เห็นว่าเป็นประเด็นที่ยังมีคนสนใจอยู่เยอะ พอดีไปอ่านเจอเข้าจึงนำมาฝากทุกคนครับ เหมือนเคยครับ
ใช้วิจารณญาณของตัวเองนะครับ

คัดลอกมาจากหนังสือ Popular Mechanics ภาคภาษาไทย ฉบับ พฤษภาคม 2005
คอลัมน์ รู้เท่า...ก้าวทัน...
โดย ศิริบูรณ์ เนาว์ถิ่นสุข


“ถามกันอยู่นั่นแหละว่าใช้แก๊สโซฮอลแทนเบนซินได้จริงหรือ?”

อีกครี่งปีนับจากเดือนนี้ (พฤษภาคม 2548) พวกเราจะแวะเข้าปั๊มแล้วสั่งเติมเบนซินออกเทน 95 ไม่ได้อีกแล้ว พวกเราต้องเปลี่ยนคำสั่งใหม่ว่า แก๊สโซฮอล 95... ข่าวนี้ทำเอาหูของผมระบมด้วยคำถามที่ยิงมาจากทั่วสาระทิศ ภาษาอินเทอร์เน็ตคงจะจัดเข้าข่าย FAQ’s (Frequently Asked Questions) ของประเด็นแก๊สโซฮอลดังตัวอย่างต่อไปนี้

- ไม่มีเบนซินออกเทน 95 แล้วรถของผมจะทำยังไง?

ก็เติมแก๊สโซฮอล 95 ไปสิครับ ขืนไม่เติม คุณก็ต้องจอดไว้ดูเล่นในบ้านเท่านั้นเอง

- อ้าว ทำยังงั้นแล้วเครื่องผมไม่พังหรือ?

ทำไมต้องพังล่ะ ผมไม่เห็นรถในอเมริกาที่ซื้อแก๊สโซฮอลใช้กันปีละตั้งหมื่นกว่าล้านแกลลอน (เท่ากับประมาณ 5 หมื่นล้านลิตร) มันบ่นว่ากินแก๊สโซฮอลไม่อร่อยเหมือนเบนซินเลย ตั้งแต่เริ่มต้นในมลรัฐ Nebraska เมื่อ 34 ปีก่อน (ค.ศ.1971) จนบัดนี้ แก๊สโซฮอลก็กลายเป็นเชื้อเพลิงมาตรฐานเกือบจะทุกมลรัฐของอเมริกาไปแล้ว (ยกเว้นเพียง Alaska, Delaware, Hawaii, Maine, Maryland, New Hampshire, Oklahoma, Rhode Island, South Carolina, Vermont เท่านั้น)

- ส่วนผสมของ Ethanol ในอเมริกาเหมือนกับของเราหรือ?

เหมือนก็มี ไม่เหมือนก็มี กล่าวคือที่นั่นเขาใช้ส่วนผสม 3 สูตร สูตรที่ขายเกลื่อนประมาณ 80 % -ของยอดขายทั้งหมดเป็น Ethanol 10% เหมือนกับที่พวกเราบางคนลองใช้กันแล้ว (8 ล้านกว่าลิตรในเดือน กุมภาพันธ์ 2548) สูตรที่สองคือ Ethanol 7.7% สูตรที่สามคือ Ethanol 5.7% (คุณคิดว่าสูตรของเราจะยืนหยัดอยู่ที่ Ethanol 10% ตลอดไปหรือ? ผมมีลางสังหรณ์ จึงขอถามไว้ก่อน)

- ใช้แล้วกินน้ำมันเปลืองกว่าหรือเปล่า?

Ethanol เพียว ๆ แต่ละกรัมมีค่าความร้อนของการสันดาปน้อยกว่า เบนซินประมาณ 3% ครึ่ง แต่ว่าเมื่อคุณซื้อแต่ละลิตร คุณได้น้ำหนัก 796 กรัม แทนที่จะเป็น 720-730 กรัม (หนักกว่าประมาณ 9%) แต่แก๊สโซฮอลสูตร E10 มันเป็นเบนซิน 9 ส่วนบวก Ethanol 1 ส่วน จึงหนักเพียงประมาณ 730-740 กรัม และด้วยค่าความร้อนต่อกรัมเพียงไม่ถึงครึ่งเปอร์เซ็นต์ ฟังดูเหมือนเจ๊ากันไปเกือบพอดี แต่ตรงที่ Ethanol เสียปรียบหนักคือ ความเข้มที่ต้องผสมกับอากาศ (Air-fuel Ratio) ในอัตรา 9:1 (อากาศ 9:Ethanol 1 โดยน้ำหนัก) แทนที่จะเป็น 14.7:1 อย่างของเบนซิน (อากาศ 14.7:เบนซิน 1 โดยน้ำหนัก) แก๊สโซฮอลสูตร E10 จึงต้องการ AFR ประมาณ 14.2:1 (ซึ่งเข้มกว่า 14.7:1 ของเบนซิน)... วัดกันเป็นกิโลเมตรต่อลิตร แก๊สโซฮอลต้องเปลืองกว่าแน่... แต่ถ้าวัดกันว่ากิโลเมตรละกี่บาท แก๊สโซฮอลจะเปลืองเงินน้อยกว่า เพราะราคาปัจจุบันต่ำกว่าเบนซิน 95 ตั้ง 6% กว่า ๆ

- เครื่องเดินเรียบเหมือนเดิมหรือ?

