Close this window

รถเริ่มงอแงค่ะ แอสทีน่า

หน้าที่: 1 ... 2   3   4   5   6   7   8   9   10   11   [12]   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22 ... 46

 ความคิดเห็นที่: 221 / 908 : 783552
โดย: Yut13
ระดับน้ำมันเกียร์จะสูงกว่าตำแน่งเพลาถ้ากระตุกเพลาออกมาก็จะไหลทะลักออกมาด้วย

เรื่องหัวเพลาหรือ CV Joint นี่ร้านประจำที่ซื้อของจะถามก่อนว่ามี ABS ไหมตรงบ่าจะต่างกันสำหรับใส่เฟืองสำหรับเซนเซอร์ ในชุดจะมียางหุ้มสายรัดแหวนล๊อคและจาระบีสำหรับตลับลูกปืนมาครบ
วันที่: 08 Jun 13 - 19:01

 ความคิดเห็นที่: 222 / 908 : 783553
โดย: Yut13
อ้อรุ่นนี้คงเป็นปี 97 แล้ว
วันที่: 08 Jun 13 - 19:02

 ความคิดเห็นที่: 223 / 908 : 783561
โดย: ทิว
ท่าน Fujiwara Takumi คงจะอ่านเร็วไปหน่อยนะครับ
คุณ pim เค้าไปเปลี่ยนพวกเพลา กับยางหุ้มเพลาอะครับ ม่ายได้เปลี่ยนยางรถยนต์แต่อย่างใด
วันที่: 08 Jun 13 - 19:52

 ความคิดเห็นที่: 224 / 908 : 783607
โดย: Fujiwara Takumi
อุ๊ยยยย ขอโทษคร้าบบบบบบบ
วันที่: 09 Jun 13 - 05:09

 ความคิดเห็นที่: 225 / 908 : 783622
โดย: ทวีรัฐ
เรียกกลับ ต้อนมาเข้าเล้า เร้ว(ปล่อยไก่)
วันที่: 09 Jun 13 - 10:11

 ความคิดเห็นที่: 226 / 908 : 783649
โดย: Fujiwara Takumi
วันที่: 09 Jun 13 - 14:54

 ความคิดเห็นที่: 227 / 908 : 783948
โดย: pim
ไม่สำเร็จค่ะ ไก่โดนพิมจับลงหม้อต้มยำเรียบร้อยแล้วค่ะ อร้อย อร่อย
วันหลังน้องทิวช่วยปล่อยพันธ์บราห์ม่าด้วยนะ มันน่ารักดี จะเลี้ยงไว้ดูเล่นซะหน่อย ซื้อเองมันแพง
น้องเค้ายังไวรุ่นอยู่น่ะ ทำอะไรๆ ก็เลยไวๆ พี่ๆให้อภัย
แต่คำตอบของน้องก็น่าจะเป็นความรู้ให้คนอื่นด้วยเหมือนกันนะ

รถปี 99 ค่ะ มีเอบีเอสด้วย แต่รู้สึกว่าช่าง0 เคยบอกว่าโมดูลมันเสีย มันเสียได้ยังไงก็ไม่รู้ซัก 6 เดือนได้แล้วค่ะ ตอนนั้นอยู่ๆ ก็มีไฟโชว์ๆ อยู่ซักอาทิตย์นึงแล้วมันก็ดับไปเอง สงสัยไม่เคยได้ใช้มันเลยซัก 4-5 ปีได้แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ซ่อมหรอกค่ะ ช่างบอกว่าปล่อยไว้ก็ไม่เป็นไร

ถ้างั้นแสดงว่าเพลาใช้น้ำมันเกียร์มาหล่อลื่นด้วย แสดงว่าน้ำมันเกียร์ถ้าจะรั่วก็อาจรั่วจากตรงนี้ได้ คิดเอาเองค่ะ ยังมองภาพไม่ออกเลยค่ะ แต่เดี๋ยวค่อยไปต่อยอดของจริงตอนที่น้องถ่ายน้ำมันเครื่องเอง จะไปแย่งเค้าทำค่ะ แต่ตอนนี้คงต้องไปยกดรัมเบลแล้วก็กินข้าวเหนียวจะได้มีแรงเอาไว้ไขน๊อต 555
แต่ลืมถามช่าง ไม่ได้เห็นภาพว่าส่วนไหนที่มันขบกันทำให้เกิดเสียงดัง เฮ้อ เก็บไม่หมด

