Close this window

*********** มาสด้าปูฐานปึ๊กรับรุ่น3 ยกระดับรถญี่ปุ่นดีที่สุด ****************
มาสด้าปูฐานปึ๊กรับรุ่น3 ยกระดับรถญี่ปุ่นดีที่สุด

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 4 สิงหาคม 2547 14:11 น.

จับตา! "มาสด้า" รุกตลาดรถไทย เดินแผนปูฐานรองรับครบวงจร ทั้งด้านเครือข่ายจำหน่าย บริการหลังการขาย และตัวสินค้า ผ่านโปรแกรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานโชว์รูมคอนเซ็ปต์ MCI แคมเปญเซอร์วิส "Come Home" และโครงการ MAP ก่อนที่จะเปิดตัว "มาสด้า 3" ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า รวมถึงรถยนต์เจนเนอเรชั่น เอ็ม รุ่นอื่นๆ ในอนาคต เพื่อมุ่งสู่การเป็น "รถญี่ปุ่นที่ดีที่สุด" เร็วๆ นี้

เริ่มดีวันดีคืนขึ้นมาเป็นลำดับ สำหรับรถยนต์ "มาสด้า" ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของยอดขาย การยอมรับในแบรนด์สินค้า รวมถึงการรับรู้ของลูกค้า ต่อจุดเด่นและเอกลักษณ์ของรถยนต์มาสด้า ภายใต้คอนเซปต์ "ซูม....ซูม"

อย่างไรก็ตามเป้าหมายของมาสด้า ไม่ใช่เพียงแค่ไม้ประดับของตลาดรถยนต์ แต่ต้องการเป็นรถยนต์ญี่ปุ่นที่ดีที่สุดในไทย โดยเฉพาะภายหลังการเข้ามาทำตลาดของรถยนต์นั่ง หรือเก๋งรุ่นใหม่ "มาสด้า 3" ตลอดจนรถรุ่นอื่นๆ ที่เรียกรวมกันว่า เจนเนอเรชั่น เอ็ม (M) ซึ่งมาสด้าหวังว่าจะกลับมายืนอยู่บนแถวหน้าของตลาดรถยนต์ไทยให้ได้

แต่ก่อนที่จะก้าวไปถึงจุดนั้น ตัวสินค้าเพียงอย่างเดียว คงจะช่วยได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น เหตุนี้มาสด้าจึงได้วางแผนเตรียมความพร้อมทุกอย่าง เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจในไทยอย่างเร่งด่วน เพื่อให้สามารถรองรับการเข้ามาทำตลาดของ มาสด้า3 ซึ่งเป็นรถยนต์หัวหอกของมาสด้าในอนาคตอันใกล้นี้

ทั้งนี้จะเห็นว่ามาสด้าได้พยายามสร้างการยอมรับของลูกค้า ที่มีต่อแบรนด์และจุดเด่นของรถมาสด้า สำเร็จแล้วในระดับหนึ่ง...... "สิ่งที่ได้พยายามทำผ่านคอนเซ็ปต์ 'ซูม ซูม' จนได้รับการยอมรับและตอบสนองจากลูกค้าดีขึ้นเป็นลำดับ เพราะซูม...ซูม ไม่ใช่คำที่เราต้องการให้คนจดจำแล้วก็พอ แต่มันจะต้องเป็นจิตวิญญาณ ที่สามารถเข้าใจได้ทันที พอพูดคำนี้ออกมาลูกค้า จะต้องนึกถึงตัวตนของรถมาสด้าได้ว่าเป็นอย่างไร"

ปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวและว่า สำหรับการสร้างการยอมรับไม่ใช่เพียงแค่นี้ สิ่งสำคัญมาสด้าจะต้องเตรียมพร้อมทุกอย่าง โดยเฉพาะเครือข่าย บริการหลังการขาย และกลยุทธ์ทางการตลาด ที่จะต้องมีหลากหลายชั้น เพื่อให้มาสด้ากลายเป็นรถยนต์ที่ดีที่สุด
โดยสิ่งสำคัญเหล่านี้มาสด้าจำเป็นต้องทำให้พร้อม และมีการดำเนินการต่อเนื่องในทุกๆ ด้าน เริ่มจากเครือข่ายการจำหน่าย หรือดีลเลอร์ ได้มีการปรับเปลี่ยนโชว์รูมและการบริการ ให้เป็นไปในทิศทางและมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ หรือที่เรียกว่า MCI (Mazda Corporate Identify) ซึ่งรูปแบบของโชว์รูมตามคอนเซ็ปต์ของ MCI จะต้องโปร่งใสสามารถมองเห็นได้ชัดเจน ทั้งจากภายนอกและภายใน รวมถึงมาตรฐานการบริการหลังการขาย และช่องซ่อมต่างๆ และขณะนี้ได้มีการปรับไปแล้วกว่า 60% จากปัจจุบันที่มีดีลเลอร์ทั้งหมด 72ราย

