Close this window

เร็วขึ้น 2 วิ. แบบไม่ต้องโมฯเพิ่ม ด้วยวิชาตัวเบา (ขั้นสุดยอด)
รู้ๆกันอยู่ในวงการแข่งรถ โดยเฉพาะประเภท "จึ๊กเดียวจบ" หรือ Drag Racing ว่า "เวลา" มีความหมายมากมายเพียงไร บ่อยครั้งที่การตัดสินหาตำแหน่งผู้ชนะ มักจะชี้ขาดด้วยเวลาที่ต่างกันเพียงเศษเสี้ยวของวินาที ซึ่งนั่นหมายความว่า ถ้าใครสามารถทำเวลาได้ดีที่สุด โอกาสที่จะลุ้นตำแหน่งแชมป์มาครอบครองก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม และหนึ่งในวิธีการปรับแต่งรถเพื่อให้ขึ้นไปยังจุดสูงสุดนั้น นอกเหนือจากการเซ็ตเครื่องยนต์ ช่วงล่าง และระบบต่างๆให้มีความเหมาะสมกันแล้ว นั่นก็คือต้องลดน้ำหนักของรถให้เบาลงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

คิดง่ายๆว่าถ้ามีรถอยู่ 2 คัน วางเครื่องยนต์รุ่นเดียวกัน อุปกรณ์ส่วนควบและระบบต่างๆถูกเซ็ตมาอย่างดีเหมือนกัน แต่คันแรกมีน้ำหนักเบากว่าคันหลัง จับมาวิ่งแข่งกัน แน่นอนว่ารถคันแรกที่มีน้ำหนักเบากว่าย่อมจะได้เปรียบ เพราะใช้กำลังทั้งหมดมาขับเคลื่อนตัวรถได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ขณะเดียวกันถ้ารถคันที่หนักกว่าอยากจะเป็นฝ่ายแซงขึ้นหน้าบ้าง ก็ต้องหาวิธีที่จะทำให้รถเร็วขึ้น อย่างง่ายสุดถ้าไม่เลือกการแต่งเครื่องให้แรงขึ้น ก็คงจะต้องใช้วิชาตัวเบาเข้าช่วย ส่วนจะเบาได้มากหรือน้อยขนาดไหน งบประมาณในกระเป๋ามักจะเป็นตัวกำหนด แต่กับวิธีที่เอามาให้ดูนี้ไม่ต้องเสียตังค์สักบาท แถมยังวิ่งเร็วขึ้นกว่าเดิมตั้ง 2 วินาที ไปดูกันเลยดีกว่าว่าเคล็ดลับมันอยู่ตรงไหน?

STEP 1 : ขั้นเบสิค
ลำดับแรกก็ต้องมาทำความรู้จักกับรถที่จะนำมาทดลองกันซะก่อน อย่างคันนี้เป็น NISSAN Sentra SE โฉมปี 2001 เครื่องยนต์ติดรถเป็นบล็อกเดิมๆ SR20DE ซึ่งก็ถือว่ามีความทันสมัยและเหมาะสมกันดีกับขนาดและรูปแบบของตัวรถ ปรับโฉมรอบคันจนเกือบจำเค้าเดิมไม่ได้ด้วยชุด Body Part ทรงแปลกสไตล์ไอ้กัน โหลดเตี้ยพร้อมกับใส่แม็กวงโตขนาด 19 นิ้ว เรียกว่าสวยเริ่ดเชิดชฎากันมาแต่ไกลเลยแหละ น้ำหนักที่ชั่งได้ทั้งหมด 2,762 ปอนด์ ถ้าตีเป็นโลก็ตกประมาณ "ตันสองกว่าๆ" เรียกว่าหนักเอาการอยู่เหมือนกันสำหรับการทำตัวเป็นรถแข่งระยะสั้น สมรรถนะที่วัดได้ก็เป็นอย่างที่เห็นในตาราง คือน่าจะทำได้ช้ากว่ารถสแตนดาร์ดอยู่ด้วยซ้ำ เพราะมีเครื่องทรงเยอะเกินเหตุ


STEP 1
น้ำหนักรถ 2,762 ปอนด์
ระยะควอเตอร์ไมล์ 16.3 วินาที ที่ 84.0 ไมล์/ชม.
ระยะออกตัว 60 ฟุตแรก 2.9 วินาที
อัตราเร่ง 0 - 60 ไมล์/ชม. 8.6 วินาที