ตอนช่างใส่ล้อกลับเข้าไปหลังซ่อมเสร็จ ช่างใช้แค่ประแจหมุนน๊อตล้อด้วยกำลังตัวเองโดยไม่ใช้แอร์กันขันน๊อตให้แน่น อันนี้มันจะเอาอยู่หรือคะ กลัวว่าขับๆ ไปซักวันล้อวิ่งนำหน้าหรือตามหลังรถน่ะค่ะ ช่างบอกว่าเอาอยู่ แต่พิมว่ามันไม่น่าจะ 100% ค่ะ น้ำหนักรถเป็นตัน เดี๋ยวค่อยเอาไปให้อู่ขันให้ใหม่

ขอบพระคุณทุกท่านที่ให้ความรู้และช่วยเข้ามาตอบนะคะ
วันที่: 10 Jun 13 - 19:51

 ความคิดเห็นที่: 228 / 908 : 783994
โดย: ทิว
เรื่องขันน็อตล้อช่างทำถูกแล้วครับ ใช้ประแจขันจนแน่นก็ถือว่าใช้ได้ จริงๆใช้ประแจปอนด์ขันให้ได้แรงตามสเปคจะดีที่สุด ส่วนแบบที่คุณพิมพ์ต้องการคือเขาใช้บล็อกลมยิงครับ แบบนี้ถ้าผมเห็นร้านไหนทำผมไม่เอารถเข้าเลย เพราะก่อให้เกิดผมเสียมากกว่าผลดีครับ กล่าวคือ บล็อกลมอาจจะทำให้หัวน็อตที่เราขันเข้าไปเสียรูปได้ หนักกล่าวนั้นอีกก็เกลียวน็อตรูด คราวนี้แหละ ล้อหลังจะได้วิ่งแซงล้อหน้าสมใจ

ส่วนไก่ของผมเลี้ยงไก่บ้านครับ ช่วงนี้มันยังอยู่ในเล้าดีอยู่ พ่อมันเริ่มระวังตัวมากขึ้น ฮ่าๆ

ท่าน Fujiwara Takumi ของเค้าเยอะครับ ปล่อยๆมาบ้างจาได้ไม่อึดอัด
วันที่: 11 Jun 13 - 00:12

 ความคิดเห็นที่: 229 / 908 : 783998
โดย: ทวีรัฐ
5555
งั้นคงได้ความรู้เพิ่มเรื่องน๊อตล้อละครับ

น๊อตล้อ (จริงๆต้องบอกว่าน๊อตทุกตัวในรถที่เป็นจุดยึดชิ้นส่วนสำคัญ) จะถูกออกแบบมาแล้วมีสเปคกำหนดค่า torque ทุกตัวครับ ซึ่ง หน่วยก็จะเป็น ปอนด์ ฟุค หรือ นิวตันเมตร ก็แล้วแต่ผู้ผลิต

แต่จะสรุปให้เข้าใจชัดคือที่คุณเห็นอู่ทั่วไปใช้บล๊อคลมนิงนะ รู้ไหมครับว่าระยะยาว อันตรายมากกว่าใช้แรงมือคน!

ถ้าอู่หรือศูนย์ที่มีมาตราฐานเขาจะแค่ขันให้ตึง แล้วจะมีประแจ ปอนด์ หรือตัว torque checker มากวดในขั้นตอนสุดท้าย
ถ้าแรงบิดยังไม่แน่นก็จะกวดเข้าไป จนถึงค่าที่กำหนด จะมีกลไก เตะที่ประแจปอนด์ดังแป๊ก!
นั่นแปลว่า ได้ค่าที่กำหนดตามมาตราฐานแล้ว
และการกวดดังกล่าวใช้แค่ แรงคน ครับ ก็เพียงพอ

ทีนี้เรื่องบล๊อคลม จริงๆ มันถูกออกแบบมาเพื่อลดแรง ลดเวลาในการถอดเท่านั้น

เวลาใส่ ก็อาจมีบล๊อคลมที่ได้มาตราฐานบางรุ่น สามารถปรับตั้งค่า torque ได้ (แต่ไม่เคยเห็นอู่ไหนให้เด็กขันน๊อตปรับสักที )
และของที่ราคาถูกลงก็จะปรับไม่ได้ แต่จะกำหนดเป็นขนาดไปเลย ว่าถ้าบล๊อคลมตัวเล็กขันได้ กี่ปอนด์ ตัวใหญ่ขันได้กี่ปอนด์