เครื่องยนต์ที่ใช้หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็น Close-loop อย่างในปัจจุบันไม่เป็นปัญหา เพราะ Oxygen-sensor ที่คอยวัดปริมาณออกซิเจนในไอเสียว่าขาดหรือเกิน จะสื่อสารให้กล่องสมองปรับให้ได้ส่วนผสมที่เป็น Stoichiometric Equilibrium เกือบตลอดเวลา ยกเว้นจังหวะที่กดคันเร่งลึกมาก (เกิน 70-75%) ที่ออกจาก Close-loop ชั่วคราว ที่อาจจะพลาดไปจาก AFR สำหรับการเร่ง (Acceleration Mode)

...นั่นคือคำอธิบายว่าทำไม แก๊สโซฮอลจึงผสม Ethanol ไว้เพียง 10% ก็เพื่อให้โปรแกรมสำหรับใช้กับเบนซินยังพอจะใช้ต่อไปได้โดยไม่ต้องแก้ไข (ถ้าเกินกว่านี้ต้องแก้โปรแกรมแน่ เครื่องที่ใช้คาร์บูเรเตอร์ก็เช่นกัน ต้องจูนใหม่ แต่ง่ายระดับที่เรียกว่า “หลับตาข้างหนึ่ง หรี่ตาอีกข้างหนี่งก็ทำได้”

- เครื่องที่ไม่เคยน็อคจะน็อคไหม?

น็อคหคือไม่น็อคมันอยู่ที่ค่าออกเทน ถ้ามันเป็น 95 เหมือนกันก็ป้องกันอาการน็อคได้เท่ากัน ไม่เกี่ยวสักหน่อยว่าเป็นแก๊สโซฮอลหรือเปล่า อันที่จริงแล้ว Ethanol เพียว ๆ มีค่าออกเทนตั้ง 108 RON จึงเป็นตัวเลือกที่เอามาใช้เป็นตัวเพิ่มค่าออกเทน (Octane-improver) ให้กับเบนซินแทนที่จะใช้ MTBE ที่เป็นของแพงและต้องนำเข้า

- เขาว่า Ethanol ดูดความชื้นเก่งไม่ใช่หรือ?

เป็นความจริงว่า Ethanol ดูดความชื้นที่มีอยู่ในบรรยากาศเก่งกว่าเบนซิน ไม่ใช่ว่ามันสร้างน้ำเองได้ มันแค่ขยันชวนเอาความชื้นในอากาศมาอยู่กับมันได้เก่ง ดังนั้น ถ้าถังน้ำมันของคุณปิดได้สนิท และมีรูหายใจรูเล็กเท่าที่จำเป็น อากาศภายนอกก็นำความชื้นจากภายนอกเข้าไปในในถังได้ไม่มาก... นี่ก็เป็นสาเหตุอีกอย่างหนึ่งที่จำกัดสัดส่วนของ Ethanol ไว้เพียง 10%

- เขาว่า Ethanol กัดท่อยางเก่งไม่ใช่หรือ?

Ethanol กัดท่อยางเก่ง เบนซินก็กัดท่อยางเก่ง ดีเซลก็กัดท่อยางเก่ง ท่อยางสำหรับใช้เป็นท่อเชื้อเพลิงทั้งหลายจึงไม่ใช้ยางธรรมชาติ แต่เป็นยางสังเคราะห์สำหรับใช้กับงานนี้โดยเฉพาะ

ถ้าท่อยางยี่ห้อใดสู้แก๊สโซฮอลไม่ได้ ท่อยางยี่ห้อนั้นก็ไม่สมควรจะใช้กับเบนซินอยู่แล้วล่ะคุณเอ๋ย

ในขณะที่ยังมีเบนซิน 95 ขายอยู่ จะเติมแก๊สโซฮอลบ้าง สลับกับเบนซิน 95 บ้างจะเป็นอะไรไหม? ... มันก็แค่การผสมแก๊สโซฮอลสูตรส่วนตัวของคุณที่มีสัดส่วน Ethanol ต่ำกว่า 10% ในบางคราวเท่านั้น ถ้าวิ่งด้วย E10 (ที่คุณเคยหวาดกลัว)ได้แล้ว คุณจะมากลัวทำไมกับ E3 หรือ E4 หรือ E5 ล่ะ?

- เครื่องเทอร์โบจะไม่เป็นปัญหาหรือ?

เครื่องเทอร์โบมันวิเศษมาจากไหน มันถึงจะต้องเกรงกลัวแก๊สโซฮอล คุณรู้ไหมว่ารถแข่งที่ใช้เทอโบแรงดัน (Boost) สูงมาก ๆ น่ะกลับแสวงหา Methanol หรือ Ethanol เพียว ๆ ด้วยซ้ำ

