Close this window

ช่วงล่างmz3กับรถเก่าในอดีตกาล
ลองเปรียบเทียบกันดูนะคับว่าช่วงล่างของmz3กับรถเก่าที่ใช้ ดับเบิ้ลวิชโบนทั้ง4ล้อกันนะคับ
1.น้อง3ของเราๆ ใช้ช่วงล่างด้านหน้า แม็คเฟอร์สันสตรัท ส่วนด้านหลังใช้ มัลติลิ้ง (ยังไม่ใช่ มัลติลิ้งแท้ๆนะคับเพราะ น้อง3ของเราๆดันเอาโช้คอัพแยกกันกะสปริง เพื่อเพิ่มให้มีเนื้อที่ในห้องโดยสารมากขึ้นในที่นั่งตอนหลัง )
2.น้อง3ของเราๆที่บอกว่าเข้าโค้งดีนักดีหนานั้น (จะดีสู้ ดับเบิ้ลวิชโบนทั้ง4ล้อได้หรือเปล่าหรือพวกมัลติลิ้ง 4ล้อ) น้อง3ของเราๆนั้นใช้โช้คอัพกะสปริงที่เซ็ตมาค่อนค่างแข็ง ทำให้มีความรู้สึกว่าถ้าเข้าโค้งไม่ถึงกับแรงมาก ทำให้มีความรู้สึกว่าเกาะถนนมากก...... แต่ในกรณีที่รถสูญเสียการทรงตัว ที่เกิดขึ้นกับรถขับหน้านั้น(อาการนี้เรียกว่าอันเดอร์สเตียร์)จะรู้สึกได้ว่าช่วงที่ล้อหลังที่ขนานกับถนนอยู่ดีๆ ก้อเกิดอาการล้อข้างใดข้างหนึ่งอาจจะไม่เกาะติดพื้น(ถ้ามีEPSก้อแล้วไป)อาจทำให้รถหมุนได้ ถ้าไม่แก้พวงมาลัยคืนอาการนี้เกิดขึ้นได้เพราะจากช่วงล่างหลังที่นำโช้คแยกออกจากสปริงนั้น ทำให้กรณีที่เข้าโค้งแรงๆจนเสียการควบคุมนั้นตัวช่วงล่างไม่ได้บิดตัวไปกับตัวถัง(ใครที่ขับรถซิ่งๆไอ้พวกที่ชอบดึงเบรกมือบ่อยๆเข้าโค้งเล่น ลองขับรถเข้าอู่สีใหญ่ให้เค้าลองจับวัดตัวถังรถดูนะรับรองว่าเบี้ยวผิดรูปไปแน่ๆ) แต่ในกรณีรถเก่า10กว่าปีที่ดับเบิ้ลวิชโบนทั้ง4ล้อที่ออกแบบมาโดยไม่ค่อยคำนึงถึงห้องโดยสารกันซักเท่าไรในสมัยนั้น ทำให้สามารถมีเนื้อที่ที่จะสามารถติดตั้งช่วงล่างอิสระแท้ๆลงไปได้ (ผมไม่อยากเขียนลงลึกไปมากกว่านี้นะมันจะยาวอะ) สรุปเอาเป็นว่าง่ายๆก้อคือ รถสมัยนี้ค่อนข้างแข่งกันเรื่องห้องโดยสารเป็นหลักแล้วค่อยมาคิดถึงช่วงล่างทีหลังทำให้ความสามารถในการเข้าโค้งลดลง แต่ชดเชยด้วยการเซ็ตค่าสปริงกับโช้คที่แข็งหน่อย เชื่อไม่เชื่อก้อลองดูพวกไอ้แมงสาบ 3ประตู(ใช้ดับเบิ้ลวิชโบนอิสระ4ล้อ)ของค่ายฮอนด้า ดูถ้าวันใดฟลุ๊กไปเจอพวกแต่งเต็มแล้วละก้อแพ้ทั้งความแรงและช่วงล่างแง่ๆ




