Close this window

เซียนล้างรถช่วยถ่ายทอดวรยุทธ์ทีครับ
คือช่วยแนะนำการล้างรถเองอย่างมีคุณภาพและปลอดภัยต่อสีรถด้วยครับรวมถึงการทำความสะอาดภายในรถเบาะหนังและอื่นๆที่ควรจะทำ...ขอบคุณล่วงหน้าครับ
โดย: lek_silenzer   วันที่: 19 Aug 2005 - 00:33


 ความคิดเห็นที่: 1 / 11 : 108577
โดย: ตูเองแหละ....อิอิ
ลอง Seach คำว่าล้าง...หรือเคลือบสีดูซิครับ

ขี้เกียจตอบแย๊ว...มันยาวอ่ะ
วันที่: 19 Aug 05 - 00:43

 ความคิดเห็นที่: 2 / 11 : 108621
โดย: Nuay@Protege
อืม ตามพี่ตูว่าแหละครับ ตอบไว้เยอะเชียว

แต่รถคุณเล็กสี magnetic ไม่ลำบากมากเท่าไหร่ครับ สีอ่อนจะเห็นรอยขนแมวยาก
วันที่: 19 Aug 05 - 02:01

 ความคิดเห็นที่: 3 / 11 : 108705
โดย: GoBall
สาระน่ารู้ : ล้างและเคลือบสีรถด้วยตนเอง

สำหรับคนเมืองแล้วดูเหมือนว่ารถจะกลายเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต หลายคนใช้เวลาหลายชั่วโมงต่อวันอยู่ในรถ เด็กบางคนแทบจะเรียกได้ว่าโตบนรถเลยทีเดียว เมื่อใช้รถเราก็ต้องรู้จักดูแลเพื่อให้สามารถใช้งานได้นานๆ ก็รถแต่ละคันราคาไม่น้อยนี่ครับ แต่คุณรู้มั๊ยว่ารถก็ไม่ต่างจากคน นอกจากการบำรุงรักษาภายในแล้ว
การดูแลรักษาภายนอกก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน แค่การดูแลเครื่องยนต์อย่างเดียว อาจไม่เพียงพอ หากจะพูดให้ชัดเจนยิ่งขึ้น คงต้องขอเปรียบเทียบกับคุณผู้หญิงที่ต้องการการถนอมผิว อาบน้ำ ทาครีมบำรุง ก็เจอกับแดดร้อน มลพิษ ฝุ่น ควัน มาทั้งวัน ไม่ดูแลให้ดีก็คงแย่เหมือนกัน รถยนต์ก็เช่นกันครับ ดังนั้นหากว่าเราจะหันมาใส่ใจกับเจ้าเพื่อนมีล้อให้มากกว่าเดิมอีกนิดหน่อยก็คงเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อย ลองมาดูกันดีกว่าครับว่าควรดูแลอย่างไรให้ผิวรถสวย สะอาดใส ไร้ริ้วรอย