ราคาตัวนึงก็ไม่ใช่ถูกๆ

ทีนี้ การที่ตะบี้ตะบันขันอัดแน่นเข้าว่าอย่างเดียว เมื่อมันถึงจุดที่กำหนด นั่นคือการได้ถูกกำหนดแล้วว่าด้วยแรงเท่านี้ สลักเกลียว น๊อต และพื้นผิวในบ่าของล้ออัลลอย จะะไม่เสียหาย

แต่ ถ้าover torque ละ สิ่งแรง เกลี่ยวที่สลักเกลี่ยวจะเริ่มเสียหาย รวมถึงเกลียวในน๊อตล้อด้วย และแรงกดที่กดนั่งบนบ่าของรูล้อ ก็จะกดเนื้อของล้อบริเวณนั้นให้ยุบลงไปทีละนิด

เอาจากง่าย ถ้าแน่นไป เวลารถเสียข้างนอกจะเปลี่ยนยางอะไหล่ เอง คุณก็จะถอดไม่ออก

ถ้าแน่นเกินฝืนกระแทกยิงเข้าไปเรื่อยๆ เกลียวรูด งานเข้าละครับ
หรือไม่ถ้าน๊อตล้อเป็นแบบบางๆอาจมีรอยปริแตกได้ ถ้าแตกหลุดตอนนั้น ก็ยังเห็น แต่ถ้าไปแตกหลุดระหว่างใช้งานละครับ?

ทุกอย่างในดลก มีความพอดี น้อยไปก็ไม่ดี มากไปก็ไม่ดีครับ

ซึ่งการถอด ไม่ซีเรียส
แต่การขันเข้านี่แหละสำคัญมาก

เพราะเวลาขันเข้า ไม่ให้ขันตัวแรกจนแน่นเด็ดขาด
ถ้ามีน๊อตสีตัว จะประมาณว่าเอามือหรือ กากบาท หมุนเข้าไป จนพออยู่
โดยต้องใส่ ด้านตรงข้ามกันตามลำดับเท่านั้น
เช่น สมมติ น๊อตตัวแรกที่ 12 น. ตัวต่อไปต้องใส่ที่ 6 น.
ตัวที่สาม จะ 9 น หรือ 3 น ก็ได้ แต่ตัวสุดท้ายก็ตรงข้าม
พอตึงมือทุกตัวก็เริ่มขันกวดแน่น ในหลัก เดียวกัน ตรงข้ามกัน

ถ้าน๊อต 5 รู มันไม่ตรงข้ามกันเป๊ะ ก็ยังใช้หลักการเดียวกัน แต่ จะ เลือกเอาตัวข้างซ้าย หรือ ขวา จากจุดกึ่งกลาง ก็ต้องเลือกด้านเดียวกันทุกตัว

จนกวดน๊อตด้วยประแจ ปอนด์ ก็ต้องใช้หลักเดียวกัน

บางครั้งคุณอาจแย้งเด็กขันน๊อต ที่ไม่รู้จบ ป อะไร หรือ ม อะไรมาก็ไม่รู้ แต่กลับได้รับคำตอบ ด้วยความโล่เขลาและไม่ยอมรับรู้วิทยาทาน ตอบกลับมาว่า ไม่เป็นไร

ไอ้ช่างที่ทำไม่ถูกแล้วชอบตอบว่าไม่เป็นไร ก็ลองดูสภาพรถของช่างแต่ละคันเองเถอะครับ
ซึ่งผมมักบอกเจ้าของร้านเสมอว่าขันกวด แบบกากบาทนะ และให้ขันกวดทะแยงมุมเท่านั้น และไปยืนชี้เลย
ถ้าทำฮึดฮัด หรือเถึยงว่าเคยทำแบบนี้ ก็ไม่สน(เคยบอกไปเหมือนกัน ว่าอันนั้นเอาไว้ขันรถมึม นี่รถกรู ต้องขันแบบนี้ แล้วค่อยเน้นเสียงว่าทำได้มั๊ย? อันนี้ สำหรับพวกตะแบง ไม่รู้แล้วอวดรู้นะครับ)

