ใช้ mazda 3 2.0 ได้มาสัก 6 เดือนโดยประมาณครับ

ตอนแรกๆ กินน้ำมันค่อยข้างมาก 6.5 โลลิตร (ตลอด 5 เดือนคงที่) แต่ว่ิงในเมืองตลอด บวกเข้าไปติดในสยามทุกวัน แต่ระยะหลังๆ ปรากฏว่า เติมน้ำมันเท่าเดิม แต่จับกิโลได้เพ่ิม เลยรู้สึกแปลกๆ แต่วิธีการขับผมเปลี่ยนไปนิดนึง ปกติจะค่อยๆ เหยียบ เกียร์ 3 ไป 4 จะเปลี่ยนที่ประมาณ 40 km/h แต่ช่วงนี้จะเหยียบแรงหน่อยที่ เกียร์ 3 เพื่อให้ไปเป็น 4 แถวๆ 50-60 km/h

พอจะมีคำอธิบายได้ไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้น ผมงงกับเจ้าสามเหมือนกัน

อ้อ อีกเรื่อง สังเกตุว่า ที่เกียร์ 2 ไม่ค่อยมีแรงเลย ทั้งที่จริงน่าจะแรงกว่า 3 แต่เวลากด 2 แรงๆ มันกลับอืดๆ ต้องใช้วิธีเหยียบเบาๆ ให้เป็น 3 ก่อน แล้วจากนั้น zoom zoom เลย

หรือว่า mazda 3 หมายถึง แรงมาที่เกียร์ 3 (ขำกัน)

รบกวนผู้รู้อธิบายหน่อยคับ

โดย: R25   วันที่: 21 Jan 2006 - 04:28

 ความคิดเห็นที่: 1 / 12 : 169099

โดย: r25

แต่ถ้าวิ่งตจว.เนี่ย 11-12 โลลิตรได้เลย

 ความคิดเห็นที่: 2 / 12 : 169101

โดย: *~B3S~*

ตามหลักแล้ว รถจะใช้น้ำมันได้เกิดประสิทธิผล มากที่สุด ก็คือที่รอบต่ำที่สุดของเกียร์สูงสุดครับ งง. ป่ะ

ที่ว่าได้ประสิทธิผลมากที่สุดก็คือ น้ำมันที่เสียไปนั้น แลกมาให้ได้ซึ่งแรงบิด และรอบที่ดีที่สุดครับ เช่นถ้าเป็นที่จังหวะอื่น ๆ อาจจะต้องใช้น้ำมันมากขึ้น หรือว่า ถ้าที่จังหวะดังกล่าวใช้น้ำมันน้อยกว่านี้ ก็จะไม่ได้แรงตามนี้

ดังนั้น การที่คุณเร่งให้ถึงจุดดังกล่าวให้เร็วขึ้น รถย่อมใช้น้ำมันได้เกิดประโยชน์ที่สุด แต่นั้นหมายความว่า ขึ้นไปแล้ว อยู่ได้นาน ๆ นะ ถ้าขับแบบนี้ ในเมือง คือเร่งและหยุดบ่อย ๆ ก็จะเสียดุลในจุดที่ต้องเร่งบ่อย ๆ ระหว่างจาก 1-3 นั้นแหละครับ

แล้วอีกอย่างน่ะ ผมว่าเกียร์ 4 ที่ความเร็วต่ำ (40km/h) อ่ะ มันช้าไปครับ รถน่าจะซดน้ำมัน มากกว่าที่ราว ๆ 60-90 Km/h นะครับ

 ความคิดเห็นที่: 3 / 12 : 169106

โดย: r25

ขอบคุณ คุณ B3S มากเลย แสดงว่าการเหยียบแรง บางทีก็ควรทำใช่ไหม
แต่ไม่ทราบว่าของคนอื่นๆ เปลี่ยนเกียร์เร็วแบบผมหรือเปล่า ตอนที่ผมขับแรกๆ เท้าเบามาก เกียร์เปลี่ยนเร็วมาก 30 km ก็ไป 3 / 40km ก็ไป 4 เลย

แต่อีกส่วนหนึ่งก็เพราะระยะทางที่วิ่งของผมส่วนมากแต่ละการจอด ไม่เกิน 5-6 km ไม่ค่อยไปไหนไกลมากกว่านั้น เลยทำให้การกินน้ำมันเยอะก็เป็นได้

 ความคิดเห็นที่: 4 / 12 : 169122

โดย: bhp =^.^=

...เกียร์สุดท้ายเหมาะสำหรับการเดินทาง หรือขับด้วยความเร็วคงที่ จะทำให้ประหยัด
...แต่ถ้าใช้เร่งแซงที่ความเร็วต่ำจะทำให้รถไม่มีกำลัง กินน้ำมัน แถมแซงก็ช้า...... ใช้ในเมืองในสภาพที่ต้องเร่งแซงบ่อย ลองใช้โหมด m ล็อคไว้ที่เกียร์ 3 ดูจิ....