*******เริ่มจาก... ล้างรถ เรื่องง่ายๆ ที่ง่ายจนคาดไม่ถึง:
เคล็ดลับง่าย ๆ ของการล้างรถให้สะอาด ไม่เกิดรอย และไม่ทำลายสีรถ


1. เริ่มจากฉีดน้ำครับ ฉีดน้ำให้แรงที่สุด เพื่อให้คราบฝุ่น ขี้ดิน และสิ่งสกปรกต่างๆ
หลุดออกจากตัวรถให้มากที่สุด
2. ล้างด้วยน้ำเปล่าก็สะอาดเพียงพอแล้ว แต่อาจต้องใช้แรงในการขัดถูมากหน่อย
ถ้าอยากให้ล้างง่ายขึ้น สะอาดใสปิ๊ง ก็ให้ใช้แชมพูล้างรถร่วมด้วยครับ
3. รถก็เหมือนบ้าน เวลาทำความสะอาดต้องเริ่มจากด้านบนก่อน แล้วค่อยๆ
ล้างจากส่วนบน ลงล่าง
4. ใช้ผ้านุ่ม ๆ เช่น ผ้าสำลี ล้างรถ ไม่ควรใช้ฟองน้ำเพราะเม็ดทรายหรือฝุ่น
จะติดอยู่ในรูพรุนของฟองน้ำ เมื่อถูไปกับผิวสีรถ จะทำให้เกิดรอยขีดข่วน
และถ้าทำได้ควรจะนำผ้าไปแช่น้ำไว้ก่อนสัก 3 คืน ยิ่งถ้าใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มด้วยจะดีมาก
ในขณะที่ล้างรถก็ต้องหมั่นซักและขยี้ผ้าด้วย
5. โดยทั่วไปส่วนบนของรถจะมีฝุ่นน้อย ในขณะที่ด้านล่างจะสกปรกและมีฝุ่นมาก
จึงขอแนะนำให้แยกใช้ผ้า 3 ผืน ผืนแรกใช้สำหรับล้างส่วนบน หลังคา ฝากระโปรงหน้า
ฝากระโปรงหลัง และกระจกรถ ผืนที่สองใช้ล้างด้านล่างของตัวรถ ตั้งแต่ขอบกระจก
ด้านล่างลงมา ผืนสุดท้าย ใช้สำหรับทำความสะอาดล้อ และส่วนอื่นที่สกปรกมาก
6. ฉีดน้ำไล่แชมพูออกให้หมด ใช้ผ้าแห้งนุ่มเช็ดรถให้แห้งทันที จะได้ไม่มีฝุ่นเกาะ
และไม่เกิดคราบน้ำบนผิวสีรถ


****การใช้น้ำฉีดเป็นวิธีที่ดีสำหรับการล้างรถ แต่ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่จำเป็นต้องล้างรถ โดยใช้ถังใส่น้ำ จงท่องจำเอาไว้ในใจว่า
ต้องหมั่นซักและขยี้ผ้า และต้องเปลี่ยนน้ำในถังบ่อย ๆ มิฉะนั้น สิ่งสกปรก และเม็ดทรายที่ปนเปื้อนอยู่ในน้ำ
อาจทำให้เกิดริ้วรอยขีดข่วนบนรถได้



****แชมพูล้างรถนั้น หลายคนอาจเข้าใจผิดคิดว่ายี่ห้อไหนก็เหมือนกัน แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ครับเพราะบางยี่ห้อจะมีส่วนผสม
ของสารเหนียวจำพวก wax หรือ silicon ซึ่งถ้าใช้ไปนาน ๆ รถของคุณจะเหนียวไปทั้งคันครับ ฝุ่นเกาะกันสบาย
หรือบางยี่ห้อจะมีส่วนผสมของโซเดียมคลอไรด์ หรือเกลือแกง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชำระคราบต่างๆ
แต่เมื่อใช้ไปนานๆ อาจทำให้เกิดสนิมได้ครับ สังเกตกันง่ายๆ ว่า หลังล้างรถเสร็จ ถ้ามีคราบขี้เกลือเกาะตามขอบยางหรือผิวสี
สันนิษฐานได้เลยว่าอาจมีส่วนผสมของเกลือแกงครับ


1. ไม่ควรล้างรถเองในตอนเย็น เพราะหากล้างแล้วจอดทิ้งไว้ อาจทำให้เกิดสนิมในจุดที่เราเช็ดไม่แห้ง เว้นเสียแต่ว่า คุณจะมีเครื่องเป่าน้ำให้แห้ง หรือไม่ก็ต้องยอมเปลืองน้ำมันเอารถออกไปขับไกล ๆ ให้ลมช่วยทำให้ทุกซอยทุกมุมแห้งสนิท วิธีนี้คุณผู้ชายอาจใช้เป็นข้ออ้างในการออกจากบ้านตอนเย็นๆ ได้นะครับ ไม่ว่ากัน
2. ไม่ควรล้างรถกลางแดด เพราะนอกจากคนล้างอาจไม่สบายได้แล้ว แสงแดดจะทำให้น้ำแห้งเร็วจนเช็ดไม่ทัน ซึ่งอาจทำให้เกิดคราบน้ำบนผิวสีรถได้
3. ไม่ควรใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดรถแทนการล้างรถ เพราะจะเป็นการทำลายสภาพสี ผงฝุ่นต่างๆ ที่ติดบนผ้าจะทำให้เกิดรอยขนแมวยิ่งเช็ดรถมากครั้งขึ้นเท่าไหร่ การเกิดรอยก็จะมากขึ้นตามไปด้วย
4. ไม่ควรใช้ไม้ขนไก่ หรือแปรงปัดฝุ่นทุกชนิด ปัดฝุ่น เพื่อทำความสะอาด เพราะมันเหมือนกับการใช้กระดาษทรายเช็ดรถเลยทีเดียว ในขณะที่ปัดฝุ่น ไม้ปัดฝุ่นจะลากถูฝุ่นหรือเม็ดทรายไปตามผิวสีรถ ทำให้เกิดริ้วรอยได้


