ตอบคุณ me&protege เรื่องหัวฉีดรั่วครับ คือของผมเอง มันรั่วตั้งแต่หลังโอเวอร์ฮอลครั้งแรกครับ ที่อู่ใกล้บ้าน มีครั้งนี้ผมถอดหัวเทียนฉายไฟดู ปรากฏว่าเห็นลูกสูบ 1 มันดูไม่แห้งเหมือนสูบอื่น เลยบอกช่างว่าช่วยเช็คหน่อย ท่าทางมันจะรั่วนะ----ช่างบอก ไม่รั่วครับ เช็คเรียบร้อย (แต่จริง ๆ มันรั่วนั่นแหละครับ ผมมารู้ทีหลัง แต่...ผมก็เชื่อช่างสิครับ ผมไม่ได้เก่งกว่าช่าง)
ต่อมาใช้ ๆ ไป เริ่มสตาร์ทยากครับ เวลาใช้แก๊สก็มีตด ลองปรับอากาศ ตั้งรอบ เปลี่ยนกรองเชื่อเพลิง โ่น่นนี่ ก็ยังไม่หาย สุดท้ายเปลี่ยนแบตฟรีอีก
ช่วงที่หัวฉีดรั่วนอกจากสตาร์ทยาก ตอนใช้น้ำมันก็จะเร่ิงไม่ขึ้น ตอนเครื่องเย็นมีวืดอีก เปิดแอร์รอบตก งงสิครับ
ผมต้องใช้รถแบบรั่ว ๆ มาประมาณ 1 ปี (เพราะเชื่อช่าง) วันสุดท้ายมันรั่วมาก ๆ สตาร์ทแล้วควันขโมง แต่ผมต้องรีบกลับบ้าน ยังไง ๆ ก็ต้องพารถกลับให้ได้ครับ เลยฝืนขับไป ปกติ เวลาเข้าแก๊สแล้วมันจะไม่มีปัญหา แต่วันนั้น ควันก็ยังเยอะ ไปถึงบ้าน ลองตัดสายปั๊มติ๊ก อาการควันออกก็หายไป นาทีนั้นถึงรู้ว่าหัวฉีดรั่วครับ แต่เพราะผมฝืนขับมา มันก็คงจะเริ่มเจ๊งตอนนั้นครับ
และแล้ววาล์วก็รั่วรอบสอง คราวนี้ไปอู่ประจำืคืออู่สมพรมาสด้า ทำสามวันครึ่ง เสร็จครับ (อู่เดิมสองเดือนครึ่งนะ เซ็งมาก) ราคาก็ไม่ต่างกัน แถมทำมาดีกว่าเพราะเจ้าเดิมประกอบเครื่องแล้วน้ำมันเยิ้มฝาสูบบนเต็มไปหมด
สรุป เขียนซะยาว เอาเป็นว่าถ้ารถเป็นอะไรก็รีบเช็คนะครับ แล้วก็อย่าฝืนขับครับ55+ ถ้าตัดปั๊มติ๊กเวลาวิ่งทางไกลผมว่าจะช่วยยืดอายุหัวฉีดได้มากกว่านะ เพราะตอนใช้แก๊ส แรงดันน้ำมัน มันก็ยังดัน แต่ดันไม่ออก คิดดูแล้วกันว่ามันจะเป็นไง ส่วนวิ่งไกล้ ๆ ไม่ต้องตัดก็ได้ครับ
ปล. ตอนโอเวอร์ฮอลครั้งแรก เรกูเรเตอร์ผมรั่ว เลยสั่งยกรางมาจากคุณสุด บอกให้ช่างเช็คและเปลี่ยนหัวฉีด นอกจากไม่เปลี่ยนให้ แล้วยังไม่ได้หัวฉีดคืนมาอีก พอกลับไปเอา ก็บอกว่าน้ำท่วม หายหมดแล้ว กราวด์ไวร์ผมด้วย เซ็งมากครับ
จะเอารถไปตั้งวาวล์ อะไรที่ควรเปลี่ยนไปพร้อมกันบ้างครับ
