คือเวลาสตาท บางครั้ง มันมีเสียงเหมือนเหล็กขูดๆกัน แต่ก็ไม่ติด....ต้องบิดกุญแจ แล้วสตาทใหม่ค่ะ

อาการอย่างนี้ต้องเช็คส่วนไหนค่ะ หรือว่ามันเป็นลางว่าต้องซ่อมอะไรหรือเปล่าค่ะ

โดย: aeaw1414   วันที่: 20 Jul 2012 - 09:25

 ความคิดเห็นที่: 1 / 20 : 726439

โดย: BIG DDT

ไดร์สตาร์ท เริ่มกลับบ้านเก่า มั้งครับ



ถ้าไม่ใช่ ก็คง ลมยางอ่อน

 ความคิดเห็นที่: 2 / 20 : 726440

โดย: BIG DDT

เสียงเหล็กขูดกัน นี่ ตอยขณะสตาร์ท เดายาก นะครับ

หากยิ่งสตาร์ทไม่ติด เล็งไปที่ไดร์สตาร์ท ก่อนเลย




รอเพื่อนๆ ท่านอื่นมาตอบ เพื่อความกระจ่าง ครับ

 ความคิดเห็นที่: 3 / 20 : 726442

โดย: aeaw1414

เสียงมันดังแกร๊กกกก ยาวๆตามที่เราบิดกุญแจเลยค่ะ

ขอบคุณคุณคุณบิ๊ก สำหรับคำตอบนะค่ะ ((เด๋วขอเดินไปดูลมยางก่อนว่าอ่อนจิงไหม ^^))

 ความคิดเห็นที่: 4 / 20 : 726444

โดย: BIG DDT

อั๊ยย๋ะ อันนั้น ผมล้อเล่นนนนนนนนนนนนนนนนน
อยากให้ คลายกังวล กับอาการของรถ เท่านั้นเอง





งานเข้าหล่ะ กรู

 ความคิดเห็นที่: 5 / 20 : 726445

โดย: NAIprotege

ต้องเปลี่ยนมอเตอร์สตาร์ท(ไดสตาร์ท)ใหม่แล้วอาการแบบนี้ เปลี่ยนเสร็จเช็คลมยางด้วยนะครับ

 ความคิดเห็นที่: 6 / 20 : 726450

โดย: วิตต์

ไงหล่ะๆ เล่นกันดีนัก ลมยางอ่อน

มอเตอร์สตาร์ทครับ ตามนั้นเลย ส่วนจะเปลี่ยนหรือซ่อม ก็ลองดูครับ

 ความคิดเห็นที่: 7 / 20 : 726454

โดย: BIG DDT

แหมมม แหมมมมมมมมมมม

ก็เค้า เป็นคนอารมณ์ดี ไมาอยากให้ ซีเรียส อ่ะ





ยังไงก็อย่าลืม เช็ค ลมยาง นะครับ จุ๊บ จุ๊บบบบ

 ความคิดเห็นที่: 8 / 20 : 726463

โดย: aeaw1414

ขอบคุณทุกๆคนมากค่ะ....เด๋วจะลองโทรหาคุณสุท สั่งของมาเปลื่ยนดูค่ะ

 ความคิดเห็นที่: 9 / 20 : 726467

โดย: *ทวีรัฐ

เสียงเหมือนเฟืองเกียร์หมุนขบกันไม่สนิทใช่ไหมครับ

มีเสียง แสดงว่าตัว solinoid ทำงานและมอตอร์(เหมือน)จะทำงานแต่มันเข้าไปขบที่ฟันเฟืองของ fly wheel เพื่อให้เครื่องหมุน ไม่ถึงครับ

Solinoid ทำงานแต่ถ้ายิงเฟืองขับไปไม่ถึงมันก็จะขบกันไม่เต็มที่ก็เสียงเหมือนเหล็กขูดกันนี่แหละ ฟันเฟืองคงบิ่น หรือ สึกแล้วครับ