ผมเองไม่ตื่นเต้นกับปัญหาพวกนี้ ผลกลับไปเป็นห่วงว่า เราจะผลิต Ethanol ได้มากพอจะผสมเป็น E10 ได้จริงหรือ? เราจะสูญเสียความร้อนไปในกระบวนการผลิต Ethanol กี่เปอร์เซ็นต์ (15%?)? เราจะต้องสูญเสียน้ำมันดีเซลไปเท่าใด เพื่อขนส่งวัตถุดิบหนัก ๆ อย่างอ้อย หรือมันสำปะหลังไปส่งโรงหมัก Ethanol (1 ตันของมันสำปะหลังเบอร์ 3 กลายเป็น Ethanol ได้ 170 ลิตร)? เราจะสูญเสียน้ำมันดีเซลอีกเท่าใดนำส่ง Ethanol ไปผสมกับเบนซินที่โรงกลั่นน้ำมัน? เราจะต้องทำลายป่าอีกสักกี่ล้านไร่เพื่อจะเพิ่มการปลูกอ้อยและมันสำปะหลัง ให้พอจะเอามาเผาในกระบอกสูบเครื่องยนต์ ราคาที่รัฐบาลประกันไว้ว่าผู้ผลิต Ethanol จะขายให้โรงกลั่นได้12.75 บาท จะต้องขยับขึ้นวันใด (เพราะวัตถุดิบมันแพงขึ้น)? ผู้ผลิต Ethanol ไม่ต้องเสียภาษี แต่งบประมาณรายจ่ายของรัฐเพิ่มขึ้นทุกปี ใครจะเป็นคนแบกภาระภาษีแทนผู้ผลิต Ethanol? .... ผมและท่านไง!

โดย: rex   วันที่: 19 May 2005 - 15:25

 ความคิดเห็นที่: 21 / 32 : 078669

โดย: rotary_revolution

ช่วยตอบทีนะคับผมรออยู่ เอาเหตุผลมาด้วยคับ แต่อย่าลืมอ่านให้เข้าใจก่อนนะคับ ถ้าเป็นไปได้ก็พรินมันออกมาดูทีละข้อ แล้วคุณอาจจะเข้าใจมากกว่านี้

 ความคิดเห็นที่: 22 / 32 : 078934

โดย: อัดอัดสาม

..เอาใหม่นะ..ผมก็กลับไปอ่านข้อความของคุณ rotary แล้ว...อันนี้ไม่ได้ทะเลาะกัน แต่ความเห็นไม่ตรงกันเท่านั้น....ขอให้ท่านผู้ชมโปรดเข้าใจ
1. ผมคิดตามหลักตรรกะ นะ... ..แกสโซฮอล และ น้ำมันในปัจจุบัน ผลิตจากโรงงานเดียวกัน ใช้บุคคลากร เครื่องจักร..ตลอดจนระบบบริหารงานควบคุมคุณภาพเดียวกัน....ดังนั้นผลผลิตแต่ละชนิดที่ผลิตออกมา ...ถ้าไม่ได้มาตรฐานก็คงไม่ได้มาตรฐานเหมือนกัน และถ้าได้มาตรฐานก็คงได้มาตรฐานเหมือนๆ กัน.....ในโลกความจริงปัจจุบัน เราก็ใช้น้ำมัน 91 95 กันอยู่ อันนี้ผมก็ไม่รู้ว่าได้มาตรฐานหรือเปล่า รู้แต่ว่าใช้แล้วก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไร (ถ้าใครมีปัญหาช่วยให้ข้อมูลด้วย)... ในความคิดผมจึงไม่เห็นด้วยกับเหตุผลที่ว่า ไม่ได้มาตรฐาน แล้วจึงไม่ใช้.... เพราะที่ใช้กันอยู่ปัจจุบันมันไม่มีปัญหา ดังนั้น แกสโซลฮอลก็ไม่น่ามีปัญหา (กับเฉพาะเหตุผลนี้นะ เหตุผลที่บอกว่าไม่ได้มาตรฐาน)....ผมก็บอกแล้วว่าถ้าเหตุผลอื่นผมจะเชื่อ แต่ถ้าเหตุผลนี้ผมไม่เห็นด้วย....
2. เรื่องกลัวเครื่องน็อค.. ที่ผมบอกว่าใช้ Ethanol เพียวๆ เครื่องยังไม่น็อคเลย ผมต้องการจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพที่ชัดเจน... แต่ไม่ได้หมายความว่าจะใช้ Ethanol เพียวๆ ได้จริงๆ..เพราะมันจะเกิดปัญหาอย่างอื่นขึ้นมาก่อน แต่ไม่ใช่ปัญหาเรื่องการน็อคแน่นอน... เติม Ethanol ลงไปมีแต่ค่าออคเทนจะสูงขึ้น...เลยไม่อยากให้กังวลกับปัญหาเรื่องเครื่องน็อคนี้มากเกินไป บางครั้งเรากังวลเกินกันกว่าเหตุนะ.... ปัญหาของแกสโซฮอลที่น่ากังวลกว่านี้มีเยอะแยะ..
3. ผมอ่านแล้วครับ เรื่องน้ำมันเครื่องบินกับรถไถนาน่ะ....ลองมองมุมกลับกันนะครับ... ทำไมชาวนาถึงไม่เอาน้ำมันเครื่องบินมาใส่ในรถไถนา.... เพราะเครื่องยนต์ของเขาไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันแพง ๆ ก็ทำงานได้ไงครับ...... เหมือนกันเครื่องของฮอนด้า ก็ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำมันออเทนสูง ก็ให้กำลังงานได้เท่ากับหรือมากกว่า เครื่องของมาสด้าที่ใช้ออกเทนสูงกว่า ได้แล้ว...อยากให้คุณมองโลกในด้านของความเป็นจริงนะครับความเป็นจริง มันเป็นแบบนี้จริงๆ .....ไม่ใช่มองแต่ในทางทฤษฎี เครื่องกำลังอัดสูงกว่าต้องได้แรงม้ามากกว่าต้องใช้น้ำมันดีๆ... แล้วความเป็นจริงล่ะ...มันมีรายละเอียดอีตั้งเยอะในการออแบบเครื่องยนต์ ซึ่งมาสด้าอาจจะตาม ฮอนด้าไม่ทัน ..ผลก็เป็นแบบที่ทุกท่านก็น่าจะรู้กันอยู่ว่าใครเหนือกว่าใคร เทคโนโลยีด้านเครื่องยนต์ใครดีกว่า... ผมจึงไม่เห็นด้วยกับเหตุผลของคุณ rotary ที่ว่าเครื่องที่เทคโนโลยีสูงๆ จึงต้องใช้แต่น้ำมันดีๆ ... หรือจะมองอีกมุมหนึ่งก็คือเครื่องที่เทคโนโลยีต่ำ บางครั้งก็อาจจะต้องใช้น้ำมันดีๆ เพื่อมาชดเชยข้อด้อยในการออกแบบ...
4..... Vtec ทำงานตั้งแต่เราสตาร์ทเครื่องแล้วครับ...ช่วงรอบต่ำใช้ลูกเบี้ยวที่ออกแบบมาสำหรับรอบต่ำโดยเฉพาะ ...พอรอบสูงจึงใช้ลูกเบี้ยวที่ออกแบบมาสำหรับช่วงรอบสูงโดยเฉพาะ... ผิดกับยี่ห้ออื่นๆ ที่มีลูกเบี้ยวชุดเดียว ถ้าออกแบบให้ทำงานได้ดีที่รอบต่ำรอบสูงก็ไปไม่เป็น ไอ้ครั้นจะไม่ออกแบบเผื่อไว้ตอนรอบสูงบ้างเลยก็ไม่ได้..เพราะคนขับรถมีหลายประเภท..ดังนั้นจึงต้องออกแบบมาแบบก้ำกึ่ง
....ฮอนด้าจึงได้เปรียบทั้งรอบต่ำและรอบสูง.เพราะสามารถออกแบบลูกเบี้ยวได้อย่างอิสระไม่ต้องกังวลแบบรถที่ใช้ลูกเบี้ยวชุดเดียว..........ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงบออกว่า Vtec ทำงานที่รอบสูง ก็เห็นมันก็ทำงานตั้งแต่เครื่องหมุนแล้ว...เพียงแต่มันจะไปเปลี่ยนการใช้ลูกเบี้ยวอีกชุดที่รอบประมาณ 5000 รอบก็เท่านั้นเอง....และถึงเราจะขับรถกันปกติที่รอบต่ำๆ ก้ได้ประโยชน์จากเจ้าระบบ Vtec ไปเต็มๆ เพราะเรากำลังขับรถที่ใช้ลูกเบี้ยวสำหรับเครื่องรอบต่ำโดยเฉพาะ ........
ความเห็นผมก็มีเท่านี้แหละครับ