สเปคน๊อตล้อคร่าวๆคือ
ล้อเหล็ก 65 ปอนด์-ฟุต
ล้ออะลูมิเนียม 87 ปอนด์-ฟุต

ซึ่งแรงแค่นี้ ใช้แค่มือคนต่อด้ามประแจยาวหน่อยก็ได้แล้ว
รูปประกอบคือ ประแจปอนด์ ครับ
วันที่: 11 Jun 13 - 00:21

 ความคิดเห็นที่: 230 / 908 : 784001
โดย: ทวีรัฐ
แก้ไข torque checker => Torque wrench

ขออนุญาตเอาลิงค์เวปขายล้อมาแปะ ให้เห็นภาพ นะครับ

http://www.automagwheel.com/Wheel-Knowledge/Wheel-Assy.html

ไม่เกี่ยวกับเจ้าของเวปที่อ้างอิงทุกกรณี
วันที่: 11 Jun 13 - 00:26

 ความคิดเห็นที่: 231 / 908 : 784071
โดย: Yut13
ประแจขันล้อตัว L ติดรถแขนยาว 1 ฟุตพอขันด้วยมือจนสุดแล้วเหยียบตรงปลายน่าจะพอดี
วันที่: 11 Jun 13 - 13:35

 ความคิดเห็นที่: 232 / 908 : 784131
โดย: pim
มิน่าล่ะทำไมพิมถึงไขน๊อตล้อไม่ออก มันแน่นเกินไปจากปืนลมนี่เอง

ช่างที่อู่ใช้แค่ประแจธรรมดาแล้วเอาตัวเองขย่มลงไปเท่านั้นแป็บเดียวเอง แล้วเราจะรู้ได้ยังไงคะว่าที่ช่างขันให้มันแน่นพอหรือยัง เพราะช่างแน่นอนว่าไม่ได้ใช้ประแจปอนด์ พิมนั่งมองตลอด ช่างก็ยังดูเด็กๆ อยู่เลย ไม่ได้การหละ พิมต้องไปขันน๊อตใหม่ นี่วิ่งไปแหลมฯมารอบนึงแล้ว

อ่านคำอธิบายของป๋า (ซึ่งชัดเจนแจ่มแจ้ง) ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ณ เวลานี้ อู่นี้มาตรฐานยังไม่เพียงพอ มองข้ามเรื่องง่ายๆ ที่สำคัญมาก ไม่อยากให้เป็นเช่นนี้เลย คราวหน้าถ้าไปอีกก็จะบอกเค้าค่ะ เรื่องอื่นๆ เค้าก็ดีอยู่ รึเปล่า?
พิมถือคติว่าอุบัติเหตุต้องเป็นศูนย์เท่านั้น ทำงานเจอเคสมาก็เยอะนับครั้งไม่ถ้วน แค่ปอกมะม่วงมีดบาดนิ้วตัวเองแค่เลือดซิบๆ ยังโมโหตัวเองไปหลายวันเลยค่ะ

เล่าให้ฟังค่ะ ตอนที่พิมยังใช้รถยี่ห้ออื่นอยู่ เอารถเข้า0 0ก็ดูโทรมๆ พิมก็ยืนมองดูไกลหน่อยแต่ก็มองเห็นอยู่ในห้องรับรองลูกค้า (ถูกไล่ให้เข้าห้องนี้ทุกที) เห็น 0 เอานักศึกษาฝึกงานมาทำ ช่างก็ถอดนู่นนี่ ไม่เห็นมีหัวหน้ามาคอยดูเลยเป็นร่วมชั่วโมง พิมก็กังวลออกไปคุมงานเองเลยค่ะ ก็ยืนดูเฉยๆ แล้วก็มองเห็นจุดที่คิดว่าช่างทำไม่ถูกต้อง ทำไมแท่งเหล็กที่กางตรงล้อสองข้างระดับซ้ายขวาไม่เท่ากัน ถามช่างไปว่าใส่ถูกต้องหรือเปล่า ช่างก็เฉยๆ พิมก็ยืนรอ ไม่มาดูสิ่งที่ทักท้วงซักที จนอีกพักนึงหัวหน้าก็มา พิมก็เลยหันไปถามหัวหน้าช่างให้เขาดูให้อีกที เป็นเรื่องเลย ต้องถอดออกแล้วใส่ใหม่ ถึงจะโอเค แบบนี้พูดไรไม่ออกเลย พูดแบบป๋าไม่เป็นค่ะ กลัวโดน