1. ควรใช้ผ้านุ่ม ๆ ในการเช็ดรถ เนื่องจากผ้าเหล่านี้จะไม่ทำให้รถเป็นรอย การเช็ดรถที่ถูกต้องก็เหมือนกับการล้าง คือควรเช็ดจากด้านบนไล่ลงมาด้านล่างของรถ เพื่อให้น้ำหยดลงด้านล่างให้หมด จะได้ไม่ต้องทำงานสองต่อ
2. ส่วนของรถที่ต้องระวัง คือ ด้านในขอบประตูทั้งหมด ด้านในกระโปรงหลัง ด้านในฝาถังน้ำมัน กระจกหน้ารถ ควรเช็ดให้แห้งที่สุด อย่ามองข้ามเป็นอันขาด
3. ล้อแม็กซ์ ก็ควรจะเช็ดให้แห้งด้วย เพราะถ้าไม่เช็ดจะเกิดเป็นคราบน้ำขึ้น ถ้าปล่อยไว้นาน ๆ คราบน้ำเหล่านั้นจะเช็ดออกยากจนถึงเช็ดไม่ออกเลย



****รถยนต์ทุกคันมีอายุการใช้งานของสี แม้สีที่พ่นรถมาจะมีประสิทธิภาพสูง แต่สภาพอากาศบ้านเรา มีมลภาวะค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็น ฝุ่นละออง ควัน ไอเสีย สารเคมีในอากาศ ยางต้นไม้ ซึ่งอาจทำอันตรายต่อสีรถได้ หากใช้รถไปนานวัน แต่ไม่มีการดูแลรักษา สีรถจะดูหมอง เก่า ด้าน และสีแตกก่อนเวลาอันควร ดังนั้นการเคลือบสีจึงมีส่วนช่วยในการปกป้องสีรถ ไม่ให้หมอง เก่า ด้าน หรือสีแตกก่อนเวลาอันควร อีกทั้งยังช่วยป้องกันรอยขีดข่วน รอยขนแมว และความร้อนจากห้องเครื่องและแสงแดด ที่สามารถทำลายสีรถ ตลอดจน ปกป้องรถจากคราบสกปรกต่างๆ ที่เกิดจากมูลนก ยางไม้ น้ำค้าง ยางมะตอยได้


**** การเคลือบสีก็ไม่ยากครับ ก่อนอื่นก็เริ่มจากล้างรถให้สะอาดตามวิธีการข้างต้น แต่ไม่ต้องเช็ดแห้งนะครับ เช็ดรถแค่พอให้น้ำหมาด ๆ จากนั้นก็เทน้ำยาเคลือบสี ลงบนผ้านุ่มที่มีน้ำหมาด ๆ ขอเน้นว่าผ้านุ่มเท่านั้นนะครับ แล้วก็เริ่มเช็ดโดยวน เป็นก้นหอยให้ทั่วบริเวณตัวรถ ทิ้งน้ำยาไว้ตามระยะเวลาที่รถบุไว้ข้างกระป๋อง ช่วงนี้ก็พักไปทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ตามใจชอบ หรือถ้ามีเวลาเยอะหน่อยจะทิ้งไว้ทั้งวัน เคลือบเช้า เช็ดเย็นก็ยังได้ แบบว่ายิ่งนานยิ่งดี แต่ไม่ต้องถึงขนาดข้ามวันข้ามคืนนะครับ อันนี้เกินไปนิด พอครบกำหนดก็ใช้ผ้านุ่มเช็ดน้ำยาออกให้หมด แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จ ที่เหลือก็แค่... ใช้ตาครับ ชื่นชมกับผลงานของคุณเอง รับรองครับว่าหายเหนื่อยครับ


