั้มเติมน้ำยาแอร์ใหม่ ด้วยเครื่องล้างอัตโนมัติ ทางร้านมีกล้องเวบเคมส่องให้ดูก่อนล้างและหลังล้างแอร์ เพื่อการันตีว่าสะอาดจริงหรือไม่
รถทุกคันที่เข้ารับบริการล้างแอร์กับทางร้าน แถมฟรี ล้างแผงระบายความร้อนแอร์ส่วนหน้าให้ด้วย พร้อมฟอกอากาศอบโอโซน มูลค่า 500 บาทฟรี
ข้อดีของการล้างด้วยเครื่องอัตโนมัติ
1. ใช้เวลาแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น น้อยกว่าการถอดตู้ล้าง
2. ค่าใช้จ่ายถูกกว่าการถอดตู้ออกมาล้าง
3. ไม่ต้องเปลี่ยนวาวล์และไดเออร์ใหม่
4. ไม่ต้องเสียค่าแว็คคั้มเติมน้ำยาแอร์ใหม่
5. ไม่เกิดความเสียหายของคอนโซลเนื่องจากการถอดประกอบ
6. ตู้แอร์ไม่รั่วง่าย
ควรล้างตู้แอร์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง หรือทุก 20,000 กม.
เพื่อช่วยแก้ปัญหาแอร์ไม่เย็น ช่วยประหยัดน้ำมัน ช่วยลดปัญหาภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจ
ขั้นตอนการทำงานเครื่องล้างแอร์รถยนต์
1 ระบบจะฉีดน้ำด้วยหัวฉีดแรงดันเข้าที่คอยล์แอร์ เพื่อชะล้างคราบฝุ่นให้หลุดออกเบื้องต้น
2 ฉีดน้ำยาย่อยสลายคราบฝุ่นที่เกาะตามคลีบคอยล์แอร์ แล้วฉีดน้ำล้างให้สะอาด
3 ระบบฉีดน้ำยาฆ่าเชื่อโรคขจัดกลิ่นอับชื่น แล้วฉีดน้ำล้างออกอีกครั้ง
4 ระบบอบโอโซน เพื่อฆ่าเชื่อแบคทีเรีย แล่ะกลิ่นอับชื้น ต่างๆภายในรถทั้งคัน
หมายเหตุ กรณีรถของท่านใช้งานเกิน20,000 กิโลเมตร หรือ 1 ปี ทางร้านจะไม่รับประกันตู้แอร์รั่วเพราะอะไหล่มีอายุการใช้งาน #
ติดต่อเราใด้ที่ ร้าน ท.การช่าง (ติวานนท์ นนทบุรี)
ปากซอย ติวานนท์ 46 ตรงข้าม บ.โตชิบา ติวานนท์
เบอร์โทร 02-9523293 081-4953254
Email address [email protected]
รับบริการ ซ่อม ติดตั้ง แอร์ไดนาโม แบตเตอร์รี่ บริการให้คำแนะนำปัญหารถฟรี
ยินดีรับบัตรเคดิต ระบบเงินสด และ ระบบเงินผ่อน
โดย: วรรณ   วันที่: 21 Aug 2010 - 10:07


 ความคิดเห็นที่: 1 / 17 : 587570
โดย: วรรณ
วันที่: 26 Aug 10 - 19:10

 ความคิดเห็นที่: 2 / 17 : 587744
โดย: วรรณ
แผนที่ร้านครับ
วันที่: 27 Aug 10 - 15:38

 ความคิดเห็นที่: 3 / 17 : 588030
โดย: วรรณ
วันนี้ครับ นีโอ เข้ามารับบริการ นี้เป็นแค่ส่วน 1 ของวันนี้
[url=http://a.imagehost.org/view/0194/DSCN2131] src="http://a.imagehost.org/0194/DSCN2131.jpg" border="0" />[/url]
วันที่: 29 Aug 10 - 15:22

