Close this window

ทำอย่างไรเมื่อเครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติด
เจอบทความในหนังสือแหล่งรถ 6/2005 ของ อ.ธิติ ธาตรีนนท์ เลยเอามาฝากกันครับ

เครื่องยนต์ : ก็คือกลไกทางเครื่องยนต์ต่างๆ ที่มนุษย์สร้างขึ้นมา ประกอบกันเป็นเครื่องสามารถทำงานได้ ใช้ไปก็เสื่อมตามสภาพไปตามการใช้งาน และก็สามารถขัดข้อง หยุดทำงานลงได้อย่างกะทันหันโดยไม่สามารถรู้ล่วงหน้า อาการเครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติดของรถยนตืจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ไม่มีใครสามารถจะบอกล่วงหน้าได้ นอกจากได้รับการดูแลบบำรุงรักษาที่ดี ก็สามารถป้องกันได้

มอเตอร์สตาร์ท : คืออุปกรณ์ส่วนหนึ่งของรถยนต์ เป็นมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง 12 volt หัวใจสำคัญสำหรับการเริ่มเพื่อสตาร์ทให้เครื่องยนต์ทำงาน
ปัญหาเครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติดพอจะแบ่งการวินิจฉัยปัญหาออกได้ 2 กรณี ขึ้นอยู่กับอาการที่เกิดขึ้นในขณะที่ท่านบิดกุญแจสวิทช์กุญแจไปที่ตำแหน่งสตาร์ (ตำแหน่ง sT หรือตำแหน่ง 3) อาการที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นลักษณะใดลักษณะหนึ่งดังต่อไปนี้
- สตาร์เครื่องยนต์ไม่มีเสียงทำงาน
- สตาร์ทเครื่องยนต์ได้ยินเสียงมอเตอร์สตาร์ททำงาน หมุนช้า หรือไม่หมุน
- สตาร์ทเครื่องยนต์หมุนปกติ แต่เครื่องยนไม่ติด

อาการทั้งสามประการ สามารถตรวจสอบพื้นฐานด้วยตัวเอง เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเบื้องต้น ซึ่งมีหลักการดังต่อไปนี้
1. สตาร์ทเครื่องยนต์ไม่มีเสียงทำงาน

กรณีเช่นนี้ทุกครั้งที่ทำการบิดสวิทช์กุญแจสตาร์ทเครื่องยนต์ "เงียบ" ไม่ได้ยินเสียงมอเตรอร์สตาร์ททำงาน ต้องตรวจสอบดังนี้
1.1 ถ้าเป้นรถใช้เกียร์ออโตเมติก ต้องตรวจเช็คคัน่เข้าเกียร์ให้อยู่ในตำแหน่ง P or N เท่านั้น รถยนต์ที่ใช้เกียร์ออโตเมติก ระบบสตาร์ทต้องมีความปลอดภัย เพื่อป้องกันอันตรายจากการสตาร์ทเครื่องยนต์ในตำแหน่งที่ผิด เกียร์ออโตเมติกถูกออกแบบมาให้สามารถสตาร์ทได้ทีตำแหน่ง p and n เท่านั้น แต่ก็มีรถยนต์รุ่นใหม่สตารืทได้เฉพาะ p เท่านั้นที่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้อย่างปลอดภัย
แต่ถ้าถ้าเข้าเกียร์อยู่ในตำแหน่งในการสตาร์ทเครื่องยนต์ให้ติดได้ แล้วเมื่อตำแหน่งนั้นไม่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ได้ และไม่มีเสียงอะไรเกิดขึ้น มอเตอร์สตาร์ทไม่ทำงาน ฟิวส์มันอาจจะขาด ให้ลองตรวจสอบดูแล้วทำการเปลี่ยนให้มีขนาดแอมป์เท่าเดิม ก็จสามารถทำให้สตาร์ทเครื่องยนต์ได้

