น่าจะอาการคลัชท์หมดแล้วนะครับ ไม่ใช่อาการเตือน อาการเตือนก่อนคลัชท์หมดก็คือ ตอนออกตัวเวลาปล่อยคันเหยียบคลัชท์ต้องถอนเท้าสูงขึ้นกว่าเดิม แผ่นคลัชท์จึงจับและรถออกตัววิ่ง และจะต้องปล่อยคันเหยียบคลัชท์สูงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อแผ่นคลัชท์บางลง ( เหลือน้อยลง ) แผ่นคลัชท์จึงจะจับรถออกตัววิ่งได้
บางทีจนถึงขนาดปล่อยคันเหยียบคลัชท์แล้วรถไม่ยอมออกตัวหรือออกตัววิ่งแต่ไม่มีกำลัง ( เพราะแผ่นคลัชท์จับแต่จับได้ไม่แน่นเพราะแผ่นคลัชท์บางมากแล้ว ถ้าเร่งเครื่องมากก็หมุนฟรีสีกับแผ่นกดคลัชท์จนไหม้ดังกล่าว ) หรือที่เรียกกันว่า คลัชท์ยัน
ถ้ารถมันเตือนแล้ว ควรจะรีบเปลี่ยนครับ อาจจะแค่เปลี่ยนแผ่นครัชท์ ถ้าเกิดไหม้เจอยกชุดแน่ครับ แผ่นครัชท์+หวีครัชท์+ลูกปืนครัชท์+ลูกปืนปลายจำปา+บุชรองเกียร์ หลายตังค์ครับ
วิธีดูคลัชท์ง่าย ๆ ว่าเหลือมากเหลือน้อย
ลองดูที่ปัมป์คลัชท์ตัวที่อยู่กับหวีกด ถ้ายางหุ้มมันยืดสุด ก็แปลว่าเหลือเพียบ แต่ถ้ายางหุ้มมันย่นๆ ก็แปลว่าจะหมดแล้ว ก็เตรียมเปลี่ยนครับ
หรือลองเข้าเกียร์ 3/4 แล้วลองออกตัว ถ้ารถดับ ก็แสดงว่ายังไม่หมด แต่ถ้า ยังขับต่อไปได้แสดงว่าใกล้หมดแล้ว อาการคลัชท์ลื่น/หมด ขับได้ปกติแต่เวลาเข้าเกียร์แล้วเร่งไม่ขึ้นไปแต่รอบครับ
อีกกรณีอาจ แคทตันชุดท่อไอเสีย จะมีท่อนที่ยึดด้วยน็อตที่มีสปริง ( ลักษณะเหมือนสปริงวาล์ว ) เวลาเร่งเครื่องรอบสูงพอประมาณ จะมีเสียงดังเหมือนเสียงระบายลม เป็นจังหวะๆ เกิดจาก แคทตันแล้วไอเสียออกไม่ได้ทำให้ไอเสียถูกอัดตัวจนมีแรงดันสูงกว่าแรงดันสปริงที่ยึดท่อไว้ ทำให้แก๊สไอเสียระบายออกตรงจุดนี้แทน ถ้าเป็นอาการนี้จริงๆ ก็ต้องเปลี่ยนแคทใหม่ หรือไม่ก็ทะลวง มันออกเพื่อให้ใช้งานได้ไปก่อน แล้วค่อยมาคิดว่าจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน ( แคทตัวละหลายตังค์ครับ ) ปัญหารถที่แคตตันที่มักตามมาคือ ความร้อนขึ้น รถวิ่งอืดลง เพราะไอเสียระบายออกไม่ทันครับ หลายคันพอเข้าไปให้ร้านท่อ แน่นอนเค้าเอาไส้ท่อท่านออกแน่นอน เพราะเอาไส้ท่อออก ความร้อน และความอืดอาดหายไปทันทีครับแบบเห็น ๆ เลย เพราะท่อไม่อั่นแล้วครับ
แต่อาการแบบนี้คลัชท์หมดแน่นอนครับ อิอิ