Close this window

อัตราการบริโภคน้ำมัน 1.6 Manmaul อวดปลายท่อด้วย
ถังแรกเซลล์เติมให้ 500 บาท วิ่งได้ประมาณ 10โล/ลิตร
ถังสองเติม 1050 บาทกะว่าจะทำให้ได้ 14โล/ลิตร
อดใจไม่ไหว Zoom Zoom หนักไปหน่อย
เหยียบสุดตีนตลอด เกือบๆแตะ Red Line
นี่ยังไม่พ้นรันอินเลยนะเนี่ย ต้องยั้งๆบางแล้วแหละ
เลยได้แค่ 580โลพอดี หารกับที่เติมไปใหม่ 48ลิตร(1060บาท)
580/48 = 12.0833โล/ลิตร ฮิฮิฮิ พอทนเน๊อะ
รอดูถังต่อไปนะกะว่าจะให้ได้ 14โล/ลิตร (ไม่รู้จะอดใจไหวป่าว)
ยังไม่ได้ทำ Top Speed นะต้องรอพ้นรันอินก่อน
วันนี้เอาปลายท่อสแตนเลสมาอวดด้วย แจ่มๆ

ปล. คุณเด็กผีเช็คเมลล์มั่งดิมันเต็มแล้วนะ หรือ hotmail
ยังไม่ได้ Upgarde เป็น 250 เมกกาไบท์ (ให้ช่วยป่าว)
โดย: ManualMan   วันที่: 5 Apr 2005 - 09:57

หน้าที่: [1]   2

 ความคิดเห็นที่: 1 / 25 : 059526
โดย: Nony
คุณ ManualMan พอจะมีข้อมูล 1.6 MT ถ้าอยากใส่ดีสเบรคหลัง สามารถใส่ได้ที่ศูนย์เลยหรือป่าวครับ ราคาเท่าไร

เกี่ยวกับการบริโภคน้ำมัน ถ้าขับทางไกลซัก 110 - 120 กม/ชม. มันจะได้กี่โลลิตรครับ.
วันที่: 05 Apr 05 - 10:07

 ความคิดเห็นที่: 2 / 25 : 059531
โดย: TNK
ไปเปลี่ยนปลายท่อที่ไหนมาเหรอครับ บอกหน่อย อยากได้บ้าง ราคาเท่าไหร่
วันที่: 05 Apr 05 - 10:16

 ความคิดเห็นที่: 3 / 25 : 059532
โดย: เอ๋กาโม่
ที่เคยขับมาได้ประมาณ 11-12 ครับ
วันที่: 05 Apr 05 - 10:16

 ความคิดเห็นที่: 4 / 25 : 059540
โดย: TNK
ของผมนี่ ถ้าวิ่งในกทม ได้แต่ 9 km/ลิตรเอง ไม่รู้ทำไมมันกินจัง หรือว่ารถมีปัญหา
วันที่: 05 Apr 05 - 10:30

 ความคิดเห็นที่: 5 / 25 : 059616
โดย: เม่น
ซื้อที่ไหนครับ????
วันที่: 05 Apr 05 - 13:09

 ความคิดเห็นที่: 6 / 25 : 059623
โดย: trinity
ของเรา 1.6 V auto ใช้ในเมืองบริโภคประมาณ 8.8 โล/ลิตร กินน้ำมันจังเลย
วันที่: 05 Apr 05 - 13:18

 ความคิดเห็นที่: 7 / 25 : 059634
โดย: ManualMan
คุณ Nony ดิสเบรคหลังเคยพยายามจะติดมาแล้วครับ แต่ปัญหาอยู่ที่การรับประกัน
ช่วงดุมหลังกับช่วงล่างบ้างชิ้นต้องเปลี่ยน งบประมาณไม่เกิน 3 หมื่น
และต้องมีค่าวิศวะกรของมาสด้าเซ็นการเปลี่ยนแปลงด้วย แต่ไม่รู้เท่าไหร่
ยังไม่เคยมีใครทำเลยยังไม่รู้ราคา ถ้าไม่ให้เซ็นก็จะอยู่นอกเงื่อนไข
การรับประกันครับ อยากเปลี่ยนเป็นดิสมากเหมือนกันครับแต่มันยุ่งยากครับ
เอาไว้รอหมดระยะประกันก่อนละกัน ค่อยไปเปลี่ยนอู่นอกดีกว่า
ต้อนนั้นคงมีอะหลั่ยเซียงกงเพียบแล้วหละ
วันที่: 05 Apr 05 - 13:48