****แม้ว่าการเคลือบสีจะเป็นการปกป้องสีรถ แต่หากเคลือบสีอย่างเดียวบ่อยๆ สีรถอาจจะดูหมอง ๆ ไปบ้าง เนื่องจากบนผิวสีรถ อาจมีคราบสกปรก หรือคราบมลภาวะ มลพิษที่อาจจะทำลายแลคเกอร์ของรถได้ฝังอยู่ ซึ่งถ้าเคลือบทับไปบ่อยๆ ก็จะทำให้คราบสกปรกเหล่านั้นฝังตัวแน่นขึ้น ที่แย่ไปกว่านั้นคือ ถ้าเกิดมีละอองสี หรือยางมะตอยฝังอยู่โดยที่เราไม่รู้ และไม่ได้ขจัดมันออกไปก่อน เมื่อเคลือบทับลงไป สิ่งเหล่านี้จะคอยกัดกินผิวสีรถของคุณทำให้ผิวสีรถเป็นรูเล็ก ๆ รถจึงดูหมองลงได้

****ข้อแนะนำคือคุณควรจะนำรถไปขัดเคลือบสีตามศูนย์บริการต่างๆ บ้าง การขัด และเคลือบสี ก็คือการที่เรานำสิ่งสกปรกฝังแน่นที่อยู่บนหน้าแลคเกอร์ของสีรถออกไป ทำให้รถมันมีประกายด้วยตัวของแลคเกอร์รถที่แท้จริง เมื่อรถไม่มีคราบแล้ว เราก็ปกป้องความสวยของผิวสีรถนั้น ด้วยการเคลือบสี ทับลงไป ซึ่งจะทำให้รถมีความเงางาม ใส ไม่มีคราบสกปรกฝังอยู่แต่อย่างใด รถจะสวย ใสอยู่ตลอดเวลา ผิวสีรถจะลื่น น้ำและฝุ่นไม่เกาะ รถไม่หมอง แต่ไม่ต้องขัดสีบ่อยนะครับ ประมาณ 4-6 เดือนครั้งก็พอ จากนั้นก็เคลือบสีด้วยตัวเองที่บ้าน เคลือบสีนี่ขอแนะนำให้ทำบ่อย สักหน่อย อาจจะเดือนละครั้งก็ได้ครับ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกและความพอใจครับ


****วันหยุดหรือเวลาว่างถ้าไม่รู้จะทำอะไร ออกจากบ้านก็เจอรถติด เสียสุขภาพจิตเปล่าๆ ลองเปลี่ยนมาหยิบถังน้ำ ผ้า แชมพูล้างรถ แล้วมาล้างรถกันดีกว่า หรือถ้าจะให้ดีก็เคลือบสีไปด้วยเลย ได้ออกกำลังเพื่อสุขภาพกาย แถมได้รถใหม่เอี่ยมจากฝีมือเราเอง ทั้งภูมิใจ ทั้งสบายใจ บริหารสุขภาพจิตไปในตัว ถือว่าเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุดเลยทีเดียว แต่ถ้าไม่อยากเหนื่อยแรงหรือไม่มีเวลา ลองหาศูนย์บริการที่ถูกใจ ฝากฝังความงามของเจ้าเพื่อนยากให้เค้าดูแลแทนก็ได้ครับ ยอมจ่ายเงินเพิ่มอีกนิด แต่คุ้มครับ ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

copy link
http://www.carlack68ratanathibet.com/news/detail_news.php?id=457
วันที่: 19 Aug 05 - 08:53

 ความคิดเห็นที่: 4 / 11 : 108708
โดย: SuN
เยี่ยมเลยคร้าบ....
วันที่: 19 Aug 05 - 08:59

 ความคิดเห็นที่: 5 / 11 : 108709
โดย: GoBall
ผมไม่ได้เป็นเซลหรือเชียขายของอะไรนะครับ
เห็นมีเนื้อหาเกี่ยวกับการล้างรถดีๆก็เลยก็อปมา
แต่การก็อปมาก็ต้องให้เครดิตผู้พิมพ์นิดนึงนะครับ
เลยต้องใส่ลิงค์ไว้ให้ด้วย