 ความคิดเห็นที่: 23 / 32 : 078943

โดย: อึดอัด

ขอเสริมอีกหน่อย..... เรื่องเครื่งที่มีเทคโนโลยีสูงๆ.... เทคโนโลยีสูงๆ ไม่ได้มีไว้ใช้สำหรับแค่ความแรงนะครับ...แต่บางครั้งเราก็ใช้เทคโนโลยีสูงๆ เพื่อความประหยัดด้วย... อยากให้มองกันหลายๆ มุม....
ที่คุณ Rotary บอกมาว่าเครื่องที่ใช้เทคโนโลยีสูง ต้องใช้น้ำมันเกรดสูงๆ อาจจะไม่จริงนะครับ...แต่ถ้าบอกว่าเครื่องสมรรถนะสูงๆ ต้องใช้น้ำมันเกรดสูง อันนี้ไม่เถียงครับ.... แต่ไม่ได้หมายความว่าเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเกรดสูงแล้ว จะต้องมีสมรรถนะสูงเสมอไป.........
.....มองอะไรอยากให้มองกลับกันหลายๆ มุมน่ะครับ....
ขอโทษด้วยที่ผมอาจจะใช้ถ้อยคำรุนแรงไปบ้าง...... ยังไงผมกับคุณ Rotary ก็มาสด้าคลับเหมือนกัน... .. คงไม่ว่ากันนะครับ.... ยินดีที่ได้แรกเปลี่ยนความคิดเห็นครับ

 ความคิดเห็นที่: 24 / 32 : 078973

โดย: rex

สนุกดีแฮะ

ท่านสุภาพบุรุษ กรุณาระวังเรื่องหลงประเด็นนะครับ ผมว่ากลับไปคุยเรื่องแก๊สโซฮอล หรือนำข้อมูลมาโพสต์กันเป็นวิทยาทานด้วย จะดีไม่น้อยครับ

ส่วนผู้อ่านก็ใช้วิจารณญาณของท่านเองด้วยครับ เรื่องแบบนี้คำว่าถูกต้อง เหมาะสม หรือใช่เลย สำหรับแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกันครับ

แล้วคห. 22 เนี่ย ถ้าเคาะเว้นบรรทัดระหว่างข้อย่อยได้ จะอ่านง่ายมากเลยครับ (ฮา)

 ความคิดเห็นที่: 25 / 32 : 079221

โดย: The_P๐๐M

ใครดีกว่าใคร ใครเหนือกว่าใคร พูดไงก็ไม่จบครับ ฮอนด้า มาสด้า เปรียบกันยากครับ เอาเป็นว่าสไตล์ใครสไตล์มันดีกว่ามั้ย ชอบวีเทคก็เล่นวีเทค ชอบมาสด้า ก็เล่นมาสด้าสิครับ(ถ้าเทคโนโลยีด้านเครื่องยนต์ขั้นสูงของมาสด้าก็ต้องเป็นRotary) แต่เขาไม่ได้เอามาลงกับรถตลาดอะครับ ส่วนเทคโนโลยีชั้นสูงแบบวีเทคเขาเอามาลงในรถตลาดได้ ก็เลยได้เปรียบไปครับ รถแต่ละค่ายเขาก็มีเอกลักษณ์ต่างกันไป เหมือนแนวเพลงนั่นแหละ ชอบร๊อคก็บอกว่าร๊อคเพราะ ชอบป็อบก็บอกว่าป็อบเพราะ

 ความคิดเห็นที่: 26 / 32 : 079579

โดย: น้องน้ำ

แม้ ไอ้เรารึ ก็ไม่รู้เรื่องกันไป งงไปใหญ่ ทำงัยได้ไม่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์กลไกรกับเขา แล้วจริงๆมันเป็นงัยละเนี้ย

 ความคิดเห็นที่: 27 / 32 : 080705

โดย: Rotary_Revolution

1 ผมว่าคุณสรุบของคุณเองนะว่าใช้ 91 95 ก็ไม่มีปัญหาแล้วใช้แก็สโซฮอลก็ไม่น่ามีปัญหาเพราะมาจากโรงงานเดียวกัน แต่กลับมาเรื่องแก็สโซฮอลกัน เหตุผลที่เค้าเตินแก็สโซฮอลกัน แล้วที่ว่ามันประหยัดผมจะบอกรายละเอียดให้ฟัง แล้วทุกๆคนจะได้เค้าใจกันจะได้ไม่ต้องมาเถียงข้างๆคูๆแบบว่าเชื่อเพราะว่าคนเค้าบอกว่าดี
สาเหตุหลักที่ต้องใช้Ethanol เค้าไปในส่วนผสมเพราะต้องการเพิ่มค่าออกเทน
แล้วมันประหยัดยังงัย ประหยัดเพราะเราไม่ต้องกลั่นน้ำมันให้ได้ออกเทนนั้นๆ เช่น 95 ซึ่งในกระบวนการกลั่นเพ่อให้ได้ออกเทนที่สูงขึ้นนั้น จะทำให้เราสูญเสียน้ำมันในกระบวนการกลั่น อย่างที่ทุกคนเข้าใจหรือเคยได้ยินมา ยิ่งออกเทนสูงน้ำมันที่ได้ก็จะลดลง เพราะฉะนั้นเค้าก็กลั่นน้ำมันที่ออกเทนตำกว่า95 แล้วผสม Ethanolเข้าไปเพื่อให้ได้ออกเทน 95ตามที่ระบุไว้
แล้วผสมแล้วมันไม่ดียังงัยทั้งๆที่ๆได้ออกเทนเท่ากัน ถ้าคุณเคยอ่านรายละเอียดของEthanol คุณจะรู้ว่าข้อเสียหลักของมันที่ไม่สามารถนำมาใช้ทัวไปได้ก็คือการระเหยที่ รวดเร็ว เพราะฉะนั้นผมถามว่าคุณจะรู้ได้งัยว่าเติมแก็สโซฮอลแล้วมัมไม่ระเหย ยิ่งอากาศร้อน แล้วถ้ามันระเหยแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ออกเทนจะได้เท่าเดิมหรือปล่าว ดังนั้นสิงที่ผมพยามบอกคนในคลับนี้ว่าอย่าพยายามเติมเลยเพราะ บ้านเราอากาศร้อน การระเหยนั้นเกิดขึ้นมากกว่าประเทศอื่นที่ใช้แก็สโซฮอลที่ส่วนใหญ่อากาศเย็นกว่าบ้านเรา
2 ส่วนผลที่ตามมาและผมพยามบอกซึ่ง คุณก็ดูไม่เข้าใจเลยคือการน็อคของเครื่องยนต์ พยามบอกว่าเติมEthonalเพียวๆยังไม่น็อคเลย ผมถึงถามคุณงัยว่าคุณเติมได้ม๊ย คุณก็บอกว่าต้องมีปัจัยอีกหลายๆอย่างเข้ามาเกี่ยวข้องและปัญหาอย่างอื่นเกิดก่อน ผมเลยอยากบอกว่าปัจจัยหลายๆอย่างที่คุณพูดถึงมันคือสาเหตุที่ไม่สมควรเติมแก็สโซฮอล และเรื่องน็อคนี้แหละสำคัญและต้องกังวลเป็นอันดับแรก ผมว่าคุณลองไปอ่านกะทู้ที่เกี่ยวกับการใช้แก็สโซฮอลดูว่าการน็อคเนี้ยเป็นปัญหาหลักที่คนเข้ามาถามมากที่สุดสำหรับการเติมแก็สโซฮอล ลองไปหาอ่านดูนะคับหรือใครรู้ว่าอยู่ที่ไหนช่วยโพสให้คุณคนเนี้ยอ่านหน่อย แล้วไอ้ปัญหาการเติมโซฮอลที่น่ากังวลยังมีมากกว่านี้ คุณช่วยผมบอกเพิ่มเติมหน่อยเผื่อคนอ่านจะได้รู้มากกว่านี้
ส่วนการเติม 91 95 แล้วไม่มีปัญหาผมก็คิดไม่เหมือนคุณอีก เพราะปกติผมผ่าประกอบเครืองยนต์rotary อยู่เป็นประจำ และรับจูนกล่องต่างๆ ผมก็เห็นปัญหาเรื่องน้ำมันมาตลอด ถามว่ามันใช้ได้มั๊ยผมก็ว่าใช้ได้ แต่เราต้องปรับค่าต่างๆลงมาเพื่อรองรับตรงนี้ แต่ถ้าเอาไปแข่งก็ใช้ไม่ได้ เพราะออกเทนไม่ได้ตามที่กำหนด แต่ผมคงไม่ต้องบอกซ้ำอีกนะคับว่าทำไมไปอ่านเอาในหน้าแรก หรือเอาอย่างนี้ ลองไปถามคนที่เค้าจูนรถเก่งๆดู เกี่ยวกับน้ำมันคุณจะรู้คำตอบ อย่าเอาความคิดของตัวเองมาตัดสินทั้งหมดลองถามคนอื่นๆดูบ้างนะคับ

