ของผม เลือกใช้ Bilstein R2000 ครับ เนื่องจากเคยเห็นและได้พิสูจน์ข้อแตกต่าง ก่อนและหลัง ทำมาแล้วกับ รถรุ่นพี่คนนึงนะครับ

โดยของผม ใช้ บริการทั้งพ่นกันสนิมและเคลือบสีด้วยครับ

เริ่มขั้นตอนด้วยการ นำรถเราไปล้างใต้ท้องรถ เอาเศษดิน เศษทรายออก เพื่อเตรียมนำขึ้น Hoist พ่นน้ำยากันสนิม โดยน้ำยากันสนิมเป็นแบบใสครับ สีอมเหลืองนิดๆ เป็นลักษณะขี้ผึ้งนะครับ ตามรูปครับผม

โดย: momocorse   วันที่: 16 May 2005 - 14:05

 ความคิดเห็นที่: 1 / 31 : 075576

โดย: momocorse

จากนั้น ก็ฉีดน้ำยา ตามจุดต่างๆใต้ท้องรถ โดยถอดปลั๊กอุด บริเวณชายประตูออก และพ่นเข้าไปด้านในด้วยครับ

 ความคิดเห็นที่: 2 / 31 : 075577

โดย: momocorse

ลักษณะของน้ำยา ที่จับตัวกับชิ้นส่วนรถครับผม

 ความคิดเห็นที่: 3 / 31 : 075579

โดย: momocorse

จากนั้น ก็พ่นเก็บตามแนวประกบของตัวรถ รอบคัน

 ความคิดเห็นที่: 4 / 31 : 075583

โดย: momocorse

แนวประตู ภายนอก ภายใน

 ความคิดเห็นที่: 5 / 31 : 075585

โดย: momocorse

ภายในบานประตู โดยพ่นเข้าไปทางช่องระบายน้ำ ที่ชายล่างประตูครับ ตรงนี้ ผมรอให้น้ำยาเซ็ทตัว แล้วจะทำความสะอาดช่องระบายน้ำซะหน่อยครับ เพื่อให้น้ำมันไหลออกได้คล่องหน่อยนะครับ เพราะตอนนี้ มันจะมีขี้ผึ้งน้ำยาเกาะอยู่ตามขอบนิดหน่อยครับ

 ความคิดเห็นที่: 6 / 31 : 075586

โดย: momocorse

พ่นน้ำยาที่ฝาปิดเติมน้ำมันเชื้อเพลิง

 ความคิดเห็นที่: 7 / 31 : 075587

โดย: momocorse

จากนั้น พ่นเก็บในห้องเครื่องยนต์ โดยพ่นบริเวณตะเข็บรองฝากระโปรง และภายในแก้มข้างตัวถัง และเบ้าซุ้มโชค

 ความคิดเห็นที่: 8 / 31 : 075588

โดย: Note,A.T.

ถามเป็นความรู้หน่อยครับ ว่าจริงๆแล้วมันจำเป็นมากน้อยแค่ไหนครับสำหรับกันสนิม แล้วที่ไปทำมา คุณ momocorse จ่ายไปเท่าไหร่ครับ ขอบคุณครับ

 ความคิดเห็นที่: 9 / 31 : 075590

โดย: momocorse

ตามด้วยพ่นในห้องเก็บสัมภาระท้ายรถ

 ความคิดเห็นที่: 10 / 31 : 075591

โดย: momocorse

รื้อแผงปิดออก จากนั้นก็ถอดยางอะไหล่ เอาแม่แรงออก และก็พ่น พ่น พ่น

 ความคิดเห็นที่: 11 / 31 : 075593

โดย: momocorse

เป็นอันว่าเสร็จ กระบวนการฉีดพ่นกันสนิมครับ สำหรับการพ่นกันสนิมของ R2000 นั้น มีข้อควรระวัง คือ ห้ามใช้น้ำร้อนหรือน้ำมันก๊าดฉีดล้างครับ เพราะน้ำยาจะหลุดออกหมด ในจุดนี้ ผมว่าน้ำยากันสนิมทั้งหลาย ก็กลัวน้ำมันก๊าดทั้งนั้นละครับ ส่วนน้ำร้อนนี่ ไม่แน่ใจ บางยี่ห้ออาจจะไม่กลัวมั้ง หลังจากจอดพักประมาณ 1/2 ช.ม.ก็นำไปล้าง ทำความสะอาด

 ความคิดเห็นที่: 12 / 31 : 075594

โดย: รักน้องสาม

คุณmomocorse ติดบังโคลนมาราคาเท่าไหร่ครับ.......ต้องทำสีต่างหากมั้ย(ต้องเพิ่มเงินกี่บาท)....ผมแค่ถามเผื่อเพื่อนๆในเวปน่ะครับ.....พอดีเห็นในรูป