 ความคิดเห็นที่: 8 / 25 : 059641
โดย: ManualMan
ส่วนเรื่องขับให้ประหยัดน้ำมัน อันดับแรกต้องเข้าใจระบบให้ดีก่อนครับ
S-VT : Sequmential Value Timing System
มีเฉพาะรุ่น 1.6 ช่วยควบคุมการเปิดปิดวาล์วตาม
ความเร็วรอบของเครื่องยนต์และปริมาณไอดีที่ไหลเข้า
ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันและเพิ่มกำลังเครื่องยนต์
VIS : Variable INERTIA-CHARGING System
ระบบปรับเปลี่ยนระยะของ INTAKE-PASSAGE เพื่อให้ได้แรงบิดสูงสุด
ทุกความเร็ว ช่วยเพิ่มแรงบิดให้มีอัตราเร่งทันใจ ตามสภาพการขับขี่
โดยการเปิด-ปิดท่อไอดีตามความเร็วของรอบเครื่องยนต์
TSCV : TUMBLE SWIRL CONTROL VALVES
จะทำงานร่วมกับระบบ VIS ในช่วงรอบต่ำ วาล์ว TSCV
จะช่วยเพิ่มแรงเฉื่อยของไอดีทำให้การเผาไม้มีประสิทธิภาพสูงสุดและลดมลพิษ
ติดตั้งไว้ในระบบ INTAKE ช่วยให้เกิดการสันดาปที่ดีขึ้น ทำให้ประหยัดน้ำมัน และมีมลพิษต่ำ
เดี๋ยวมาต่อ...
วันที่: 05 Apr 05 - 14:04

 ความคิดเห็นที่: 9 / 25 : 059645
โดย: ManualMan
จะเห็นว่ามันคนละชื่อกับ i-vtec แค่นั้นเอง แต่ระบบมันก็เหมือนๆ กัน
ดังนั้นจะเห็นว่าเจ้า 3 จะใช้รอบเครื่องยนต์สูงได้ เพราะปริมาณของอากาศ
และน้ำมันจะเหมาะสมกันตลอดทุกรอบเครื่องยนต์ ทำให้ใช้ปริมาณน้ำมันน้อยกว่า
ที่รอบเครื่องยนต์เดียวกัน แต่มันก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับของแต่ละคนด้วย
การเปลี่ยนเกียร์ รอบเครื่องยนต์ การเหยียบ-ปล่อยครัช
ถ้าต้องการประหยัด อันนี้ทุกคนก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ขับช้าๆ นิ่มๆ มันก็ประหยัดกว่า
แต่สำหรับเกียร์ Manual มันมีอะไรมากว่านั้น
เดี๋ยวต่ออีกยาว...
วันที่: 05 Apr 05 - 14:21

 ความคิดเห็นที่: 10 / 25 : 059653
โดย: Nony
ขอบคุณครับ ข้อมูลแน่นจริงๆ ครับ คุณ ManualMan ผมรออยู่น่ะครับ
วันที่: 05 Apr 05 - 14:26

 ความคิดเห็นที่: 11 / 25 : 059686
โดย: ManualMan
ต่อครับเรื่องประหยัดแบบวิ่งช้าๆก่อนนะ แรงๆแต่ประหยัดเดี๋ยวค่อยว่ากัน
คนที่เคยชินกับการขับเกียร์ Manual โดยทั่วไปปกติเวลาเปลี่ยนเกียร์
จะต้องมีการเลียครัชนิดหน่อยในจังหวะที่เหยียบครัชเพื่อความนุ่นนวล
หากยกคันเร่งก่อนแล้วค่อยกดครัช รถจะกระตุกจากเอนจินเบรคใช่มั้ยครับ
ข้อดีมากๆของเจ้า 3 คือมีเอนจินเบรดน้อยสุดๆ ดังนั้นจึงสามารถยกคันเร่งได้เลย
แล้วค่อยเหยียบครัชเปลี่ยนเกียร์ จากนั้นยกครัชแล้วค่อยเหยียบคันเร่งก็แทบไม่กระตุก
มีต่อ...
วันที่: 05 Apr 05 - 15:11

