หลังจากปรับตั้งแล้ว ต้องให้ ECU ทำการเรียนรู้ใหม่ ทำได้ 2 วิธีครับ
1. ปลดแบตเตอรี่ออก แล้วใส่เข้าไปใหม่ (ประมาณ 1 นาที สังเกตุจากนาฬิกาในรถถ้าใส่แบตแล้วยังเป็นค่าเดิมก็แสดงว่ายังปลดแบตนานไม่พอ) เป็นการ Load ค่ามาตรฐานในการปรับเสต็ปของมอเตอร์
2. ขับไปเรื่อยๆ ให้ ecu เรียนรู้เองครับ ( ตามสะดวก )
การปลดแบตออกจะเป็นการ LOAD ค่ามาตรฐานทั้งหมดของกล่องขึ้นมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการปรับ step ของมอเตอร์ การทำงานของเกียร์ และ อื่นๆ
ค่า มาตราฐานของการปรับ step จะเป็นการปรับไปทีละนิดๆ ก่อน แล้ว ecu จะเริ่มเรียนรู้ว่าควรปรับเสต็ปไปเท่าไหร่ จึงจะเพียงพอต่อการชดเชยรอบเครื่อง
ที่เกิดจากการเปิดแอร์ เข้าเกียร์ สมมุติว่า เปิดแอร์ต้องให้แกนหดตัวเข้ามา 1 มิลลิเมตร ถ้าค่า มาตรฐาน ecu ก็จะค่อยๆ ปรับไปทีละ 0.1 มม จนกระทั้งครบ
1 มม แต่ถ้าใช้รถไปเรื่อยๆ ความนี้ ecu จะรู้แล้วว่า ต้องหดมม 1 มม เลย ตอนนี้การตอบสนองของมอเตอร์ก็จะเร็วขึ้น
กรณีที่ท่านปรับตั้งรอบเดินเบาใหม่ ยังไม่มีการรีเซต ecu หรือ/คือ ให้เวลา ecu ได้เรียนรู้ใหม่ก่อน ecu ก็จะนำค่า step ในการปรับก่อนหน้านี้มาใช้ก่อน
รอบเครื่องก็อาจมีอาการสวิงผิดปกติในช่วงแรกที่มีการปรับตั้ง แต่ถ้าใช้ไปเรื่อยๆ ไม่เกิน วันหรอกครับ การตอบสนองของ step ก็จะดีขึ้นเองครับ
เพราะฉะนั้นท่านจะ reset หรือไม่ re ก็ได้ครับ
ข้อดี การ reset คือ ในช่วงแรกก่อนที่ ecu จะเริ่มเรียนรู้การปรับเสต็ป รอบเดินเบาจะไม่สวิงมาก
ข้อเสีย การ reset คือ ระบบอื่นๆ ในรถจะถูกรีเซตด้วย โดยเฉพาะรถเกียร์ ออโต้ของท่าน
กลับกัน
ข้อดีของการไม่ reset คือ ระบบอื่นๆ ในรถจะไม่ถูกรีเซต
ข้อเสียของการไม่ reset คือ ในช่วงแรกก่อนที่ ECU จะเริ่มเรียนรู้การปรับเสต็ป รอบเดินเบาอาจสวิงมากกว่าปกติ แค่นั้นเองครับ