 ความคิดเห็นที่: 4 / 17 : 588131
โดย: วรรณ
รถที่มาล้างแอร์เมื่อวานครับ nsisan neo
วันที่: 30 Aug 10 - 10:38

 ความคิดเห็นที่: 5 / 17 : 588859
โดย: วรรณ
วันที่: 01 Sep 10 - 22:22

 ความคิดเห็นที่: 6 / 17 : 589297
โดย: วรรณ

ดูแลแอร์รถให้เย็นสม่ำเสมอ
ร้อน ๆ อย่างนี้ ถ้าแอร์รถไม่เย็นก็อาจจะรู้สึกเหมือนตกนรกได้นะ เพราะฉะนั้น มาดูแลระบบปรับอากาศในรถให้ดี ๆ จะได้เย็นกายสบายใจตลอดเวลาไงล่ะ

หมั่นล้างตัวแผงคอนเดนเซอร์หรือรังผึ้งแอร์อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยเดือนละครั้ง เพราะหลักง่าย ๆ ของระบบปรับอากาศก็คือการถ่ายเทความร้อนถ้ารถขับเคลื่อนล้อหน้าก็ต้องใช้พัดลมไฟฟ้า ในกรณีที่รถอยู่นิ่ง ๆ นะครับ แต่ถ้ารถขับเคลื่อนล้อหลังก็จะอาศัยการหมุนของเครื่องยนต์โดยมีใบพัดคอยระบายความร้อน หมั่นดูแลอย่าให้สิ่งสกปรกอุดตัน การระบายอากาศจะได้ไหลเวียนสะดวก อากาศเย็น ๆ จะช่วยถ่ายเทความร้อนจากแผงรังผึ้งแอร์ ทำให้แอร์เย็นขึ้น
วันที่: 03 Sep 10 - 15:21

 ความคิดเห็นที่: 7 / 17 : 589981
โดย: วรรณ
ตรวจดูน้ำยาแอร์กันบ้างนะครับ

สังเกตปริมาณน้ำยาแอร์บ้าง ทดสอบง่าย ๆ คือติดเครื่อง เปิดแอร์ให้เย็นที่สุด พร้อมปรับพัดลมแรงที่สุด ติดเครื่องไว้ราว ๆ 5 นาทีแล้วสังเกตที่ตาแมวซึ่งอยู่ในดรายเออร์ (อยู่ด้านหน้ารถใกล้กับแผงคอนเดนเซอร์ฝั่งขาออกจากท่อ) ที่ทำหน้าที่ดูดความชื้นจากในระบบแอร์ วิธีสังเกตคือ ควรจะมีฟองอากาศวิ่งเล็กน้อย ไม่ใสจนไม่เห็นฟอง และไม่ขาวขุ่นเป็นฝ้า อย่างหลังนี่แสดงว่าน้ำยาแอร์ขาดเยอะ ถ้าใส่ปิ๊งก็น้ำยาเกิน ลองสังเกตดูบ่อย ๆ ถ้ามีอะไรผิดปกติเราจะได้แก้ไขทัน
วันที่: 06 Sep 10 - 17:13

 ความคิดเห็นที่: 8 / 17 : 590184
โดย: วรรณ
รักษาความสะอาดในรถ ยิ่งบริเวณพรมวางเท้าด้านเบาะหน้ายิ่งต้องระวัง เพราะลมที่เป่าเย็น ๆ ก็มาจากพัดลมซึ่งทำหน้าที่ดูดลมตรงบริเวณดังกล่าวให้ปะทะกับแผงคอยล์เย็นที่ให้ความเย็นกับห้องโดยสาร ถ้ามีสิ่งสกปรกอุดตันมากก็จะทำให้การส่งความเย็นไม่เต็มที่ หรือมันอาจเย็นมากจนเป็นน้ำแข็งได้ ซึ่งอาจทำให้ระบบรั่วได้ อย่างน้อยก็ให้สังเกตว่าถ้าลมที่ออกมาไม่แรงเหมือนเดิม หรือมีกลิ่นเหม็นอับรุนแรงตลอด แสดงว่าตู้แอร์เริ่มสกปรกแล้ว ควรหาร้านแอร์ที่ชำนาญเพื่อล้างตู้แอร์ใด้เลย
ปล. จะล้างแบบประหยัดก้อต้องล้างแบบไม่ถอดคอนโซล ถ้าถอดล้างก้อแพงหน่อย ขึ้นอยู่ที่ท่านตัดสินใจ ล้างแบบไหนก้อสะอาดเหมือนกัน
วันที่: 07 Sep 10 - 11:19