 ความคิดเห็นที่: 12 / 25 : 059695
โดย: ManualMan
แบบแรงๆ แต่ประหยัดครับ เมื่อเราอยู่ในสถานะการที่จะเป็นต้องออกตัวแรงๆ
เช่น ติดไฟแดงคันแรก หรือรถติดไม่มาก ถ้ามัวแต่ออกตัวช้าๆ ก็จะโดนเลนข้างๆแทรกเอา
การเลือกที่จะกดคันเร่งเบาๆ แต่ลากรอบสูงๆนิดหน่อยจะ ได้ระยะทางหรือ แรงลัพธ์จากเครื่องยนต์
มากกว่าการรีบเปลี่ยนเกียร์ ที่รอบยังไม่สูงแต่ต้องกดคันแรงมากเพื่อเรียกกำลังจากเครื่องยนต์
เพราะที่รอบเครื่องยนต์ต่ำแล้วอยากได้แรงมากๆ เจ้าระบบ TSCV จะทำงานทันที
ประมาณไอดีถูกอัดเพิ่ม และที่สำคัญคือต้องจ่ายน้ำมันมากขึ้น อัตตราส่วนของน้ำมันกับอากาศจะหนา
ทำให้ได้กำลังอัดสูงขึ้น แต่เผาไหม้ไม่หมดจดนะ (ถ้าเป็นเครื่องยนต์ธรรมดาทำแบบนี้เขกๆๆแน่นอน)
ดังนั้นเราจึงควรเลือกที่จะกดคันเร่งแบบเบาๆแต่ลากรอบสูงๆนิดหน่อย เพื่อการเผาไหม้ที่หมดจด
ได้แรงลัพธ์มากกว่าจากปริมาณน้ำมันที่เท่ากัน และ เจ้า S-VT กับ เจ้า VIS ก็ทำงานได้เต็มที่
ยังไม่จบนะ...
วันที่: 05 Apr 05 - 15:32

 ความคิดเห็นที่: 13 / 25 : 059722
โดย: ManualMan
เรื่องของ Idle time คือช่วงเวลาที่เครื่องยนต์บริโภคน้ำมันน้อยที่สุดที่ยังทำให้เครื่องยนต์ไม่ดับ
เวลาที่จอดรถนิ่งๆช่วงเวลานี้ ECU จะสั่งให้มีการจ่ายน้ำมันอยู่ตลอด เพื่อให้รอบเครื่องยนต์อยู่
ในระดับ 600-900rpm ยิ่งรอบต่ำเท่าไหร่ก็ยิ่งประหยัดเท่านั้น ซึ่งรถใหม่ๆจะถูกปรับตั้งมาดีอยู่แล้ว
แต่ประเด็นของเรื่องนี้คือ ปกติในกรณีที่รถวิ่งการจ่ายน้ำมันจะขึ้นอยู่กับการเหยียบคันเร่งของเราเอง
แล้วช่วงเวลาที่ยกคันเร่งชะลอความเร็วล่ะ ช่วงนี้ใครที่คิดว่าควรจะเหยียบครัชหรือเข้าเกียร์วางไปเลย
เพื่อให้รถไปได้ไกลที่สุดเนื่องจากไม่มีโหลดจากเครื่อง(เอ็นจิ้นเบรค) เป็นความคิดที่ผิดถนัด
เพราะว่าถ้าเราเหยียบครัช ECU ก็จะเข้าใจว่าเป็นช่วงเวลา Idle time ทันที(จ่ายน้ำมันทันที)
แต่หากเรายกคันเร่งโดยที่ยังปล่อยให้ตำแหน่งของเกียร์อยู่ที่เดิมไม่ไปยุ่งกับมัน ซึ่งเครื่องยนต์ก็ยัง
หมุนตามล้ออยู่ ECU ก็จะไม่จ่ายน้ำมันครับ จนกว่ารอบเครื่องยนต์จะต่ำกว่า Idle speed
(600-900rpm แล้วแต่รถใครรถมัน)ECU จึงจะเริ่มจ่ายน้ำมันอีกครั้ง (งงกันมั้ยเนี่ย)
เดี๋ยวมายกตัวอย่างดีกว่าเน๊อะ...
วันที่: 05 Apr 05 - 16:17

 ความคิดเห็นที่: 14 / 25 : 059732
โดย: dookyoasis
โอ้วววววววว(ได้ฟามรู้ไปอีกเยอะเลย)ขอบคุงเพ่ ManualMan มั๊กๆครับ
วันที่: 05 Apr 05 - 16:33

