คงได้ยินข่าวคอนเสิร์ตนี้กันมาบ้างนะครับ หลายๆคนคงรู้จักวงนี้ อาจจะเคยได้ยินชื่อมาบ้าง ว่าแต่มีใครได้ไปดูบ้างรึป่าวครับ
ขอยอมรับตรงๆว่าไม่ใช่แฟนเพลงตัวจริงของวงๆนี้ ที่ฟังแล้วชอบก็แค่2-3เพลง เพราะเพลงส่วนใหญ่หนักทั้งดนตรีทั้งเนื้อหา ทำให้เสพและเข้าถึงค่อนข้างยาก แต่ด้วยความที่มีโอกาส ก็อยากจะฉวยไว้เพราะไม่คิดว่าชาตินี้พวกเค้าจะกลับมาที่นี่อีก แต่ขึ้นชื่อว่าSlipKnot ผู้คนต้องนึกถึง 9สมาชิกภายใต้หน้ากากปีศาจ ที่เป็นเครื่องหมายการค้าการันตีว่าไม่ได้มีดีแค่อิมเมจภายนอก แต่ฝีมือนั้นถือว่าอยู่ในระดับตองอูเลยทีเดียว โดยเฉพาะการใส่พวกเพอร์คัชชั่น (เครื่องเคาะ/ตี) ที่มาเพิ่มสีสันให้กับดนตรี แล้วงี้ผมจะพลาดได้ไงนะ
ราวๆทุ่มสิบห้า ผมไปถึงด้านนอกลาน Aktiv Square เมืองทองธานี แฟนเพลงมากมาย ราวทั้งเด็กแนวจริงๆและแนวไหนก็ไม่รู้ (หาตัวเองไม่เจอ) ทุกรุ่น ทุกวัย ทั้งชายหญิง แต่ผมรู้สึกว่าเดี๋ยวนี้เด็ก 14-17 ฟังเพลงหนักกะโหลกขนาดนี้เลยเหรอ ก็ได้แต่หวังว่าน้องเค้าคงชอบจริงๆ(ไม่ได้ไปตามกระแสเหมือนที่ผมเคยเป็น) วงการเพลงจะได้ตามเค้าทัน สู้เค้าได้
ผมมาทันดูวงเปิดอย่าง Ebola และ Dezember จากมอนิเตอร์ด้านนอก ก่อนที่จะเค้าไปที่ลานด้านใน
คนเยอะพอสมควร หลายพันเลยล่ะ (อย่าไปเทียบกับLinkinPark นะครับเพราะแนวเพลงเข้าถึงได้ง่ายกว่า) ผมอยู่ในลานหนึ่งพันบาท กลางๆใกล้นั่งร้านตั้งกล้อง เพราะไม่อยากไปเบียดขัดความสุขน้องๆที่อยากสนุกกันข้างหน้า (จริงๆไปสาย)
ระหว่างนั้นเพลงของ SlipKnot เปิดคลอๆ ระหว่างการตั้งเครื่อง และแค่อึดใจเวลาที่เรารอคอยก็มาถึง......