ไดสตาร์ท บางส่วนซ่อมได้ครับ ถูกกว่าเปลี่ยน

 ความคิดเห็นที่: 10 / 20 : 726479

โดย: srithanon

อาการที่ว่านั้น น่าจะมาจากสาเหตุสองประการ ประการแรก น่าจะมาจาก แบ็ตเตอรี่ มีไฟอ่อน หรือกระแสไฟไม่พอจ่ายให้กับตัวมอเตอร์สตาร์ท ประการที่สอง หากแบ็ตเตอรี่มีกระแสไฟปกติ เป็นไปได้ว่า ที่ตัวแม็กเนติคสวิชท์ หรือ ตัวโซลินอยล์ มีการชอร์ทเทินของขดลวดที่สร้างสนามแม่เหล็ก ทำให้การเกิดสนามแม่เหล็ก ที่ดูดพลั๊งเยอร์ให้ดึงก้านเหล็กดันเฟืองจากแกนทุ่นมอเตอร์สตาร์ทไปขบกับเฟืองชุดฟลายวีลของเครื่องยนต์ มีแรงดันไม่พอ ทำให้ตัวเฟืองที่จะเข้าไปขบกับเฟืองฟลายวีล ไม่สนิท (ยังไม่เข้าร่องเฟือง) ทำให้เกิดเสียงเฟืองสัมผัสกัน แบบที่เจ้าของกระทู้ได้ยิน แต่อาการนี้นอกจากจะเป็นที่ตัวแม็กเนติคสวิชท์ หรือตัวโซลินอยล์สวิชท์แล้ว

ส่วนมากจะเกิดจากแบ็ตเตอรี่เริ่มเก็บกระแสไฟไม่อยู่ หรือแบ็ตมีไฟอ่อน ในขณะที่สตาร์ทเครื่องยนต์ กระแสไฟจำนวนมากที่จ่ายให้กับตัวมอเตอร์สตาร์ท ทำให้กระแสไฟในตัวแบ็ตเตอรี่ ที่มีไฟอ่อนอยู่แล้ว ยิ่งทำให้แรงเคลื่อนโวลเต็จลดลง ทั้งแรงเคลื่อนโวลเต็จและกระแสที่จ่ายให้กับตัวแม็กเนติคสวิชท์ ลดลงไปในขณะสตาร์ท ทำให้ตัวแม็กเนติคสวิชท์ ไม่สามารถสร้างสนามแม่เหล็กได้เต็มที่ ทำให้พลังเยอร์ไม่มีกำลังดึงแขนผลักดันเฟืองจากแกนทุ่นของมอเตอร์สตาร์ทไปเข้าเฟืองขับฟลายวีลได้ เพียงแต่แค่ชนกับแนวเฟืองของฟลายวีล เกิดเสียงดังขึ้นมา คล้ายเสียงเฟืองขบกันไม่สนิท

เมื่อมีการหยุดสตาร์ทเครื่องยนต์ในชั่วขณะหนึ่ง แล้วทำการสตาร์ทใหม่อีกครั้ง ในช่วงเวลาที่หยุดสตาร์ทนั้น ในตัวแบ็ตเตอรี่ เริ่มมีการสร้างประจุไฟฟ้าในตัวของมัน ในปฎิกริยาทางเคมี ที่แผ่นธาตุตะกั่วอ๊อกไซด์ (ขั่วบวก) ที่มีประจุอีเลคตรอนหลุดไปจากแผ่นธาตุตะกั่วอ๊อกไซด์ เมื่อใช้กระแสไฟในการสตาร์ทครั้งแรก เกิดเป็น Hold ช่องว่างที่แผ่นธาตุตะกั่วอ๊อกไซด์(ขั่วบวก)
ทำให้อีเลคตรอนประจุลบ ของแผ่นตะกั่วขั่วลบ ไหลเข้าไปแทนที่ช่องว่าง Hold ทำให้มีกระแสไฟเกิดขึ้นอีกครั้ง แต่ไม่มากและจะหมดไปเมื่อไม่มีการชาร์ทกระแสไฟให้กับแบ้ตเตอรี่ เพราะแบ็ตเตอรี่ที่เริ่มเสื่อมลง เสมือนเกิดค่าความต้านทานในตัวของมัน ทำให้เกิดกระแสไฟไหลผ่านค่าความต้านทานที่เกิดขึ้นนี้ เหมือนช๊อร์ทเซอร์กิต ทำให้ไม่มีกระแสไฟหลงเหลือในตัวแบ็ตเตอรี่ จะหมดเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับค่าความต้านทานที่เกิดขึ้น ในแบ็ตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพ

ดังนั้นในการสตาร์ทครั้งที่สอง จึงพอยังทำให้ตัวแม็กเนติคสวิชท์ และตัวมอเตอร์สตาร์ท ทำงานได้อีกครั้ง ในระยะสั้นๆ เครื่องยนต์ก็จะติด หากไม่ติด และมีการสตาร์ทครั้งที่สาม ก็จะไม่เห็นการทำงานของชุดมอเตอร์สตาร์ททำงาน นอกจากจะได้ยินแต่เสียงดังแช๊ะๆๆ (อย่าเพิ่งเชื่อที่ผมกล่าวทั้งหมดนะครับ) ผิดพลาดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ควรหาข้อมูลเพิ่มเติม ในเรื่องการเกิดปฏิกริยาทางฟิสิคส์เคมีของตัวแบ็ตเตอรี่ ที่ท่านอาจารย์ และผู้ทรงความรู้ ท่านได้ให้ความรู้ไว้ ….srithanon

 ความคิดเห็นที่: 11 / 20 : 726484

โดย: BIG DDT

นี่ไง สาระ

พี่ศรีธนนท์ มาแว้ว

 ความคิดเห็นที่: 12 / 20 : 726526

โดย: NAIprotege

วิธีแก้ปัญหาอีกแบบตามท่านศรีธนนท์กล่าวมาก็คือ ติดรีเลย์ช่วยสตาร์ท ซึ่งนิยมทำกันอยู่ทั่วไปสามารถช่วยเพิ่มกระแสไฟไปดันตัวโซลินอยส์ได้มากขึ้น ซึ่งผมก็ใช้วิธีนี้เพราะง่ายดีใช้งานมาปีกว่าแล้วไม่มีปัญหาอะไร

 ความคิดเห็นที่: 13 / 20 : 726530

โดย: notable

พี่ใหญ่ก็มีสาระนะคับ อย่าน้อยใจไปเลย บางกรวยอะเต็มไปด้วยสาระ....




ขอบคุงคับ

 ความคิดเห็นที่: 14 / 20 : 726797

โดย: aeaw1414

ขอบคุณนะค่ะสำหรับคำแนะนำดีๆค่ะ..

แอ๋วรบกวนถามอีกเรืองนะค่ะ คือตอนนี้ ว่าจะเปลื่ยนใส้กรองอากาศ เลยอยากรู้ว่า ที่ เป็นกระดาษๆ(แบบเดิม) กับแบบที่เป็นเหล็กๆ(เห็นขายตามเวป) มันต่างกันไหมค่ะ...คือที่นครพนมไม่มีขายเลยว่าจะสั่งทางเวป เจอแบบเหล็ก ก็เลย งงๆ

 ความคิดเห็นที่: 15 / 20 : 726823

โดย: NAIprotege

เป็นสแตนเลสจ้า ใช้ได้เหมือนกัน สแตนเลสสามารถถอดมาล้างน้ำได้เลย

 ความคิดเห็นที่: 16 / 20 : 726893

โดย: ตาหนุ่ม

แบบโลหะมีโอกาสที่ฝุ่นจะหลุดเข้าไปในเครื่องยนต์ได้มากกว่าแบบกระดาษครับ

 ความคิดเห็นที่: 17 / 20 : 727075

โดย: ไปร์ท

คุณsrithanon ขอบคุณครับ ได้ความรู้ดีครับ ถ้าอย่างนี้ลองพ่วงแบตดูก่อน
คุณNAIprotegeติดริเลย์ช่วยสตาร์ท ทำอย่างไง รบกวนช่วยอธิบายให้ครับ

 ความคิดเห็นที่: 18 / 20 : 727101

โดย: NAIprotege

ร้านอะไหล่ยนต์มีขาย บอกเขาว่า รีเลย์สตาร์ท

 ความคิดเห็นที่: 19 / 20 : 727834

โดย: aeaw1414

มารายงานความคืบหน้าค่ะ....

**เปลื่ยนแบตใหม่ มา2วันแล้ว เสียงแปลกๆก็หายไป

ขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำนะค่ะ...แล้วจะมารบกวนใหม่ค่ะ

 ความคิดเห็นที่: 20 / 20 : 727987

โดย: Yut13

แบตเดิมอ่อน ยางไม่อ่อน ฮิฮิ