 ความคิดเห็นที่: 9 / 17 : 590538
โดย: วรรณ
มาดูรถที่ถอดตู้แอร์ออกมาล้างกันนะครับ เกือบทุกคันจะมีสภาพแบบในรูป
วันที่: 08 Sep 10 - 17:19

 ความคิดเห็นที่: 10 / 17 : 590858
โดย: วรรณ
รถที่ล้างแอร์แบบไม่ถอดคอนโซล แค่ถอดพัดลมแอร์ออก แล้วสอดหัวฉีดเข้าไปล้าง ส่วนพัดลมก้อนำไปทำความสะอาด
[url=http://i.imagehost.org/view/0824/1_149] src="http://i.imagehost.org/0824/1_149.jpg" border="0" />[/url]
วันที่: 10 Sep 10 - 09:03

 ความคิดเห็นที่: 11 / 17 : 591755
โดย: วรรณ
ยินดีต้อนรับบริการตรวจเช็คตู้แอร์ฟรี ที่ ท.การช่าง 029523293
วันที่: 14 Sep 10 - 13:48

 ความคิดเห็นที่: 12 / 17 : 591960
โดย: วรรณ

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่บริการล้างแอร์แบบใหม่ สนใจติดต่อใด้ที่ ท.การช่าง 029523293
วันที่: 15 Sep 10 - 13:26

 ความคิดเห็นที่: 13 / 17 : 592218
โดย: วรรณ
นำงานวันนี้มาให้ดูกันครับ มิตซู lercer
วันที่: 16 Sep 10 - 18:39

 ความคิดเห็นที่: 14 / 17 : 592403
โดย: วรรณ
วันที่: 17 Sep 10 - 16:13

 ความคิดเห็นที่: 15 / 17 : 592519
โดย: วรรณ
ปัจจัยหลัก ที่ทำให้แอร์รถยนต์ของท่านตันนั้น มีได้หลายสาเหตุ ซึ่งแยกเป็นหัวข้อต่างๆได้ดังนี้

1. ใช้น้ำหอมปรับอากาศและสารระเหยภายในรถยนต์เป็นประจำ

เพราะสารระเหยเหล่านี้ เมื่อโดนความชื้นและความเย็นของแอร์แล้ว จะเปลี่ยนสถานะเป็นเมือกเหนียวเกาะติดคอยล์เย็นแอร์ นานวันเข้า
คอยล์เย็นนี้ ก็จะเริ่มมีอาการเิปิดแอร์แล้ว ลมแอร์ออกมาเบากว่าที่ควรจะเป็น เช่น ปกติเคยเปิดแอร์อยู่ที่ระดับความแรง และความเย็น
ที่ระดับ 1 แต่ต้องเพิ่มความความเย็นเป็น ระดับ 2 ระดับ 3 หรือ ระดับ 4 ก็เพราะว่าลมแอร์ไม่สามารถผ่านคอยล์เย็นแอร์ แล้วออกมาทาง
ช่องแอร์หน้าคอนโซลได้ หรือทีเ่ราเรียกว่า " แอร์ตัน "
2 . การสะสมของเศษผง ขนสัตว์ และฝุ่นละออง

หากไม่มีการดูดฝุ่น หรือกำจัดฝุ่นละอองในห้องโดยสารเป็นระยะเวลานาน จะทำให้เกิดการสะสมของฝุ่นละออง และเศษผงต่างๆ
ในตู้แอร์ และฝุ่นละอองเหล่านี้จะไปเกาะและอุดตันอยู่ในแผงคอยล์เย็นแอร์ และจะส่งผลให้เป็นอีกสาเหตุของ " แอร์ตัน " ได้
3 . พื้นที่การใช้รถยนต์