ตามทีป๋ายุทธ์แนะนำ พิมก็ต้องซื้อตัวแอลติดรถเพิ่มอีกตัว

ขอบพระคุณทุกท่านที่ช่วยให้ความกระจ่างค่ะ
วันที่: 11 Jun 13 - 22:04

 ความคิดเห็นที่: 233 / 908 : 784143
โดย: ทวีรัฐ
ผมไม้ได้แนะนำให้พูดจริงจังอะไรแบบนั้นนะครับ มันคือการแสดงออกทางอรรถรส ในการอ่าน ให้เห็นว่าเน้นตรงนั้น โดยให้อ่านแล้วกลมกลืนไปตามจุดที่ให้ มุ่งเน้นย้ำมากกว่าครับซึ่งคนธรรมดาทั่วไปอยู่ดีๆไม่มีใครเขาพูดกันลอยๆหรอกครับ เว้นแต่จะเจอพวกโง่แล้วอวดรู้มาเถียงข้างๆคูๆ อันนั้นก็คงเป็นอีกกรณีนึง
แต่ถ้าเป็นจุดที่เป็นเรื่องความปลอดภัยของตัวเรา รถเราซึ่งเป็นสมบัติจากหยาดเหงื่อ น้ำพักน้ำแรงของเรา ก็ไม่ควรยอมรับความเสี่ยงหรือเสียหาย โดยไม่ได้แก้ไขครับ

มีคำถามว่าทำไมต้องไปซื้อตัวL เพิ่มละครับ ปกติ มันก็จะมีติดรถเป็นเครื่องมือประจำรถอยู่แล้ว

ประแจ ธรรมดา ที่เห็นคือประแจอะไรครับ กากบาท หรือเปล่า
ถ้ามีด้ามยาวประมาณ 1 ฟุต แล้วขย่มลงไปทั้งตัว
ไม่ต้องกลัวหลุดหรอกครับ

แรงที่ใช้ประแจปินด์ขันและตั้งค่าตามที่ระบุในสเปค น้อยกว่าที่คุณเห็นอีก แต่ด้ามประแจอาจยาวกว่า 1 ฟุต เลยทำให้ดูเหมือนไม่ค่อยออกแรงมาก ก็เป็นไปตามกฏโมเมนต์ และคานดีดคานงัด ธรรมดา ครับ
แต่ถ้ามีโอกาส เจอร้านที่มีประแจปอนด์ขัน สามารถให้เขาขันกวดเพื่อความสบายใจได้ก็ดีครับ
เรื่องมาตราฐานอู่ ต้องวัดกันหลายมุมหลายเรื่องครับ ไม่ใช่แค่อุปกรณ์ แต่ไม่ว่าจะเป็นความพร้อมของบุคลากรในเรื่องทักษะ ความรู้ความชำนาญ การวิเคราะห์ปัญหา รวมถึงการให้บริการด้านอะไหล่ที่ถูกต้อง หรือ เหมาะสมก็เป็นเงื่อนไข ในการวัดมาตราฐานนะครับ อย่าเพิ่งด่วนตัดสินว่าอู่ไหนเครื่องมือครบแล้วถือว่าได้มาตราฐาน

ขนาด 0 บรการเครื่องมือครบทันสมัย ยังใช้คำว่าได้มาตราฐานไม่ได้เลยเยอะแยะไป เพียงแต่ลูกค้าไม่มีทางเลือกเพราะถ้าซ่อมอู่นอกก็กลัวจะหมดการรับประกันครับ
วันที่: 11 Jun 13 - 23:18

 ความคิดเห็นที่: 234 / 908 : 784250
โดย: pim
แล้วเรายังเหลือใครให้ไว้ใจได้อีกคะ แม้แต่คุณหมอ พิมก็ยังไม่ไว้ใจเลยค่ะ
ทุกๆ อย่างก็ต้องเป็นเราดูเองหมด ตังค์ก็จ่ายให้แล้ว บางทีเราก็อยากสบายบ้าง

