Close this window

cronos สตาร์ทไม่ติด
บิดกุญแจสตาร์ท ตัวมอเตอร์สตาร์ทก็หมุนดีอ่ัะ แต่เครื่องไม่ติด อะไรเป็นตัวการหรอครับ ขอคำแนะนำด้วยครับ ก่อนจะโดนอู่ฟันไม่ยั้ง ขอบคุณครับ
โดย: Mo-cronos   วันที่: 2 Jan 2011 - 20:57


 ความคิดเห็นที่: 1 / 6 : 615477
โดย: va
คุณ อย่าเพิ่งท้อแท้ใจนะครับ ปัญหาที่เกิดขึ้นหากแก้ไขได้ถูกวิธี และตรงประเด็น รถที่เราใช้งานก็จะไม่มีปัญหาจุกจิกกวนใจ ใช้งานได้ตามปกติ ถึงเวลาอันควรกับการซ่อมบำรุงก็ต้องจัดการแก้ไข อย่าปล่อยให้แสดงอาการก่อนแล้วซ่อม โดยมากจะรอให้มันเสียถึงจะซ่อม เวลาซ่อมหากได้ช่างที่เข้าใจระบบว่าควรซ่อมและแก้ไขอย่างไร เดี๋ยวนี้จะใช้แบบตาดูหูฟัง มันไม่ได้เหมือนเมื่อก่อน เครื่องยนต์ยุคใหม่ใช้ระบบอีเลคทรอนิคส์ ECU เข้ามาคอนโทรลการทำงานของเครื่องยนต์ ดังนั้นก็ต้องมีอุปกรณ์เครื่องมือตรวจสอบการทำงานของเครื่องยนต์ ที่เป็นแบบอีเลคทรอนิคส์เข้ามาวิเคราะห์ หาจุดเสียของระบบ
ก็ขอวกกลับมาที่ปัญหา ที่คุณบอกว่าสตาร์ทเครื่องยนต์ติดยาก
ความจริงไม่ว่าจะเป็นระบบไดน์ชาร์ทและแบ็ตเตอรี่ น่าจะแยกประเด็นไปจากปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ มันเพียงแค่ส่วนประกอบหลัก ที่จะต้องให้สองสิ่งนี้มีการทำงานที่ถูกต้อง แบ็ตเต็มเก็บไฟอยู่ ไดน์ชาร์ททำงานถูกต้อง แต่ไดน์ชาร์ทไม่เกี่ยวกับอาการที่ว่านี้ อย่าหลงประเด็น สำหรับแบ็ตถือว่าเป็นปัจจัยหลัก ไฟต้องเต็มและเก็บกระแสได้ดี การวิเคราะห์การทำงานของระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ เมื่อบิดสวิชท์กุญแจมาที่ตำแหน่งสตาร์ท ประการแรกที่ตัวมอเตอร์สตาร์ท(ไม่เรียกไดน์สตาร์ท) จะต้องทำงานมีเสียงของของตัวโซลินอยมอเตอร์สตาร์ททำงาน ดังแช๊ะๆ เสียงมอเตอร์สตาร์ททำงาน หมุนฟลายวิลของเครื่องยนต์ เครื่องจะติดหรือไม่ติด ก็ถือว่าทั้งสองอย่างทำงานถูกต้องแล้ว ไม่มใช่ว่าได้ยินแต่เสียงโซลินอย(magnetic switch or solenoid) ทำงานดังแช๊ะๆๆ มอเตอร์สตาร์ทไม่ทำงาน ฉุดฟลายวิลเครื่องยนต์ จะได้ชี้อาการที่ควรจะตรวจแก้ ที่ตัวมอเตอร์สตาร์ท ที่ไม่ทำงานหรือไม่ทำงานเพราะกระแสไฟจากแบ็ตเตอรี่ต่ำ ทำให้ไม่มักำลังในการหมุนฟลายวีล การที่กรพะแสไฟแบ็ตต่ำ ที่ตัวโซลินอย ยังคงทำงานได้ยินเสียง แต่มอเตอร์สตาร์ทไม่ทำงาน แนวทางในการแก้ไขก็ขั้นแรก ลองพ่วงแบ็ตที่ยืมจากรถคันอื่นมาจ้ำ แล้วสตาร์ท ตัวมอเตอร์สตาร์ททำงาน หมุนฟลายวีลได้ เครื่องจะติดหรือไม่ติดไม่สำคัญ ถือว่ามอเตอร์สตาร์ททำงานปกติ ที่เสียก็คือแบ็ตเตอรี่ อาจจะเก็บไฟไม่อยู่หรือเสื่อม
ให้ตัดระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ออกไปจากปัญหาที่ว่าเวลาสตาร์ทแล้วติดยาก
