ทำไมในรุ่ย 2.0 จึงไม่ใช้ ครับ เห็นว่า มีเฉพาะ 1.6

โดย: รพ สยึมกึ๋ย   วันที่: 12 Feb 2006 - 20:31

 ความคิดเห็นที่: 1 / 25 : 176033

โดย: อธิบดี

ตอบไม่ได้ครับ ตำถามนี้คนตอบได้คือ Mazda

ถ้าให้เดา คงเพราะว่า เครื่อง 1600 ตัวนี้ เป็นหัวใจหลักในการทำตลาด Mazda 3 สำหรับทุกตลาด โดยเฉพาะยุโรป การใส่ S-VT เข้าไปจะทำให้เครื่อง 1600 สร้างพลังได้เร็วขึ้น จากแรงบิดรอบต่ำที่มาได้เร็วขึ้น (ไม่ใช่แรงขึ้นนะ) .... คือทำให้ขับง่ายขึ้นนั่นเอง

สำหรับ 2000 หรือ 2300 มันไม่อืดอยู่แล้ว

 ความคิดเห็นที่: 2 / 25 : 176041

โดย: ton_mct

2300 ใน Mazda3/6 มีนะ
2000 ใน Mazda6 ตัว Minor ก็มี
2000 ใน Mazda3 ที่ US ก็พึ่งจะมี

มันไม่ได้ทำให้ขับง่ายขึ้นอย่างเดียวหรอก มันสามารถทำให้ลดการกินน้ำมันลงได้เล็กน้อยด้วย

 ความคิดเห็นที่: 3 / 25 : 176107

โดย: ต้อม

แสดงว่า บริษัท Mazda Thailand ไม่มีความจริงใจนะสิครับ ถึงได้ไม่เอาระบบ S-VT มาใส่ในเครื่อง 2000 ให้คนไทยใช้

 ความคิดเห็นที่: 4 / 25 : 176109

โดย: ใจเย็น ๆ อย่าเพิ่งรีบด่า

ก็เค้าบอกว่ามันพึ่งจะมีระบบ S-VT ออกมาในตัว 2000 ของ 6 และ 3 US

ของบ้านเรามันเตรียมตัวมามากกว่าสองสามปีแล้ว สำหรับเครื่อง 2000 ตัวนี้

รู้สึกจะเอามาจากของตลาดญี่ปุ่นด้วยซ้ำ

ก็ไม่เห็นจะแปลก เค้าก็ไม่ได้หลอกตรงไหนนี่ ไม่มีก็บอกไม่มี

แต่ไม่แน่ ตอนไมเนอร์เชนจ์ อาจจะได้ใช้ 2000 S-VT

และถึงไม่ได้ใช้ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่

S-VT ไม่ใช่ตัวทำให้เครื่องลูกสูบของมาสด้ามีสมรรถนะอะไรเริดหรูมากมาย

ถ้าเทียบกับ i-VTEC ของ Honda ยังห่างกัน "หลายขุม"

มี S-VT อาจจะทำให้ต้นทุนสูงและวุ่นวายเกินไปด้วยซ้ำ

อย่าไปคิดว่ายี่ห้อื่นมี เราก็ต้องมี ไม่งั้นก็ Me Too กันทั้งตลาด

อย่าง Honda เนี่ย ไม่มีใครในโลกทำเครื่องสี่สูบขนาดเล็กเก่งเท่านี้อีกแล้ว

เช่นกัน โรตารี่ก็ไม่มีใครสู้มาสด้าได้

และในโลกของรถยนต์เนี่ย ไม่ใช่ว่าจะได้ใช้เหมือนกันทุกประเทศ

มันเป็นเรื่องธรรมดา เพราะแต่ละประเทศมีความต้องการไม่เหมือนกัน

แค่กฎหมายมลพิษต่างกัน ก็อ่วมแล้ว ของไทยอิงยุโรปเป็นหลัก

ไม่รู้ว่า เครื่อง 2000 S-VT ตัวนี้ ผ่านกฏหมายตัวนี้หรือยังด้วยซ้ำ (แค่ตัวอย่างนะ)

 ความคิดเห็นที่: 5 / 25 : 176112

โดย: ton_mct

ทำไมคุณต้อมในกระทู้นี้กับ คุณกบ เจ้าของกระทู้ ในกระทู้ที่ 18111 ip เดียวกันเลยครับ เวลาก็ใกล้เคียงกันด้วยครับ ใช้ชื่อเดียวกันก็ได้ครับ ใช้ทำไมต้องใช้หลายชื่อครับ

