Close this window

ฟันธงกันหน่อยครับ เรื่องรันอิน 1000 kmแรก
ควรเปลี่ยนพวกน้ำมันเครื่องหรือเปล่าครับในระยะ 1000 kmแรก เพราะตามในคู่มือและเซลล์ บอกว่าไม่ต้องให้มาเปลี่ยนที่ 10000 kmเลย
โดย: ลูกล้อ   วันที่: 8 Feb 2005 - 09:11

หน้าที่: [1]   2

 ความคิดเห็นที่: 1 / 21 : 036347
โดย: เต่าฟ้า
ส่วนตัวครับ ยังคงจำเป็นอยู่ครับสำหรับการรันอิน เพราะใน1000กม.แรกเครื่องยนต์จะสึกหรอมากที่สุด
วันที่: 08 Feb 05 - 11:04

 ความคิดเห็นที่: 2 / 21 : 036354
โดย: PhinG
1. ปฏิบัติตามคู่มือ
2. ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
3. ความเชื่อเก่า กับการผลิตรถรุ่นใหม่ มีความจำเป็นหรือไม่ ควรไตร่ตรองด้วยตัวคุณเอง
4. ถ้าเพื่อความสบายใจ ก็เปลี่ยนไปเถอะ
วันที่: 08 Feb 05 - 11:20

 ความคิดเห็นที่: 3 / 21 : 036368
โดย: 323
เปลี่ยนครับ ไม่เสียหายอะไร แค่ พันสองพันเอง จะได้ไม่ต้องกังวล
และอีกที่ก็ที่ 5000 โลอ่ะครับ
เปลี่ยนไม่มีผลเสีย ถ้าไม่เปลี่ยนอาจจะมีผลเสียก็ได้ หรือไม่มีก็ได้ เลือกเอาครับ
วันที่: 08 Feb 05 - 11:43

 ความคิดเห็นที่: 4 / 21 : 036374
โดย: เต่าฟ้า
ความเชื่อเก่าๆถึงบางครั้งจะดูล้าสมัยแต่ก็ยังคงใช้ได้ดีอยู่ กับการผลิตรถรุ่นใหม่ๆก็จริงแต่การผลิตชิ้นส่วนก็ยังคงใช้พื้นฐานการผลิตเก่าๆอยู่ ยังไงก็ลองพิจารณาให้ถ้วนถี่และตระหนักถึงผลได้ผลเสียในระยะยาววววๆๆๆด้วยนะครับ ส่วนตัวจริงๆ
วันที่: 08 Feb 05 - 11:57

 ความคิดเห็นที่: 5 / 21 : 036384
โดย: แมวน้ำ
เปลี่ยนที่ 10,000

ณ ปัจจุบันเทคโนโลยีทั้งด้านน้ำมันเครื่องและเครื่องยนต์มีการพัฒนาแล้ว ซึ่งผู้ผลิตย่อมมั่นใจจึงแนะนำให้ผู้ใช้รถปฏิบัติตาม ลองคิดดูปกติ 0 ก็ต้องการรายได้กำไร เค้าแนะให้เปลี่ยนที่ 1,000 ไม่ดีกว่าหรือ ที่ให้เปลี่ยนที่ 10,000 ก็เพราะว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดนะซิ

สำหรับคนที่บอกว่าเปลี่ยนเร็วก็ดีนั้น มีความรู้จริงหรือเปล่า การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องนั้น น้ำมันเครื่องที่เปลี่ยนแล้วมีผลเสียทางมลพิษ ช่วยๆกันลดมลพิษกันเถอะ อย่างน้อยนี่เป็นสิ่งที่เราทำได้โดยไม่มีข้อเสียอะไรเลย เชื่อเรื่องผิดๆ เสียเงิน เสียเวลา ยังเพิ่มมลพิษให้กับประเทศอีกด้วย
วันที่: 08 Feb 05 - 12:25

 ความคิดเห็นที่: 6 / 21 : 036388
โดย: ่jk
ถ้าเปลี่ยน ควรใช้ของอะไรดี
วันที่: 08 Feb 05 - 12:40