ไม่ใช่กากบาท ที่อู่ใช้มันเป็นประแจอันเล็กๆ สั้นๆ น่าจะไม่เกินฟุตค่ะ เค้าจับมือเดียวแล้วขย่มลงไป ทุกน๊อตไม่มีการทำซ้ำ พิมไม่เชื่อว่ามันแข็งแรงพอ ไม่เชื่อแบบไม่มีความรู้นี่แหละค่ะ แต่อาศัยประสบการณ์ที่เคยเห็นที่อื่นทำแล้วไม่ใช่แบบนี้ แต่พิมเอาไปให้อู่ขันให้ใหม่แล้วล่ะค่ะ เค้าไม่คิดสตังค์ สบายใจแระ

แต่อู่นี้พิมก็ยังไม่ได้อะไรเค้าหรอกค่ะ เพียงแต่ต้องระวังมากขึ้น เหมือนกับ 0 เลยค่ะที่เชิญลูกค้าเข้าห้องแอร์เย็นๆ แต่พิมก็ไม่เข้าหรอกค่ะ นั่งเฝ้าช่างทำ เค้าจะได้ระวังด้วย


ไม่รู้ตัวแอลยังอยู่หรือเปล่าค่ะ ไม่เคยดูมันเลยนานแล้วตั้งแต่ยางรั่วคราวก่อนสามสี่ปีได้แล้ว มืดแล้วไม่ได้ลงไปดู
จำได้ว่ามีแท่งเหล็กกลมๆ เล็กๆ สีฟ้า ยาวซักฟุตกว่า วางอยู่ข้างยางสำรอง เอาไว้ทำอะไรคะ
พิมคงต้องไปรื้อท้ายรถดูใหม่ ว่ามีอะไรบ้างแล้วก็ต้องใช้มันให้เป็น

ขอบพระคุณป๋ามากค่ะ
วันที่: 12 Jun 13 - 21:59

 ความคิดเห็นที่: 235 / 908 : 784262
โดย: ทวีรัฐ
อันนั้นเป็นด้ามขันแม่แรงยกรถ เวลาเปลี่ยนยางคร๊าบบบบ
วันที่: 12 Jun 13 - 23:04

 ความคิดเห็นที่: 236 / 908 : 784357
โดย: pim
ป๋าเจอแล้วค่ะ จำได้แล้ว พอเห็นท่อเหล็กพิมก็อ๋อเลย ตอนที่ยางแบนตอนเช้าจะไปทำงาน เลยให้ช่างแถวนั้นเปลี่ยนยางให้ เค้าก็เอาตัวแอลมาไขแต่ไขไม่ออก ขึ้นไปเหยียบแล้วมันหลุดออกมา เค้าก็ไปหาท่อเหล็กมาสวมตัวแอลอีกที คราวนี้ออกค่ะ
เปิดท้ายรถก็เจอทั้งตัวแอลแล้วก็ท่อเหล็กสวมอยู่ด้วยกันเลย แต่มันเป็นท่อของรถกระบะคันที่อยู่แถวนั้นนี่นา ตายหละพิมเอาของเค้ามา แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่าช่างเค้าแถมท่อเหล็กใส่รถมาให้ด้วย ไม่ได้ตั้งใจค่ะ ช่างจัดการให้หมดเลย

ถ้างั้นตอนนี้พิมก็เปลี่ยนยางได้เองแล้วสิ ว้าววว ดีใจ ไม่ยากๆ แต่ยังใส่แม่แรงยกรถไม่เป็นเลยค่ะ

ขอบพระคุณป๋า ป๋ายุทธ์ พีทิว มากเลยนะคะที่อธิบายเรื่องตัวแอลกับวิธีขันน๊อต ทำให้พิมรู้มากขึ้นแถมประหยัดเงินได้อีก 555
วันที่: 13 Jun 13 - 19:47