 ความคิดเห็นที่: 6 / 25 : 176113

โดย: ton_mct

ระบบแปรผันทั้งหลายนะ มันไปเพิ่มน้ำหนักฝาสูบซึ่งอยู่สูงนะ ยิ่งระบบที่ทำให้เหมือนกับเปลี่ยน camshaft profile ใหม่นะยิ่งเพิ่มเข้าไปใหญ่ และฝาสูบอยู่สูง คาดสิครับว่ามันจะไปเพิ่มอะไรของรถครับ อย่าคิดนะครับว่าเครื่อง F1 มีระบบนี้ครับ มันไม่จำเป็นเลย ใน series อื่นก็ไม่มีครับ

 ความคิดเห็นที่: 7 / 25 : 176146

โดย: เดช

อย่าเปรียบเทียบกะเครื่องรถแข่งซิครับ
พวกนั้นมันแคมฟูลเรซอยู่แล้ว
ลากกันหมื่นรอบขึ้นไปตลอด
จะแปรผันไปทำไม รอบต่ำไม่เคยได้ใช้งาน

 ความคิดเห็นที่: 8 / 25 : 176197

โดย: ManualMan

ต้อม หรือ ต้ม69 กันแน่เนี่ย

 ความคิดเห็นที่: 9 / 25 : 176212

โดย: ต้อม

ถ้าเทียบกับ i-VTEC ของ Honda ยังห่างกัน "หลายขุม"
ผมเอามาจากกระทู้ที่ 4 แล้วทำไม mazda ไม่พัฒนาให้มันสู้เค้าได้ละครับ เดี๋ยวนี้ Tecnology มันตามกันทันแล้วไม่ใช่หรือ หรือ Mazda ไม่มีความตั้งใจในด้านนี้

 ความคิดเห็นที่: 10 / 25 : 176221

โดย: rex

เป็นไปได้ครับ ที่ Mazda ไม่มีความตั้งใจจะไปแข่งทำ วาล์วแปรผัน ให้ดีกว่าฮอนด้า

ผมว่าถ้าไปทำแข่ง เผลอ ๆ จะโดนลูกค้าแฟนมาสด้าด่าด้วยซ้ำไป โทษฐานไม่เป็นตัวของตัวเอง ซึ่งส่วนตัวผมว่า มาสด้าเด่นเรื่องนี้ ถ้าคุณได้เป็นเจ้าของแล้วคุณจะเข้าใจเลยครับว่า รสชาติ มันอยู่ตรงไหน

แต่ถ้าซื้อมาแล้วผิดหวัง แสดงว่ามาผิดแนวแล้วครับ ขายแล้วซื้อรถวาล์วแปรผัน มีความสุขกว่าครับ เงินเราเองนะ

 ความคิดเห็นที่: 11 / 25 : 176224

โดย: ton_mct

คงไม่ห่างกันขนาดที่ คห ที่ 4 ว่าไว้หรอกครับ

ถ้าเครื่องแข่งที่มาจากรถบ้านนะครับ ก็แข่งกันได้ครับ แถมในรายการ SCCA Touring Car ที่ Mazda6 ใช้เครื่อง 2.3 กะเกียร์ 5 speed ส่วน Honda (Acura) TSX ใช้เครื่อง 2.4 กะเกียร์ 6 speed บ่อยครั้งครับที่ Mazda ชนะ ทั้งๆ ที่ตอนหลังโดนลดรอบจาก 8300 เหลือ 7800 (http://www.motorsport.com/news/article.asp?ID=196367&FS=SCCA*)

ส่วนในรถบ้าน Mazda เค้า set ให้รถมีบุคลิกอย่างงั้นด้วยครับ

ขอยกข้อความของ Jimmy จาก pantip มานะครับ เพื่ออ่านแล้วจะเข้าใจ

***********

เอาละ แล้วจะบอกให้รู้ไว้เลยนะ

มาสด้า จะไม่มีทางทำเครื่อง 4 สูบได้เก่งกว่าฮอนด้า

แต่ถ้าฮอนด้าคิดจะทำช่วงล่างกับโครงสร้างตัวถังให้เก่ง

ก่อนอื่นเลยคือ ต้องไปแก้กันถึงระดับ Philosophy
ระดับรากความคิดของวิศวกรของฮอนด้ากันเลยทีเดียว
ซึ่งเป็นเรื่องยาก เพราะสิ่งที่ฮอนด้าเริ่มต้นมา
ไม่ได้เริ่มมาจากตัวรถ แต่เริ่มมาจากตัวเคร่อง
สมัยก่อน ฮอนด้า ยังไม่ทำรถ ก็ตั้งโรงงานทำแหวนลูกสูบให้โตโยต้า
สุดท้าย บริษัทนี้ โชอิชิโร ก็ขายให้โตโยต้าไป