STEP 2 : ล้อใหญ่ เปลืองแรง
ปัญหาที่เห็นเด่นชัดของรถคันนี้ก็คือ มี "ตัวถ่วง" เยอะเกินความจำเป็น ล้อขอบ 19 นิ้ว กับยางไซส์ 225/35 นั้น เอาเข้าจริงก็เป็นแค่เพียงอุปกรณ์โชว์สวยซะมากกว่า เรื่องจะวิ่งเอาสมรรถนะนั้น..ลืมซะเหอะ (เห็นย่องกันทั้งนั้น) อย่ากระนั้นเลย ถอดมันทิ้งแล้วไปหาล้อเดิมๆขอบ 15 นิ้ว กับยาง 195/60 ของมันมาเปลี่ยนเข้าไปแทนดีกว่า..เห็นมั้ยว่าทำเวลาวิ่งได้ดีกว่าเดิมตั้ง 0.3 วินาที เพราะรถเบาขึ้นกว่าเดิม 55 ปอนด์ เพราะฉะนั้นใครอยากเร็ว ต้องจำเอาไว้ว่าล้อเดิมน่ะ มันดีอยู่แล้ว





STEP 2
น้ำหนักรถ 2,707 ปอนด์
ระยะควอเตอร์ไมล์ 16.0 วินาที ที่ 85.5 ไมล์/ชม.
ระยะออกตัว 60 ฟุตแรก 2.8 วินาที
อัตราเร่ง 0 - 60 ไมล์/ชม. 8.1 วินาที

STEP 3 : ภายใน..รื้อให้เกลี้ยง
สำหรับนักแข่งรถระดับนี้ การลดน้ำหนักรถอย่างเก่งก็แค่ยกเอาเบาะกับยางอะไหล่ออกมาวางข้างนอกก่อนที่จะเข้าแข่ง แต่ในเมื่อจะใช้วิชาตัวเบาขั้นสุดยอดกันแล้ว มันต้อง "รื้อ" รื้อให้เกลี้ยง เอาออกมาให้หมดทุกชิ้นตั้งแต่ที่บังแดด, แผงหุ้มหลังคา, แผงข้าง, แผงหน้าปัด, คอนโซล, เบาะ, เสาอากาศ, สปอยเลอร์ ซึ่งทั้งหมดตรงจุดนี้สามารถลดน้ำหนักส่วนเกินที่ไม่จำเป็นสำหรับการแข่งความเร็วลงไปได้ถึง 273 ปอนด์เลยทีเดียว ระยะเวลาในการวิ่งควอเตอร์ไมล์ลดลงจาก STEP 2 อีก 0.5 วินาที ส่วนอัตราเร่งจาก 0 - 60 ลดลงมาเหลือระดับ 7 วิ.เข้าไปแล้ว เห็นมั้ยว่าไม่ยากเลย


STEP 3
น้ำหนักรถ 2,434 ปอนด์
ระยะควอเตอร์ไมล์ 15.5 วินาที ที่ 82.5 ไมล์/ชม.
ระยะออกตัว 60 ฟุตแรก 2.7 วินาที
อัตราเร่ง 0 - 60 ไมล์/ชม. 7.5 วินาที

STEP 4 : ปลดปล่อยพลังแฝง
เคยดูการ์ตูนกันเปล่า? เค้าบอกว่าคนเราโดยทั่วๆไปจะสามารถใช้พลังงานได้แค่ 30% ของที่มีอยู่ทั้งหมด แต่ถ้าเป็นพวกยอดมนุษย์อุลตร้าแมนเนี่ย เค้าว่ากันว่าใช้ได้เต็มถึง 100% เชียวนะ กับรถก็เหมือนกัน เราสามารถปล่อยพลังแฝงของมันออกมาได้โดยใช้หลักง่ายๆก็คือ อะไรที่เอาออกแล้วเครื่องยนต์มันยังติดอยู่ได้ก็เอาออกไปซะ สั้นๆง่ายๆ อย่างแรกๆก็น่าจะเป็นไดชาร์จกับคอมฯแอร์ ท่อไอเสียทั้งราว (เหลือท่อร่วมไว้ก่อนดีกว่า) จากนั้นก็มาต่อที่ ชุดไฟหน้า ไฟท้าย ฝากระโปรงหน้า-หลัง รวมถึงประตูทุกบานก็ต้องถอดออกทั้งหมด สำหรับ STEP นี้รถจะเบาลงอีก 182 ปอนด์ แต่จากการทดสอบจะเห็นว่า อัตราเร่งจาก 0 - 60 ไมล์/ชม. จะแย่ลงกว่าเดิมอยู่ 0.1 วินาที ซึ่งสันนิษฐานว่าเกิดจากการที่ตัวถังสูญเสียในด้านของระบบแอโร่ไดนามิกไป แต่ก็ยังดีที่ระยะควอเตอร์ไมล์ดีขึ้นอีก 0.3 วินาที ซึ่งน่าจะเกิดจากการที่เครื่องยนต์มีแรงม้ามากขึ้นนั่นเอง