 ความคิดเห็นที่: 237 / 908 : 784364
โดย: ทิว
วันนี้ผมไปลุยน้ำขังจากฝนตกหนักในช่วงนี้ กลับมาส่องดูได้รถ
ไอ้ยะ!!! งานเข้า ลูกหมากกันโคลงฉีกขาดทั้ง 2 ข้างเลย(ด้านหลัง)
สงสัยมันจะขาดได้ซักพักละ เพราะช่วงล่างไม่ค่อยแน่นเท่าที่ควร แต่พอโดนน้ำชะล้างออก ทำให้เห็นได้ชัดเจนว่ามันได้ลากลับฮิโรชิม่าไปแล้ว แต่วันนี้เลิกค่ำไปร้านอะไหล่ไม่ทันแล้ว พรุ่งนี้จะไปรอร้านอะไหล่แต่เช้า เปิดปุ๊บ ผมซื้อปั๊บ ฮ่าๆๆ

ขอถามป๋าว่า ผมควรจะเปลี่ยนด้านหน้าด้วยเลยมั๊ยครับ ผมคิดว่ามันน่าจะกลับบ้านเก่าในเวลาใกล้เคียงกัน และเริ่มมีเสียงกุ๊กๆจากด้านหน้าซ้ายมาให้ได้ยินแล้ว แล้วระหว่างของเทียบ น่าจะ RBI กับแท้คุณภาพต่างกันแค่ไหนครับ(เฉพาะลูกหมากกันโคลงนะครับ)
วันที่: 13 Jun 13 - 20:14

 ความคิดเห็นที่: 238 / 908 : 784389
โดย: ทวีรัฐ
ถ้าเป็นผม ผมเปลี่ยนพร้อมกันเพราะจ่ายค่าแรงครั้งเดียวครับ

ตอนนี้งานเข้า เหมือนกัน แต่สาหัสกว่า

เอา อิมเพรสซ่า มาสุรินทร์
ตอนขามาคงจะมาเร็วเกิน

เพลาหลังข้างขวาหลุด อยู่

ยังหาวิธีใส่กลับโดยไม่ถอดล้อไม่ได้ เพราะไม่มีปล๊อคถอด เบอร์ 31

อู่แถวนี้ ทำไม่ได้

จากขับเคลื่อน 4 ล้อ กลายเป็นคลาน 2 ล้อหน้า ยิ่งออกตัวเหมือนรถคลัชท์ลื่นไม่มีผิด
พรุ่งนี้เช้าว่าจะคลานเข้าเมืองขอยืมhoist ยกท้าย กะเครื่องมือ ตอกเพลากลับซะเองละ

สาเหตุ เพลาหลัง มีรอยตัดต่อ ข้างขวาความยาวหายไปประมาณ 1 นิ้ว พอวิ่งเร็วๆลงคอสะพาน เลยหลุดครับ
วันที่: 14 Jun 13 - 00:02

 ความคิดเห็นที่: 239 / 908 : 784390
โดย: ทิว
ผมคงเปลี่ยนเองครับป๋า จ่ายค่าแรงตัวเอง ประหยัดดี
ตอนนี้ไปถอดออกมาแล้วครับทั้งหน้า-หลัง สภาพขาดหลุดรุ่ย จารบีไม่เหลือซักนิดเลย
พรุ่งนี้จะได้ถือไปเทียบแถววรจักรเลยทีเดียว กันพลาด

อิมป๋าคงต้องคลานซักพักแหละครับ ช่างแถวนั้นเห็นคงส่ายหัวกันเป็นแถว
คงต้องลงมือเอง แบบยืมเครื่องมือเค้าอย่างที่ป๋าว่า
จริงๆผมก็อยากได้รถขับสี่เหมือนกัน แต่กลัวเรื่องตัดต่อนี่ที่สุดละ

ว่าแต่ ขับสี่ เหลือคลานสองนี่คิดได้ไงครับ
วันที่: 14 Jun 13 - 00:16

 ความคิดเห็นที่: 240 / 908 : 784399
โดย: pim
แล้วรถพิมล่ะ ลูกหมากไปยัง ไม่เห็นมีใครพูดถึงมันนานแล้ว มันอยู่ตรงไหนคะจะได้ไปส่องบ้าง
พูดไรกันสองคน พิมฟังไม่รู้เรื่อง อยากจะรู้เรื่องง่ะ

แต่ตอนนี้พิมต้องไปก่อนลูกหมากแล้ว
บาย
วันที่: 14 Jun 13 - 04:34

หน้าที่: 1 ... 2   3   4   5   6   7   8   9   10   11   [12]   13   14   15   16   17   18   19   20   21   22 ... 46