Close this window

ตาตี่งอนอีกแล้วคับสตาร์ทไม่ติด
ปิดกุญแจไฟหน้าปัดขึ้นปกติ ไฟวัดโวล์บอกที่ 12-13 กว่าๆ (ผมติดวัดโวลต์ไว้ที่รถ)บิดกุญแจจะสตาร์ทไฟหน้าปัดหรี่ลงแต่เงียบไม่มีเสียงไดสตาร์ททำงาน (ไดสตาร์ทเปลี่ยนมาไม่นาน ตอนนี้เอาของเก่าที่ถอดจากรถไปซ่อมก่อนเพราะถ่านหมด) ถ้าไม่ได้เป็นที่ไดสตาร์ทผมต้องเช็ดจากส่วนไหนต่อไปครับ เห็นใน webboard ให้ลองดูสวิตย์กุญแจกับโยกคันเกียร์ลองไป N กับ P สลับกันดู รถผมติดแก๊สแบบดูดครับ ก่อนที่จะสตาร์ทไม่ติดมีอาการเล็กน้อยก่อนจะเข้ามาจอดคือ บิดแล้วเงียบเหมือนกันแต่เป็นได้แค่วันเดียวสตาร์ทไม่ได้แล้ว ขอบคุณล่วงหน้าครับ
โดย: youngster373   วันที่: 28 Apr 2016 - 01:10


 ความคิดเห็นที่: 1 / 7 : 835919
โดย: ตั้ม ดนตรี
แบต...บางทีโวลต์ได้ แต่แอมป์ ไม่ถึงก็มีครับ

ถ้ามีรถหลายคัน ลองยกแบตตัวที่แอมป์สูงๆ มาใส่ดู อาจเป็นแบตรถกระบะ หรือรถเก๋งใหญ่ อย่าพ่วงนะครับ ให้ยกใส่ทั้งลูกเลย เพราะบางทีสายพ่วงที่ไม่ดีพอ มันก็ส่งไฟได้ไม่ดีเหมือนกัน เดี๋ยวจะวินิจฉัยปัญหาข้ามตรงนี้ไป (เผื่อเป็นที่แบต)

สายพ่วงแบตที่ผมเคยซื้อจากห้างดังมา ไม่เคยพ่วงรถคันไหนสตาร์ทติดได้เลย ในเคสเดียวกัน ผมตัดสายไฟขนาดใหญ่มามัดใส่กัน กลับพ่วงติด...

ไดร์สตาร์ทเปลี่ยนมาไม่นาน ของใหม่หรือของเก่าครับ เพิ่งเปลี่ยนมาก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่เสีย ลองใช้ด้ามค้อนเคาะๆ กระทุ้งๆ ดูครับ หรือถ้าอยากเอาชัวร์ ให้ถอดไดร์สตาร์ทมาเช็คโดยต่อตรงกับแบตดูเลย

ถ้ามันถอดยาก... ก็ให้ถอดสายแบตก่อน แล้วก็ไปถอดสายไฟ + ที่ก้นไดร์สตาร์ท (เส้นสีดำใหญ่ๆ ประมาณน้องๆ นิ้วก้อย) ถอดสายไฟโซลินอยด์ด้วย (เส้นเล็กๆ สีดำอีกเส้นอยู่ใกล้ๆ กัน)

ถ้าจะเล่นแบบครบวงจร ก็ต่อสายขั้ว - ของรถเข้าแบต แล้วหาสายไฟเส้นพอประมาณมาต่อไฟตรงจากขั้ว + ของแบตไปต่อเข้าขั้วไดร์ฯ แทนที่สายเส้นใหญ่ที่ถอดพักไว้ ตอนนี้มันจะยังไม่หมุน

จากนั้นก็หาไขควง หรืออะไรก็ได้ที่มันนำไฟฟ้าได้ แตะไฟจากขั้วที่เราต่อไฟ + ตรงจากแบตไปเชื่อมกับขั้วโซลินอยด์ (ขั้วที่เราถอดสายเส้นเล็กๆ ออก) ถ้าไดร์ฯ ปกติ มันจะหมุนพร้อมเตะก้ามปูไปขับฟลายวีล

ถ้าจะเล่นแบบไม่ครบวงจร เอาแค่ฟังว่ามอเตอร์มันหมุนหรือไม่หมุน .... หลังจากต่อสายขั้ว - ของรถเข้าแบตแล้ว ให้ต่อไฟ + ตรงจากแบตไปจี้ที่ขั้วตัวมอเตอร์เลย (ขั้วไหนมีสายจากโซลินอยด์ไปที่ตัวมอเตอร์ ก็ขั้วนั้นแหละครับ) ถ้าไม่เสียเราจะได้ยินเสียงมอเตอร์หมุน