คราวนี้ถึงจะเข้ามาที่ประเด็นที่ว่า ทำไมสตาร์ทเครื่องยนต์ติดอยาก ปัจจัยมันมีหลายส่วนที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ต้องแยกไปทีละภาคส่วน ในระบบของเครื่องยนต์ที่จะทำงานได้ จะต้องมีปัจจัย ระบบการจ่ายเชื้อเพลิง ระบบไฟจุดระเบิด ระบบอากาศ ทั้งสามส่วนนี้ ยังแตกแยกออกไปว่า ในระบบนั้นๆมีอะไรเป็นตัวช่วยให้ระบบดังกล่าวทำงานถูกต้อง โดยเฉพาะการทำงานของ ECU ที่มีตัวเซ็นเซอร์ คอยตรวจสอบการทำงานของส่วนที่เกี่ยวข้องของระบบนั้นๆ เพื่อส่งข้อมูลไปให้ ECU ประมวลผล
คราวนี้ก็ต้องมาตั้งประเด็นว่าควรจะตรวจสอบอาการที่ว่านี้ ว่าจะเป็นที่ส่วนไหนของระบบเครื่องยนต์
สาเหตุของการสตาร์ทติดยากก็มีปัจจัยมาจาก เรื่องของระบบไฟจุดระเบิด มีไฟโวลเต็จสูวต่ำเกินไป อันมาจากสายไฟหัวเทียนมีค่าตวามต้านทานสูง หรือมีการรั่วลงกราวด์ภายในจานจ่าน หรือขดลวดที่ใช้พันที่ตัวคอยไฟสูงช๊อร์ทเทิน ทำให้มีโวลเต็จที่สร้างขึ้นต่ำ หรือระบบเซ็นเซอร์เพลาข้อเหวี่ยงเสีย ทำให้องศาการจุดระเบิดผิด หรือระบบแรงดันน้ำมันเชื้อเพลิงในรางหัวฉีดต่ำ อันอาจจะมาจากสาเหตุตัวเรคกูเรเตอร์ทำงานผิดหรือที่ตัวปั้มติกทำงานมีแรงดันน้ำมันส่งต่ำ รวมไปถึงระบบกรองน้ำมันเบ็นซิลตัน ทั้งที่ตัวกรองน้ำมันของปั้มติ๊ก
นอกจารกระบบไฟและระบบน้ำมันแล้ว ยังมีระบบเซ็นเซอร์อุณหภูมิของน้ำ อากาศ และที่ระบบแอร์โฟว์ นอกจากนี้ยังมีส่วนที่สนับสนุนการสตาร์ทเครื่องยนต์ก็คือ สวิชสตาร์ทเกียร์ว่าง และตัว TPS sensor ที่สวิชสตาร์ทเกียร์ว่าง บางครั้งไม่ต่อระบบไฟไปให้ ระบบสตาร์ทและระบบไฟสัญญาณการสตาร์ทไปที่ ECU ระบบที่กล่าวมานี้ มันจะต้องตรวจสอบไปทีละสเต็ป จะเห็นว่าทำไมมันมากหลายจุก จริงๆแล้วช่างที่ตรวจสอบอาจจะมีวิธีการตรวจสอบ ที่ไม่ต้องไล่ไปทีละสเต็ปก็ได้ แล้วแต่ว่าใครจะมีวืธีการรวบรัดอย่างไร
แต่ก็อยากจะสรุปการตรวจสอบดังนี้
เช็คระบบไฟจุดระเบิด ตรวจสอบเซ็นเซอร์มุมเพลาข้อเหวี่ยงสำหรับการจุดระเบิด เช็คแรงดันของน้ำมันที่รางหัวฉีด รวมทั้งทำความสะอาดหัวฉีดและเช็คการรั่ว เช็คระบบอากาศ ที่แอร์โฟว์และอุณหภูมิน้ำ
นอกจากนี้ที่อยากจะให้ตรวจสอบสิ่งเหล่านี้เพิ่มเติมก็คือ ในกรณีที่เครื่องยนต์หลวม อันมาจากการใช้งานนานปี ทำให้บ่าวาวล์รั่วหรือยัน และบางครั้งที่ตรวจพบในกรณีที่เครื่องยนต์ในกระบอกสูบมีแหวนสึกหรือหัก ทำให้น้ำมันเครื่องที่เล็ดลอดผ่านแหวนไปที่ผนังผาสูบ มีเขม่าบวกกับน้ำมันเครื่องที่หลงเหลือจากการเผาไหม้ ไปจับพอกเป็นก้อนใกล้ๆกับเบ้าเขี้ยวของหัวเทียนที่ฝาสูบ พวกเขม่าที่จับพอกขึ้นนี้ จะมีความชื้น ทำให้ไฟจากประกายที่เขี้ยวของหัวเทียน สามารถกระโดดข้ามมาที่ก้อนเขม่าลงกราวด์ ทำให้ไฟที่เขี้ยวของหัวเทียนต่ำมากๆ ทำให้ไฟจุดระเบิดมีไม่พอในการสันดาปจุดระเบิด ทำให้การสตาร์ทเครื่องยนต์ติดยาก อีกประการหนึ่ง ก็เอามาแนะนำกัน ก็ขออภัยที่การตอบกระทู้นี้จะยืดยาวไปบ้าง หวังว่าคงใช้เป็นข้อมูลในการแก้ไขได้บ้างไม่มากก็น้อยครับ....srithanon
เป็นข้อความดีๆของคุณ srithanon ที่ผมกีอปไว้ลองอาจดูครับขอบคุณเจ้าของข้อความ
วันที่: 03 Jan 11 - 08:16