 ความคิดเห็นที่: 15 / 25 : 059742
โดย: ManualMan
สมมุตินะครับสมมุติ
1. ขับมาประมาณ 80 ด้วยเกียร์ 5 เจอไฟแดงพอดี
เราก็เหยียบเบรคอย่างเดียวยังไม่ต้องไปยุ่งกะครัชเลย
จนกว่ารอบเครื่องยนต์ จะตกมาแถวๆ 700-800rpm
(ความเร็วคงจะอยู่ราวๆ 10km/hr กว่าๆ)
เครื่องก็จะเริ่มสั่นๆแล้วหล่ะ ก็ให้เหยียบครัชเข้าเกียร์ว่างได้
แต่จะให้ดีก็จำไว้ว่าช้าขนาดไหนที่เครื่องเริ่มสั่นก็ให้
ชิงเหยียบครัชมันซะก่อนที่เครื่องมันจะสั่นก็จะดีกว่า
2. ขับมาประมาณ 60 ด้วยเกียร์ 4 รถคันหน้าเชะลอความเร็ว
เราก็แตะๆ เบรคดูทีท่าคันข้างหน้า อย่าเพิ่งกดครัชจนกว่า
เราจะรู้ว่าเราจะใช้เกียร์อะไรเพื่อให้รถวิ่งไปต่อ
เช่น ความเร็วเหลือประมาณ 30 แล้วรถคันหน้าเริ่มเร่งไปแล้ว
ก็ค่อยเหยียบครัชเปลี่ยนเกียร์ 3 ครับ หรือความเร็วเหลือ 20
ก็เข้าเกียร์ 2 ได้เลย
เห็นมั้ยครับว่าเราแค่เข้าใจมันให้มากขึ้นแล้วทำตามจนติดเป็นนิสัยได้
ก็จะช่วยให้ประหยัดได้มากขึ้นครับ จาก 11-12 โล/ลิตร ของคุณเอ๋กาโม่
อาจจะได้ 13-4 โล/ลิตรก็ได้นะ
ส่วนขับทางไกลยังไม่เคยลองแฮะ แต่ก็ขับตามที่กฏหมายกำหนด
ไม่เกิน 110 ผมว่าน่าจะได้ราวๆ 15-18 ได้นะ (เดาเอานะ)
วันที่: 05 Apr 05 - 16:55

 ความคิดเห็นที่: 16 / 25 : 059747
โดย: ManualMan
ผมว่าถ้าจะเดินทางไกล ก็ให้เผื่อเวลาไว้มากๆ ขับไม่เร็วมากจะดีกว่า
ไม่เผื่อเวลาแล้วมันจวนตัวต้องรีบๆ ต้องขับทำเวลา เหนื่อย เครียดด้วย
ปลอดภัยกว่าเยอะ แต่จะว่าไปผมกับขับเร็วมากเหมือนกันแหละ
ของแบบนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณครับ ฮิฮิฮิ
เติมลมยางแข็งๆ เป่ากรองอากาศซะหน่อยก่อนเดินทางไกลก็ดี

แต่ห้ามถามนะครับว่าจะเอาแรงๆเร็วๆแต่ประหยัดทำยังไงนะครับ
เพราะผมก็ปวดหัวอยู่เหมือนกัน มันห้ามใจที่จะกดคันเร่งแบบสุดตีนไม่ได้
วันที่: 05 Apr 05 - 17:07

 ความคิดเห็นที่: 17 / 25 : 059749
โดย: ManualMan
โอ้ววววว ลืมเรื่องปลายท่อไปเลย ผมซื้อที่ร้านท่อข้างแม็คโครรังสิตครับ
700บาท ตอนแรกที่ร้านเค้าจะตัดแล้วเชื่อมใหม่ แต่ผมให้เค้าเชื่อมน๊อต
ที่ปลายท่อแทน แล้วใช้สวมแล้วขันดีกว่าเผื่อวันหลังอยากเปลี่ยนเป็นแบบอื่น
เอิ๊อกๆ
ผมมมม ยาาาาาง ม่าาาาาาาาาย เมาาาาาาาา นะะะะะะ เอิ๊อกๆ
วันที่: 05 Apr 05 - 17:15

 ความคิดเห็นที่: 18 / 25 : 059843
โดย: โอ๋ หาดใหญ่
อ่านแล้วอยากขับ Manual จัง
วันที่: 05 Apr 05 - 21:33

 ความคิดเห็นที่: 19 / 25 : 059903
โดย: i_kon
ผมขับไปเจ็ดพันกว่าโล

จดปริมาณน้ำมันทุกครั้ง

ได้เฉลี่ย 13.9 km/l => ส่วนใหญ่ใช้ความเร็ว 90-110 km/h เฉลียรอบเครื่อง ~3000

ถังดีที่สุดได้ 15.3 km/l (ระยะทาง 308 km => อันนี้รีบเติมเพราะเจอปั๊มน้ำมันราคาถูก)

ถังแย่ที่สุด ได้ 13.1 km/l (ระยะทาง 543 km)

คิดว่า ถ้าแช่ยาวๆ ที่ 100-110 km/l น่าจะได้ 16 km/l ครับ เพราะสภาวะการขับจริงจะเจอรถติด ออกตัว หยุด หลายๆ อย่าง ซึ่งจะทำให้ค่าเฉลี่ยลดลงไปได้ครับ
วันที่: 05 Apr 05 - 22:38

 ความคิดเห็นที่: 20 / 25 : 060025
โดย: Red Metalic(มือวางเพลิง)
ล่อตาล่อใจเหลือเกิน
วันที่: 06 Apr 05 - 07:51

หน้าที่: [1]   2