ผมเปรียบเทียบกะรถในอดีตนะคับ ไม่ได้บอกว่ารถรถน้อง3ของเราๆไม่ดีนะ(ผมก้อใช้mz3)แต่อยากผู้ให้ฟังกันเฉยคับคับ แต่ถ้าเปรียบเทียบกับรถในปัจจบันในคลาสเดียวกันผมก้อว่าช่วงล่างของเราเยี่ยมที่สุดนะ(แต่ระวังพวกรถเก่าแต่งซิ่งให้ดีละกัน...........อิอิ)
โดย: jjjj   วันที่: 9 Feb 2006 - 03:01

หน้าที่: [1]   2

 ความคิดเห็นที่: 1 / 21 : 175094
โดย: Niceguy_C
ไม่ต้องไปเทียบกับ 3 ประตูหรอกครับ แค่แลนติสกับโปเต้ นั่นผมว่า มันเกาะกว่าเจ้า 3 แล้ว

แต่ทั้ง 2 คันกลายเป็นว่า สำหรับคนไหนที่ชอบก็ชอบเลย เพราะมันทำให้ขับสนุกจริงๆ(ผมขับโปเต้ของน้องยังรู้สึกสนุกกว่าขับเจ้า3เลย) แต่ก็มีปัญหาว่ามันกระด้างทำให้บางคนที่ไม่ชอบก็ไม่ชอบเลย

ทางมาสด้าก็เลยต้องปรับให้มันนุ่มขึ้นน่ะครับ เพื่อที่จะได้มีลูกค้าเพิ่มขึ้น แต่ถึงจะนุ่มขึ้นยังไง ก็ยังกระด้างกว่ายี่ห้ออื่นอยู่ดี แต่ก็ยังถือว่าเกาะกว่ารถบ้านจากญี่ปุ่นอื่นๆอยู่มากเหมือนเดิม
วันที่: 09 Feb 06 - 06:56

 ความคิดเห็นที่: 2 / 21 : 175098
โดย: ManualMan
เห็นด้วยอย่างแรง มันเก็บอาการ แต่เหมือนกับว่าจะหลุดก็หลุดเลย
ตอนผมไปปาย นั่ง 2 คนสัมภาระท้ายรถประมาณ 50 โล ยาง 215
เข้าโค้งแรงๆจริงๆ เหมือนจะหลุดไปทีนึง(อันเดอร์สเตรียร์)
ต้องหักพวกลัยคืน รถส่ายเป็นงู แฟนตื่นมาด่าอีกว่าทำไมขับรถเร็วมันอันตราย
โชคดีช่วงที่ผมขับรถเช่า ผมเอาไปสาดโค้งหนักๆบ่อยๆ เลยแก้พวงมาลัยเป็น
ถ้าหลุดไปจริงๆ ซวยเลย จากนั้นก็เลยต้องระวังการเข้าโค้งกว่าเดิม อิ อิ
วันที่: 09 Feb 06 - 07:51

 ความคิดเห็นที่: 3 / 21 : 175110
โดย: rcw
อาการอันเดอร์สเตียร์ ดูจะไม่ใช่เรื่องใหญ่นัก เพราะเมื่อรถลดระดับความเร็วลงจากเดิม อาการที่ว่านี้ก็จะหายไป หรือ ไม่ปรากฏ และรถในปัจจุบันนี้ก็สามารถกำหนดได้ว่าจะให้ค่าของการอันเดอร์สเตียร์อยู่ที่ลิมิตเท่าไหร่ ขณะที่ โอเวอร์สเตียร์ ดูจะควบคุมได้ยากกว่า อันเดอร์สเตียร์

โอเวอร์สเตียร์ คือ อาการที่ด้านท้ายของรถเกิดการปัด และ พยายามจะแซงขึ้นหน้า ขณะที่ด้านหน้ารถกำลังเข้าโค้งอยู่


under อาการคือ ดื้อโค้ง เลี้ยวไม่ยอมเข้า
over คือ เข้าโค้งแรงๆแล้วตูดปัด
วันที่: 09 Feb 06 - 08:53