3 ผมอ่านยังยังก็ยังไม่เห็นเหตุผลเลยนะคับ เอาแต่บอกว่าเตรื่องฮอนด้าดี ผมพยายามมองมุมกลับกันอย่างที่คุณว่า การที่ทำไมรถไถถึงไม่ใช้นำมันเครืองบิน คำตอบคือไม่จำเป็น แต่เพราะเทคโนโลยี่รถไถสูงกว่าเหรอคับ คิดแล้วมันแปลกๆน่า แล้วมองกลับไปอีกทีเครืองบินเอาน้ำมันรถไถมาเติม ยังงัยก็เติมไม่ได้เพราะเทคโนโลยี่ที่ออกแบบมานั้นไม่รองรับน้ำมันออกเทนตำแบบนั้น ถามว่าเติมได้มั๊ยผมก็ยืนยันว่าเติมได้ แต่เครื่องจะน็อค เพราะค่าออกเทนไม่ได้ ถึงจะปรับไฟให้อ่อนลงมาเพื่อไม่ให้เกิดการน็อค เครือง อาจจะเดินได้แต่ถ้าให้บินคงไม่มีใครกล้าเสียง ผมเลยอยากถามว่าถ้าให้คิดแบบคุณไอ้เทคโนโลยี่สูงแบบเครื่องบินทำไมเค้าไม่คิดออกแบบให้ใช้น้ำมันรถไถละ เพราะอะไรทั้งๆที่ประหยัดกว่า หรือว่ารถฮอนด้าใช้เทคโนโลยี่รถไถเลยเติมน้ำมันออกเทนตำได้แต่มาสด้าใช้เทคโนโลยี่เครื่องบินเลยเติ่มออกเทนตำไม่ได้ แบบนี้ก็คิดง่ายๆนะคับว่าเครื่องยนต์เครื่องบินกับ เครื่องรถไถอันไหนดีกว่ากัน นี้ผมมองตามความเป็นจริงนะคับหรือว่าคุณว่าไม่ ทั้งทฎษฎี และความเป็นจริงผมก็ยังดูไม่ออกว่าเครื่องยนต์กำลังอัดตำแต่ได้แรงม้าสูงมันมีอยู่ที่ไหน ถ้าไม่คบกับระบบช่วยซึ่งฮอนด้าไม่เคยใช้เลย แล้วใครๆก็รู้ว่าเครื่องยนต์ฮอนด้าดีกว่ามาสด้า ผมก็ไม่รู้ว่ามีใครรู้บ้าง ผมเอาง่ายๆเลยนะคับตามความเป็นจริง คุณไปถามช่างเลยที่ไหนก็ได้ว่า เครื่องฮอนด้าซ่อมง่ายมั๊ย แล้วเทียบกับมาสด้าละ ผมเห็นช่างโนเนมก็ซ่อมได้ไอ้เครื่องเทคเนี้ย ถ้าคุณไม่ได้เป็นช่างไปถามดูเลยแล้วช่วยมาบอกผมด้วย