สาวกทั้งหลาย ทั้งเฮ ทั้งปรบมือ กระโดด กรีดร้อง ต้อนรับวงที่พวกเค้ารอคอย สมแล้วสมฉายา สมคำเล่าลือ เล่นกันเต็มที่จริงๆ อิมเมจบนเวทีที่เค้าเล่าลือ
ผ่านไปได้ประมาณ 4เพลง ได้ฤกษ์กล่าวคำว่า สวัสดีครับ แบงก์คอก (ซึ่งเป็นสรรพนามที่SlipKnotเรียกคนดูงานนี้เลย) เรียกเสียงเฮดังลั่น เท่าที่ดูนักร้องนำตกใจกระแสตอบรับพอสมควร เพราะดูจากคนดูที่กระโดดกันสุดๆร้องเพลงของเค้าได้ลั่น เค้าดูประทับใจพอสมควร (เท่าที่ผมมองจากด้านหลังนะครับ)
คนเริ่มเหนื่อย โรยลงไปบ้างคงเพราะอากาศร้อนอึดอัด และ เพลงเองก็มีสัดส่วนมากขึ้น หนักกะโหลกกว่าเดิม จังหวะโยกยากเหลือเกิน คนดูเลยได้แต่ดูผงกหัวงึมๆ ก็เพราะเหตุข้างต้นล่ะมั้งเมื่อ 1-2 เพลงพักทีนึงๆ นักร้องพยายามคุยเร่งเร้าคนดูมากขึ้น แต่ อุปสรรคชิ้นโต ภาษาอังกฤษ ครับ พี่ไทยฟังได้แน่ รู้เรื่องรึป่าวอีกเรื่องนะไม่รู้ล่ะ แต่ตอบไว้ก่อน(วะ) ได้แค่ เย้ ฮู้ ฟ๊ากกกยู้ ก็เอาแล้ว และด้วยความที่ไม่แน่ใจตอบอีกนั่นแหละ เสียงตอบกลับบางครั้งมันก็เบา พอนักร้องนำเห็นท่าไม่ดีก็เร่งเร้าขอสียงดังขึ้นอีก ไอ้ทางเราก็ยิ่งไม่รู้เรื่องอีก แต่ถ้ามีคำว่า hand, Are u ready??, Crazy หรือคำที่ดูคุ้นๆหน่อยดูเราจะตอบได้ดังขึ้น แล้วยิ่ง f**k นะ นิ้วต้องห้ามชูกันให้สลอน คนละอัน 2 อัน แหมทีงี้แม่นเชียวนะ
ที่ชัดๆเลยครับในเพลง Split it out เป็นเพลงดังเพลงชงก็ว่าได้ เป็นเพลงที่โยกได้ มีบีทไม่ซับซ้อนมาก คนกำลังสนุกมากๆ พอถึงก่อนเข้าท่อนฮุค เค้าขอให้คนดูค่อยๆนั่งลงกับพื้นเพื่อจะกระโดดพร้อมกันในท่อนฮุค เค้าพยายามมาก ทั้งพูดช้า พูดชัด ให้เรานั่ง เราก็ไม่นั่งซะที จนต้องลงด้วยภาษาใบ้ เราก็เลยยอมนั่งกัน แล้วพอสัญญาว่า Jump the f**k up ก็ให้ทุกคนกระโดดกัน ผมยังคิดว่าจะล่ม แต่งานนี้ผิดคาด โอ้วว โดดกันพื้นสะเทือน เหมือนตอนเรายืนแล้วสิบล้อวิ่งผ่านถน ยังไงยังงั้นเลย พื้นสั่นมากๆ ขนงี้ลุกแล้วลุกอีก
พอสักสามทุ่มครึ่งเค้าจบเอาดื้อๆคนก็งงๆ อยู่ๆจบเพลง(ไรวะ) มีแค่ขอบคุณแล้วราตรีสวัสดิ์ งงดิครับ คนก็ปรบมือเรียกSlipKnotๆ ๆ แล้วก็เหมือนอังกอร์ครับ ตามที่คาดไว้ เค้าก็กลับออกมาครับ ต่ออีกประมาณ3เพลง แถมมันส์กว่าเดิม เหมือนส่งท้ายก่อนจบจริง และหยอดอีกด้วยว่า พวกคุณยอดเยี่ยมจริงๆ ถ้ามีโอกาสเราจะกลับมาอีกแน่ๆ เล่นเอาเฮกันสุดๆ
ผมเดินออกมาจากคอนเสิร์ตไม่มีอะไรนอกจะประทับใจในความเป็นมืออาชีพจริงๆ ทุกอย่างเลยจริงๆ ภาพติดตาไม่ต่างกับคอนเสริต์ที่เราเห็นจากสื่อเลยล่ะครับ ถึงผมจะไม่ได้ชื่นชอบเป็นพิเศษหรือเป็นสาวกตัวจริง แต่ออกมาก็อึ้งครับ
ขนยังลุกไม่หายในความสุดยอดของปีศาจ 9 ตนนี้จริงๆ. . . .
|