เนื่องจากสภาพท้องถนนของกรุงเทพที่เต็มไปด้วยมลภาวะต่างๆ เช่น ฝุ่น และควัน จากท่อไอเสีย ซึ่งจะทำให้คอยล์เย็นแอร์ อุปกรณ์
ที่ทำหน้าที่ผลิตความเย็นในห้องผู้โดยสาร กลายเป็นแหล่งเก็บฝุ่นละออง และคราบสกปรกต่างๆ เมื่อมีการสะสมนานวันเข้าก็จะส่งผลให้
"แอร์ตัน" ได้ ยิ่งไปกว่านั้นมันจะเป็นที่ที่เพาะเชื้อราและแบคทีเรียหลายชนิด ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของ การไอ จาม และโรคภูมิแพ้ัต่างๆ ได้
ดังนั้นการทำความสะอาดระบบแอร์รถยนต์ช่วยขจัดกลิ่นอับ ด้วยน้ำยาล้างระบบแอร์ที่มีประสิทธิภาพ ในการทำความสะอาด และกำจัด
เชื้อโรคและสิ่งสกปรกต่างๆ ที่เป็นสาเหตุของกลิ่นไม่พึุงประสงค์ การทำความสะอาดระบบแอร์จะช่วยให้การหมุนเวียนของอากาศดีขึ้น
และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความเย็น ซึ่งจะทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น ซึ่งในการล้างแอร์รถยนต์แบบไม่ถอดตู้แอร์รถยนต์ ทีคลีน (t-clean) สามารถล้างได้บ่อยครั้ง โดยไม่มีผลกระทบต่ออุปกรณ์แอร์ และคอยล์เย็นแอร์
วันที่: 18 Sep 10 - 09:48

 ความคิดเห็นที่: 16 / 17 : 592895
โดย: วรรณ
ล้างตู้แอร์ กับ เรื่องเข้าใจผิด
สมมติว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่แอนตี้เรื่องการล้างตู้แอร์รถยนต์ เพราะได้ยินประสบการณ์เลวร้ายมาเยอะ

ความเข้าใจผิด ถ้าแอร์ยังมีลมออก มีความเย็น อย่าไปล้างเดี๋ยวตู้จะรั่ว ใช้ไปเถอะจนกว่าจะไม่มีความเย็นแล้วค่อยซ่อมทีเดียว ถ้ามาถอดล้าง เดี๋ยวตู้รั่ว

ความจริง ถ้าตู้แอร์รั่วมาก่อนแล้ว ล้างยังไงก็ต้องรั่ว แต่ที่ไม่ปรากฏอาการ เพราะเจ้าฝุ่นไปอุดรอยรั่วนั้นอยู่ พอล้างเอาฝุ่นออก รอยรั่วจึงปรากฏ ดังนั้นการล้างตู้แอร์แบบไม่ถอดตู้ จึงไม่เหมาะกับรถที่ไม่เคยล้างตู้แอร์มานานหลายปี เพราะเจ้าของรถส่วนใหญ่จะพูดว่า ก่อนทำไม่เห็นเป็นเลย (เราเองก็ใช้ประโยคนี้บ่อยเหมือนกัน) คราวนี้ต้องมาดูว่าตู้แอร์รั่วได้อย่างไร ความจริงส่วนที่รั่วก็คือแผงคอยล์เย็นในตู้แอร์ เมื่อมันอยู่ในตู้แอร์มิดชิดขนาดนั้น การทีจะไปกระแทกจนรั่วคงเป็นไปได้ยาก แผงคอลย์เย็นจะทำมาจากอลูมิเนียม เป็นซี่ๆ เรียงตัวเหมือนหม้อน้ำรถยนต์ ที่มาของการรั่วก็คือ ฝุ่น คราบสกปรก ที่เกาะอยู่บนคอยล์เย็น ทำปฎิกิริยากับความชื้น พัฒนาจนเป็นกรดสนิมค่อยทำให้อลูมิเนียมอ่อนตัวลง จนสามารถถูกกัดกร่อนได้ สรุปก็คือ ถ้าไม่คิดจะล้างเลย ตู้รั่วแน่นอน