STEP 4
น้ำหนักรถ 2,252 ปอนด์
ระยะควอเตอร์ไมล์ 15.2 วินาที ที่ 89.6 ไมล์/ชม.
ระยะออกตัว 60 ฟุตแรก 2.8 วินาที
อัตราเร่ง 0 - 60 ไมล์/ชม. 7.1 วินาที

STEP 5 : ตัดเลย ตัดเลย ชับๆๆ
งานนี้กรรไกรแบบพี่เจมส์คงเอาไม่อยู่ ทางที่ดีหาเลื่อยไฟฟ้าใหญ่ๆมาประจำการดีกว่า ชิ้นส่วนไหนที่ดูแล้วเห็นว่ามีน้ำหนักมากไป ก็จัดการเฉือน เชือด ช่วยลดน้ำหนักตัวให้มันหน่อย ไม่ว่าจะเป็นคานหน้า คานท้าย, คานกันกระแทก, ตัวถัง พูดง่ายๆว่าอันไหนที่เป็นเหล็กน่ะ จัดการมันซะให้เกลี้ยง รักจะแรงแล้วต้องตัด! เรื่องแอโร่ไดนามิกลืมไปได้เลย หลังจากจบ STEP ที่ 5 ตอนนี้รถคันเก่งของเราเริ่มสะโอดสะองเข้าไปทุกที น้ำหนักตัวลดฮวบเหลือแค่ 1,904 ปอนด์ พร้อมๆกับที่ทำเวลาผ่านระยะควอเตอร์ไมล์ได้แค่ 14.7 วินาทีเท่านั้นเอง


STEP 5
น้ำหนักรถ 1,904 ปอนด์
ระยะควอเตอร์ไมล์ 14.7 วินาที ที่ 90.7 ไมล์/ชม.
ระยะออกตัว 60 ฟุตแรก 2.8 วินาที
อัตราเร่ง 0 - 60 ไมล์/ชม. 6.3 วินาที

STEP 6 : เก็บรายละเอียดให้หมด
สำหรับสภาพของรถตอนนี้ก็แทบจะเหลือแต่โครงแล้ว ถ้าเป็นคนก็คงเหมือนกับ "น้าผี" เข้าไปทุกทีๆ แต่เรายังสามารถทำอะไรกับมันอีกได้ตั้งเยอะ ดูให้ดีๆ จะเห็นว่ากระจกบังลมหน้า-หลังก็ยังไม่ได้เอาออก อุปกรณ์กระจุกกระจิกอย่าง แตร, สวิตช์ไฟ, ตู้แอร์ รวมไปถึงพัดลมไฟฟ้าที่ติดอยู่ข้างหน้าเนี่ย เลาะออกให้หมด ไม่ต้องกลัวร้อน เพราะรถเราวิ่งแป๊บเดียวเอง และพอถึงตรงนี้ ยางหลังขนาด 15 นิ้ว ก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป เพราะด้านหลังของรถแทบจะไม่มีอะไรเหลือ ลำพังช่วยกันยก 2 คนก็ลอยขึ้นสบายๆ อย่ากระนั้นเลย วิ่งไปยืมยางอะไหล่จากท้ายรถเพื่อนมารวมกับล้อเดิมของเราที่กองอยู่ แล้วใส่แทนลงไป ไม่ต้องกลัวว่าวิ่งแล้วยางมันจะระเบิด เดี๋ยวเดียวเอง


