วันนี้ตอนเช้าสตาร์ทรถไม่ติด แบตใช้มาปีเดียว เลยลองวัดไฟที่แบตดู ปรากฎว่าไฟเหลือน้อยที่สุด เลยพ่วงไฟสตาร์ทติด แล้วไปที่ร้านแบต เปลี่ยนลูกใหม่
คนขายวัดระดับไฟตอนเปลี่ยนลูกใหม่ให้ แล้วบอกว่าเครื่องรถผม "ส่งไฟมาชาร์ตที่แบตแรงเกินไป" อย่างนี้ผมต้องเปลี่ยนไดชาร์ตใหม่รึเปล่าครับ หรือไปติดสายกราวน์เส้นโต ๆ หลาย ๆ จุดที่เค้าโฆษณากันว่าช่วยให้ระบบไฟสมบูรณ์ จะแก้ปัญหาได้ไหมครับ รบกวนแนะนำด้วยครับ

โดย: โต้ง   วันที่: 10 Nov 2004 - 14:25

 ความคิดเห็นที่: 1 / 7 : 015471

โดย: rex 2.0

รถรุ่นอะไร ปีไหนครับ วิ่งมาเท่าไหร่เอ่ย

ถ้าเปลี่ยนแบตไปแล้วก็ลองเช็คดูใหม่ได้ ว่าที่ส่งมาแรงไป แบตใหม่รับได้หรือเปล่า? เข้าศูนย์ฯ ให้เค้าดูตามที่ช่างแบตสงสัยก็ได้ครับ ว่าผิดเสปคหรือเปล่า ไม่น่าเสียเงินครับ ถึงเสียก็ค่าแรงนิดเดียว เช็คโดยช่างเฉพาะยี่ห้อที่รู้เสปค แล้วเราไปซ่อมข้างนอกเอาก็ได้ ดีออก

 ความคิดเห็นที่: 2 / 7 : 015533

โดย: ตาม

เค้าเอาอะไรมาเป็นเกณฑ์ว่าส่งไฟมาชาร์จที่แบตแรงเกินไปครับ ข้อหานี้เกิดมาไม่เคยได้ยิน เคยได้ยินแต่แบตลูกเล็กเกินไป จ่ายไฟไม่พอ

แล้วถ้ารถเดิม ๆ ไม่เคยไปทำไร มันยิ่งฟังไม่ขึ้นกันเข้าไปใหญ่ ว่าอยู่ดี ๆ ไดชาร์จมันจะส่งมาแรงเกินได้ยังไง และถึงแรงไป ก็ไม่เคยได้ยินว่ามันจะทำให้เกิดปัญหา อย่างโครโนสนี่ไดชาร์จ 90 แอมป์นะครับ แต่แบตก็ใช้กันแค่ 60-65 กันทั้งนั้น

 ความคิดเห็นที่: 3 / 7 : 015541

โดย: เอ

ผมเคยเห็นเขาเพิ่มเจ้าตัววัดแอมแปร์เข้าไป ก้อช่วยได้นะ ถ้าไฟมันมามากจริง ๆ เพราะว่าเจ้าตัวแอมแปร์จะเป็นตัวดัดไฟ (วัดการชาร์ทด้วย) ไฟจะเข้าแบตสูงสุดแค่ 25 เปอร์เซ็นเท่านั้น
(ผมฟังเขามาอีกทีนะครับ ถูกผิดยังไงต้องขออภัยด้วยครับ)

 ความคิดเห็นที่: 4 / 7 : 015588

โดย: GP

ขอบคุณความเห็นจากทุก ๆ ท่านครับ

ครือว่า...พอติดตั้งแบตเสร็จ เค้าก็ให้ผมติดเครื่อง แล้วนำสายเครื่องวัดไปแตะที่ขั้วแบตทั้งสอง แล้ว ลองเร่งเครื่อง เปิดแอร์ เปิดไฟ ครับ
รถผม Astina Pop-up ใช้แบต 60 ครับ เมื่อวานมีเพื่อนบอกว่าการจ่ายไฟกลับไปชาร์ตที่แบตนั่นมันมีตัวตั้งได้ครับ ไม่รู้จริงเท็จแค่ไหน เค้าบอกว่าให้ไปเข้าศูนย์ให้ช่างปรับให้นิดเดียว กะว่าจะลองไปที่ศูนย์ดูครับ