 ความคิดเห็นที่: 4 / 21 : 175126
โดย: ton_mct
//
ยังไม่ใช่ มัลติลิ้งแท้ๆนะคับเพราะ น้อง3ของเราๆดันเอาโช้คอัพแยกกันกะสปริง เพื่อเพิ่มให้มีเนื้อที่ในห้องโดยสารมากขึ้นในที่นั่งตอนหลัง
//

มันเกี่ยวกันตรงไหนไม่ทราบครับ ว่าแท้หรือไม่แท้ ไม่เกียวกับต่ำแหน่งโช้คที่แยกกะสปริงหรอกครับ

//
.น้อง3ของเราๆที่บอกว่าเข้าโค้งดีนักดีหนานั้น (จะดีสู้ ดับเบิ้ลวิชโบนทั้ง4ล้อได้หรือเปล่าหรือพวกมัลติลิ้ง 4ล้อ) น้อง3ของเราๆนั้นใช้โช้คอัพกะสปริงที่เซ็ตมาค่อนค่างแข็ง ทำให้มีความรู้สึกว่าถ้าเข้าโค้งไม่ถึงกับแรงมาก ทำให้มีความรู้สึกว่าเกาะถนนมากก...... แต่ในกรณีที่รถสูญเสียการทรงตัว ที่เกิดขึ้นกับรถขับหน้านั้น(อาการนี้เรียกว่าอันเดอร์สเตียร์)จะรู้สึกได้ว่าช่วงที่ล้อหลังที่ขนานกับถนนอยู่ดีๆ ก้อเกิดอาการล้อข้างใดข้างหนึ่งอาจจะไม่เกาะติดพื้น(ถ้ามีEPSก้อแล้วไป)อาจทำให้รถหมุนได้ ถ้าไม่แก้พวงมาลัยคืนอาการนี้เกิดขึ้นได้เพราะจากช่วงล่างหลังที่นำโช้คแยกออกจากสปริงนั้น ทำให้กรณีที่เข้าโค้งแรงๆจนเสียการควบคุมนั้นตัวช่วงล่างไม่ได้บิดตัวไปกับตัวถัง(ใครที่ขับรถซิ่งๆไอ้พวกที่ชอบดึงเบรกมือบ่อยๆเข้าโค้งเล่น ลองขับรถเข้าอู่สีใหญ่ให้เค้าลองจับวัดตัวถังรถดูนะรับรองว่าเบี้ยวผิดรูปไปแน่ๆ) แต่ในกรณีรถเก่า10กว่าปีที่ดับเบิ้ลวิชโบนทั้ง4ล้อที่ออกแบบมาโดยไม่ค่อยคำนึงถึงห้องโดยสารกันซักเท่าไรในสมัยนั้น ทำให้สามารถมีเนื้อที่ที่จะสามารถติดตั้งช่วงล่างอิสระแท้ๆลงไปได้ (ผมไม่อยากเขียนลงลึกไปมากกว่านี้นะมันจะยาวอะ) สรุปเอาเป็นว่าง่ายๆก้อคือ รถสมัยนี้ค่อนข้างแข่งกันเรื่องห้องโดยสารเป็นหลักแล้วค่อยมาคิดถึงช่วงล่างทีหลังทำให้ความสามารถในการเข้าโค้งลดลง แต่ชดเชยด้วยการเซ็ตค่าสปริงกับโช้คที่แข็งหน่อย เชื่อไม่เชื่อก้อลองดูพวกไอ้แมงสาบ 3ประตู(ใช้ดับเบิ้ลวิชโบนอิสระ4ล้อ)ของค่ายฮอนด้า ดูถ้าวันใดฟลุ๊กไปเจอพวกแต่งเต็มแล้วละก้อแพ้ทั้งความแรงและช่วงล่าง
แง่ๆ