****แก้ตัวล่วงหน้าไว้ก่อนละกัน
วันที่: 19 Aug 05 - 08:59

 ความคิดเห็นที่: 6 / 11 : 108724
โดย: WhiteM3
ขอบคุณมากก ครับคุณ GoBall ผมก็กําลังหาวิธีล้างและดูแลรถไม่ให้มีลอยขนแมวอยู่พอดี อิอิ ขอบคุณสําหรับเรื่องดีๆครับ
วันที่: 19 Aug 05 - 09:41

 ความคิดเห็นที่: 7 / 11 : 108750
โดย: black_bird
1 เลือกล้างเวลาเช้าครับดีที่สุด เพราะฝากระโปรงไม่ร้อน จานดีสเบรคท่านไม่ร้อน ถ้าดีสท่านร้อนๆแล้วโดนน้ำเย็นๆเขาบ่อยไม่ดีแน่ อาจจะดุ้งได้ และจะสะท้านมาที่เท้าถ้าท่าทำบ่อยๆ

2 ล้างล้อก่อนครับ เนื่องจากล้อ เจ้า3 จะเลาะมากที่ล้อหลัง และถ้าจะให้เอี่ยมก็ต้องล้วงกันครับ แล้วถ้าท่านล้างรถก่อนล้างล้อจะทำให้รถของท่าน แห้งโดยไม่ได้เช็ดได้ ซึ่งไม่ดีต่อสีรถของท่านเองแน่ๆ

3 เปิดน้ำให้แรงแล้วฉีดไปที่รถครับให้ทรายหลุดออกให้มากที่สุด แล้วให้ล้างด้วยมือเปล่าก่อนครับ เพราะจะทราบว่าทรายติดมือท่านแล้วจะได้ล้างออก ไม่เหมือนผ้า ถ้าผ้ามีทรายมาติดท่านจะไม่ทราบเลย แล้วให้ล้างจากข้างบนลงข้างล่างครับ

4 แล้วล้างด้วยแชมภูอ่อนๆ มี pH เป็นกลางที่สุดครับ ใช้ผ้าใยสังเคราะห์จะดีที่สุดครับ พยายามอย่าให้รถท่านแห้งเองนะครับ ฉีดน้ำเข้าไว้ เพราะคลอรีนในน้ำไม่ดีต่อสีของท่านแน่ๆ

5 เอารถเข้าที่ร่ม (ท่านอาจล้างในที่ร่มแต่แรกเลยก็ได้ครับ) รีบเช็ดให้แห้งด้วยผ้าใยสังเคราะห์ จากนั้นถ้ามีปั๊มลม ใช้ลมเป่าตามซอก ประตู ไล่น้ำออกไปให้หมดครับ รวมทั้งล้อด้วยอย่าลืมช่องฝาเติมน้ำมันด้วยนะครับ

6 เช็ดทำความสะอาดภายใน และตามซอกประตู แล้วจะดูดฝุนหรือเคลือบเบาะอะไรก็แล้วแต่ท่านครับ

7 เคลือบสี อันนี้ก็แล้วแต่ท่านครับ ผมเองไปทำ ming มาก็เลยไม่ต้องเคลือบ แต่ก็ยังมีบ้างที่เคลือบเอง ผมใช้ของ zymal ครับอันนี้ใช้ดีครับ เป็น wax ธรรมชาติ สีฉ่ำเลยครับ ผมว่าดีกว่าแมกไกวด์ซะอีก ใช้มาหลายขวดแล้วกับคันเก่า เวลาขัดยาเคลือบก็ให้ใช้ผ้าใยสังเคราะห์จะดีที่สุดครับ และเคลือบก็อย่าเคลือบทั้งคันแล้วค่อยขัด ให้เคลือบเป็นส่วนๆไปแล้วขัดออกจะทำให้ได้ผลดีกว่าครับ

8 เคลือบกระจกเพราะมันจะช่วยท่านได้มาเวลาฝนตก ผมเองแทบไม่ต้องเปิดที่ปัดน้ำฝนเลยเวลาฝนตก เพราะน้ำจะไม่เกาะกระจก

9 เช็ดทำความสะอาดภายในห้องเครื่องครับเพราะตอนล้างจะมีน้ำเข้าไปเล็กน้อย แต่ฝุ่นเวลาวิ่งจะมีเยาะมากครับ เช็คน้ำ น้ำมัน อื่นที่ต้องเช็คด้วยครับ เป่าหม้อกรองอากาศด้วยก็ได้ถ้าจำเป็น