 ความคิดเห็นที่: 7 / 21 : 036395
โดย: เต่าฟ้า
กระทู้ร้อนๆอีกแล้วๆ

1."ณ ปัจจุบันเทคโนโลยีทั้งด้านน้ำมันเครื่อง" พัฒนาแล้วไม่เถียง
2."และเครื่องยนต์มีการพัฒนาแล้ว"จริงๆน่ะหรอยังเห็นใช้ลูกสูบแบบเก่าอยู่เลย ที่พัฒนาจริงๆก็แค่ระบบจ่ายน้ำมันกับระบบเผาใหม้เท่านั้นเองรึไงหว่า
3."เปลี่ยนที่ 10,000 ก็เพราะว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดนะซิ" จริงหรอ เอาอะไรมาวัด เอาอะไรมายืนยัน รึว่าแค่ทำตามคู่มือที่ติดมากับรถ
4.ส่วนเรื่องมลพิษนั้นท่านๆคิดว่าน้ำมันเครื่องที่ถูกเปลี่ยนออกแล้วไปไหนหรอครับ ตอบแบบไม่มีความรู้เลยนะท่าน เค้าก็จะนำไปรวบรวมแล้วจัดการแยกพวกตะกอนแขวนลอยในน้ำมันออกแล้วนำน้ำมันที่ผ่านกระบวนการดังกล่าวไปใช้กับเครื่องยนต์หนักพวกอุปกรณ์ทำการเกษตรต่อไปจนกว่าจะไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีกก็จะไปผ่านกระบวนการทำลายมลพิษต่อไป
5.แค่แสดงความคิดเห็นส่วนตัวนะท่านสมาชิก ด้วยความเคารพอย่างสูง
วันที่: 08 Feb 05 - 12:52

 ความคิดเห็นที่: 8 / 21 : 036429
โดย: คนจน
ลูกเศรษฐีมีเงินเหลือก็เปลี่ยนไปเถอะ 1-2000 บาทหนะ สำหรับผม1-2000บาทเติมได้หลายถังครับ ผมเปลี่ยนทุก 10,000 ครับ ผมทำงานในอุตสาหกรรมรถยนต์ครับ เดียวนี้เวลาผลิตชิ้นส่วนเขามี fine polishing กันหมดแล้วครับท่าน เวลาประกอบก็มีการวัดที่แน่นอนมากถึงระดับ 6 sigma (ผิดพลาด 2 ในล้าน) เรื่องเศษเหล็กนั้นพวกนักการตลาดเขาเอาไว้หลอกรับประทานคนอื่นครับ ถึงมีไส้กรองก็เอาอยู่ รถผมทุกคันไม่เคยสัมผัสเลยครับไอ้พวก synthetic or semisynthetic ก็วิ่งได้ ไม่ต่ำกว่า 300,000 กม. โดยไม่ต้อง Overhaul เราควรหัดเป็นผู้บริโภคที่ฉลาดบ้างครับ อย่าหลงคารมนักการตลาดที่ต้องการ increase need ของเรา ผมไม่เถียงว่า เปลี่ยนบ่อยไม่ดี synthetic ไม่ดี แต่ต้องการทราบว่าสิ่งที่ว่าดีกว่านั้นคุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มออกไปหรือไม่ต่างหาก
วันที่: 08 Feb 05 - 14:54

 ความคิดเห็นที่: 9 / 21 : 036441
โดย: จ้อย
เป็นความคิดเห็น.....ทุกคนมีสิทธิท้วงติงหรือสนับสนุนได้นะครับ...ถ้าให้ฟันธงผมไม่เปลี่ยนที่1,000โลครับ....เพราะผมเชื่อในคุณภาพของวัสดุและคุณภาพของน้ำมันเครื่องในสมัยนี้...ถ้าเรื่องเศษโลหะและเศษตะกอนจะกลัวทำไมครับในเมื่อมีกรองน้ำมันเครื่องอยู่.....แต่ความเชื่อก็ยังคือความเชื่อถ้าทำแล้วสบายใจก็ทำไปเถอะครับ...ที่เขียนมานี่ไม่ได้บังคับให้เชื่อนะครับแค่เสนอความเห็น..ขอบคุณครับ
วันที่: 08 Feb 05 - 15:16