//

ผิดตั้งแต่ต้นจนจบเลยครับ

พวกนั้นเวลาแต่งเต็มๆ นะน้ำหนักเค้าเบากว่าเยอะนะครับ แถม cg ก็เติ้ยกว่าอีก(เป็นธรรมดาสำหรับรถแต่ง) แต่ civic พอไปแข่งจริงๆ ก็ไม่ได้เร็วเท่าไหร่นะครับ โดยเฉพาะรุ่นหลังๆ ใน US ก็ไม่มีใครเอาไปแข่งในรุ่น touring แล้วครับ แต่เมื่อปี 2004 Mazda3 ก็ชนะในรุ่น showroom scca ที่นั่นนะครับ รถปัจจุบันจะมี cg สูงขึ้นครับในรถบ้านธรรมดาเพราะต้องการห้องโดยสารที่ใหญ่ขึ้น ตัวรถสูงขึ้นกว่าเดิม ใส่อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายกับการเก็บเสียง เยอะครับ ถ้าเอาพวกนี้ออก หายไปหลายร้อยกิโลกรัมเลยครับ mazda3 ไม่ได้มีความสามารถในการเข้าโค้งลดลงนะครับ เพียงแต่ดิบน้อยลง รู้สึกถึงการที่สัมผัสพื้นน้อยลงกว่ารุ่นก่อนๆ เท่านั้นเองครับ จะเห็นได้จากการวัด skidpad นะครับ ได้ 0.87g นี่ไม่น้อยกว่าของเดิมแน่ๆ เท่าที่จำได้นะครับ มี MX-6 เท่านั้นที่ได้มากกว่า ในกรณีเป็นรถขับหน้าของ Mazda เองนะครับ แต่จะให้คล่องตัวเหมือนรถเล็กๆ เมื่อก่อน ในโค้งแคบๆ คงไม่ได้เพราะรถใหญ่กว่าเดิมเยอะ cg ก็สูงกว่าเดิมด้วย wheelbase ก็ยาวกว่าก่อนเยอะ

//
เพราะจากช่วงล่างหลังที่นำโช้คแยกออกจากสปริงนั้น ทำให้กรณีที่เข้าโค้งแรงๆจนเสียการควบคุมนั้นตัวช่วงล่างไม่ได้บิดตัวไปกับตัวถัง
//

ในการ design ใครเค้าก็ทำแบบนั้น ใครต้องการให้ตัวถังบิดครับ มีแต่คนเค้าต้องการให้มันไม่บิดช่วงล่างจะคุมมุมต่างๆ ได้ตามแบบที่เค้าออกแบบมา

และทราบหรือป่าวครับว่า ถึงแม้จะใช้ โช้คกะสปริงร่วมแกนกันจะมีจุดรับแรงจุดเดียวกันนะครับ อย่างพวกที่มีจุดรับแรงจุดเดียวกันจะเรียกว่า coilover ได้ครับ แต่ในกรณีร่วมแกนกันเฉยเนี่ยหลังๆ มีเยอะครับ แค่จุดรับแรงกันคนละที่ครับ อย่าง Mazda3 Tribute Mazda6 ก็ใช่ครับ เป็น strut (mazda6 ก็เป็น double wishbond นะครับ แต่ใช้ โช้คกะสปริงร่วมแกนกันเท่านั้น) แต่จะที่รับแรงระหว่างโช้คกับสปริง เป็นคนละจุดครับ

อีกอย่างนะครับ

ไม่ทราบว่าไปศึกษาเรื่องช่วงล่างจากที่ไหนมาครับ เข้าใจผิดเกือบหมดเลยนะครับ ก็จริงครับว่ารถปัจจุบันเค้าคำนึงถึงห้องโดยสารมากกว่าก่อน แต่ ไม่ใช่ว่าจะแย่ลงนะครับ mazda เมื่อก่อนก็ใช้พวก Mcpherson ธรรมดา หรือ Tri-point Link ในด้านหลัง (ไม่อยากพูดถึงเรื่อง TTL นะครับ มันเป็นคนละเรื่องกัน) การที่ช่วงล่างหลังเป็น Multilink นี่ดีกว่าเดิมครับ โดยเฉพาะเรื่อง Camber gain ในรถใหม่ๆ นะครับ ถ้าหมุนพวงมาลัยเนียนพอ รับรองว่าโอกาส oversteer น้อยมากครับ โดยเฉพาะกับรถขับหน้านะครับ