ความเข้าใจผิด ล้างตู้แอร์ที่ดีต้องเอามาล้างข้างนอก กลิ่นถึงจะหมด

ความจริง กลิ่นหลังการล้างมาได้จากหลายสาเหตุ สารที่ใช้ล้าง วิธีการ จะบอกผลของงานได้อย่างดี เหมือนการซักผ้า ใช้ผงซักฟอกในปริมาณที่เหมาะสม ซักล้างถูกวิธี คุณก็จะได้ผ้าที่สะอาด การทำความสะอาดตู้แอร์ในปัจจุบันมีหลายวิธี แต่ละวิธีมีข้อดีข้อด้อยเหมือนกันบ้างต่างกันบ้าง ถูกและดี คงใช้ไม่ได้ผล คงต้องเลือก ถ้าจะต้องจ่ายเงินจำนวนหนึ่งให้กับการทำความสะอาดตู้แอร์ คุณควรได้อะไรกลับมา บางร้านใช้ผงซักฟอก หรือ โซดาไฟ ล้างแผงคอยล์เย็น ซึ่งผงซักฟอก หรือโซดาไฟ ต้องล้างด้วยน้ำปริมาณเยอะมากถึงจะขจัดออกหมด ถ้ามีตกค้าง ไอระเหยจะมีผลต่อระบบทางเดินหายใจ ดังนั้น ถ้าได้กลิ่นผงซักฟอกเมื่อเปิดแอร์ อย่าเพิ่งดีใจไป เมื่อยังมีคราบตกค้าง ซึ่งมีฤทธิ์กัดกร่อนสูง ดีไม่ดี เร่งโอกาสการเกิดตู้รั่วอีกด้วย

หลายครั้งกลิ่นเกิดจากการตกค้างของน้ำที่ล้างทำความสะอาดตู้แอร์ ไม่กี่วันผ่านไป กลิ่นอับกลับมาแน่นอน ส่วนการล้างแอร์แบบไม่ถอดตู้จะมีการตกค้างของน้ำ เว้นแต่ว่าเครื่องล้างตู้แอร์มีโปรแกรมดูดฝุ่นดูดน้ำ การตกค้างจึงหมดไป
วันที่: 20 Sep 10 - 15:14

 ความคิดเห็นที่: 17 / 17 : 593901
โดย: วรรณ
ความเข้าใจผิด การล้างตู้แอร์ยุ่งยากต้องถอดรื้ออุปกรณ์ ใส่กรองแอร์สะดวกที่สุด ก็เหมือนกรองอากาศที่กรองฝุ่นไม่ให้เข้าห้องเผาไหม้

ความจริง กรองแอร์ช่วยดักฝุ่นก็จริง แต่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาเรื่องคราบวุ้นในตู้แอร์ เรื่องกลิ่น เรื่องเชื้อโรค ยังไงความชื้นในระบบต้องเกิดอยู่ดี และต้องเปลี่ยนเมื่อถึงกำหนดเวลา เช่น ทุก 5,000 กม. ถ้าไม่เปลี่ยน ลมจะผ่านกรองแอร์เข้าตู้แอร์ไม่สะดวก ลมก็ต้องตีกลับ คอมแอร์จึงทำงานหนักขึ้น อีกอย่าง กรองแอร์ไม่ได้มีสำหรับรถทุกรุ่น ราคาก็ยังนับว่าสูงอยู่ ถ้าต้องเปลี่ยนบ่อยๆ ปีหนึ่งคิดเป็นเงินหลายตังค์อยู่นะ รถบางรุ่นก็ไม่ช่องสำหรับใส่กรองแอร์ เคยมีบางคนแนะนำว่า กรองแอร์แพงนัก ใช้สกอต์ไบร์ทแผ่นใหญ่ใส่แทนดีกว่า ความคิดเข้าท่านะ ไม่เคยลองเอง แต่จินตนาการดูแล้ว มันก็น่าจะช่วยกรองฝุ่นได้บ้างหล่ะ