10 เคลือบยางของท่านเพราะจะช่วยรักษาแก้มยางครับ แล้วเอารถของท่านออกไปวิ่งซะหน่อย จะทำให้ใต้ท้องรถและจานดีสแห้งไม่เป็นคราบสนิมเกาะ

เอาแค่นี้นะครับเพราะนึกได้เท่านี้ ถ้าเพื่อนๆมีอะไรเพิ่มเติมก็บอกกล่าวกันได้ เพราะผมทำอย่างนี้เป็นประจำ ทุกอาทิตย์ ใช้เวลา 4 ชั่วโมงแนะ เหนือยโครตๆ แต่ก็ยิ้มได้ครับเมื่อเห็นรถเอี่ยมๆ
วันที่: 19 Aug 05 - 11:09

 ความคิดเห็นที่: 8 / 11 : 108762
โดย: black_bird
อีกนิดการไปเคลือบสี หรือไปให้คนอื่นล้างรถของท่านจะต้องดูสักนิดนะครับว่าไว้ใจได้หรือเปล่า ผมเองไม่เคยให้ที่ไหนล้างเลยนอกจาก ming เท่าที่ดูเขาล้างก็ไว้ใจได้ครับ (แต่ผมล้างเองดีกว่า) อยากแน้ว่าให้ดูเวลาที่เขาทำครับ อย่างการเคลือบสี ถ้าไปที่ร้านไม่ดีรถท่านอยาจเป็นรอยวงๆขนแมว มาได้ เนื่องจากเขาใช้เครื่องขัด แต่ไอผ้าหรือใบขัดนี่สิสำคัญ ถ้า 0 ดีๆหน่อย จะใช้ฟองน้ำครับเนื้อจะนุ่มละเอียด ถ้าเป็นไปได้เคลือบเองจะดีกว่าครับ เพราะจะไม่เป็นรอย เนื่องจากไม่ได้ใช้เครื่อง แต่อาจต้องเครือบบ่อยหน่อย

ผมเองเคยทะเลาะกับ 0 มาแล้ว เข็ดเลยครับ ลองหากระทู้เก่าๆดูเคยเขียนไปแล้วว่าไอ้ พรีเมียมกับฮอนด้ามันเลวขนาดไหน ไม่เข้าอีกเลยครับ

พึงละลึกไว้เสมอว่าไม่มีใครดูแล และรัก รักษารถของท่านดีเท่ากับตัวท่านเอง อย่าได้ไว้ใจคนแปลกหน้าครับ โดยเฉพาะคนที่ท่านไม่รู้จัก แล้วท่านมอบรถที่ท่านรักไปให้เขา ทำความสะอาดได้ไง ซึ่งอันนี้เป็นความจริง ถ้าไม่เชื่อท่านลองดูรถของท่านเองซิว่ามีรอยอะไรบ้าง เน้นว่าดูให้หมดนะครับ (ผมจำได้ทุกรอยว่าที่รถผมมีรอยตรงไหนบ้าง) แล้วให้คนอื่นล้างแล้วค่อยมาดูใหม่ซิครับ ท่านจะพบกับความสยดสยอง ว่ามัน.... มากๆ
วันที่: 19 Aug 05 - 11:23

 ความคิดเห็นที่: 9 / 11 : 109000
โดย: teeman
ผมเนี่ยเห็นด้วยกับคุณblack_birdครับว่าถ้าว่างเนี่ยล้างเองดีที่สุด ผมก็ล้างเองและก็เคลือบเองเหนื่อยมากๆแต่ก็happyครับแถมสบายใจด้วย
วันที่: 19 Aug 05 - 21:10

 ความคิดเห็นที่: 10 / 11 : 109344
โดย: ตูเองแหละ....อิอิ
ขัดเคลือบกับพรีเมี่ยม(ฮอนด้า)...นรกชัดๆ
วันที่: 20 Aug 05 - 00:53

 ความคิดเห็นที่: 11 / 11 : 109345
โดย: ตูเองแหละ....อิอิ
กระทู้ขัด+เคลือบสี ผมกับเนยเคยเขียนไว้เยอะ...ลองSeachดูนะครับ

ส่วนการล้างรถนี่..ว่างๆจะ DIY ให้ดูครับ
วันที่: 20 Aug 05 - 00:55