Mazda3 พวงมาลัยมันไวนะครับ ถ้าไม่เนียนพอก็อาจทำให้เกิดอาการอย่างงั้นได้อยู่แล้ว

ไม่ทราบว่าอ่านกราฟ เป็นรึเปล่าครับ - http://www.mazdaclub.net/mz3ws/esicont/en/srvc/html/B3E021401016T03.html
วันที่: 09 Feb 06 - 09:57

 ความคิดเห็นที่: 5 / 21 : 175136
โดย: ton_mct
อ้อ "(ถ้ามีEPSก้อแล้วไป)"

EPS มันเกี่ยวอะไรด้วยครับ

EPS = Electronic Power Steering
วันที่: 09 Feb 06 - 10:54

 ความคิดเห็นที่: 6 / 21 : 175138
โดย: Jack Lantis
รถเบนซ์ก็แยกช๊อคกะสปริงมาโดยตลอดนะครับทั้งหน้าหลัง เริ่มมีพักหลังที่ใช้สตรัทด้านหน้า เข้าใจอะไรผิดเปล่าผมว่าไม่กี่ยวกับพื้นที่ห้องโดยสารมั้ง
วันที่: 09 Feb 06 - 10:57

 ความคิดเห็นที่: 7 / 21 : 175141
โดย: popteen
คห.6 ถูกต้องนะคร้าบบบบบบ
วันที่: 09 Feb 06 - 11:02

 ความคิดเห็นที่: 8 / 21 : 175142
โดย: ton_mct
อย่างที่บอกครับคุณ jack การใช้สตรัทด้านหน้า อาจเป็นแค่การร่วมแกนกันเท่านั้นเอง(แต่จริงๆ ก็มี offset ของมุมนะครับ เพื่อแก้ side force ที่เกิดขึ้นในตัว strut จะสังเกตุได้ว่าตัว spring จะทำมุมกับตัวโช้คนะครับ ) แต่จุดที่ใช้รับแรงที่เกิดจาก spring กับ damper มันคนละจุดกันครับ อย่างของ Mazda3 ที่เป็น strut ในด้านหน้าก็เป็นแบบนี้ครับ
วันที่: 09 Feb 06 - 11:03

 ความคิดเห็นที่: 9 / 21 : 175143
โดย: Jack Lantis
จขกท คงหมายถึง ESP= electronic stability programมั้งครับ อ้อแล้วที่พวงมาลัยเจ้าสามที่ว่าไว นี่คงเฉพาะรุ่นไฟฟ้าในตัว2.0 ใช่ไหมครับ เห็นโฟกัสก็โดนบ่นเรื่องนี้เหมือนกัน ตัว1.6 คงไม่เป็นใช่ไหมครับ
วันที่: 09 Feb 06 - 11:03

 ความคิดเห็นที่: 10 / 21 : 175147
โดย: ton_mct
เจ้า 3 2.0 นี่เป็น EHPAS (Electro-Hydrolic Power Assist Steering) ครับ

ใช้ Motor ไฟฟ้าไปหมุน pump แทนใช้กำลังจากเครื่องยนต์นะครับ

ESP นี่ก็ช่วยอะไรได้ไม่มากครับ ไม่ได้ทำให้ limit ของรถสูงขึ้นครับ แต่ช่วยแก้ปัญหาที่คนขับทำผิดพลาดครับ แต่ก็ต้องผิดไม่มากนะครับ ไม่งั้นก็ช่วยไม่ไหวเหมือนกันครับ ในรถแข่งเกือบทั้งหมดไม่มีระบบนี้ใช้ครับ ใน F1 ก็ไม่ให้ใช้ครับ รวมถึง ABS ด้วยครับ
วันที่: 09 Feb 06 - 11:13

 ความคิดเห็นที่: 11 / 21 : 175149
โดย: rcw
มีเรื่องของYaw rate เข้ามาเกียวข้องด้วย
Yaw rate มากเกินไป = oversteer
น้อยเกินไป = understeer
ปกติการเคลื่อนที่ของวัตถุในสามมิติมีองค์ประกอบของแรงในสามแนวแกน x y และ z

ถ้าแรงพวกนี้เข้าที่ cg ของวัตถุเลย วัตถุจะเคลื่อนที่แบบ translation ซึ่งแยกออกไปคิดในแนวแกน x y และ z ได้