ความเข้าใจผิด เอาตู้แอร์มาล้างข้างนอกต้องสะอาดกว่า ค่าแรงก็ไม่แพง และยังได้เติมน้ำยาแอร์ด้วย

ความจริง การถอดตู้มาล้างข้างนอกต้องแวคเอาน้ำยาแอร์ออก และเติมใหม่เมื่อประกอบกลับ การถอดมาล้างข้างนอกต้องคำนึงถึงความชำนาญของช่างด้วย ยิ่งรถรุ่นใหม่ๆ รื้อยากขึ้น การออกแบบรถรุ่นใหม่เหมาะกับการล้างตู้แอร์แบบไม่ถอดตู้ นอกจากนี้ สารทำความสะอาดที่ใช้ควรจะเป็นสารที่ไม่กัดกร่อนคอยล์เย็น ที่ค่าแรงถูก ต้องคำนึงด้วยว่าเขาใช้น้ำยาอะไร และยังต้องเปลี่ยนอะไหล่ คือ ไดเออร์ และ เพรสเชอร์วาลว์ เพราะเมื่อแวคน้ำยาแอร์ออก ความชื้นจะเข้าตามท่อแอร์ทันที ถ้าไม่เปลี่ยนอะไหล่ทั้งสองตัว ความชื้นจะอยู่ในระบบ มีผลกับการทำงานของแอร์ และเสี่ยงกับการเกิดสนิมในท่อแอร์ ถ้ารั่วต้องเปลี่ยนท่อ ราคาไม่ถูก คิดง่ายๆ ถึงช่างจะบอกว่าค่าแรงไม่แพง แต่เมื่อต้องจ่ายค่าอะไหล่ที่ต้องเปลี่ยน เบ็ดเสร็จหลายพันบาท แต่ถ้าประหยัดเชื่อช่างแอร์ไม่ยอมเปลี่ยนอะไหล่ เพราะเข้าใจว่าช่างแอร์หวังดี ช่วยประหยัดเงิน ระวังให้ดี สรุปว่าถ้า แอร์เป็นแบบแขวน หรือไม่เคยล้างมานานปี ควรล้างแบบถอดตู้ดีกว่า จะได้ตรวจสภาพตู้แอร์ด้วย แต่ถ้าเป็นรถใหม่ หรือ รถที่ล้างแอร์เป็นประจำปีละ 1 ครั้ง ล้างแบบไม่ถอดตู้ ไม่วุ่นวายดี ประหยัดงบอีกด้วย

ความเข้าใจผิด กลิ่นเหม็นนิดเดียว ทำไมต้องเสียเงินแพงๆ วางน้ำหอมปรับอากาศหน้าช่องแอร์ เท่านี้หอมทั่วทั้งรถ

ความจริง น้ำหอมที่ลงทุนซื้อมาก็สมชื่อ ช่วยสร้างกลิ่นหอม หลายคนเลือกกลิ่นตามชอบ บางคนเลือกกลิ่นแรงๆ จะได้กลบกลิ่นเหม็นอับ บางคนวางพิมเสน การบูร พวกนี้เป็นสารระเหย เชื่อหรือไม่ว่าระเหยแล้วไม่ได้หายไปไหน เคยมีตู้แอร์มาถอดล้าง ปรากฏว่าแผงคอยล์มีคราบเหนียวเต็มไปหมด ทำให้ฝุ่นเกาะได้ดีมากขึ้น ล้างออกยากขึ้น เคยคิดเล่นๆ ขนาดตู้แอร์ยังมีคราบเหนียวเกาะแบบนี้ แล้วระบบทางเดินหายใจของเราจะมีคราบแบบนี้เกาะด้วยหรือเปล่า
วันที่: 24 Sep 10 - 19:49