โดย: ตูเองแหละ...อิอิ
|
|
คุณเปิ้ล..จากที่เจอๆมารถที่ติดตั้งเครื่องเสียงชุดใหญ่ๆ...กำลังขยายสูงๆ
และความระเอียดสูงจะถูกรบกวนจากไฟชาร์จจากอัลเตอร์เนเตอร์ได้ง่าย
เนื่องจากรอบเครื่องยนต์ไม่ได้นิ่งอยู่เสมอไป...เกือบร้อยทั้งร้อย %
ไม่ใช่เครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่รอบหมุนนิ่งๆที่จุดๆนึง
สังเกตุฟังดูได้จะมีเสียงวี๊ดๆ...ที่ลำโพงตามเสียงรอบเครื่องยนต์
ทีนี้ก็เลยเป็นที่หากินของช่างเครื่องเสียงหลายๆที่ๆไร้จรรยาบรรณ(ขอใช้คำนี้ครับ)
ลูกค้าเข้าไป...แจ้งปัญหา...ช่างก็ทำเป็นเช็คโน่นเช๊คนี่...ดูกราวด์มั่ง (ทั้งๆที่รู้จุดแล้ว...ดูง่ายจะตาย)
สุดท้ายก็ใส่แคป (คาปาซิเต่อร์)เข้าที่สายไฟชาร์จเข้าแบตเตอร์รี่
ขอขยายนิดนึงแคปมันก็ทำหน้าที่เหมือน Accummulator ในระบบแอร์หรือระบบไฮดรอลิก
เพื่อมีหน้าที่ "จ่ายเมื่อไม่พอหรือ Peak ได้ในช่วงสั้นๆ , Absorb เมื่อเกินได้ในระดับนึง"
มันจึงทำให้ไฟนิ่งเนื่องจาก Sciene Wave ลดน้อยลงเมื่อเขียนเป็นกราฟออกมา.
แต่ตัวมันเองไม่ได้มีหน้าที่เก็บไฟโดยตรงนะครับ...อย่าเข้าใจผิด
ทีนี้มาถึงจุดหากินของช่างแย่ๆต่อ...ร้านติดตั้ง(ในที่นี้คือที่แย่ๆนะครับ)
ก็จะยัดของล่ะ...เอาแคปแพงๆ...เก็บประจุได้เยอะๆมาติดให้..ไม่ได้ไล่เช็คให้หรอกว่า
ใส่ขนาดใหนถึงจะพอ...(ฟันได้เป็นพันๆถึงหลายพัน )ลูกค้าก็โอเค..
เสียงกวนหายและผีถึงป่าช้าแล้วนี่
วิธีที่ถูกต้องและควรก็คือ...ให้ช่างหาแค๊ป 12 V.DC.
เตรียมไว้ซัก 3-4 ลูก (ลูกละ15000 ไมโครฟารัด...ราคาตัวละไม่เกิน 150 บาท/ลูก)
ต่อเข้าคร่อมไฟชาร์จ( ต่อขนานไปทีละลูกๆ...เปิดฟังดูว่ากี่ลูกลดกวนได้แล้วก็พอ)
ก็น่าจะใช้แค่ 2 หรือ 3 ลูก...เต็มที่ก็ 4 ลูก...เราก็จะได้ขนาดแคปที่พอดีๆ..ไม่ขาดไม่เกิน
เคยเจอใส่ 2 ลูกใหมล่ะ 2 ลูกเสียงกวนหาย...เสือกโลภยัดลูกที่ 3 เลยกลับมากวนอีก
2 ลูกก็ 30000 ไมโครฟารัด 3 ลูก ก็ 45000 ไมโครฟารัด ไล่ไปเรื่อยๆ
วิธีง่ายๆแต่ใช้เวลาหน่อย...คุณก็จะได้แคปที่เหมาะกับระบบของคุณ
แล้วลองคิดดูซิทำจริงๆเป็นเงินแค่เท่าไร...ช่างทั่วๆไปส่วนใหญ่ไม่ไล่ทำแบบนี้หรอกครับ
ใส่ใหญ่ๆไว้ก่อนจบ...ง่ายและได้ตังค์เยอะ
นี่เอามาขยายให้ฟังแร่องเดียวนะครับสำหรับเครื่องเสียงรถยนต์...อิอิ
ผมลองยามาเองหมดแล้ว...ตาตี่ผมใส่ 2 ลูก...โอเชเรย...หุหุ
หญ้าปากคอกง่ายที่คาดไม่ถึงมันมีเยอะครับ...สำหรับเครื่องเสียงรถยนต์
กราวด์ไม่ดีซักเส้น , สายแตะกัน...ฯลฯ...แค่นี้ก็พาเละได้แล้ว...หุหุ
เล่า 3- 4 วันก็ไม่จบหรอกครับ...อิอิ
|