 ความคิดเห็นที่: 10 / 21 : 036450
โดย: โอ๊ะ
รถผมก็เปลี่ยนครับไม่ใช่ฉพาะน้ำมันเครื่องนะครับน้ำมันเกียร์ก็เปลี่ยนด้วยเพราะเมื่อประกอบเครื่องใหม่ๆนั้นแหวนลูกสูบกับกระบอกสูบยังไม่กระชับกันดีนักมีการเสียดสีค่อนข้างสูง อย่างที่คุณเต่าฟ้าบอกหละครับช่วง 1000 กิโลแรกเป็นช่วงที่สึกหรอมากที่สุด เมื่อถ่ายน้ำมันเครื่องออกมาจะเห็นเศษผงเหล็กในนั้น ผมคงไม่รอให้ผงเหล็กเหล่านั้นครูดผนังกระบอกสูบไปอีก 9000 กิโลหรอกครับ
ปล นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวน่ะครับ
วันที่: 08 Feb 05 - 15:51

 ความคิดเห็นที่: 11 / 21 : 036463
โดย: รังษี
ปฏิบัติตามคู่มือดีกว่าครับ เพราะปัจจุบัน tecnology การผลิตเครื่องยนต์ทำได้ดีกว่าแต่ก่อนครับ การสึกหลอแทบมีน้อยมากครับ การเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอาจดูแล้วไม่เสียหาย แต่จริงๆแล้วเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมครับ มันเป็นความรับผิดชอบร่วมกันครับ ถึงแม้ว่าเราไม่ได้ขอเงินคนอื่นมาเปลี่ยนก็ตามครับ
วันที่: 08 Feb 05 - 16:26

 ความคิดเห็นที่: 12 / 21 : 036469
โดย: PhinG
ผมว่าน่าจะตั้งกระทู้โหวตเลยนะครับ
กด 91 ถ้าเห็นควรว่าเปลี่ยนที่ 1000 กม.
กด 92 ถ้าเห็นควรว่าเปลี่ยนตามคู่มือ (10000 km.)

ดีป่าวท่านสมาชิก ฮิฮิ : D
วันที่: 08 Feb 05 - 16:35

 ความคิดเห็นที่: 13 / 21 : 036476
โดย: เต่าฟ้า
ประกาศๆ เจ้าของกระทู้หายปายไหนเนี่ย มาเป็นประธานฟันธงหน่อยเร็ว มาด่วน
วันที่: 08 Feb 05 - 16:44

 ความคิดเห็นที่: 14 / 21 : 036498
โดย: bhp
1000 โลแรกถ่ายก็ดีนะ...ทั้งเครื่อง เกียร์ เฟืองท้าย... เผื่อมีอะไรผิดปกติออกมากับน้ำมันจะได้รู้แต่ เนิ่น.ๆ.. แต่เวลาถ่ายออกมาต้องไปดูด้วยตัวเองนะ ไม่ใช่ปล่อยช่างอย่างเดียว เพราะถ้าไม่ไปสังเกตุเองก็เปล่าประโยชน์ ถ่าย 10000 โลก็เหมือนกัน บางครั้งช่างเขาไม่ได้ดูให้ละเอียดหรอก
ผมว่าถ้าจะให้ชัวร์นะ .... หารถใหม่มา 2 คัน หรือหลายๆ คันก็ได้ จะได้ข้อมูลที่แน่นอน
เติมน้ำมันยี่ห้อเดียวกัน ชุดแรก ถ่าย 1000 โล เก็บตัวอย่างน้ำมันไว้ ชุด 2 ถ่าย 10000 โล เก็บตัวอย่างน้ำมันมาเทียบกัน วิเคราะห์กันจากน้ำมันที่ถ่ายออกมา แน่นอนกว่า
วันที่: 08 Feb 05 - 17:22

 ความคิดเห็นที่: 15 / 21 : 036541
โดย: ต้น
ถ้าเปลี่ยนแล้วเอามาวิเคราะห์นะดีแน่ แต่ค่าใช้จ่ายละ

ยังจำเหตุการณ์หนึ่งได้ เมื่อปี 2002 แต่จำสนามไม่ได้นะ ราวๆ กลางๆปีแต่ค่อนมาทางปลายปี ถ้ารถคันที่ Shumi ขับไม่ได้เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง (หลัง Qualify) แล้วเอามาวิเคราะห์ โดยห้องวิจัยเคลื่อนที่ ที่อยู่บนรถเทรลเลอร์ละก็สนามนั้นไม่จบแน่ๆ แต่เพราะรู้เลยเปลี่ยนเครื่อง ผลก็คือที่ 1
วันที่: 08 Feb 05 - 19:21