 ความคิดเห็นที่: 13 / 31 : 075595

โดย: momocorse

เมื่อล้างเสร็จเรียบร้อย ก็นำมาติดกระดาษ และลงน้ำยาขจัดคราบ แบบขัดละเอียด ของ 3M ขัดรอบคัน จนเสร็จเรียบร้อย ก็นำไปล้างน้ำสะอาดอีกครั้ง

 ความคิดเห็นที่: 14 / 31 : 075598

โดย: momocorse

ราคา Mud Flap คู่ละไม่เกิน 1400 บาท ครับ ต้องทำสีตะหากครับ ตัวมันมาเป็น สีดำครับผม

 ความคิดเห็นที่: 15 / 31 : 075602

โดย: momocorse

จากนั้น ก็ลงน้ำยาเคลือบ ที่เป็น TEFLON ผสมกับ BIXOL โดยเจ้า TEFLON มีคุณสมบัติ ลื่นและแข็ง ส่วนเจ้า BIXOL มีคุณสมบัติ ในการยึดเกาะสูง เป็นผลิตภัณฑ์ของ Dupont สหรัฐอเมริกาครับ โดยลักษณะการลงน้ำยาจะไม่เหมือนกับการขัด WAX ของเราครับ โดยไอ้เจ้าขวดเล็กๆในมือนั้นละครับ TEFLON ตัวน้ำยาออกสีเขียวๆเป็นครีมครับผม

 ความคิดเห็นที่: 16 / 31 : 075608

โดย: momocorse

จากนั้น ก็รอให้น้ำยาเซ็ทตัว แล้วเช็ดออก และตามด้วยการลง PURE CARNUBA WAX ซ้ำอีกครั้ง Silverlala ของผมก็มีผิวเนียนและลื่นมากๆครับผม ข้อควรระวัง สำหรับการเคลือบด้วย TEFLON คือ แชมพูที่เราใช้ล้างรถครับ เราต้องใช้แบบไม่มีสารผสม หรือผงขัดนะครับ ไม่เช่นนั้น มันจะไปขัดเอา TEFLON ออกหมดครับผม โดยปกติ ถ้ารถไม่เปื้อนมาก ให้ล้างด้วยน้ำสะอาดก็เพียงพอแล้วครับ

 ความคิดเห็นที่: 17 / 31 : 075612

โดย: รักน้องสาม

ต่อเลยครับ

 ความคิดเห็นที่: 18 / 31 : 075613

โดย: momocorse

สำหรับการรับประกัน

พ่นกันสนิม รับประกันตลอดอายุรถครับ โดยต้องเข้ามาตรวจเช็ค ทุก 6 เดือน ครับ ถ้าไม่เข้าเช็ค จะถือว่าประกันขาดครับ

เคลือบสี รับประกัน 5 ปี
โดยในเวลาที่เรานำรถไปล้าง จะเสียค่าบริการ ครั้งละ 200 บาทครับ โดยเขาจะล้างสี ดูดฝุ่นและพ่นน้ำยากันสนิมให้ ในส่วนของซุ้มล้อ และลง CARNUBA WAX ให้ครับ หลังจากเล่ามาซะยาว ผมก็ได้คุยกับ เจ้าของบริษัท เลยบอกทางพี่เขาไปว่า ยังไงเพื่อนๆใน มาสด้าคลับ.เน็ท มาทำ ก็น่าจะมีราคาพิเศษให้นะครับ แก่ก็ โอเค โดยจะลดเป็น เปอร์เซ็นต์ให้นะครับ ท่านใดสนใจ ก็ติดต่อดูนะครับ ท่านใดอยากได้เบอร์ ขอมาได้ครับผม ที่ กระทู้นี้ก็ได้ครับ แล้วค่อยบอก เดี๋ยวจะกลายเป็นการโฆษณานะครับ

 ความคิดเห็นที่: 19 / 31 : 075614

โดย: momocorse

ตอบ คุณ Note, A.T. ครับ

ถ้าใช้รถไม่นาน 3 - 5 ปี เปลี่ยน ก็คงไม่ต้องทำหรอกครับผม เพราะเดี๋ยวก็เปลี่ยนคันใหม่ แต่สำหรับท่านใดที่ ใช้รถ เกิน 5 ปี หรือเป็นนักสะสม คือเก็บไม่ขายต่อและรักรถมาก มองรถว่าเป็นมากกว่าวัตถุที่เคลื่อนที่ได้ ผมว่า มันคุ้มที่จะทำครับ

ส่วนราคา 10000 บาทถ้วนครับ สำหรับ 2 รายการ คือ พ่นกันสนิม และเคลือบสีครับ

 ความคิดเห็นที่: 20 / 31 : 075620

โดย: ผอมเพรียว

จะจุดแว้ววว