 ความคิดเห็นที่: 5 / 12 : 169133

โดย: Aradene

ใครมีกราฟแรงม้า กับแรงบิดมั่งครับ

 ความคิดเห็นที่: 6 / 12 : 169354

โดย: นายหนึ่ง ... มั่วอย่างมีชั้นเชิง

ประหยัดเมื่อใช้รอบการทำงานที่สูงพอระดับหนึง และอยู่บนอัตราทดที่เหมาะสมในความเร็วขณะนั้น

 ความคิดเห็นที่: 7 / 12 : 169374

โดย: นังโรลออน มั่วมีแต่ชั้นพุง

^
^
^
^
ชอบชื่อคนข้างบนจัง
เท่ดีอ๊ะ อิอิ

 ความคิดเห็นที่: 8 / 12 : 169507

โดย: ManualMan มั่วอย่างเนียน

การลากรอบนิดหน่อยไม่ได้หมายถึงจะเป็นการทำให้รถกินน้ำมันมากขึ้นนะ
แต่กลับกันการที่ใช้รอบต่ำๆ แต่พยายามจะเพิ่มความเร็วโดยเหยียบคันเร่งไม่แรงมาก
เพราะกลัวมันคิ๊กดาวน์ กลายเป็นการบอกให้ ECU เพิ่มอัตราส่วนน้ำมันให้หนาอีก
แรงลัพธ์ที่ได้ก็ไม่เยอะ ไม่คุ้มกับน้ำมันที่เสียไป เผาไหม้ไม่หมดจด
เขม่าจับตามวาล์วไอเสียอีก ยิ่งอั้นยิ่งอืด แย่ไปกันใหญ่ (เวอร์ไปป่าวเนี่ย)
ผมว่าการลากรอบนิดหน่อย ให้รถได้ยืดเส้นยืดสายอยู่ตลอด เป็นการใช้น้ำมันได้คุ้มค่ากว่ามั้ง

 ความคิดเห็นที่: 9 / 12 : 170912

โดย: TAP-MZR

รูปกราฟแรงม้า www.tarad.com/mazda3/ ครับ

การขับที่ประหยัดน้ำมันต้องใช้ความเร็วให้เหมาะสมกับเกียร์ด้วยครับ

เมื่อต้องแซงก็ใช้เกียร์ต่ำลงมาเพื่อเรียกรอบ

การเหยียบที่เกียร์สูงจะกินน้ำมันมากว่าครับ

 ความคิดเห็นที่: 10 / 12 : 170929

โดย: Nuay@Protege

ผมอาจจะความคิดแตกต่างกับคนอื่นนะ

ผมว่าการที่รถกินน้ำมันน้อยลง อาจจะไม่ได้เป็นเพราะคนขับซะทีเดียว แต่รถมันพ้นระยะรันอินต่างหาก..

เพราะดูจากที่คุณเจ้าของกระทู้บอกมา เกียร์ 1-2 ขับเหมือนเดิม แต่เหยียบคันเร่งเพิ่มที่เกียร์ 3 นั่นหมายความว่าช่วงตอนเปลี่ยนมาเข้าเกียร์ 3 ยังใช้รอบต่ำและเดินคันเร่งในลักษณะเดิม ตราบใดที่พอเลขแสดงตำแหน่งเกียร์โชว์เลข 3 ขึ้นมาแล้ว ค่อยเหยียบเยอะขึ้น ซึ่งผลการกินน้ำมันไม่น่าจะแตกต่างไปมาก อาจจะมีความแตกต่างนิดหน่อยจากการชดเชยเมื่อรถเปลี่ยนขึ้นเป็นเกียร์ 4 ที่ไม่ต้องใช้กำลังมาฉุดลากที่รอบต่ำจนเกินไปเหมือนเดิม

ส่วนเรื่องที่พอเข้าเกียร์ 3 แล้วมันถึงจะวิ่ง ถ้าให้ผมเดาก็คงจะเป็นว่า ความเร็วช่วงเกียร์ 3 มักจะอยู่ประมาณ 40-50 กม./ชม. จากข้อมูลที่ให้มา ซึ่งเป็นช่วงที่ Lock-up ของเกียร์เริ่มทำงานพอดี อัตราเร่งก็เลยดูลื่นไหลเป็นพิเศษ เพราะการส่งต่อกำลังนั้นแทบไม่สูญเสียเหมือนเกียร์ต่ำต่ำ

แต่รับรองว่า ถ้าคุณส่งมาตั้งแต่เกียร์ 1 ให้รอบเครื่องยนต์ป้วนเปี้ยนอยู่ระดับ 2500-3000 รอบต่อนาที มันก็มีแรงกระฉับกระเฉงมาแต่แรกแหละ ผิดแต่ว่าเข็มน้ำมันจะตกฮวบฮาบกว่าที่เคยก็เท่านั้นเองครับ

จากประสบการณ์ที่ใช้มาทั้งโปรทีเจ 1.6 และมาสด้าสาม 1.6 ผมใช้อัตราสิ้นเปลืองในเมืองไม่เคยได้เกิน 7 กม./ลิตร สำหรับโปรทีเจ ไม่ว่าจะย่องเบามากมาก หรือขับแบบสนุกตามอารมณ์ มันก็อยู่ประมาณ 6.5-7 กม./ลิตร คือกินแทบไม่แตกต่างเท่าไหร่ครับ ถ้าเจ้าสามล่ะดีหน่อย อยู่ประมาณ 7.5 กม./ลิตร

 ความคิดเห็นที่: 11 / 12 : 172038

โดย: R25

พึ่งนึกได้ว่า เติมลมยางจาก 32 เป็น 33 คิดว่าน่าจะมีผลเหมือนกันครับ

 ความคิดเห็นที่: 12 / 12 : 172325

โดย: ...

เข้า 0 เลยครับ แปลกๆแบบนี้ต้องทุบ