ถ้าฮอนด้า ไม่คิดทำแหวนลูกสูบ แต่คิดทำสปริงตั้งแต่เริ่มแรก
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า Philosophy การทำรถของฮอนด้าจะเปลี่ยนไปไหม?

ฮอนด้า ศึกษาวิจัยการตลาด
มาดูข้อจำกัดต่างๆ โดยเน้นไปที่เครื่องยนต์ตั้งแต่เริ่มต้น
จานั้นค่อยทำตัวถังครอบลงไป!!

ผลวิจัยตลาด มีอิทธิพลกับการทำรถของฮอนด้ามากขึ้น
นับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา แต่ยังคงแนวคิด Man Maximum / Mechanism Minimum อยู่
เพพื่อเน้นประโยชน์ในการใช้พื้นที่ห้องโดยสารมากที่สุด

เมื่อใดที่เน้นพื้นที่ห้องโดยสารมาก ความสมดุลย์ของรถทั้งคันก็จะเสียไป มากบ้างน้อยบ้าง ขึ้นอยุ่กับวิศวกรจะงัดค้านกับฝ่ายการตลาดมากน้อยได้แค่ไหน
แลละความจำเป็นที่รถรุ่นนั้นจะต้องเอาใจตลาดมีมากน้อยแค่ไหน

ถ้าเป็น S2000 NSX และ Legend ใหม่ กฌจะเห็นได้ชัดเลยว่าข้อจำกัดเหล่านี้น้อย
และฮอนด้า ทำรถออกมาได้ดีมากๆ จนผมประทับใจ

แต่ถ้าซีวิคละ แอคคอร์ดละ
สองรถรุ่นนี้รถหากินของเขาเลย
ถ้าทำตามใจตัวเองมากๆ เกิดออกมาแล้ว ขายไม่ออกเหมือน เลเจนด์รุ่นที่แล้วขึ้นมาละ

และขนาดเลเจนด์รุ่นที่แล้ว เซ็ตรถตามผลวิจัยการตลาดด้วยนะ ยังขายไม่ดี
นั่นหมายความว่าอย่างไรกันละ

-------------------------------------

แต่มาสด้า Philosophy ในการทำรถคือ
เมื่อ ศึกษาวิจัยการตลาดแล้ว
มาดูข้อจำกัดต่างๆ เค้าจะเน้นไปที่การทำรถให้มันสมดุลย์กันทั้งคัน
และเขาให้ความสนใจกับวิศวกรรมการขับขี่ โดยเน้นไปที่เรื่องของ
"KANSEI ENGINEERING"
ซึ่งจะเกี่ยวเนื่องกับโครงสร้างตัวถัง ช่วงล่าง
และสภาพแวดล้อม อันรวมไปถึงเรื่องพวก NVH
(Noise Vibration & Harshness) ตามไปด้วย
จากนั้น ค่อยไปว่ากันที่เครื่องยนต์

เอกสารเรื่อง KANSEI ENGINEERING รู้สึกว่าจะมีเป็นรายงานของ SAE ด้วย
ต้นลองไปขุดคุ้ยหาอ่านเอาดู
แต่ถ้าต้องถึงกับเสียตังค์
ก็ย้อนไปดูใน เพรสคิทของ MX-5 ในกระทู้เก่าได้

และบอกเลยว่า มาสด้า เน้นเรื่อง KANSEI ENGINEERING เป็นหลัก มาตั้งแต่
ยุคทศวรรษ 1970 แล้วเสียด้วยซ้ำ

มันมีมาตั้งแต่ก่อนจะ Zoom Zoom บ้าบออะไรอย่างทุกวันนี้แล้วด้วย!