วิธีแรก ถ้าเผลอ ระวังรถติดนะครับ อันตราย เช็คเกียร์ เช็คเบรคมือ และสวิตท์กุญแจให้ดีอย่าเปิดกุญแจไว้ที่ on ที่สำคัญ... ระวังไฟช๊อต ใช้อุปกรณ์ที่มีฉนวนหุ้มดีๆ แนะนำให้ถอดเอาไดร์ฯ มาลองข้างนอกดีกว่า

ถ้าเปลี่ยนแบตก็แล้ว
เช็คไดร์ฯ ไม่เสียก็แล้ว
ก็ไล่หาต่อไปครับ ปัญหาน่าจะแคบลงเรื่อยๆ

วิธีดังกล่าวผมอ้างอิงจาก รถผม แลนติส เครื่อง เคแอลเกียร์ธรรมดา นะครับ



ฝากอีกกระทู้

http://www.mazdaclub.net/module_view.php?mod=webboard&fn=view&cid=91818
วันที่: 28 Apr 16 - 08:45

 ความคิดเห็นที่: 2 / 7 : 835920
โดย: ตั้ม ดนตรี
ฝากอีก วิธีเล่นมอเตอร์สตาร์ท

https://www.youtube.com/watch?v=JlC_3ksYDSA
วันที่: 28 Apr 16 - 08:49

 ความคิดเห็นที่: 3 / 7 : 835925
โดย: พจน์400
1.ผมก็ติดตัววัดโวลต์แบบเสียบกับที่จุดบุหรี่ , โชว์ 11 - 12 แต่แบตฯ หมดอายุซะแล้ว
2.ถ้าสตาร์ทด้วยแก๊สนะครับ แล้วไม่ติด ลองเช็คสายไฟเข้าติ๊กตรงหม้อต้มดุนะครับ ,
ผมเคยเช็ครถไปโดนสายไฟขาดฯ)
3. ของผมมีบิดหนแรกเงียบ(บาง2-3 ครั้งเงียบ), พอฉีดน้ำยาล้างแผงวงจรเข้ารูกุญแจ อาการก็หายไปพักใหญ่ พอเป็นอีกก็ฉีดเข้าไป

หายไวๆ นะครับ
วันที่: 28 Apr 16 - 09:23

 ความคิดเห็นที่: 4 / 7 : 835927
โดย: พีระพล
ตาตี่เกียร์ออโต้แบบสาย ที่ใช้อยู่(ตอนนี้ไม่ค่อยได้ใช้ ส่วนใหญ่ใช้โครโนส)
- แบตแอมป์ไม่เต็ม แบตเสื่อม
- ไดสตาร์ท ถ่านหมด กับโซลินอยหรืออะไรนี่แหละเสีย(ที่ทำหน้าที่ผลักดันเฟืองเข้าร่องเพื่อหมุนไดสตาร์ท)
- สวิทซ์ตำแหน่งเกียร์ ตอนสตาร์ทไม่ได้แจ้งว่าอยู่ในตำแหน่ง P หรือ N
- เกียร์ออโต้แบบสาย จะมีสวิทซ์อีกตัวในชุดคันเกียร์ ทำนองว่าถ้าไม่ตัดต่อ จะสตาร์ทไม่ได้
- สวิทซ์กุญแจ
ที่เจอมาแค่นี้ครับ
วันที่: 28 Apr 16 - 09:52

 ความคิดเห็นที่: 5 / 7 : 835940
โดย: youngster373
ขอบคุณทุกท่านครับ วันนี้รอช่างเอาไดสตาร์ทของเก่าไปซ่อมจะมาใส่ให้จะสามทุ่มแล้วยังไม่มาเลย เก้อเลยรู้งี้รื้อเองแต่เช้าขับมอไซค์ไปเอาไดเองดีกว่า รอทั้งวันบอกจะมาใส่ให้เลยไม่รื้อเองเพราะตกลงกันไว้แล้ว เซ็งเลย ต้องกลับไปใช้โครโนสรถน้ำมันคันเดิมแล้วสิเนี่ย
วันที่: 28 Apr 16 - 20:59

 ความคิดเห็นที่: 6 / 7 : 835943
โดย: youngster373
เสร็จพอดีครับ ช่างมา 5 ทุ่มถึงบ้านเลยติดทำคันอื่นอยู่เป็นที่ไดสตาร์ทเลยคับ
วันที่: 28 Apr 16 - 23:55

 ความคิดเห็นที่: 7 / 7 : 835946
โดย: พจน์400
ยินดีด้วยครับที่หายป่วย
วันที่: 29 Apr 16 - 09:03