STEP 6
น้ำหนักรถ 1,760 ปอนด์
ระยะควอเตอร์ไมล์ 14.4 วินาที ที่ 92.2 ไมล์/ชม.
ระยะออกตัว 60 ฟุตแรก 2.6 วินาที
อัตราเร่ง 0 - 60 ไมล์/ชม. 6.0 วินาที

STEP 7 : ไหนๆก็ไหนๆ
พอถึงขั้นนี้ ก็ถึงจุดที่ไม่มีอะไรจะต้องเสียอีกต่อไป ไหนๆจะทำตัวเป็นรถแข่งทั้งที ก็ต้องเปิดหลังคาวิ่งให้มันส์กันไปเลย แต่อย่าลืมเหลือที่เสา B ด้านคนขับเอาไว้สำหรับยึดเข็มขัดนิรภัยหน่อยก็แล้วกัน เพื่อความปลอดภัย สำหรับ STEP สุดท้ายของวิชาตัวเบาขั้นสุดยอดก็ได้จบลงพร้อมผลลัพธ์ที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก จากเดิมที่เป็นรถอ้วนเทอะทะหนัก "ตันกว่า" วิ่งแบบเต็มตีนแล้วยังทำควอเตอร์ไมล์ได้ในระดับ 16.3 วินาที กลับกลายเป็นรถแข่ง Drag เต็มรูปแบบ รูปทรงเพรียวลมพร้อมกับทำเวลาในการวิ่งได้ดีกว่าเดิมถึง 2 วินาที ด้วยงบประมาณในการลงทุนทั้งหมดที่ถูกมาก คือ 0 เหรียญ!!! ใครสนใจอยากจะลองทำตามแบบ ( *_* ) พวกนี้ดูก็ได้นะ งานนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์อยู่แล้ว


STEP 7
น้ำหนักรถ 1,674 ปอนด์
ระยะควอเตอร์ไมล์ 14.3 วินาที ที่ 93.2 ไมล์/ชม.
ระยะออกตัว 60 ฟุตแรก 2.6 วินาที
อัตราเร่ง 0 - 60 ไมล์/ชม. 5.8 วินาที



















เลขประจำตัวผู้เสียภาษี :
หมายเลขทะเบียนประกอบพาณิชย์อิเลคทรอนิกส์ :
บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด Copyright 2004 Grandprix International Co.,Ltd. All Rights Reserved.
โดย: ชายคนโต (เอามากๆ)   วันที่: 12 Nov 2004 - 13:38


 ความคิดเห็นที่: 1 / 5 : 015906
โดย: *อ๋อง*
ผมอ่านXOเล่มนี้แล้ว รถคันนี้ดูดีจัง แต่หลังการยำ รถเร็วขึ้น 2วิ รถเหลือแต่โครง เครื่อง ล้อ จริงๆ.......(-_-")
วันที่: 12 Nov 04 - 13:52

 ความคิดเห็นที่: 2 / 5 : 015909
โดย: *~ชั่วมั้งต้องภู~*
ผมว่า...หาถึงน้ำมันที่เล็งลงมา แบบเอาขันไปใช้แทนถังน้ำมันก็คงได้นะครับ แค่ควอเตอร์ไมล์เอง น้ำมันขันเดียวน่าจะวิ่งได้อยู่แล้ว ลดน้ำหนักได้อีกนา
วันที่: 12 Nov 04 - 13:57

 ความคิดเห็นที่: 3 / 5 : 015920
โดย: 777
เพื่อนผมเคยแข่งอยู่ มันใช้หลักการแบบ คห 2 แบบเนี้ยแหละครับ เวลาใช้ได้
วันที่: 12 Nov 04 - 14:35

 ความคิดเห็นที่: 4 / 5 : 016163
โดย: เนย
อย่างนี้ถ้าเหลือแค่ 3 ล้อ ก็น่าจะเร็วขึ้นอีกนะเนี่ย
วันที่: 14 Nov 04 - 13:47

 ความคิดเห็นที่: 5 / 5 : 016327
โดย: ไหนๆก็ไม่เหลืออะไรแล้ว
แบบเนี้ยคนขับด็หนักเอาการนา.....แบบเร่งเครื่องเอาไม้ยันคันเร่งแล้วกระโดดลงน่าจะชาวยได้อีก 1 วิ
วันที่: 15 Nov 04 - 11:10