และฝ่ายวิศวกรจะมีความคิดที่ไม่ค่อยยอมอ่อนข้อ
ให้กับผลการตลาดเท่าใดนัก งัดค้าน แข็งขืนกันเอาเรื่องทีเดียว
แข็งขืนขนาดที่ฟอร์ดเอง ก็ยังทำอไรมาสด้าไม่ได้
เมื่อมาสด้า จะไม่ให้แพล็ตฟอร์มขับล้อหลังของ MX-5
แก่ฟอร์ด

เห็นไหม วิธีการคิด ในการทำรถที่ต่างกัน
มันก็ให้ผลลัพธ์ที่ต่างกันแบบนี้ละ

เมื่อรู้กันอย่างนี้แล้ว
แล้วจะไปนั่งเถียงกันหาหอกอะไรกันไม่ทราบฟะ?

************

 ความคิดเห็นที่: 12 / 25 : 176328

โดย: ความเห็น 4

ที่บอกว่าห่างกัน "หลายขุม" เรื่องของการทำเครื่อง NA ระบบวาล์วแปรผัน
เป็นเรื่องจริงในตลาดรถบ้าน กรุณาตัดรถแข่งหรือรถสนามออกไปก่อนนะครับ
เพราะมันจะสับสน

ที่ฮอนด้าทำได้ดีมาก ๆ เพราะนั่นคือ Core Competency ของเค้า ฮอนด้าถนัด
ในการทำเครื่องยนต์ลุกสูบขนาด Compact แบบนี้มาก ๆ มากเสียจนจ้าวอื่นต้องยอมรับ
ฮอนด้าพัฒนา i-VTEC ให้เหนือชั้นขึ้นไปขนาด สามารถรีดออกมาได้ 250 แรงม้าในรถบ้าน
อย่าง S2000 โดยที่ยังสามารถขับเปิดแอร์ติดในเมืองได้สบาย แต่ฮอนด้าก็ไม่ได้เก่งไปหมด
เครื่องแบบวี ฮอนด้าก็ทำสู้นิสสันไม่ได้ ให้ทำเครื่องเทอร์โบสี่สูบก็ไม่น่าจะสู้มิตซูบิชิได้ และถ้าให้ทำ
โรตารี่ก็สู้มาสด้าไม่ได้เช่นกัน

S-VT ในมาสด้าเป้นลูกเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้มี Response ดีขึ้น มีจุดขายทางการตลาดได้มากขึ้น แต่ไม่ใช่ทำกันเป็นลำเป็นสันแบบฮอนด้า ถึงวันใดที่ Mazda 3 S-VT เครื่อง 2000 เขยิบเข้าใกล้ Honda Civic 2000 ได้มากขึ้น ฮอนด้าก็ยังมีอะไรดี ๆ เก็บไว้ในกระเป๋าอีกเยอะ

 ความคิดเห็นที่: 13 / 25 : 176330

โดย: ความเห็น 4

มาสด้าจะพัฒนารถก่อนครับ แล้วค่อยหาเครื่องที่เหมาะสมใส่ลงไป ถ้าเครื่องรุ่นเก่ายังโอเค ก็ใส่ลงไปได้ ไม่มีปัญหา... มาสด้าถึงเป็นรถที่ไม่ได้พัฒนาเครื่องยนต์ขึ้นบ่อยนัก


แต่สำหรับฮอนด้า จะพัฒนาเครื่องยนต์ก่อนเสมอ แล้วถึงจะนำเครื่องยนต์ตัวนั้นไป Customize ใส่รถใน Product Line ให้หลายรุ่นมากที่สุด เพื่อให้ได้ Economy Of Scale คุ้ม สมกับที่ลงค่า R&D ให้กับเครื่องยนต์ไปมหาศาล

 ความคิดเห็นที่: 14 / 25 : 176358

โดย: i_kon

เข้ามาเลคเชอร์..