4 ส่วนข้อสุดท้ายเนี้ยทำให้ผมรู้เลยว่าคุณไม่มีความรู้เรื่องเครื่องยนต์ หรือรู้เพราะฟังคนอื่นมาแต่ฟังไม่หมด ไอ้ลูกเบี้ยวเนี้ยมันมีทุกคันคับ เค้าเรียกว่าแคม แคมไม่ว่าเครื่องไหนก็เป็นลูกเบี้ยวคับ ถ้ามันเท่ากันหมดแล้ววาวล์มันจะเปิดยังงัย งงมั๊ยครับ ส่วนที่ว่าไอ้เจ้าวีเทคมันทำงานตั้งแต่รอบต้นๆผมว่ามันยิ่งตลกใหญ่ เอางี้คุณลองไปคลับฮอนด้าดูแล้วถามเค้าว่าไอ้เจ้าวีเทคมันทำงานยังงัยตังแต่รอบไหน แล้วคุณจะเค้าใจหรือไม่ก็ไปหาหนังสือมาอ่านอย่าเอามาโพสในนี้เดี๋ยวคนอื่นจะเค้าใจผิดกันหมด หรือถ้ามันเป็นอย่างที่คุณว่าไอ้ผลิตภัณท์ที่เกี่ยวกับVtec controler ก็ไม่ต้องชายกันพอดีรวมทั้งV-AFCII ของผมคงขายไม่ออกเลยแน่ๆ ส่วนยี่ห้ออื่นๆนี้แหละทำงานตั้งแต่รอบต้นๆเช่น VVT-I ระบบวาวล์แปรผัน ส่วนมันจะsemi or Full อันนี้ก็แล้วแต่ แต่ยืนยันว่ามันทำงานตั้งแต่รอบต้นๆ จนถึงปลาย ผมว่าคุณไปศึกษามาให้ดีก่อน อย่ามาโพสมั่วๆแบบนี้ไม่ดีคับ อย่าเชื่อในสิ่งที่คนบอกจนกว่าจะรู้ด้วยตัวเองนะคับฝากไว้สำหรับทุกๆคน

ส่วนสุดท้ายเลย เทคโนโลยี่สูงคิดค้นขึ้นเพื่อให้เราได้สมรถนะที่สูงและความประหยัดด้วยคับ ถ้าสมถนะสูงแต่ไม่ปรหยัดเรามีนานแล้วคับ ตั้งแต่เครื่อง วี6 วี8 ยุคแรกๆ หรือแม้แต่เครืองโรตารี่ สมรถนะสูงตังแต่แรกแล้วคับ แต่ที่เค้าพัฒนากันอยู่คือเรื่องที่ว่าทำให้ให้ประหยัดและไม่สูญเสียสมถนะ ถัเอาแต่ประหยัดก็รถไฟฟ้างัยคับ แต่มันไม่สามรถวิ่งเร็วได้ ส่วนเครืองยนต์เหมือนกันแต่เติมน้ำมันออกเทนต่างกันย่อมได้สมถนะที่แตกต่างกันคับ อันนี้สามารถพิสูจน์บนเครื่องไดโนได้คับ ถ้ารถคุณไปเติมน้ำมันที่ออกเทนสูงกว่าเช่นน้ำมันเครื่องบินคุณจะได้แรงม้ามากกว่าคุณไปเติมน้ำมันรถไถ อันนี้ยืนยันแน่นอนคับไปหาอ่านตามแหล่งข้อมูลต่างได้คับ ส่วนเครื่องยนต์สมถนะสูงในความคิดของคุณคืออะไรผมไม่แน่ใจสำหรับผม ผมว่าเครืองบินยานอวกาศคับ แล้วถามว่าไอ้เครืองสมถนะสูงเนี้ยเติมน้ำมันรถไถแล้วได้สมถนะเท่าเดิมหรือปล่าว ลองคิดมุมกว้างๆแล้วตอบกับตังเองที่ละขั้น ค่อยๆคิด อย่ารีบสรุปหาเหตุผลมองสองมุมและมุมของความเป็นจริง เอาง่ายๆว่าไอ้เครืองสมถนะสูงๆของคุณคือเครื่องอะไร หวังว่าไม่ใข่เครืองรถไถนะคับ แล้วลองคิดดูว่าเค้าเติมน้ำมันอะไร แล้วทำไม แล้วเอามาเติมน้ำมันรถไถแล้วยังคงได้สมรถนะเท่าเดิมหรือปล่าว ค่อยๆตอบนะคับ แล้วคุณจะเข้าใจ หรือคนที่อ่านกระทู้นี้ลองคิดตามที่ผมเขียนแล้วช่วยมาโพสคำตอบให้ผมหน่อยเผื่อเค้าคนนั้นยังคิดว่าผมอธิบายไม่เข้าใจ ถ้ามีปัญหา ข้อข้องใจโพสถามไว้ได้นะคับถ้าผมรู้ผมจะตอบ อธิบายให้เข้าใจ แต่ถ้าผมไม่รู้ผมคงต้องให้ผู้รู้ท่านอื่นๆมาช่วยอธิบายนะคับ

 ความคิดเห็นที่: 28 / 32 : 080707

โดย: rotary Revolution

เอาให้เข้าใจนะคับ ถ้าจะให้ดีลองอ่านของคุณก่อนเป็นข้อๆแล้ว มาอ่านของผมดูเป็นข้อๆตามนะคับจะได้ไม่สับสน หรือคนอ่านท่านอื่นจะกรุณา ช่วยอ่านตามที่ผมบอกแล้วแสดงความคิดเห็นหน่อยว่าอันไหนมันมีเหตุผลมากกว่า และมองหลายมุม รวมทั้วความเป็นจริง ไม่ใช่เดี๋ยวก็พูดว่าเครื่องยนต์ ฮอนด้าดีกว่าโดยไม่อธิบายอะไรเลย