 ความคิดเห็นที่: 2 / 6 : 615495
โดย: เซนท์โซเฟียร์
ผมว่าถ้ามันไม่ติดก็ เช็ค 3 อย่าง น้ำมัน อากาศ และ ไฟ แต่ไม่รู้เช็คตรงไหนบ้างงิ
วันที่: 03 Jan 11 - 10:26

 ความคิดเห็นที่: 3 / 6 : 615563
โดย: Mo-cronos
ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ อย่างนี้มากๆ เลยน่ะครับ
วันที่: 03 Jan 11 - 18:45

 ความคิดเห็นที่: 4 / 6 : 615625
โดย: Totsaporn
วิธีตรวจสอบปั๊มติ๊กก่อน ให้เปิด ฝา Diagnosis ที่หน้าเครื่อง แล้วจั๊มขั้ว F/P กับ GND ก่อน
เสร็จแล้วไปบิดกุญแจ ที่ On จะได้ยินเสียงปั๊มทำงาน ที่หน้าเครื่อง (ห้ามสตาร์ทนะ ON เฉยๆ) เสร็จแล้วก็บิดกุญแจกลับ

อันนี้ไว้เช็คว่าปั๊มติ๊ก ทำงานรึเปล่านะครับ
วันที่: 04 Jan 11 - 08:59

 ความคิดเห็นที่: 5 / 6 : 620531
โดย: PhiSoLoPhy
ผมว่าปั๊มติ๊กเหมือนกัน
วันที่: 25 Jan 11 - 16:23

 ความคิดเห็นที่: 6 / 6 : 692971
โดย: leksrt
รถ cronosของผมบิดกุญแจสตาร์ทได้ยินเสียงแช๊ะๆแต่เครื่องไม่ติดเลย เอาแบตเตอรี่ไปเช็คแล้ว
ก็มีไฟปกติ ไม่ทราบว่าสาเหตุน่าจะมาจากอะไรครับ
วันที่: 15 Feb 12 - 14:07