หุหุ.. ดีมั่กๆ ครับ

 ความคิดเห็นที่: 15 / 25 : 176363

โดย: The_P๐๐M

ไม่รู้สิ คูเป้ เพื่อนผมก็Vtec แต่เกียร์ออโต้ รถผมนิวซีดานเกียร์ธรรมดา ลองวิ่งกันดู ถ้าไม่เกิน160 คูเป้ก็ตามตูดผมตลอดแหละ มันก็เถียงอีกว่ารถมันเกียร์ออโต้
ส่วนซิตี้พี่ชายผมก็Vtec เกียร์ธรรมดา ก็วิ่งตามรถผมตลอด แต่ไม่เคยได้ลองเกิน140 (สภาพถนนไม่อำนวย)แต่พี่ชายมันแก้ตัวว่ารถมัน1.5ของผม1.6
ในเรื่องความแรงผมว่านะVtec ก็แค่ได้ปลายเยอะกว่าไม่เท่าไหร่ แต่ที่ยอมรับคือฮอนด้าเนี่ยประหยัดน้ำมันกว่าเห็นๆ แค่นั้นเอง (ผมไม่มีความรู้เลยนะ แต่ลองเทสมาแล้วน่ะเลยกล้าพูด) เพราะเห็นพูดกันนักหนาว่าเครื่องฮอนด้ามันแรงยังโง้นยังงี้มาสด้ายังไงก็สู้ไม่ได้ ก็เลยไปลองเทสดู ก็ได้ผลอย่างที่บอกแหละ
อีกอย่างที่ผมเคยอ่านๆดูมาสด้า3วิ่ง0-100 แพ้ซีวิคตัวใหม่แค่1วิเองหนิ ถ้าไม่ใช่รถแข่งในสนามแล้ว 1วินี่แทบไม่สำคัญเลย
ผมไม่ได้มาเถียงนะว่าเครื่องฮอนด้าไม่ได้เหนือกว่ามาสด้า มันเหนือกว่าจริงๆแหละ แต่ไม่ได้เหนือกว่ามากมายอะไรขนาดนั้นหรอก

 ความคิดเห็นที่: 16 / 25 : 176685

โดย: ตาม

มึมไปเจอแต่ VTEC ดาด ๆ นี่อีพูม VTEC
ที่แกเจอเนี่ยเค้าเรียก VTEC-E มีไว้เพื่อประหยัดอย่างเดียว
เอ็งลองไปวิ่งกับ VTEC DOHC 1600 ของเค้าที่ชื่อ B16A สิ
แล้วเอ็งจะสะอื้น ถ้าไม่เชื่อ ติดต่อผ่าน E-อ๋องได้

และไอ้ที่บอกห่างกัน 1 วินี่ห่างกันเยอะมากนะในทางยานยนต์
และทิ้งกันเป็นคันรถเลยล่ะ คิดดูละกันว่าแค่ i-VTEC ใน Civic
ยังโดนไปหนึ่งวิ แล้วถ้ามันเป็น
i-VTEC 2000 ตัวแรงใน Integra หรือ S2000 จะเป็นยังไง

เรื่องเครื่องยนต์ลูกสูบขนาดสี่สูบไม่เกินสองพันซีซี
มาสด้าไม่ต้องคิดจะตามฮอนด้า และไม่ใช่แค่มาสด้านะ
ยี่ห้ออื่นก็เหนื่อยเหมือนกัน

 ความคิดเห็นที่: 17 / 25 : 176686

โดย: ตาม

ที่น่าสงสารคือคนที่ขับ VTEC ยุคก่อน ๆ เนี่ยจะภูมิใจมากว่าขับ VTEC ทั้งที่จริง ๆ แล้ว
คนไทยแทบจะไม่มีโอกาสได้สัมผัส VTEC ที่เป็นเนื้อเป็นหนังจริง ๆ จัง ๆ สักที

ได้ขับแต่ตัวประหยัดเป็นหลัก

 ความคิดเห็นที่: 18 / 25 : 176719

โดย: ton_mct

ไม่ถึงวิหรอก ประมาณ 10.3 กะ 11 เท่านั้นและก็ auto 5 กะ 4 แค่นั้น ที่พวก B16 นะถ้ามันไม่มี VTEC มันจะวิ่งบนถนนปกติในเมืองไม่ได้เลย port ใหญ่ขนาดนั้น ถ้ารถอื่นทำ port ใหญ่ขนาดนั้นก็แรงขนาดนั้นได้เหมือนกัน แต่ก็ต้องทำ วาล์วแปรผันในระบบที่คล้าย VTEC ไม่งั้นวิ่งบนถนนปกติในเมืองไม่ได้แน่