 ความคิดเห็นที่: 29 / 32 : 285563

โดย: มหาชัย

เท่าที่ดูทั้ง 2 ยี่ห้อก็มีข้อเสียคนละแบบนะคับ Honda เป็นรถที่ค่อนข้างขับสนุกอัตราเร่งดีถึงความเร็วจะสูงมาก แต่จะเสียตรงระบบไฟฟ้าและระบบระบายความร้อนที่พัดลมไฟฟ้าค่อนข้างจะเสียงานและระบบน้ำที่รั่วง่าย ส่วน Mazda ก็เป็นรถที่สวย เทคโนโลยีสูงแต่ค่อนข้างจะซับซ้อน ดังนั้นคิดว่าน่าจะอยู่ที่ความชอบของแต่ละบุคคลมากกว่า แต่เรื่องน้ำมันแก๊สโชฮอล คิดว่าน่าจะมีผลบางแต่คงไม่มากพอจะทำให้เครื่องยนต์พังอย่างรวดเร็วเกินไป (น่าจะพอๆกับติดแก๊ส) จนรับไม่ได้ ในส่วนตัวผมคิดว่ารถทุกยี่ห้อไม่มียี่ห้อไหนร้อยเปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ว่ารถยี่ห้อไหน"บุคลิกรถตรงกับบุคลิกเรา"

 ความคิดเห็นที่: 30 / 32 : 308436

โดย: ชายชอบความแรง

แล้วใช้กับรถสองจังหวะได้ใหมครับ

 ความคิดเห็นที่: 31 / 32 : 396032

โดย: แพรว

บริษัทมิตรแท้ประกันภัย
สินค้าขายดี ประกันภัยชั้น 3+พรบ ของมิตรแท้ทวีคูณ ราคาประหยัด ซื้อ ป.3 เหมือนได้ พรบ. ฟรีๆ
1. เก๋ง ในราคา 2,690 บาท
2. กระบะ ในราคา 3,690 บาท
3. ตู้ ในราคา 3,890 บาท
ประกันแนะนำ ชั้น 3 พิเศษใหม่ มี 7 แบบ 4 ราคา (ไม่รวมค่า พรบ.) ดังนี้
1. ราคา 6,666 บาท ซ่อมรถให้ 100,000 บาท เสียค่าเสียหายส่วนแรก 2,000 บาท
2. ราคา 7,777 บาท ซ่อมรถให้ 100,000 บาท(***พิเศษ***)
3. ราคา 7,777 บาท ซ่อมรถให้ 180,000 บาท เสียค่าเสียหายส่วนแรก 2,000 บาท
4. ราคา 7,777 บาท ซ่อมรถให้ 100,000 บาท รถหาย/ไฟไหม้ 100,000 บาท เสียค่าเสียหายส่วนแรก 2,000 บาท
5. ราคา 8,888 บาท ซ่อมรถให้ 100,000 บาท รถหาย/ไฟไหม้ 100,000 บาท (***พิเศษ***)
6. ราคา 8,888 บาท ซ่อมรถให้ 180,000 บาท รถหาย/ไฟไหม้ 180,000 บาท เสียค่าเสียหายส่วนแรก 2,000 บาท
7. ราคา 9,999 บาท ซ่อมรถให้ 180,000 บาท รถหาย/ไฟไหม้ 180,000 บาท (***พิเศษ***)

***พิเศษ**** กรณีเชียวชนเป็นฝ่ายผิดไม่ต้องเสีย 2,000 บาท
ความคุ้มครองหลัก
1.ความรับผิดต่อการบาดเจ็บและเสียชีวิต บคุคคลภายนอก 500,000 บาทต่อคน
2.ส่วนเกิน พรบ. 10,000,000 บาทต่อครั้ง
3.ความรับผิดต่อทรัพย์สินบุคคลภายนอก 1,000,000 บาทต่อครั้ง
4.อุบัติเหตุส่วนบุคคล คุ้มครองสูงสุดถึง 5 ท่านๆล่ะ100,000 บาทต่อคน รวม 500,000 บาทต่อครั้ง
5.ค่ารักษาพยาบาล คุ้มครองสุงสุดถึง 5 ท่านๆหล่ะ 50,000 บาทต่อคน รวม 250,000 บาทต่อครั้ง
6.การประกันตัวผู้ขับขี่คดีอาญา 300,000 บาทต่อครั้ง
ขอเสนอพิเศษ
1. ไม่ต้องถ่ายรูปรถ,ไม่ต้องตรวจสภาพรถ,ไม่จำกัดอายุรถ
2. คุ้มครองทันทีที่คุณโทรแจ้งประกัน
**รับสมัครตัวแทนขายด้วยนะค่ะค่าคอมมิชั่นสุงกว่าบริษัทๆอื่นๆๆ**
ถ้าสนใจข้อเสนอนี้ ติดต่อ สุนทรี (แพรว)
โทร 081-7786141 E-mail: taw-[email protected]

 ความคิดเห็นที่: 32 / 32 : 444100

โดย: ผ่านมาดู

ผมว่าคุณ Rotary_Revolution ค่อนข้างอ่อนเรื่องเครื่องยนต์นะครับ เท่าที่ได้อ่าน ไปศึกษาให้เยอะๆหน่อยครับ