 ความคิดเห็นที่: 5 / 7 : 015589

โดย: โต้ง

ขออภัยครับ ใช้ชื่อผิด GP ก็โต้งเองล่ะครับ

 ความคิดเห็นที่: 6 / 7 : 015611

โดย: มิตรป้อมพระจุลฯ

ไฟชาร์จเกินแสดงว่า ไดชาร์จเสียครับ ที่เกินไม่ไช่กระแสแต่เป็นแรงดันครับ เนื่องจากวงจรเรกูเลเตอร์ในไดชาร์จเสีย ให้ใช้โวลท์มิเตอร์วัดที่ขั้วแบตดูขณะเปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกตัว แล้วเร่งเครื่องไปที่3000รอบดู ถ้าปกติจะวัดแรงดันได้13.8โวลท์ (ขณะฟูลโหลด)แต่ถ้าไม่เปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าเลยต้องไม่เกิน14.5 โวลท์ เกินจากนี้ไฟชาร์จเกินแน่นอนครับ
และเหตุที่ทำให้แบตเสียนั้นเหตุจากน้ำกลั่นแห้งเร็วจากความร้อนของแผ่นธาตุ ที่สูงกว่าปกติมาก จากการชาร์จเกิน ทำให้แผ่นธาตุแต่ละเซลชอร์ตถึงกันได้ และเจ้าของลืมดูแล แต่ถ้าเจ้าของรถหมั่นดูแลเติมน้ำกลั่นให้ได้ระดับทุกวันแล้วละก็ จะยืดอายุแบตได้อีกนานเหมือนกันครับ อย่างไดชาร์จดีซีรุ่นเก่าๆ ไม่มีวงจรเรกูเลเตอร์ ควบคุมแรงดัน แต่ใช้วงจรคัทเอ้าท์ตัดกระแสไฟเมื่อ แรงดันเกินค่ากำหนด แบตก็ใช้ได้นานเหมือนกัน
และการเปลี่ยนแบตใหม่ทุกครั้งจะต้องชาร์จอย่างน้อย10นาทีก่อนใช้สตาร์ทเครื่องยนต์เสมอ แม้แบตนั้นจะเติมน้ำกรดแล้วจะใช้ได้ทันที หรือจะใช้วิธีเปลี่ยนแบตโดยไม่ดับเครื่องยนต์เลยก็ได้ ( และเดินเครื่องหรือใช้รถต่อไปก่อนดับเครื่องอย่างน้อย30นาที)
จะได้เช็คไดชาร์จไปด้วยเลยว่ายังดีอยู่หรือไม่ ถ้าไดเสีย เมื่อถอดแบตเก่าออกเครื่องจะเดินไม่นิ่งหรือถ้าสาหัสมากก็จะดับไปเลย (**ปกติอายุแบตฯรถเกียร์ธรรมดา 3ปี เกียร์ออโต้ 2 ปีครับ)
ไม่กระจ่างอย่างไรโทร01-3991266 ยินดีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ครับ

 ความคิดเห็นที่: 7 / 7 : 015853

โดย: โต้ง

โอ้โฮ... เป๊ะเลยครับคุณมิตรป้อมพระจุลฯ ทางร้านบอกว่าแรงดันที่ส่งมาที่แบตรถผมอยู่ที่ 15 โวลทขึ้นไปตลอดเลยครับ คงเป็นแบบเดียวกับที่คุณกล่าวมา ผมชอบตรวจเครื่องเสมอเลยครับ แบตเลยอยู่ได้ปีกว่า ๆ มาสองลูกแล้ว กะว่าลูกนี้คงอยู่ได้สองถึงสามปีกับเค้าบ้างแล้วครับ
ขอบคุณครับ