 ความคิดเห็นที่: 16 / 21 : 036677
โดย: ลูกล้อ
ขอบคุณทุกคำตอบครับ แต่ละคนก็มีเหตุผลน่าฟัง
ที่ผมตั้งกระทู้มาเพราะไม่ความรู้ด้านนี้จริงๆครับ ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดความแตกแยก

จริงๆแล้วถ้าได้ข้อมูลที่ทดสอบมาก็น่าจะดีจะได้ฟันธงกันไปเลย ไม่ทราบใครพอมี link บ้างครับ

ปล. ถ้าสรุปจากทุกคำตอบ ตอนนี้ก็ต้องบอกว่าถ้าเงินถึงและเพื่อความสบายใจก็เปลี่ยน
วันที่: 09 Feb 05 - 09:12

 ความคิดเห็นที่: 17 / 21 : 036690
โดย: เต่าฟ้า
ที่นี่เค้าไม่แตกแยกกันหรอกท่านลูกล้อเพียงแค่แสดงความคิดเห็นกันน่ะครับ แต่อาจจะดูเผ็ดร้อนกันไปบ้างแต่พอเจอหน้ากันล่ะก็หมดแก้ว
วันที่: 09 Feb 05 - 10:39

 ความคิดเห็นที่: 18 / 21 : 036725
โดย: nawatkong
ได้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ราคาย่อมเยาว์มา (ได้ข้อมูลจากที่นี่แหละครับ) ก็พึ่งไปเปลี่ยนมาตอน ประมาณ 3000 โล เปลี่ยนที่ศูน์ยที่บริการอะไหล่-ซ่อมมาสด้า แต่ไม่ขายรถนะ เห็นมีหลายคันขึ้นฮ้อยท์อยู่ทั้ง โครโนส แลนดิส แฟมมิเลียยังมีเลย!
ตอนแรกช่างว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องเปลี่ยนหรอก ใช้ได้ตั้งหมื่น พอผมยืนยันเขาก็ทำให้ ก็ทำไปคุยกันไป เรียกว่าดูกันทุกขั้นตอนเลยน้ำมันเครื่องที่ถ่ายออกมานี่คล้ำเลยล่ะ ช่างเห็นแล้วบอกว่าเปลี่ยนก็ดีเหมือนกัน หลังจากเปลี่ยนแล้วก็ไม่เห็นความแตกต่างชัดเจนนัก
ก็มาคิดว่า ถ้าเปลี่ยนตามระยะ รถผมคงมีน้ำมันเครื่องคล้ำๆนั่นอยู่ในระบบไปจนถึงหมื่นโล ซึ่งไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ดีนัก
สรุป ค่าใช้จ่าย - น้ำมันเครื่องประมาณ 1000 บาท(ของแท้แต่ถูก)
- กรองน้ำมัน ประมาณ 200 บาท(ขอเขาเปลี่ยน)
ค่าแรง - ฟรี + ได้คุยเรื่องรถหลายๆอย่างด้วย
โดยส่วนตัวเปลี่ยนแล้วสบายใจขึ้นมากครับ
วันที่: 09 Feb 05 - 13:58

 ความคิดเห็นที่: 19 / 21 : 036818
โดย: buggi
อืม วันนี้พึ่งเอารถไปติด กรอบไฟเลี้ยวด้านข้างมา เราเองก็ถาม พนง.เหมือนกันว่าจำเป็นมัยที่ต้องเปลี่ยน น้ำมันเครื่องที่ 1000โล พนง. บอกว่าไม่จำเป็นให้มาเปลี่ยนที่ 10000 แทน แต่เราเองคิดว่า
คงเปลี่ยนที่ 1000 เพื่อ ความสบายใจดีกว่า ไม่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์เหมือนกัน แต่เห็นเค้าทำกันมา
คิดว่ามันคงดี อย่างน้อยก็สบายใจไปอีกขั้น แถมไปนั่งกินน้ำฟรี ข้าวฟรีที่ 0 ด้วย
วันที่: 09 Feb 05 - 23:07

 ความคิดเห็นที่: 20 / 21 : 037115
โดย: Chompu
to K.Nawatkong
where to get that cheap ka(1000 baht)
Could you please share it here ?
Thanks in advance
วันที่: 10 Feb 05 - 20:08

หน้าที่: [1]   2