"เพื่อทำให้ลูกค้าได้เข้าใจ และมั่นใจในการบริการของมาสด้า มาสด้าได้ออกแคมเปญ 'Come Home' ซึ่งเป็นกิจกรรมผลักดันให้ลูกค้ามาสด้าทุกราย ได้เข้ามาใช้บริการหลังการขายที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ เปรียบเสมือนการกลับมาบ้านของตัวเอง ที่มีทั้งความจริงใจ เป็นกันเอง และได้มาตรฐานสูงสุด"

สำหรับลูกค้าที่มาใช้ศูนย์บริการของมาสด้า จะได้รับการบริการที่มีมาตรฐานถึง 12 ขั้น ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ศูนย์บริการมาสด้าทุกแห่งจะต้องมี โดยเฉพาะโชว์รูมที่ปรับสู่คอนเซ็ปต์ MCI แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งลูกค้าก่อนซ่อม ทั้งการชี้จุดซ่อม และแจ้งจุดซ่อมควรจะทำตรงไหนบ้าง เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจว่าจะทำดีหรือไม่
ขณะที่ลูกค้ากำลังรอการซ่อม โชว์รูมมาสด้าทุกแห่งจะต้องมีสถานที่ หรือห้องรับรองลูกค้า ที่มีความสะดวกสบายเหมือนอยู่กับบ้าน และไม่เพียงเท่านั้นลูกค้าที่เข้ารับบริการตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายน จะได้รับส่วนลดค่าอะไหล่ 10-15%

ปพนธ์กล่าวว่า เพื่อสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าเพิ่มขึ้น มาสด้ายังได้เปิดตัวโครงการ Mazda Added Protectionหรือ MAP ซึ่งเป็นโปรแกรมคุ้มครองและช่วยเหลือลูกค้าทุกท่าน โดยขยายระยะเวลาคุ้มครองจากเดิมที่ซื้อรถใหม่ 3 ปี หรือ 100,000 กม. เป็น 5 ปี 140,000 กม. หรือลูกค้าเก่าเพียงซื้อโปรแกรมเพิ่ม ก็สามารถได้รับการขยายความคุ้มครองเพิ่มทันทีเช่นกัน

"จากการพยายามสร้างความพร้อมอย่างครบวงจร ทำให้เชื่อว่าหลังจากการเปิดตัวเก๋ง มาสด้า 3 ซึ่งเป็นรถยนต์ที่นับตั้งแต่เปิดตัวในตลาดโลกเมื่อกลางปีที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ได้รับรางวัลแล้วกว่า 30 รายการ ซึ่งเชื่อว่าในไทยมาสด้าก็จะก้าวสู่การเป็นรถยนต์ญี่ปุ่นที่ดีที่สุด (The Best Japan Car) ทั้งในด้านคุณภาพสินค้า และการบริการเช่นกัน"

สำหรับความเคลื่อนไหวของ "มาสด้า 3" อีกไม่กี่เดือนจะทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทย ขณะนี้โรงงานประกอบที่ฟิลิปปินส์ได้เริ่มไลน์การผลิตแล้ว และนับจากเปิดตัวจนถึงสิ้นปี มาสด้าตั้งเป้าขายรถรุ่นนี้ไว้ประมาณ 2,000 คัน โดยรุ่นที่จะทำตลาดมีทั้งเครื่องยนต์ 1.6 และ 2.0 ลิตร เป็นเครื่องยนต์ที่ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี จากเครื่องยนต์ MZR ที่วางอยู่ในเอสยูวีรุ่นทริบิวต์ และมีเวอร์ชั่นทั้ง 4 และ 5 ประตูทำตลาด

ในส่วนของโครงสร้างภาษีใหม่ ที่เก๋งขนาดต่ำกว่า 2.0 ลิตร มีภาษีลดลงจาก 35% เป็น 30% ปพนธ์กล่าวว่า โครงสร้างภาษีรถใหม่จะส่งผลดีต่อการทำตลาดของมาสด้า3 ที่จะเปิดตัวทำตลาดเร็วๆ นี้ เพราะมีราคาที่ลดลงจากเดิมหากเทียบกับอัตราภาษีเก่า ขณะที่รถยนต์รุ่นอื่นๆ ของมาสด้าไม่มีผลกระทบนัก นอกจากรถเอสยูวีรุ่นทริบิวต์ ทำให้ต่อไปนี้มาสด้าจะเน้นที่รุ่นเครื่องยนต์ 2.3 ลิตรเป็นหลัก เพราะได้รับผลกระทบไม่มาก ขณะที่รุ่น 3 ลิตร จะลดการทำตลาดลง แต่หากลูกค้าสนใจก็ยังสามารถสั่งซื้อได้