2. สตาร์แล้วมีเสียงทำงาน มอเตอร์สตาร์ทอาจจะหมุนช้า หรือไม่หมุน
ตรวจสอบแบตเตอร์รี่ ถ้าแบตเตอรรี่ไฟเหลือน้อย ขึ้นหลวม หรือสกปรก เวลาสตารืทเครื่องจะได้ยินเสียงการทำงานมอเตอร์สตาร์ท อาจจะหมุนแต่ช้า หรือเสียแก๊กๆ แต่ไม่หมุน สามารถตรวจสอบแบตเตอร์รี่งายๆ ดังนี้
2.1 ตรวจสอบจากการเปิดไฟใหญ่ ไฟใหญ่จะใช้กระแสไฟสุงมาก สามารถตรวจสอบได้ดังนี้
- ปิดสวิทช์กุญแจนน ไว้ที่ตำแหน่ง ON
- เปิดสวิทช์ไฟใหญ่
จากการเปิดสวิทช์ไฟใหญ่ ถ้าไฟใหญ่หรี่มาก หรือไม่ติดเลย แสดงว่าแบตเตอรี่ไฟหมด ขั้วแบตเตอรรี่ หลวม หรือสกปรก
2.2 ตรวจจากขั้วแบตเตอรรี่ แบตเตอรรี่เมือ่ถูใช้งานไปเป้นเวลานาน ขึ้นแบตเตอรี่จะเกิดสิ่งสกปรกจับอยู่ที่ขั้วสายแบตเตอรรี่ กลายเป็นฉนวนกั้นระหว่างขึ้วแบบเตอรี่กับสายแบบเตอรรี่ หรือขั้วสายแบตเตอรรี่ถูกกัดกร่อน จนสึกและหลวม ล้วนเป็นสาเหตุให้ไฟเดินไม่สะดวก ทำให้มอเตอร์ไม่หมุน หรือหมุนช้า ขณะสตาร์ทเครื องยนต์สามารถตรวจสอบได้ดังนี้
- ดูด้วยจตา ขั้วสกปรกเต้มไปด้วยขี้เกลือสีเท่าเปียกชื้นจับอยู่
- ขั้วสึกกร่อน สกปรก
- เวลาสตาร์เครื่องยนต์ ขั้วแบตเตอรี๋ที่ไฟเกินไม่สะดวก จับดูจะรุ้สึกอุ่นๆ หรือร้อน

ถ้าแบตยังมีไฟอยู่ ให้ทำความสะอาดขึ้นแบตเตอรรี่ และขันให้แน่ ก้จะสามารถสตารืทติดได้

3. มอเตอร์สตาร์หมุนทำงานปกติ ในขณะสตาร์ทเครื่องยนต์ โดยถ้ามอเตอรืสตร์ทหมุนปกติ แต่เครื่องยนต์สตาร์ทไม่ติด ถ้าตรวจพื้นฐานด้วยตนเอง ไม่พบสาเหตุ ควรจะให้ช่างระบบไฟที่ชำนาญตรวจซ่อม


ความผิดปกติของการสตาร์ทเครือ่งยนต์มักจะเกิดจากการขาดพื้นฐานในการดูแลรักษาแบตเตอรี่ที่ต่อเนื่องและดถูกต้อง โดยเฉพาะการทำความสะอาดแบตเตอรี่ ทำความสะอาดขึ้นแบต และการตรวจเติมทนำกลั่น ซึ่งมีความสำคัยมาก ซึ่งท่านสามารถที่จะดูแลส่วนนี้ได้ด้วยตัวเท่าเอง และทำอย่างสม่ำเสมอ


พิมพ์บางครั้งก็งง ตัวเองเหมือนกันครับ
โดย: aun   วันที่: 3 Oct 2005 - 14:49


 ความคิดเห็นที่: 1 / 2 : 486299
โดย: aun
อยากเห็นรูปภาพชิ้นส่วนของมอร์เตอร์สตาร์ท
วันที่: 27 Jul 09 - 12:24

 ความคิดเห็นที่: 2 / 2 : 486485
โดย: หนุ่ม Cronos 5D V6 + LPG
ที่ชาวบ้านเรียก ๆ กันว่า ไดสตาร์ท นั่นแหล่ะครับ
ซ่อนอยู่ข้าง ๆ เสื้อสูบและเกียร์
ลองไล่สายไฟขั้วบวก(+) เส้นใหญ่ ๆ จากแบตเตอรี่ดูครับ สายไฟไปสิ้นสุดตรงตัวมอตอร์สตาร์ทครับ (จะมีโซลินอยด์ กระบอกเล็ก ๆ กั้นอยู่หน่อยนึง)
วันที่: 27 Jul 09 - 16:36