 ความคิดเห็นที่: 19 / 25 : 176762

โดย: Tong-ha

วิศวกรของHonda เก่งครับในเรื่องนี้ มันเป็นความชาญฉลาด ที่เค้าอยากทำเครื่องแรงๆแต่ยังใช้งานในชีวิตประจำวันได้ไม่ลำบาก ความน่าทึ่งของ Vtec ที่ผมทึ่งที่สุดคือ เครื่องหมุนอยู่5พันรอบ
มัน เอาสลักมาล็อค กระเดื่องกดวาล์ว2ตัวที่กำลังเปิดปิดเหลื่อมเวลากันอยู่ ให้เป็นตัวเดียวกัน และเปลี่ยนไปใช้ลูกเบี้ยว ใหญ่ได้ ทำไปได้ไงเนี่ย????? และนี่เป็น ลิขสิทธ์ ของเค้ายี่ห้อไหนจะใช้ก็
ต้องไปซื้อมา วิศกรก็มีศักดิ์ศรี เหมือนกันนะครับ ดังนั้น ในเครื่องยนต์ รถบ้าน ไม่มียี่ห้อใด
แรง และยังใช้งานชีวิตประจำวัน ได้สบายเหมือน ฮอนนด้า อยากได้เครื่องNA แรงๆ แต่งได้มันๆและยังใช้ชีวิตประจำวันได้สะดวกควร เลือกHondaครับ ลองคิดดูสิ ครับหาแคมซิ่งมาใส่ แคมรอบต่ำ 256 องศารอบสูง 306 องศา คิดว่าแรงมั้นอ่ะครับ และยังใช้งานในชีวิตประจำวันได้ด้วย ยี่ห้อไหนทำแบบนี้ได้บ้าง ผมว่าอย่างอื่นๆที่ไม่ใช่ Vtec Honda ก็งั้นๆแหละครับ แต่ ถ้าสู้กันโดย ไม่คำนึงถึงเรื่องการใช้งาน ในชีวิตประวัน อย่างรถ ในสนาม ผมว่า ไม่มียี่ห้อไหนแพ้ กันหรอกครับ


เออๆๆๆ นี่รู้อะไรมั้ยครับ B16A เป็นเครื่อง 1600 cc ที่ใหญ่และเทอะทะ ที่สุดในโลก

 ความคิดเห็นที่: 20 / 25 : 176771

โดย: ton_mct

//
B16A เป็นเครื่อง 1600 cc ที่ใหญ่และเทอะทะ ที่สุดในโลก
//

จริงครับ ฝาสูบสูงใหญ่โตครับ แถมเสื้อสูบยังเป็น opendeck อีกครับ

//
ลิขสิทธ์ ของเค้ายี่ห้อไหนจะใช้ก็ต้องไปซื้อมา
//

อันนี้ไม่จริงครับ มีคนคิดวิธีอื่นที่ทำแบบนี้ได้เยอะครับ แต่ไม่ดัง อย่างนิสสัน กะ มิตซู ไงครับ

Mazda ก็มีครับ แต่อยู่แค่ในรถ concept ครับ มี variable ทั้ง Timing และ Camshaft Profile และมีทั้งด้าน ไอดี กะ ไอเสีย ด้วยครับ

จริงๆ ก็มีคนอื่นคิดนะครับ แต่ไม่มีใครเอามาใช้ครับ แต่คนคิดคนแรกก็ไม่ใช่ Honda ด้วย
ครับ แต่เป็นรถอิตาลีครับ ยี่ห้อ A... ครับ แต่ก็ไม่ได้เอามาใช้ ส่วนใหญ่ที่เอามาใช้กันนะครับเป็นแค่ timing variable ครับ

มีรถยุโรปอยู่ยี่ห้อนึงนะครับ VE (Volume Effiency) ของเครื่อง NA สูงกว่าเครื่องของ Honda ครับ แต่แรงม้าไม่เยอะครับ เพราะเค้าเอาแรงบิดสูงสุดอยู่รอบต่ำๆ (2500-3000) ครับ (ถ้าเข้าใจเรื่องแรงม้าแรงบิดจะรู้ว่าทำไม) และก็มีแปรผันแค่ timing ครับ สาเหตุที่ทำยังงั้นเพราะคนซื้อรถเค้านะจะหาคนลากรอบไปจนถึง 7000 รอบยังยากเลยครับ (พวกชอบขับรถแบบผู้ดีมั้ง ขึ้นเนียนๆ เสียงเครื่องกระหึ่มแบบโทนต่ำๆ ไม่ใช่แว้ดๆ) บางทีมันก็เป็นเรื่องการตลาดด้วยครับ