"หลังจากมาสด้า 3 จะมีรถยนต์รุ่นอื่นๆ เข้ามาทำตลาดต่อเนื่อง ซึ่งเราเรียกรถมาสด้าทุกรุ่นต่อไปนี้ว่า รุ่นเจนเนอเรชั่น เอ็ม ไม่ว่าจะเป็นรุ่น 3, 6 หรือ 2 ขณะที่ปิกอัพจะมีการเปิดโมเดลใหม่ในปีหน้า ส่วนเครื่องยนต์จะเป็นอย่างไรกำลังศึกษาอยู่ แต่สิ่งที่บอกได้นับจากนี้ไป มาสด้าจะเป็นรถญี่ปุ่นที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นรถรุ่นไหนก็ตาม" ปพนธ์กล่าว

__________________________________________
โดย: Reporter   วันที่: 5 Aug 2004 - 21:45


 ความคิดเห็นที่: 1 / 5 : 004159
โดย: nynop
To blow the hot wind it's a damn easy thing.
To implementting may be another thing.
Every members in this board may realized " Mazda " .
How to make the good cars good sale?
We here need " good " performance Mazda at an reasonable price , warm service and yes, we need friends.
วันที่: 06 Aug 04 - 01:08

 ความคิดเห็นที่: 2 / 5 : 004166
โดย: jane_9090
น่าจะมีอีกโครงการนะ

เทิร์นมาสด้าเก่าราคาสูงไง
วันที่: 06 Aug 04 - 07:43

 ความคิดเห็นที่: 3 / 5 : 004199
โดย: rex 2.0
You bet, P' Nynop. Tell me about it ^_^
วันที่: 06 Aug 04 - 13:51

 ความคิดเห็นที่: 4 / 5 : 004471
โดย: พงษ์
อยากเป็นรถญี่ปุ่นที่ดีที่สุด MD. มาสด้าต้องจริงใจกับตลาดไทยให้มากที่สุดด้วย โดยการนำรถยนต์ที่เป็นที่ต้องการของตลาดเข้ามาขายด้วย ไม่ใช่เอารถดีๆ ไปขายยุโรป และสิงคโปร์ เหลือๆ เอามาขายไทย แน่จริงเอา รุ่นดีเซล commonrail มาขายซิ รับรองยอดกระฉูดแน่ แต่มาสด้าไม่ค่อยจริงใจกับคนไทยหรอก ส่วนใหญ่จะจิงโจ้ ยอดขายเลยโย้ไปโย้มา ดูเป้าขายก็รู้ ตั้งไว้แค่ 2000 คัน
ส่วนเรื่องจะเอาใจคนด้วยการทำศูนย์ให้ทันสมัยนะคิดผิด ถ้ารถมาสด้ามีน้อย ศูนย์เขาปรับปรุงมันก็ไม่ค่อยคุ้ม ต้องจัดการผลิตในไทยแล้วขายให้ได้มากก่อน แล้วจึงจะมีคนสนใจลงทุนก่อตั้งศูนย์บริการ เพราะเขาเห็นว่าถ้ารถขายได้เยอะต้องมีรถไปใช้บริการเยอะแน่ คุ้มต่อการลงทุน ส่วนการผลิตอะไหล่ต่อหน่วยก็ถูกลงด้วยเพราะจ้างผลิตจำนวนมาก ค่าบริการที่ศูนย์ก็ถูกลงด้วย จึงควรจะไปคิดปรับปรุงศูนย์เพิ่มเติม ที่ผ่านมาเคยมีตัวอย่าง รถยุโรปเช่น Volvo BMW รถราคาถูกกว่า Benz แต่ราคาอะไหล่และค่าซ่อม และอื่นๆ เบนซ์ถูกกว่ามาก เพราะเหตุดังกล่าว ฉะนั้นผู้บริหารมาสด้าต้องคิดให้เป็นหน่อย
วันที่: 09 Aug 04 - 15:37

 ความคิดเห็นที่: 5 / 5 : 013255
โดย: 111
เชื่อว่าการบริการเป็นสิ่งสำคัญที่สุดเป็นอันดับ 1 และราคาอะหลั่ยให้ใกล้ๆ กับ honda toyota และ mazda จะคลองที่ 1 แน่นอน เชื่อว่ายังงั้น
วันที่: 26 Oct 04 - 11:30