ในทำนองเดียวกัน ถ้าแรงไม่ได้เข้าที่ cg จะเกิดโมเมนต์ ทำให้วัตถุเคลื่อนที่แบบ rotaion ไปด้วย ซึ่งก็แยกออกไปเป็น rotaion รอบแกน x y และ z ได้อีก
รถยนต์ก็ทำอะไรทำนองนี้เหมือนกัน นอกจากมันจะเดินหน้าถอยหลัง สไลด์ซ้ายขวาและขึ้นลง แบบ translation มันก็ยังทำการ rotation หน้าทิ่ม-หน้ายก (pitch) เอียงซ้าย-ขวา (roll) และเลี้ยว (yaw) เหมือนๆกับวัตถุปกติ row-pitch-yaw น่าจะเริ่มมาจากทางด้านการบินนะ มันก็แค่เป็นคำพูดแทนอาการของเครื่องบินแค่นั้นเอง

ทีนี้เรื่อง yaw rate มั่ง ถ้าพูดถึง rotaion อย่างแรกๆที่เด็กสายวิทย์นึกออกก็คือเอาลูกมะนาวใส่ถุงเท้าแล้วแกว่งเป็นวงกลม ก็จะมีความเร็วเชิงมุมอยู่ค่านึง - omega ค่านี้เป็นตัวบอกว่าลูกมะนาวหมุนไปรอบๆได้เร็วแค่ไหน แล้วยังเอาไปคำนวนอะไรต่อได้อีกสารพัด yaw rate ก็เหมือนกัน มันบอกว่ารถเลี้ยว(หมุน)เร็วแค่ไหน หมุนไปเร็วกว่าทาง - oversteer หมุนไปช้ากว่าทาง - understeer หรือ หมุนไปในอัตราเดียวกับทาง - neutral
สุดท้ายแล้วอยู่ที่คนขับ
peopleware นี่แหละสำคัญที่สุดในทุกระบบ
ยิ่งกว่า hard ware (อุปกรณ์) หรือ software (การ setting)
จงพัฒนาส่วนนี้เสียก่อน แล้วจะควบคุมได้ทุกอย่าง
รถขับหน้าหรือขับหลังเดิมๆให้ over หรือ under ก็ได้ แก้ก็ได้(เป็นต้น)
ขึ้นอยู่กับคนขับทั้งนั้น
แต่คนเรามักจะลืม
วันที่: 09 Feb 06 - 11:17

 ความคิดเห็นที่: 12 / 21 : 175152
โดย: Jack Lantis
http://www.fordclub.net/module_view.php?mod=webboard&fn=view&cid=10707&page=2
ระบบพวงมาลัยของสองเจ้าสาม2.0 กะโฟกัสนี่มันตัวเดียวกันเดียะเลยไม่ใช่หรือครับ
แล้วตกลงคุณton_mct เห็นว่าพวงมาลัยเจ้าสามตัวเล็กกะตัวใหญ่รุ่นไหนมันเฟิร์มกว่ากันครับ?
วันที่: 09 Feb 06 - 11:20

 ความคิดเห็นที่: 13 / 21 : 175154
โดย: ton_mct
ใช่แล้วครับ คุณ rcw อีกอย่างนะครับ

oversteer = rear tire slip angle > front tire slip angle
วันที่: 09 Feb 06 - 11:27

 ความคิดเห็นที่: 14 / 21 : 175160
โดย: Jerry
เหมือนได้กลับมานั่งเรียนวิชา Automotive Technology เลยคับ อิๆ
วันที่: 09 Feb 06 - 11:44

 ความคิดเห็นที่: 15 / 21 : 175162
โดย: rcw
ขอเสริมคุณต้นอีกสักนิดหนึ่ง

Slip Angle เนี่ยแหละ เป็นตัวอธิบายว่า ทำไมจึงเกิด Oversteer และ Understeer ถ้าเอาง่ายๆสั้นๆ จะได้ความว่า "ถ้ายางหน้ามี slip angle มากกว่ายางหลัง จะเกิด Understeer ถ้ายางหลังมี slip angle มากกว่ายางหน้า จะเกิด Oversteer" ทั้งนี้ทั้งนั้น slip angle ของยางมักจะอยู่ที่ 10องศา
วันที่: 09 Feb 06 - 11:50

 ความคิดเห็นที่: 16 / 21 : 175200
โดย: ManualMan
มึนๆเหมือนกันครับ ลึกเกินไปแบบนี้ผมก็ไม่ไหวเหมือนกันครับคุณ Jerry (ก็จบคอมฯมานี่นา)

ไปดูนี่ดีกว่า ขำๆหน่ะครับ

http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V4086848/V4086848.html

http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V4085558/V4085558.html

http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V4087222/V4087222.html
วันที่: 09 Feb 06 - 14:56

 ความคิดเห็นที่: 17 / 21 : 175385
โดย: อธิบดี
ช่วงล่างสามก็อิสระนี่นา เรื่องสปริงวางนอกโช๊ค มันคนละเรื่องกัน

ความอิสระ มันหมายถึง Independent คือทุกล้อมีแนวการทำงานและขึ้นลงที่อิสระต่อกันหมด

อย่าไปวอรี่เรื่องรูปแบบมากนัก การที่มาสด้าขยับมาใช้มัลติลิงค์ถือว่าเป็นเรื่องดีขึ้น

แต่ไม่ใช่ว่ามันจะซุปเปอร์เกาะถนน มันมีเหตุผลอื่น ๆ อีกเยอะ

เอา 3 พันหก ขับหน้า มีมัลติลิงค์ด้านหลัง ไปเจอกับ อิมเพรซ่า 1600 ขับหน้า ที่ช่วงล่างแมคเฟอร์สันดาด ๆ สี่ล้อ..... ผมก็ว่า อิมเพรซ่า ดีกว่า

_________________

ไม่ใช่แค่เบนซ์นะ ที่แยกสปริงออกจากโช๊ค บีเอ็มเค้าก็ทำมานานแล้ว ไอ้เซมิเทรลลิงอาร์มเนี่ย โดยไม่ได้นึกถึงไอ้เนื้อที่ห้องโดยสารอะไรเลย และผมก็ไม่เห็นว่าการใส่หัวโช๊คเข้าไปกับเพิ่มจานรองสปริงอีกสักตัว มันจะไปกินเนื้อที่ห้องโดยสารอะไรนักหนาเลย จริง ๆ ตอนที่ BMW ทำสปริงแยกออกมาจากโช๊คเนี่ย ก็ไม่ได้ให้เหตุผลอะไรที่ชัดเจนนัก แต่คอบีเอ็มเค้าว่ากันว่าเพื่อให้ Maintenance ง่ายแค่นั้นเอง แต่พอหลัง ๆ BMW เองก็รู้ดีว่า ช่วงล่างแบบนี้มีข้อจำกัดด้าน Geometry ในโค้งโหด ๆ พอสมควร ไม่แน่ใจว่ารุ่นหลัง ๆ ใช้ Z-Axel อะไรนี่หรือยัง
วันที่: 10 Feb 06 - 00:51

 ความคิดเห็นที่: 18 / 21 : 175403
โดย: i_kon
เข้ามาเลคเชอร์ อ.ton_mct

แจ๋วๆ
วันที่: 10 Feb 06 - 06:26

 ความคิดเห็นที่: 19 / 21 : 175589
โดย: DENYO
อยากถามเพื่อนๆที่เคยอ่านกระทู้ใน PANTIP ห้อง RATCHADA
ว่าทำไมคุณ TON99 ถึงชอบแขวะ MAZDA ทุกครั้งละครับ
วันที่: 10 Feb 06 - 19:28

 ความคิดเห็นที่: 20 / 21 : 175643
โดย: -= คนบ้ารถคนเดิม =-
เอ ช่วงล่างของรถนี่ผมไม่ถนัดเท่าไหร่ แต่ช่วงล่างของคนนี่ พอจะออกความคิดเห็นได้นะ ขอร๊าบบบบบบบบ
วันที่: 11 Feb 06 - 02:49

หน้าที่: [1]   2